เมื่อสามัญสำนึกกลับมาหลันหยาก็พลันรู้สึกรังเกียจตนเอง
นางฝันว่ามีอะไรกับชายอื่น มิหนำซ้ำยังน้ำแตกเพราะสัมผัสคนผู้นั้น มิเท่ากับว่านางเป็นสตรีแพศยาไปแล้วหรือ
หลังจากวันนั้นนางรู้ตัวว่าอาจจะทำผิดต่อสามี วิธีที่ดีที่สุดก็แค่ไม่พบหน้าคนผู้นั้น นางจึงเลิกไปแอบดูเขาเหมือนที่ผ่านมา
กระทั่งในขณะที่นางเรียกซุนหลัวมาตรวจร่างกายในวันหนึ่ง พบว่าสีหน้าของซุนหลัวไม่ค่อยดีจึงได้เอ่ยถาม
“พี่ชายของข้าน้อยล้มป่วยหนัก อยากจะขอความกรุณาจากฮูหยินใหญ่ส่งท่านหมอไปรักษาเขาด้วยเจ้าค่ะ”
“ซุนโหวล้มป่วยหรือ เป็นไปได้อย่างไร”
“หลายวันก่อนที่จวนรับม้าศึกชุดใหม่เข้ามาฝึก ฮูหยินใหญ่เป็นคนส่งพี่ชายไปตรวจรับม้าในฐานะผู้ตรวจรับของจวนแม่ทัพจึงได้ปะทะกับพวกโจรปล้นม้าและได้รับบาดเจ็บโดนฟันที่แขนเจ้าค่ะ”
ฮูหยินใหญ่ตกใจยิ่งที่ได้ทราบเรื่อง เพราะความเชี่ยวชาญเรื่องม้าของซุนโหว เมื่อผู้แทนตรวจม้าคนเดิมเกษียณอายุพอดี
ฮูหยินใหญ่จึงยกฐานะของเขาขึ้นจากบ่าวไพร่ทั่วไป เป็นผู้แทนตรวจม้าของจวนแม่ทัพคนใหม่
“ที่แท้เขาก็ได้รับบาดเจ็บด้วยหรือ ทำไมไม่มีอยู่ในรายชื่อคนเจ็บเล่า ใครเป็นผู้จดรายชื่อ ข้าต้องลงโทษคนที่ไม่รอบคอบแล้ว”
น้ำเสียงเดือดดาลของฮูหยินใหญ่เช่นนี้ ซุนหลีไม่เคยพบมาก่อน นางจึงแปลกใจที่ฮูหยินใหญ่เห็นความสำคัญของบ่าวไพร่จนตนเองมีโทสะเช่นนี้
นับเป็นเจ้านายที่น่านับถือยิ่ง
“ไม่ใช่ความผิดผู้ใดเจ้าค่ะ พี่ชายของข้าเป็นคนดื้อรั้น หากไม่ถึงแก่ชีวิตย่อมคิดดูแลตนเอง เขาจึงไม่บอกคนอื่นว่าได้รับบาดเจ็บ ทว่าบาดแผลของเขาลึกเกินไป ท่านแม่ไปช่วยเขาใส่ยาแล้วแต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหวจนจับไข้เจ้าค่ะ”
“ที่แท้เขาเป็นคนดื้อดึงเช่นนี้เองหรือ”
“เจ้าค่ะ”
คนที่บาดเจ็บมีหลายคนนัก และโจรก็หนีไปได้บางส่วน แต่โชคดีที่ม้าไม่หายไปแม้แต่ตัวเดียว
ฮูหยินใหญ่ให้คนสำรวจคนเจ็บแต่ไม่มีรายชื่อซุนโหว นางยังโล่งใจว่าคนผู้นั้นปลอดภัย ที่ไหนได้กลับดื้อรั้นไม่ยอมบอกใคร
ดังนั้นการตรวจร่างกายของซุนหลีในวันนั้นจึงเป็นไปอย่างรวดเร็วเพราะใจของฮูหยินใหญ่ไปอยู่ที่ซุนโหวแล้ว
ฮูหยินใหญ่ส่งท่านหมอไปดูแลซุนโหวแล้ว นางพยายามหักห้ามตนเองไม่ให้ไปหาเขา เพราะกลัวจะเกิดพิรุธ
กระทั่งหลายวันต่อมา นางไม่สามารถทนไหวได้อีกต่อไป ตกเย็นยามโหย่ว[1]ฮูหยินใหญ่จึงลอบไปแอบดูซุนโหวอีกสักหนเพื่อให้คลายใจ
และสิ่งที่ทำให้นางต้องตกตะลึงก็คือ ในยามที่นางแอบมองเขาผ่านรูลับ กลับพบว่าซุนโหวมิได้อยู่คนเดียว
เขานั่งอยู่ในอ่างไม้เช่นเคย สองแขนยกขึ้นพาดขอบอ่าง ร่างกายกำยำที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาทำให้มองเห็นถันเล็กได้ชัดเจน
แต่ที่ทำให้หลันหยาตกใจยิ่งกว่าสิ่งใดนั่นคือบัดนี้มีสตรีนางหนึ่งกำลังขี่คร่อมเขาอยู่ พร้อมกับเปล่งเสียงครางอย่างรันจวน
“ซี้ด นายท่านเจ้าขา ดูดนมให้ข้าหน่อยเจ้าค่ะ ข้าเสียวไม่ไหวแล้ว”
สตรีนางนั้นอ้อนวอนใบหน้าเล็กเหยเก เต้านมคู่นั้นถูไถที่ใบหน้าของเขา ซุนโหวเม้มปากแล้วดูดอย่างอร่อย น้ำในถังสาดกระเซ็นเต็มพื้นในยามที่สตรีนางนั้นขยับสะโพกของขึ้นลงอย่างแรง
“อ้า นายท่านเจ้าขา แท่งหยกท่านใหญ่ยิ่ง คับรูของข้าไปหมดแล้ว อู้ย ซี้ด”
น้ำยังกระเซ็นไปรอบ ๆ อ่างกระทั่งพื้นเปียกกระจาย
“อ้า ซี้ด อื้อ ใกล้แตกแล้วเจ้าค่ะ อ้า ซี้ด”
ภาพที่เห็นเต็มตา ทำให้ฮูหยินโกรธเคืองที่เขาเพิ่งฟื้นจากไข้กลับไม่สนใจอาการบาดเจ็บถึงขั้นเล่นรักกับบ่าวในจวนและยังเกิดอาการหึงหวงอยู่ในใจลึก ๆ จนเจ็บปวด
ทว่าอีกใจหนึ่งกลับรู้สึกตื่นเต้น ภาพวาบหวิวตรงหน้าทำให้ร่องหวานคายน้ำหวานออกมาจนเปียกชุ่มลื่นร่อง
นางกัดฟันจ้องมองพวกเขาพร้อมกับเลียริมฝีปาก
ยิ่งเห็นเขาครางและตวัดลิ้นรัวเลียเต้านมเล็กของบ่าวนางนั้นยิ่งทำให้หลันหยาจินตนาการว่านั่นคือเต้าของนางเอง
ซุนโหว ข้าอยากให้เจ้าดูดนมข้า เลียนมข้า และยัดแท่งหยกของเจ้าเข้ามาในกายข้า
ฮูหยินใหญ่แยกขาของตนเองออกแล้วตวัดชุดนอนผืนบางที่นางสวมมาขึ้นไว้บนบั้นเอว
นิ้วเรียวสัมผัสพบกับร่องหวานที่ชุ่มชื่นเปียกชื้นเพราะน้ำรักหลั่งรินราวสายน้ำ
ซี้ด เสียว อ้า ข้าอยากให้นิ้วของข้าคือแท่งหยกของเจ้า
นางครางแผ่ว ยิ่งดูภาพนั้นที่สตรีนางนั้นถูกจับให้หันหลัง ให้คว่ำหน้าจับขอบอ่างเอาไว้
สตรีนางนั้นแอ่นก้นสูง ซุนโหวหันหลังให้นางแท่งหยกยังคาอยู่ในรูรักของบ่าวนางนั้น
ตั่บ ตั่บ ตั่บ
ซุนโหวกระแทกร่างเล็กรัว ๆ โดยไม่หยุดพัก
อา เขาแข็งแกร่งเหลือเกิน
เสียงกระแทกนั้นบ่งบอกว่าแรงบดอัดมากเพียงใด หลันหยาเสียวเข้าไปถึงรูรักเมื่อเห็นความแข็งแกร่งเต็มตา
กระทั่งนางหายใจหายคอไม่ทันเปล่งเสียงครางเสียวและซุนโหวเริ่มควงสะโพกกระแทกบ่าวนางนั่ง จนกระทั่งนางร้องครางอย่างเร้าอารมณ์
“อ้า นายท่านเจ้าขาเสร็จแล้ว ข้าเสร็จแล้วเจ้าค่ะ ซี้ด”
เมื่อคนทั้งสองคนเปล่งเสียงครางเพราะถึงจุดสุดยอด หลันหยาก็ยิ่งเร่งมือเขี่ยหัวนมตนเองทั้งกระแทกนิ้วรัวเร็ว
คงเพราะหลันหยาอัดอั้นมาหลายวันเพราะไม่ได้เรียกบ่าวคนใดเข้ามารับใช้ การช่วยตนเองในครานี้ยังตื่นเต้นเพราะเห็นภาพคนสองคนกำลังร่วมรักกันต่อหน้าต่อตา จึงทำให้นางเสร็จสมเร็วกว่าทุกครั้ง
อ้า เสร็จแล้ว ซี้ด อ้า
น้ำรักของนางเปียกเต็มหน้าขา นางตลบกระโปรงตัวบางที่ดึงขึ้นไปกองที่เอวให้ลงมาแม้ว่าร่องเสียวของนางยังเรียกร้องมากยิ่งขึ้นจนมันบีบรัดและเต้นตุบ ๆ อยู่ภายใน
มือเรียวกระชับเสื้อคลุมตัวใหญ่และผูกเอาไว้แน่นหนาปกปิดร่างกายไม่ให้ลมหนาวเล็ดรอดผ่านเข้ามากระทบผิวกาย จากนั้นจึงแอบมองต่อด้วยความอยากรู้อยากเห็น
สตรีนางนั้นหันหน้ามาแล้ว ภายใต้แสงจากตะเกียงเจ้าพายุ หลันหยาเห็นชัดเจนว่าเป็นผู้ใด
เป็นสาวใช้หนึ่งใบหน้างดงามน่ารัก นางผู้นั้นคือหนึ่งในสตรีที่ลงมือตบตีกันเพื่อแย่งชิงซุนโหว และถูกหลันหยาสั่งลงโทษและห้ามมาเหยียบที่เรือนของซุนโหวอีก
กล้าดีนักนะบ่าวนางนั้น
หลันหยาร้อง ‘หึ’ ในใจ นางจับได้คาหนังคาเขาว่ามีบ่าวไพร่ขัดคำสั่งนางย่อมยอมไม่ได้
บ่าวในจวนแม่ทัพมีนับร้อยคน จะไล่คนที่ไม่สนใจคำสั่งของนางออกไปสักคนสองคนก็คงไม่เสียหายอันใด
หลันหยาคิดว่าตนเองไม่ได้ใช้ความริษยาตัดสินคนเลยแม้แต่น้อย
หลังเสร็จกิจสตรีนางนั้นก็อ้อยอิ่งอยู่บนร่างแกร่งเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นจากถังน้ำ และเช็ดตัวสวมใส่เสื้อผ้าของนางจนเรียบร้อย
ด้วยหน้าที่ของสาวใช้นางยังใช้ผ้าเช็ดน้ำที่หกกระเซ็นลงบนพื้นจนแห้งสะอาดแล้วเงยหน้าขึ้น ก่อนจะเดินไปล้างมือของตนเองที่อ่างล้างมือที่วางอยู่ใกล้ ๆ ประตูทางออก
ซุนโหวออกคำสั่งทันใด
“ยาอยู่ตรงนั้น กินต่อหน้าข้า”
ซุนโหวชี้ไปที่โต๊ะทานอาหารตัวเล็กในห้องที่วางอยู่มุมหนึ่ง
สตรีนางนั้นเดินไปตามคำสั่ง หยิบยาสมุนไพรที่ปั้นเป็นเม็ดกลมขึ้นมา
นั่นคือยาอะไร
ฮูหยินใหญ่ได้รับคำตอบแล้วเมื่อสาวใช้ร่างเล็กเอ่ยถามซุนโหว
“ท่านไม่อยากมีลูกหรือเจ้าคะ ไยต้องให้ข้ากินสิ่งนี้ตลอดเลย”
ซุนโหวเอ่ยน้ำเสียงเย็นชา
“ข้ามิใช่ตกลงกับเจ้าแล้วหรือ กินเสร็จแล้วก็รีบกลับไป หากใครมาพบเข้า เจ้าคงไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป”
สตรีนางนั้นกระเหง้ากระงอด ไม่ได้เอ่ยคำใดนางกลืนยาเม็ดนั้นลงท้องอย่างรวดเร็วก่อนจะดื่มน้ำตาม
“ผ้าพันแผลของท่านผู้ตรวจเปียกน้ำแล้ว ให้ข้าทายาให้แล้วเปลี่ยนให้ใหม่นะเจ้าคะ”
อย่างไรยามนี้ซุนโหวก็มีตำแหน่งเป็นผู้แทนตรวจสอบม้าของจวน นับว่าเหนือกว่าบ่าวไพร่ทั่วไปอยู่ขั้นหนึ่ง บ่าวรับใช้จึงต้องปรนนิบัติเขาอย่างนอบน้อม
และแม้ว่าจะไม่ได้รับตำแหน่งนี้หลันหยาก็คิดว่าสาวใช้พวกนี้ก็คงพร้อมใจยินยอมเรียกซุนโหวว่าท่านโดยไม่ต้องสงสัย
เขายังนั่งอยู่ในถังน้ำเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ข้าจัดการเอง เจ้ารีบไปเถิด ชักช้าจะเกิดเรื่อง”
สตรีนางนั้นรู้สึกว่าตนเองกำลังถูกไล่ นางไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง
“มิใช่ท่านนัดสตรีอื่นเอาไว้อีกหรือเจ้าคะ”
ซุนโหวหรี่ตามองนาง ใบหน้าคมหล่อเหลาราบเรียบ ยังใช้สายตาลึกล้ำประดุจบ่อน้ำทั้งเย็นชาจับจ้องจนทำให้คนที่สบตาตัวสั่นโดยไม่ตั้งใจ
“เจ้าหึงหวงข้าหรือ”
ห้ามทำตัวเป็นเจ้าของ ห้ามหึงหวง และห้ามคิดว่าเขามีใจให้นั่นคือข้อห้ามของซุนโหว หากผู้ใดทำให้เขาขุ่นเคืองก็อย่าได้คิดมาพบเขาอีก
“ข้าย่อมไม่กล้าเจ้าค่ะ เช่นนั้นท่านดูแลตนเองด้วยข้าขอตัวก่อน”
เรื่องที่ซุนโหวเคยถูกภรรยาที่รักทิ้งไปจึงทำให้เขาเสียใจและปิดตายหัวใจมาตั้งแต่ตอนนั้นสตรีในจวนย่อมรู้ดี
พวกนางจึงคิดทำให้ซุนโหวยอมใจอ่อน นางเหล่านั้นล้วนหลอกล่อและใช้มารยาสารพัดเพื่อให้เขาชื่นชอบตนเอง
และสิ่งหนึ่งที่พวกนางทำก็คือ จะไม่ขัดใจซุนโหวเด็ดขาดเพื่ออนาคตของตนเอง
เพราะนอกจากซุนโหวจะองอาจหล่อเหลาแล้ว เขายังมีอนาคตในจวนที่สดใส ด้วยความสามารถอันมากล้นของเขา หากท่านแม่ทัพกลับมาคงได้เลื่อนเป็นองครักษ์อย่างแน่นอน
เช่นนั้นตัวเขาจึงยิ่งได้รับความนิยมมากขึ้นจนชื่อเสียงเลื่องลือโด่งดังออกไปนอกจวนแล้ว สตรีน้อยใหญ่ล้วนอยากได้เขาเป็นสามี
“เช่นนั้นข้าไปนะเจ้าคะ”
“อืม”
เมื่อซุนโหวไม่สนใจและคิดรั้งนางเอาไว้อีกต่อไป สตรีนางนั้นคว้าเสื้อคลุมกันลมตัวหนามาคลุมกาย ก่อนจะมองเขาด้วยความอาลัยอาวรณ์แล้วตัดใจเปิดประตูออกไป
ซุนโหวรอกระทั่งบ่าวนางนั้นปิดประตูเรียบร้อย เขาจึงลุกขึ้นจากถังน้ำและยังหันหน้ามาทางด้านหลันหยา
หลันหยาเห็นของแข็งที่ใฝ่ฝันอยากเห็นเต็มตามานานอยู่ตรงหน้า ถึงกับน้ำลายไหลยืดทั้งตกตะลึง
ใบหน้าหล่อเหลาเหมือนเทพเซียนในภาพวาด รูปร่างของเขานั้นกำยำเต็มไปด้วยกล้ามเนื้องดงาม
ช่วงไหล่กว้าง เอวสอบ ร่างกายขาวผ่องต้นขายาวเพรียว ยังมีหยดน้ำเกาะอยู่โดยรอบแสนยั่วยวน และที่สำคัญอาวุธของเขานั้นทำให้นางกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก มือสั่นเล็กน้อย
‘แข็ง ใหญ่ ยาว คือนิยามของเขา’
ซุนโหวมีแท่งหยกที่ใหญ่พอ ๆ กับของท่านแม่ทัพและแข็งแกร่งยิ่งนัก แม้ว่าเขาจะเพิ่งเสร็จสมกับสตรีนางนั้นทว่าแท่งหยกยังแข็งชันและชี้ตั้งตรง
ในยามที่เขาขยับกายยังผงกหัวหงึกหงัก นางยังเห็นเส้นเลือดปูดโปนที่พันอยู่รอบ ๆ ลำ หัวหยกแดงเถือกและใหญ่จนนางเสียวไปถึงท้องน้อย
หลันหยาคิดว่า หากแท่งหยกชิ้นนี้เข้าไปผงกหัวในร่องเสียวของนางจะครูดเสียวกับร่องรักได้ดีเพียงใด
แค่คิดก็คับแน่นจนน้ำหวานไหลเยิ้มอีกครั้ง
เขาหันหน้ามายังตำแหน่งที่นางแอบอยู่ หลันหยาสะดุ้งโหยงเมื่อสบเข้ากับดวงตาคมเข้ม คิดว่าถูกเขาจับได้แล้วใช่หรือไม่
ทว่าเขากลับทอดสายตามองผ่านไป นางจึงผ่อนลมหายใจยาวออกมา
หลันหยามองไปยังแขนแข็งแกร่งที่บัดนี้ผ้าพันแผลเปียกชื้น นางนึกตำหนิเขาในใจว่าไยไม่ห่วงตนเองเช่นนี้
ในเมื่อเขาไม่ห่วงตนเอง ยังเล่นรักกับสตรีหน้าด้าน ๆ แม้จะยังเจ็บป่วย เช่นนี้ฮูหยินใหญ่ก็คิดว่าตนเองจะไม่สนใจเขาแล้ว
นางกำหมัดแน่นแล้วถอนสายตาออกมา คิดจะหันหลังกลับเรือนเพราะแน่ชัดแล้วว่าเขาสบายดี
แต่ไม่รู้ด้วยเหตุใด ใจของนางไม่รักดี นางจึงหันกลับมาดูเขาอีกสักครั้ง
แต่ว่าเมื่อนางเพ่งสายตาผ่านรูเล็กมองไปในเรือน กลับพบเพียงความว่างเปล่า
ฮูหยินใหญ่สอดส่ายสายตาหาเขาจนทั่ว เรือนของซุนโหวไม่ใหญ่ จากจุดนี้ทำให้นางเห็นเขาไม่ว่าเขาจะอยู่ตรงส่วนใดภายในเรือนหลังเล็ก
แต่ตอนนี้เขากลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ฮูหยินใหญ่เอนกายไปด้านหน้า โก้งโค้งร่างตนเองเพราะต้องจ้องสายตาผ่านรูเล็กนั่น มองอย่างไรก็มองไม่เห็นเขา
ซุนโหวหายไปราวกับภูตผี
จนกระทั่งนางบังเกิดความรู้สึกเย็นวาบเมื่อเสื้อคลุมของนางถูกเลิกขึ้นสูงแก้มก้นสัมผัสกับความเย็นโดยฉับพลัน
“อ้ะ อุ้ย”
จากนั้นใครบางคนก็จับกลีบของนางจากด้านหลัง ลงลิ้นดูดเลียอย่างแรงทั้งครางเบา ๆ
“อ้า อร่อยยิ่งขอรับฮูหยินใหญ่”
หัวใจของหลันหยาแทบจะหลุดออกมา นางตกใจยิ่งที่เขามาโผล่ด้านหลังตนเอง
“ซะ ซุนโหว
[1] ประมาณ 18.00 น.