บทที่ 7 เป็นนางแพศยา

1758 Words
หัวใจของหลันหยาเต้นรัว ซุนโหวใช้ลิ้นทาบเลียปุ่มเกสรอย่างโหยหา เขาย่อมรู้ว่าเป็นนางที่มาแอบดู เขาต้องการกระตุ้นอารมณ์ของหลันหยา ให้นางเห็นว่าเขาแข็งแกร่งเพียงใด “อูย ข้าเสียว พอเถิด ขะ ข้าจะกลับแล้ว” ก้นของนางลอยขึ้น ทั้งยังแบะขาออกกว้างแม้จะบอกให้เขาพอแต่กิริยาที่แสดงออกนี้กลับยั่วเย้าจนเขาต้องฝังใบหน้าลงไป “มาแอบดูข้าเพราะต้องการปลดปล่อย แล้วยามนี้จะกลับได้อย่างไร” “ผะ ผู้ใดแอบดูเจ้าและอยากปลดปล่อยกัน ปล่อยข้า อย่ามาล้อเล่นกับข้า” ถึงจะบอกให้ปล่อย แต่กลับแอ่นเนื้อหวานให้เขาดูดกิน “อย่าปากแข็งเลยขอรับ ข้าจับท่านได้แล้ว น้ำหวานไหลเยิ้มมากเพียงนี้ ยังแต่งกายเช่นนี้มาอีก เป็นอาภรณ์ที่บางมากเพียงแค่แตะลิ้นก็เปียกชื้นเสียแล้ว อา ยั่วกำหนัดข้าจนข้าทนไม่ไหวแล้ว” “พอเถิด ข้า ข้า อื้อ” แคว่ก! เมื่อบอกว่าทนไม่ไหว ซุนโหวก็ใช้สองนิ้วเกี่ยวผ้าเนื้อบางแล้วฉีกให้ขาดออกทันใด “อ้ะ เจ้าทำสิ่งใด” “ในเมื่อแต่งกายมายั่วข้า เช่นนี้ก็ให้ข้าได้กินเต็มปากเถิด” “มิใช่เช่นนั้น ปล่อยข้า เจ้าเข้าใจผิดแล้ว” “แล้วที่น้ำเยิ้มเช่นนี้เป็นเพราะสิ่งใดกัน เป็นเพราะแอบดูข้าหรือ หลันหยาจึงน้ำเยิ้มเพียงนี้ อ้ะ เหมือนน้ำจะแตกไปแล้วด้วย อ้า ขอชิมหน่อยได้หรือไม่” ไม่รู้ว่านางจะตกใจสิ่งใดก่อน ระหว่างที่เขารู้ว่านางมาแอบดู และที่เขาเรียกนางว่าหลันหยา กระทั่งท่านแม่ทัพยังไม่เคยเรียกชื่อของนางเช่นนี้ ซุนโหวคือบุรุษที่นับเป็นรุ่นน้อง เขาอายุยี่สิบห้าปีในขณะที่นางอายุสามสิบห้าปีแล้ว แค่ความอาวุโสเรื่องอายุเขาก็ไม่ควรเอ่ยนามของนางออกมาตรง ๆ แล้ว ทว่าน้ำเสียงเร้าใจของเขากลับทำให้นางรู้สึกชื่นชอบชื่อของตนเองที่สุดในชีวิต “จะ เจ้า อ้า เรียกข้าว่าอย่างไร ซี้ด ลิ้นของเจ้า อ้า ยะ หยุด ซี้ด เจ้าทำให้ข้า สะ เสียวแล้ว” “หลันหยาของข้าดูสิน้ำหวานไหลเยิ้มไปหมดแล้ว กลิ่นน้ำรักหอมหวานลื่นลิ้น อา อร่อยยิ่งนัก” นิ้วสากเขี่ยปุ่มสวาทของนางแรง ๆ หลันหยาถึงกับสะดุ้ง ร้องลั่น “อ้า ซุนโหวเจ้าพอเถิด หยุดเถิด ข้ามิได้ตั้งใจจะยั่วเจ้า ปล่อยข้าเถิด” “อยากไปจริง ๆ หรือ หื้ม อา หากข้าไม่ยอมปล่อยแล้ววันนี้หลันหยาจะทำเช่นไร” ขาของนางสั่นระริก ซุนโหวกลับเป่าลมร้อนแล้วตวัดเลียพูเนื้อที่ปลิ้นออกมาจากด้านหลัง ลิ้นของเขาปาดนาบไปทั่วกลีบฉ่ำเยิ้ม “อ้า ซี้ด ข้าไม่ไหวแล้ว อื้อ” หลันหยาส่งเสียงครางจนแทบใจจะขาด นางไม่ได้พบเจอลิ้นชำนาญเช่นนี้มานานมากแล้วตั้งแต่สามีไปออกศึก นางส่ายก้นยั่วยวนเขาในยามที่ซุนโหวกระแทกลิ้นเข้าไปด้านในรูสวาทซ้ำ ๆ “อ้า อร่อยยิ่ง ไม่คิดว่าจะหอมหวานอร่อยเพียงนี้” หลันหยามิใช่สตรีไร้เดียงสา นางอายุไม่ใช่น้อยแล้วสามารถนับเป็นท่านย่าได้เลยด้วยซ้ำ ถึงปากจะร้องว่าอย่าแต่กิริยาท่าทางที่แอ่นหยัดกลีบดอกไม้งามให้เขากลืนกินก็ยั่วเย้าจนไม่อาจห้ามใจได้ ลิ้นของเขาลากเลียเข้าไปในรูหวานสัมผัสได้ว่าภายในตอดรัดแน่นเพียงใด เสียงครางของหลันหยายังกระตุ้นอารมณ์ดิบของเขาให้พุ่งทะยาน เขาต้องการทำให้นางมีความสุขและครางเรียกขานนามของเขาในค่ำคืนนี้ นิ้วของเขาแหวกกลีบของนางให้อ้าออก แล้วสอดเข้าไปภายในลึกล้ำขึ้น หลันหยาขมิบรัดลิ้นเอาไว้พร้อมกับเด้งสะโพกบดเข้าไปเบา ๆ “ซี้ด อา เสียวเหลือเกิน อูย” เพียงแค่เจอลิ้นร้อนนางก็เสียวจนกลีบสะท้าน หากเป็นแท่งหยกของเขานางคงจะตาลอยเหมือนสตรีนางนั้นเป็นแน่ จู่ ๆ เขาก็ดึงเสื้อคลุมกายของนางลงมาปกปิดแล้วช้อนร่างของนางขึ้นมา “ว้าย” “ทำให้หลันหยาลำบากแล้วที่ต้องใช้เตียงสกปรกของข้า” “หยุดนะ เจ้าบาดเจ็บอยู่ แขนของเจ้า” “บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยหลันหยาไม่ต้องห่วง ข้าหายดีแล้ว” ซุนโหวสวมเพียงเสื้อคลุมกายออกมาด้านนอก เขาไม่ฟังเสียงของหลันหยายังอุ้มนางเข้ามาในเรือน แล้วใช้เท้าถีบประตูปิดเสียงดังปัง “ปล่อยข้าเถิด ข้าไม่อยากสวมหมวกเขียว[1]ให้ผู้ใด” ซุนโหวยังคงคิดถึงนางก่อนเสมอ “หากข้ามิได้ล่วงเกินสอดใส่ เช่นนั้นนับว่าเป็นการสวมหมวกเขียวหรือไม่” “ขะ ข้า” แน่นอนว่านางต้องการเขา และขณะเดียวกันนางยังคงมีสำนึกผิดชอบชั่วดี “ข้าแค่ต้องการช่วยท่านเพื่อปลดปล่อย” จากนั้นเขาจึงวางนางลงบนเตียง จับสองขาของนางให้แยกออกกว้าง ฉีกเนื้อผ้าบางให้ขาดยิ่งกว่าเดิม “ข้าจะไม่เข้าไปในกายของหลันหยาจนกว่าท่านจะยินยอม” กล่าวจบปากอุ่นร้อนของเขาก็ซบนาบลงมา ฝังใบหน้าคลึงเคล้ากลีบเนื้อสาว พร้อมทั้งใช้สองนิ้วแยกเนื้อออกให้กว้าง เม็ดเสียวสีแดงฉ่ำปรากฎอยู่เบื้องหน้า เขาครางเล็กน้อยแล้วสอดลิ้นลึกเข้าไปทาบเลียอย่างอร่อย “อ้า ซี้ด เสียว อื้อ เสียวมาก” หลันหยาครางกระเส่า นางทนไม่ไหวจนต้องรับลิ้นของเขาที่เลียแยงเข้ามาแล้ว สำนึกผิดชอบชั่วดีบัดนี้ขาดสะบั้น นางเด้งสะโพกเข้าหาลิ้นของเขาอย่างตั้งใจ มือข้างหนึ่งปลดสายรัดเสื้อคลุมให้เปิดออกจากนั้นก็ดึงออกจากร่างกายของตนเองอย่างรวดเร็ว ลิ้นของเขาปาดเลียไปทั่วพูกลีบ แยงเข้าไปในร่องรักด้านหน้า เลียปาดยาวมาถึงรูจีบด้านหลังจากนั้นก็กลับไปตวัดดูดติ่งเสียวอีกครา แผ่นหลังของหลันหยายิ่งแอ่นหยัด สองมือของนางเกาะกุมเต้านมของตนเอาไว้ทั้งคลึงอย่างแรง นางเสียวไปทั้งร่าง ไม่คิดว่าเขาจะเก่งกาจเพียงนี้ ฟันของเขาครูดเนื้อของนางเบา ๆ ทว่ากลับส่งผลอันรุนแรงต่อนาง “ซี้ด อ้า” นางกรีดร้องครางรุนแรง ร่างน้อย ๆ กระตุกไปทั้งร่าง ร่องหวานที่ซุนโหวโหยหาในที่สุดเขาก็ได้ครอบครองด้วยปากและลิ้นของเขาแล้ว เขานอนหงายแล้วร้องขอเสียงแหบสะท้าน “ขึ้นมาคร่อมบนปากข้า ข้าจะทำให้ท่านหลั่งน้ำหวานออกมา มาควบลิ้นของข้าเหมือนที่ท่านควบอัคคีเพลิง” นางถูกเขาดึงมือให้ลุกขึ้น หลันหยาบังเกิดความกระหายอยากอย่างรุนแรง นางขยับตามคำของเขา ใช้สองนิ้วแหวกกลีบเนื้อออกจากกัน แล้วขย่มลงมาที่ลิ้นของซุนโหวที่อ้าปากรับเอาไว้ เมื่อรูสวาทถูกขยาย ลิ้นที่ถูกเกร็งแหลมแยงเข้าไปในรูรัก หลันหยาก็เริ่มต้นควบขี่เขา “อ้าย เสียวยิ่ง ซี้ด” นางขย่มลิ้นของเขาเร็วขึ้น ควบทะยานม้าในจินตนาการขึ้นสู่สรวงสวรรค์ ทั้งบดทั้งส่ายกลีบอวบไปมา นางขยับบดเบียด ให้ลิ้นของเขาเหย่อเข้ามาในร่องหวานนางขมิบช่องทางรักกระทั่งภายในตอดนิ้วเขาระรัว “อ้า หวานยิ่ง” “ซี้ด ข้าไม่ไหวแล้ว ข้าจะแตกแล้ว” “ปล่อยออกมาหลันหยา ปล่อยน้ำหวานของเจ้ามาให้ข้าได้กิน” หลันหยากอบกุมเนื้อของตนเองเอาไว้ ในยามที่นางเย่อกับลิ้นของเขานิ้วมือข้างหนึ่งของเขาก็ยังบดบี้ติ่งเสียวของนางอย่างแรง “อ้า บดเม็ดเสียวของข้า อ้าแรงขึ้น เสียว ซุนโหว บดเม็ดแรง ๆ ซี้ด” และเมื่อความเสียวซ่านอย่างรุนแรงบังเกิด หลันหยาร้องครางสุดเสียง นางหลับตาเมื่อกระสันเสียววาบหวามกระทั่งนางเกร็งตัว ปลดปล่อยน้ำหวานให้แตกคาปากของซุนโหว ใบหน้าของเขาเปื้อนเลอะไปด้วยน้ำของนาง เขาเลียริมฝีปากมิได้เช็ดออก “อา ช่างหวานเสียจริงหลันหยาของข้า” หลันหยากดพูเนื้อลงบนลิ้นของเขาอีกครั้ง ซุนโหวจับสะโพกของนางเอาไว้แล้วตวัดเลียน้ำหวานไม่ปล่อยให้หลงเหลือแม้แต่หยดเดียว “อืม ข้าเสียวอีกแล้ว อ้ะ ซี้ด ซี้ด จะแตกอีกแล้ว” สะโพกของนางแอ่นลอยขึ้นอีกครั้งเมื่อโดนปากของเขาดูดตอดและเลียวน “ปล่อยมันออกมาอีกครั้ง ปล่อยออกมาให้ข้ากลืนกิน น้ำหวานของเจ้าอร่อยยิ่งนัก” เขาปาดเลียแนบชิด กวาดไล่ต้อนดูดซับความฉ่ำเยิ้ม บดเนินเนื้อสาวรับกับลิ้นที่ตวัดเลีย ร่างกายของนางสั่นสะท้านอีกครั้งเมื่อควบขี่บนปากของเขาจนน้ำหวานไหลพุ่งแตกออกมา “ซี้ด เสียว อ่อย ซุนโหว อ้า” นางยังคงบดเนินเนื้อลงบนลิ้นของเขา ปล่อยให้เขาใช้ลิ้นแนบเลียคล้ายจะทำความสะอาดพูกลีบสีแดงฉ่ำ จากนั้นเขาจึงขยับลุกขึ้น เอ่ยกับนางแผ่วเบา “กินน้ำของเจ้าที่อยู่บนหน้าข้าสิ จะได้รู้ว่าหวานเพียงใด” นางไล้เลียใบหน้าของเขา ซุนโหวแลบลิ้นออกมารับลิ้นของนาง ต่างฝ่ายต่างแนบลิ้นลูบไล้แลกจูบกันอย่างดูดดื่ม ซุนโหวถอดเสื้อคลุมของตนเองออก เปิดเผยแท่งหยกขนาดใหญ่ของเขาที่ทำให้คนเสียวสะท้าน “มันต้องการท่าน แต่ข้าสัญญาว่าจะไม่ล่วงเกินเข้าไปในร่องสวาทของท่าน เช่นนั้นให้ข้าดูดนมของท่านระหว่างรูดคลึงแท่งหยกได้หรือไม่” คำขอร้องของเขาทำให้นางเสียวสะท้าน นางเลียปากก่อนจะเอ่ยว่า “อย่างไรข้าก็กลายเป็นนางแพศยาไปแล้ว เจ้าทำให้ข้าผ่อนคลายยิ่ง ถือว่าข้าช่วยตอบแทนเจ้าก็แล้วกัน” จะมีบุรุษใดที่เป็นสุภาพชนเพียงนี้ แม้ว่านางจะยินยอมอยู่บนเตียงของเขาทว่าเขากลับไม่คิดเอาเปรียบนางเลยแม้แต่น้อย หลันยาจึงนั่งยืดตัวตรง ออกคำสั่งเสียงหวาน “ในเมื่อเจ้าชอบฉีกอาภรณ์นัก เช่นนั้นก็ฉีกผ้าผืนนี้ตรงถันของข้าสิ ข้าจะป้อนนมเจ้าเอง” [1] สำนวนสวมหมวกเขียว คือ มีความหมายว่า ภรรยามีการคบชู้ หรือภรรยานอกใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD