สามวันให้หลังอาการของจิรัชยาดีขึ้นจนแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว เทวาเป็นคนไปรับเธอกลับ และเธอก็นั่งเงียบไม่พูดไม่จามาตลอดทาง พอถึงบ้านเธอกำลังจะขึ้นไปยังห้องของเธอแต่เสียงเข้มกลับหยุดเธอไว้
“เดี๋ยวจี๊ด”
เธอหยุดเดินแล้วกันมามองคนต้นเสียงโดยไม่พูดไม่จาอะไรอีกตามเคย ตลอดสามวันมานี้เขามีแต่พูดจาให้เธอเจ็บแสบไปหมด คำพูดที่ออกจากปากเขาแต่ละคำมีแต่คำดูถูกเหยียดหยามสารพัด ไหนจะว่าเธอแรดบ้างละร่านบ้างละ ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันเขาคิดอย่างนี้มาตลอดเลยใช่ไหม แต่ถึงอย่างนั้นใจไม่รักดีกลับเกลียดเขาไม่ลง
“ห้องของเธออยู่ทางนี้” ไม่พูดเปล่ามือแกร่งคว้าต้นแขนเสลาแล้วพาเธอเดินไปยังปีกซ้ายของบ้าน
“คุณจะพาฉันไปไหน” จิรัชยาต่อต้าน ทางที่เขาพาเดินไปมันคนละทางกับห้องของเธอ เพราะห้องของเธออยู่ทางด้านขวา
ผู้ปกครองหนุ่มไม่สนใจยังคงลากเด็กสาวในปกครองไปทางด้านซ้ายเหมือนเดิมจนกระทั่งถึงห้องสุดท้ายที่เป็นห้องนอนของตนเอง จิรัชยาเห็นดังนั้นก็ขืนตัวไว้เขาจึงกระชากประตูเปิดออกแล้วผลักเธอเข้าไป
“คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม”
“ต่อไปนี้เธอต้องนอนที่นี่”
“ไม่ค่ะฉันจะกลับห้องของฉัน”
“เธอเป็นเมียฉันดังนั้นเธอต้องนอนที่ห้องผัวของเธอ”
“ไม่ค่ะ”
“อยากลองดีกับฉันใช่มั้ยจี๊ด หายดีแล้วนี่ มาให้ฉันเตือนความจำหน่อยเป็นไง”
“คุณเทวา คุณจะทำอะไร” เด็กสาวถามเสียงสั่นก้าวถอยหลังอย่างหวาดระแวง แค่นี้เขายังหยามน้ำใจเธอไม่พออีกหรือไง
ไม่จำเป็นต้องตอบเป็นคำพูด เทวาใช้การกระทำแสดงออกให้เธอได้รู้อย่างแจ่มแจ้งเสียยิ่งกว่า ร่างเล็กถูกผลักลงบนเตียงกว้าง เธอพยายามจะตั้งหลักลุกออกไปแต่ไม่ทันการณ์เสียแล้ว ร่างสูงใหญ่ของเทวาแนบทับลงมาทันที
“อย่าทำอะไรฉันนะ” จิรัชยาพยายามต่อต้านอย่างสุดฤทธิ์ ใช้มือดันแผงอกกว้างแต่ก็ไม่เป็นผล
ซอกคอสองข้างของเธอกำลังถูกซุกไซ้จนเธอต้องเบี่ยงหลบไปมา กลิ่นกายสาวทำให้เทวาขาดสติ เขาทั้งสูดดมเอาความหอมเข้าเต็มปอด ทั้งขบ ทั้งเม้ม ตั้งใจกำราบคนชอบพยศชอบต่อต้านให้อยู่หมัด หลังจากที่ได้ลิ้มรสสาวน้อยที่เขาเฝ้าฝันหาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันความปรารถนาเร่าร้อนในกายก็พวยพุ่ง ทั้งโหยหาทั้งอยากครอบครอบเด็กสาวไม่รู้จักจบจักสิ้น รสราคะความเสน่หาทำให้ดิ่งลึกหลงใหลมัวเมาจนยากถอนตัว เขาต้องทนอดอยากปากแห้งมาถึงสามวัน และวันนี้เขาจะไม่ทนอีกแล้ว
“อย่าทำฉันคุณเทวาได้โปรด...” จิรัชยาทั้งผลักไสทั้งขอร้องแต่คนใจร้ายก็ไม่ยอมฟัง
การดิ้นรนของเธอกลับยิ่งเป็นการกระตุ้นสัญชาตญาณนักล่าในตัวเขาให้ตื่นขึ้น ดูเหมือนว่าแม้แต่กระดุมเสื้อของเธอยังเป็นปัญหาสำหรับเขา เขาไม่ยอมเสียเวลาแม้สักเสี้ยววินาทีเดียวที่จะปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด แต่เขากลับกระชากเสื้อตัวสวยออกจากกันจนกระดุมกระเด็นหลุดร่วง ผ้าเนื้อดีถูกฉีกขาดติดมือเป็นสองชิ้น เขาโยนมันทิ้งอย่างกับเศษผ้าไร้ราคาแล้วหันมาสนใจกับความสวยงามตรงหน้า แต่เขากลับยังรู้สึกขัดใจเหลือเกินเพราะยังเหลืออีกหนึ่งสิ่งที่บดบังความอวบอิ่มล้นทะลักไว้ บราลูกไม้สีหวานถูกกระชากออกไปเช่นกัน คราวนี้เขาสามารถเพ่งพิศความงดงามตรงหน้าได้อย่างเต็มตา รอยความพอใจปรากฏในตาคมชั่วแวบหนึ่งแล้วคิ้วเข้มต้องขมวดมุ่น เพราะเด็กน้อยกลับยกมือขึ้นมาปิดบังหน้าอกของตนเอาไว้
“เอามือออกจี๊ด” เสียงทุ้มพร่าเอ่ยสั่ง
จิรัชยาไม่ยอมทำตาม เทวาจึงหยุดนิ่งมองท่าทางลนลานของเหยื่อตัวน้อยอย่างใจเย็น จากนั้นเขาจึงดึงกระโปรงเอวยืดผ้าชีฟองพลิ้วไหวของแม่ลูกกวางน้อยออกพร้อมกับรูดกางเกงในลูกไม้ตัวจิ๋วลงมาตามเรียวขางามเช่นกัน หญิงสาวเองก็พยายามขัดขืนเต็มที่แต่ก็มิอาจสู้แรงของเขาได้ เมื่อเนื้อตัวเปลือยเปล่า เธอจึงลนลานรีบคว้าผ้าห่มมาปกคลุมกายของตนไว้ ท่าทางของเธอดูแล้วช่างน่าขันแต่ก็น่าเอ็นดูอยู่ในที เห็นแล้วอยากจะแกล้งเธอด้วยการขย้ำและขยี้แรง ๆ
“หึ ๆ ขัดขืนไปก็เปล่าประโยชน์นะจี๊ด ยอมฉันดี ๆ ดีกว่า” น้ำเสียงเขาฟังสบาย ๆ ดูใจเย็นผิดกับความปรารถนาอันร้อนแรงเปี่ยมล้นอย่างเหลือเชื่อ
“คุณทำอย่างนี้กับฉันทำไมคะ” เธอข้องใจเหลือเกินที่อยู่ ๆ เขาก็มาทำร้ายกัน
“เป็นเธอต่างหากที่รนหาเรื่องเอง” ถ้าเธอไม่ร่านออกไปแรดเที่ยวกลางคืนยั่วยวนฝูงเสือฝูงตะเข้ แม้เธอจะแต่งกายนุ่งน้อยห่มน้อยอย่างไรเขาก็ยังพอทน เขายังอาจจะรอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมกว่านี้
“ฉันไปทำอะไรให้คุณ” ถามด้วยสายตาที่ตัดพ้ออย่างไม่ปิดบัง
“หึ ๆ” คนใจร้ายเพียงหัวเราะในลำคอโดยที่ไม่ยอมตอบคำถามของเธอ
เธอไม่ได้ทำอะไรเลย แค่อยู่เฉย ๆ เขาก็พร้อมที่จะกระโจนใส่เธออยู่แล้วทั้ง ๆ ที่เธอไม่ได้สวยเย้ายวนเหมือนกับคู่ขาคนอื่น ๆ ของเขาด้วยซ้ำ แต่อย่างว่า... สายตาของเขาจับจ้องเธอมาเนิ่นนาน นานเหลือเกิน คอยเตือนสติคอยห้ามตัวเองตั้งหลายครั้ง คำนึงถึงความไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวงก็แล้ว แต่ก็มิอาจฉุดรั้งหัวใจแข็งกระด้างของตัวเองไม่ให้เผลอใจไปกับความสวยใสไร้เดียงสาของเธอไว้ได้ มารู้ตัวอีกทีจากความเอ็นดูได้แปลเปลี่ยนมาเป็นความใคร่และหลงรักเธอโดยไม่รู้ตัว
จิรัชยาหนีบขาแน่นเมื่อเห็นว่าสายตาของคนร้ายกาจหยุดลงอยู่ตรงจุดไหน เธอรู้สึกอับอายแต่กลับร้อนผะผ่าวไปทั่วทั้งร่าง ลมหายใจของเธอหอบกระชั้นปะปนไปด้วยความหวาดกลัวพร้อมความรู้สึกบางอย่างที่กำลังค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาในใจ
เทวาจับขาเรียวแยกออกให้ความเป็นหญิงเปิดเปลือยสู่สายตา เขาใช้สายตาสำรวจตรวจดูร่องรอยที่ถูกเขาทำลายอย่างที่เขาทำทุกวันยามที่เธอยังพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล พร้อมกันนั้นนิ้วใหญ่ก็กรีดไปตามรอยแยก พลิกปริปลิ้นดอกไม้กลีบงามดูจนพอใจ
“หายดีแล้วนี่ ถ้าอย่างนั้นก็พร้อมให้ฉันเอาได้แล้วสิ”
“ไม่นะคะคุณเทวา”
ยิ่งเธอปฏิเสธเขายิ่งอยากสั่งสอนเธอ นิ้วมือใหญ่แยงแหย่เข้าไปในช่องทางรักที่ปิดสนิททันที
“ฉันเจ็บ คุณเทวาอย่านะคะ” แม้ว่าส่วนนั้นที่ฉีกขาดจะสมานตัวแล้วแต่เธอยังคงรู้สึกเจ็บแสบอยู่ถ้าถูกกระทบกระเทือนแรง ๆ และถ้าเขาทำเช่นนั้นกับเธอ รับรองได้ว่ามันต้องไม่เบาแน่ ๆ ประสบการณ์แสนเลวร้ายมิใช่จะลบเลือนไปง่าย ๆ นึกขึ้นมาก็เจ็บปวดทุกครั้งที่คนที่เรามีใจกระทำหยามเหยียดเราราวกับสัตว์ป่าคลุ้มคลั่ง
“ถ้าฉันจะเอา เธอจะทำอะไรฉันได้” และตอนนี้เขาก็อยากได้เธอมาก หลังจากได้ลิ้มลองรสสาวครั้งหนึ่งก็มิอาจระงับความอยากได้อยากครอบครองได้อีกต่อไป เขามันเป็นไอ้เ*******ูที่หลงใหลเด็กในปกครองของตน
“ฉันขอละค่ะคุณเทวา ได้โปรด...” เสียงเล็กขอร้องอย่างอับจนหนทาง มิสามารถปฏิเสธความจริงได้ว่าเธอทำอะไรเขาไม่ได้เลย