บทที่ 1 เตรียมตัวเป็นอนุ
จวนแม่ทัพใหญ่แคว้นเฉา
แคว้นเจ้าของซุนหลีถูกแม่ทัพโจวซีฉือแห่งแคว้นเฉาตีจนแตกพ่ายและทำให้แคว้นเฉากลายเป็นผู้ปกครองแคว้นเจ้าโดยทันที
ซุนหลีบุตรสาวแม่ทัพแคว้นเจ้าจึงกลายเชลยสงครามที่ถูกกวาดต้อนให้มาอยู่ในจวนแม่ทัพตั้งแต่อายุสิบสามปี
เพราะสงครามทำให้บ้านแตกสาแหรกขาด หลังจากแพ้สงครามบิดาของนางได้รับบาดแผลหลายแห่งบนร่างกาย บิดาจึงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานก็จากไป
ในขณะที่มารดา ซุนหลี และพี่ชายบุญธรรมนามซุนโหว ถูกกวาดต้อนให้มาเป็นบ่าวรับใช้อยู่ในจวนแม่ทัพพร้อมกัน
บัดนี้ซุนโหวอายุยี่สิบห้าปีแล้ว เขาไม่ใช่พี่ชายที่แท้จริงของซุนหลี แต่คือบุตรชายสหายรักของบิดาซุนหลีที่ออกรบเคียงบ่าเคียงไหล่กัน ที่มีนามว่า อี้โหว
ต่อมาบิดาของอี้โหวได้ตายในสงครามในยามที่เขาอายุได้สิบหกปี แม่ทัพซุนจึงรับอี้โหวมาเป็นบุตรบุญธรรมและดูแลเขาประดุจบุตรชายผู้หนึ่ง
แม่ทัพซุนในยามนั้นจึงได้ให้เด็กน้อยอี้โหวเปลี่ยนแซ่มาใช้แซ่ซุนตามเขา จากอี้โหวจึงได้กลายมีเป็น ‘ซุนโหว’ ในปัจจุบัน
ก่อนหน้านี้ซุนโหวตามติดบิดาบุญธรรมไปออกรบและตำแหน่งสุดท้ายก่อนแผ่นดินแตกพ่ายของเขาก็คือแม่ทัพน้อยของแคว้นเจ้า
หลังแคว้นเจ้าถูกแคว้นเฉาตีทัพจนแตกพ่าย คนสกุลซุนสวามิภักดิ์ แม่ทัพนายกองทั้งหลายกลายเป็นสามัญชน ยังถูกกวาดต้อนเข้าเมืองหลวงเพื่อป้องกันการคิดรวบรวมคนก่อกบฏอีก
เชลยเหล่านี้ต่างถูกส่งให้ไปอยู่ในบ้านของขุนนางบ้างก็ถูกส่งไปใช้แรงงานตามชายแดน มีฐานะตกต่ำกลายเป็นทาสโดยไม่สนฐานะเดิม
หลันหยาคือฮูหยินจวนแม่ทัพ นางได้รับจดหมายจากโจวซีฉือให้ช่วยดูแลคนจากสกุลซุนให้ดีเพราะสกุลซุนเคยมีบุญคุณต่อเขาแต่อย่าออกหน้าจนเกินไป
หลันหยาย่อมเข้าใจเพราะอย่างไรพวกเขาก็เป็นเชลย ดังนั้นไม่อาจช่วยเหลือออกนอกหน้าได้ นางจึงจัดสรรตำแหน่งให้อย่างชาญฉลาด
เพราะซุนโหวมีใบหน้าหล่อเหลาสะดุดตา รูปร่างกำยำทั้งหน่วยก้านดี เขายังมีความเชี่ยวชาญเรื่องการฝึกม้า จึงได้รับหน้าที่ให้เป็นคนเลี้ยงม้าและฝึกฝนม้าของจวนแม่ทัพทันใด
เดิมทีซุนโหวมีภรรยาที่แต่งงานกันแล้วติดตามมาด้วย ทว่าภรรยาของเขากลับไปต้องตานายกองผู้หนึ่งเข้า นางจึงทิ้งเขาโดยไม่แยแสยินยอมไปเป็นอนุของนายกองผู้นั้นเพื่อความสุขสบายของตนเอง
ซุนโหวหย่ากับภรรยาของตนเอง ทว่ากลับไม่รู้สึกเสียใจอันใด ก็นั่นเพราะว่าสตรีที่อยู่ในใจของเขากลับคือน้องสาวบุญธรรมซุนหลีมาตั้งแต่ต้น
ที่เขาแต่งงานกับนางผู้นั้นล้วนเพราะท่านพ่อบุญธรรมเป็นธุระจัดการเขาจึงไม่อาจขัดได้จำต้องแต่งอย่างจำยอม
หากท่านพ่อที่แท้จริงของเขาไม่ด่วนตายจาก ไม่แน่ว่ายามนี้ซุนหลีอาจจะกลายเป็นภรรยาของเขาก็ได้
ทว่ายามนี้ฐานะตกต่ำ ไร้แผ่นดินอาศัยเขาจึงได้แต่คอยคุ้มครองแม่บุญธรรมและน้องบุญธรรมอยู่ที่นี่ไม่ให้ผู้ใดรังแกได้
จวนแม่ทัพใหญ่แคว้นเฉานับว่าไม่เลว ถึงเขาจะถูกต้อนมาเป็นทาส แต่คนในจวนก็มิได้รังแกคนที่ไร้ทางสู้ ยังให้พวกเขาอยู่อาศัยอย่างสบายใจ หากไม่คิดทรยศก็จะสามารถใช้ชีวิตอย่างสงบเช่นนี้ได้จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
ขอเพียงได้อยู่ใกล้ซุนหลี ซุนโหวก็ไม่คิดไปที่ใดอีกแล้ว
ในขณะที่ซุนหลีมีใบหน้างดงาม ผิวขาวผ่องเรียบลื่นประดุจแพรไหม นางถูกเลี้ยงดูประดุจไข่ในหินมาตั้งแต่กำเนิด ผิวพรรณจึงผุดผาดเนียนนุ่มฉ่ำน้ำประดุจเต้าหู้ขาว กิริยามารยาทอ่อนหวาน ถ่อมตน
ยิ่งโตความงามยิ่งเลื่องลือ กระทั่งสตรีที่เห็นนางยังต้องยอมสยบ
เพราะความงามและมารยาทที่เพียบพร้อม ซุนหลีจึงเป็นที่ต้องตาฮูหยินใหญ่ และหมายตาว่าจะให้ซุนหลีเป็นอนุคนต่อไปของท่านแม่ทัพใหญ่
หลันยาบัดนี้อายุสามสิบห้าปีแล้ว แม้จะอายุมากแต่นางกลับยังงดงามใบหน้าไร้ริ้วรอยเหมือนเด็กสาวแรกแย้มนางหนึ่ง
หากเปรียบเทียบความงดงามกับซุนหลีแล้ว แม้จะแก่ชรากว่านับสิบปีทว่าก็ไม่อาจเปรียบเทียบว่าผู้ใดที่งดงามมากกว่ากัน
แม้นางจะเป็นฮูหยินที่ท่านแม่ทัพรักใคร่หลงใหลที่สุด ทว่านางมีอาการเจ็บป่วยภายในเป็นโรคประจำตัวที่มีมาตั้งแต่เด็ก จึงไม่อาจมีบุตรกับท่านแม่ทัพได้
ดังนั้นเพื่อจวนแม่ทัพแล้วนางจึงต้องการหาสตรีที่รูปร่างสมบูรณ์ โหนกเนื้ออวบอูมสีแดงฉ่ำ เต้านมใหญ่โต และที่สำคัญสะโพกต้องผายเพื่อให้เหมาะกับการตั้งครรภ์
ฮูหยินใหญ่หลันหยาจึงหมายหมั่นปั้นมือที่จะฝึกฝนให้ซุนหลีกลายเป็นอนุของแม่ทัพใหญ่เพื่อตั้งครรภ์บุตรชายสืบทอดวงศ์ตระกูล
แน่นอนว่าฮูหยินใหญ่คิดครอบครองบุตรชายของซุนหลีเอาไว้เป็นของตน
ซุนหลีมีหน้าที่เพียงตั้งครรภ์เท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ในตัวของเด็กคนนั้น
ด้วยความชื่นชอบเรื่องเสพกามารมณ์ของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ที่ทรงเห็นว่าบุรุษยิ่งครอบครองสตรีมากเพียงใดก็หมายถึงอำนาจที่มากเท่านั้น
อีกทั้งน้ำรักของสตรียังเป็นยาอายุวัฒนะ หากบุรุษได้ดื่มกินมาก ๆ จะยิ่งทำให้มีอายุยืนยาว ทำให้ฮ่องเต้มักจะให้สนมหลายคนเข้าปรนนิบัติดื่มน้ำรักที่หลั่งจากรูสวาทของพวกนางในทุก ๆ วัน
ยิ่งมีหลักฐานมากมายที่คนในแคว้นต่างอายุยืนก็ยิ่งทำให้เรื่องการดื่มน้ำกำหนัดของบุรุษและสตรีเป็นที่นิยมมาช้านาน ของสิ่งนี้ดียิ่งกว่าดื่มโสมคนราคาแพงเพื่อบำรุงร่างกายเสียอีก
ธรรมเนียมของแคว้นนี้แปลกประหลาดนัก ไม่ว่าสตรีหรือบุรุษหากมีความสามารถก็สามารถสอบเข้ารับราชการได้ และเมื่อก้าวหน้าก็สามารถเลี้ยงดูนางบำเรอ หรือ นายบำเรอ ได้ตามใจชอบนับว่ายุติธรรมทั้งบุรุษและสตรี
ในขณะที่ฮ่องเต้มีสนมที่คัดเลือกเข้าวังในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก ในวังหลังของพระองค์จึงมีสนมหลายพันคนที่งามหยาดเยิ้ม ที่ต่อให้พระองค์หยิบป้ายพวกนางเหล่านั้นวันละสิบคนก็ยังเวียนไม่ครบ
เมื่อพระสนมมีมากนัก พระองค์จึงใช้ให้เป็นประโยชน์มอบนางเหล่านั้นให้เป็นรางวัลแก่ขุนนางและแคว้นเล็ก ๆ ที่สวามิภักดิ์แด่พระองค์ และหลายครั้งก็ยังใช้งานสตรีเหล่านั้นร่วมกับขุนนางเพื่อความสำราญ
แม้ว่าฝ่าบาทและขุนนางจะมักมากในกามารมณ์ แต่เพราะฮ่องเต้เฉลียวฉลาดปกครองแผ่นดินให้สงบสุข ประชาชนจึงเคารพฮ่องเต้ผู้เป็นโอรสสวรรค์ยิ่งนัก
เมื่อประชาชนอยู่ดีกินดี จิตใจเปี่ยมสุข เมื่อฮ่องเต้มีรสนิยมหาความสำราญทางกามารมณ์ประชาชนในแคว้นจึงยึดถือเอาเป็นแบบอย่าง
ซุนหลีถูกฮูหยินใหญ่ส่งเจียวหมัวมัวมาฝึกสอนให้แก่นาง เพื่อเป็นนางอุ่นเตียงให้ท่านแม่ทัพตั้งแต่นางเข้าสู่วัยปักปิ่นเมื่ออายุได้สิบห้าปี
บัดนี้ซุนหลีอายุสิบเจ็ดปีแล้วนางก็ยังไม่เคยเห็นหน้าท่านแม่ทัพแม้แต่ครั้งเดียวเพราะท่านแม่ทัพประจำการอยู่ชายแดนตลอด
นางเคยถามฮูหยินใหญ่เกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของท่านแม่ทัพ ฮูหยินใหญ่เพียงแต่เอ่ยว่า
“แล้วเจ้าก็จะรู้เอง”
มีผู้คนเล่าลือว่าแม่ทัพใหญ่เมื่อสมัยยามยังหนุ่ม มีใบหน้าหล่อเหลา รูปร่างสูงใหญ่องอาจ และยังมีใจมั่นคงเพียงแค่ฮูหยินใหญ่เท่านั้น ท่านแม่ทัพไม่เคยนอนกับสตรีอื่นใดเลย
ทว่าเกือบหกปีมาแล้วที่ท่านแม่ทัพมิได้กลับมายังเมืองหลวง
หลายคนจึงเอ่ยว่าเขาคือท่านปู่วัยชราผู้หนึ่ง ซึ่งสตรีน้อยใหญ่ไม่อยากร่วมหออีกต่อไป
ถึงท่านแม่ทัพจะแข็งแกร่งแต่ก็เคี่ยวกรำศึกมาหลายปี ร่างกายคงทรุดโทรกลายเป็นตาเฒ่าจิตวิปริตผู้หนึ่งไปแล้วจริง ๆ
ในจินตนาการของซุนหลี นางยอมรับว่าหวาดกลัวอยู่ไม่น้อย เมื่อคิดภาพชายชรากำลังคล่อมร่างของตนอยู่
แต่เพื่อท่านแม่และให้พี่ชายของนางมีฐานะในจวนที่ดีขึ้น ไม่ต้องลำบากเป็นบ่าวรับใช้อีกต่อไป นางจึงต้องฝืนกล้ำกลืนยอมทำตาม
และถึงจะหวาดกลัวเพียงใด ซุนหลีก็ไม่เคยปริปากบ่นให้ผู้ใดฟัง กระทั่งเมื่ออยู่ต่อหน้าท่านแม่ซุนหลีก็ยิ้มหัวเราะอย่างมีความสุขไม่ให้ท่านแม่ต้องกังวล
“ท่านแม่ไม่ต้องห่วง ในเมื่อสวรรค์ประทานโอกาสนี้ให้แก่ลูก นั่นก็หมายถึงว่าสวรรค์ให้โอกาสให้ลูกทดแทนบุญคุณท่านแม่และท่านพี่ ไม่ให้พวกท่านต้องลำบาก ไม่ว่าจะเป็นท่านแม่ทัพที่ชราก็ดี หรือจะเป็นแม่ทัพที่จิตใจบิดเบี้ยวตามข่าวลือก็ดี ซุนหลีล้วนไม่เชื่อกลัวเจ้าค่ะ”
“ลูกแม่ เด็กดีของแม่ แม่เสียใจที่ทำให้เจ้าเป็นเช่นนี้ เจ้าคือสตรีสูงศักดิ์ที่แม่เฝ้าถนอม ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ที่ต้องกลายมาเป็นอนุของเฒ่าชราผู้หนึ่ง”
“มิใช่ความผิดท่านเจ้าค่ะ ซุนหลีมิใช่คุณหนูในห้องหอดั่งวันวาน แต่ซุนหลีจะไม่ยอมแพ้ และให้ท่านแม่ลำบากอีกต่อไป”
ท่านแม่โอบกอดบุตรสาวเพียงคนเดียว แคว้นเจ้าของพวกนางมีความนิยมผัวเดียวเมียเดียว บุรุษไม่รับอนุเข้าบ้านเด็ดขาด
แต่แคว้นเฉาบุรุษกลับเป็นใหญ่ ขอเพียงบุรุษต้องการสตรีก็เป็นเพียงของใช้ชิ้นหนึ่ง จะใช้ร่วมกับผู้ใดหรือยกให้ผู้ใดก็ย่อมได้
“ลำบากหลีเอ๋อร์ของแม่แล้ว ลูกแม่ช่างกตัญญูยิ่งนัก”
ซุนหลีจะถูกตรวจร่างกายทุก ๆ สามเดือน นางต้องเปลือยกายต่อหน้าฮูหยินใหญ่และปล่อยให้ฮูหยินใหญ่สำรวจร่างกายของนางโดยละเอียดเพื่อไม่ให้มีสิ่งใดผิดพลาด
นางต้องถูกเตรียมพร้อมให้มากที่สุด
ซุนหลียังจำวันแรกหลังจากฝึกฝนวิชาเอาใจบุรุษมานับปี เมื่อนางอายุครบสิบหกปีวันนั้นเป็นวันที่ฮูหยินใหญ่เรียกนางเข้าไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดเป็นครั้งแรก
ยามนั้นนางตื่นเต้นและหวาดกลัว ทว่าผ่านไปไม่นานซุนหลีก็เริ่มเคยชิน กล้าหาญที่จะเผชิญหน้ากับฮูหยินใหญ่โดยไม่ขัดเขิน
วันนี้ฮูหยินใหญ่เรียกนางไปตรวจร่างกายอีกครั้ง ซุนหลีประหลาดใจมากเพราะยังไม่ครบกำหนดสามเดือนที่ต้องตรวจร่างกาย
เมื่อซุนหลีเปิดประตูเข้าไปก็ได้รับคำสั่งให้นางปิดประตูให้เรียบร้อย
“เจ้าค่ะ”
ซุนหลีค่อย ๆ เดินเข้าไปอย่างช้า ๆ กระทั่งหยุดเบื้องหน้าฮูหยินใหญ่ แล้วประสานมือที่บั้นเอวยอบกายอย่างนอบน้อมอ่อนหวาน
“ฮูหยินใหญ่ ข้าน้อยมาแล้วเจ้าค่ะ”
ฮูหยินใหญ่มองคนงามอย่างพึงใจ นับวันซุนหลียิ่งงดงามหยาดเยิ้มกระทั่งสตรีด้วยกันเมื่อเดินผ่านยังต้องมองเหลียวหลัง
และที่สำคัญร่างกายนี้เหมือนจะอวบอิ่ม สมบูรณ์ในจุดที่ฮูหยินใหญ่ต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ
หากนางได้รับน้ำกามทิพย์จากบุรุษ ซุนหลีจะกลายเป็นสตรีที่สมบูรณ์ยิ่งกว่านี้
“ลุกขึ้นเถิด”
“ขอบคุณฮูหยินใหญ่เจ้าค่ะ”
“เงยหน้าของเจ้าขึ้นมา”
“เจ้าค่ะ”
ซุนหลีเงยหน้าขึ้นมองฮูหยินใหญ่ นางจึงเห็นชัดเจนว่าบัดนี้ฮูหยินใหญ่สวมชุดสีขาวและบางยิ่ง กระทั่งมองเห็นเต้าถันคู่ใหญ่อยู่ข้างใน เมื่อมองต่ำไปก็พบเส้นขนสีอ่อนรำไรปกคลุมอยู่ตรงกลางร่างกาย
ซุนหลีต้องรีบหลุบตาต่ำ เมื่อนางยังสามารถมองเห็นกลีบเนื้ออูมของฮูหยินใหญ่ได้อย่างชัดเจน
ซุนหลีกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก นางรู้สึกประหม่าเพราะสบเข้ากับสายตาของฮูหยินใหญ่ที่มองนางด้วยความพึงพอใจ
ทว่านอกจากความพึงพอใจแล้วสายตาคู่นั้นยังทำให้ซุนหลีใบหน้าร้อนวูบวาบจนกลายเป็นริ้วแดง