จิรัชยาถูกพาตัวมายังห้องพักฟื้นหลังจากตรวจร่างกายและทำการรักษาเบื้องต้นเสร็จแล้ว ตอนนี้เธอรู้สึกตัวแล้วแต่ยังคงนอนนิ่งเงียบอยู่ จะว่าไปเธอก็รู้สึกตัวก่อนหน้านี้ตั้งแต่อยู่ในห้องตรวจแล้ว อาการปวดระบมของเธอลดน้อยลงอาจเป็นเป็นเพราะยาแก้ปวดที่ผสมมากับสายน้ำเกลือเริ่มออกฤทธิ์
หมอแจ้งกับเธอว่าอวัยวะเพศของเธอฉีกขาดจากการมีเพศสัมพันธ์ โชคดีที่ยังไม่ถึงกับต้องเย็บแผล แล้วยังสอบถามว่าเธอได้ถูกล่วงละเมิดทางเพศหรือเปล่าเพื่อที่ว่าหมอจะได้ช่วยจัดการเก็บหลักฐานต่าง ๆ ไว้ นึกแล้วจิรัชยาได้แต่อับอายสมเพชตัวเองนัก เธอจะบอกความจริงกับหมอได้อย่างไรว่าเธอถูกข่มขืน เพราะผู้ชายคนนั้นเป็นผู้มีพระคุณของเธอ แม้จะไม่ใช่ผู้มีพระคุณโดยตรง แต่หลังจากคุณท่านเสียเขาก็ส่งเสียเลี้ยงดูเธอมาโดยตลอด เมื่อเธอปฏิเสธไปหมอจึงทำเพียงแนะนำว่าคราวหน้าถ้าหากมีเพศสัมพันธ์อย่ารุนแรงจนเกินไปนัก เธออับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
“ป้าพร้อมกลับไปก่อนเถอะครับ” จู่ ๆ เทวาก็เอ่ยบอกแม่บ้าน
พร้อมมองหน้าเจ้านายหนุ่มสลับกับคนป่วยที่อยู่บนเตียง นางได้ยินทุกอย่างที่แพทย์รายงานทำให้นางรู้สึกเป็นห่วงและเวทนาหญิงสาวจับใจ ดังนั้นนางจึงไม่วางใจที่จะปล่อยหญิงสาวไว้กับตัวต้นเหตุ ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าทำไมเจ้านายหนุ่มถึงต้องทำกับจิรัชยาเช่นนี้
“แต่ว่าคุณจี๊ดเธอ...” แม่บ้านใหญ่อึกอักจะทำตามที่เจ้านายหนุ่มสั่งก็พะวงถึงคนป่วยที่นอนอยู่บนเตียง
“กลับไปเถอะครับป้า ผมรู้ว่าต้องทำยังไง” เทวาเห็นท่าที่ของแม้บ้านก็รู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ เขาจึงต้องย้ำอีกครั้ง
พร้อมรู้ว่าเจ้านายของตนเป็นอย่างไรจึงไม่ได้ต่อความยาวสาวความยืด คิดในแง่ดีว่าอย่างน้อยที่นี่ก็เป็นโรงพยาบาล คงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น นางจึงค่อยตัดสินใจเดินออกจากห้องไป
คล้อยหลังแม่บ้านสูงวัยเทวาจึงเอ่ยกับหญิงสาว “รู้สึกตัวแล้วก็ลืมตาขึ้นมาไม่ต้องแกล้งหลับ”
จิรัชยาได้ยินแต่กลับทำเมินเฉยเสีย
“ลืมตาขึ้นมาแล้วมองหน้าผัวเธอให้ดี” ความจริงแล้วอยากจะพูดจากับเธอให้ดี แต่ด้วยท่าทางรังเกียจเดียดฉันท์ที่เธอแสดง ทิฐิห่าเหวกลัวเสียหน้าของเขา หรืออะไรก็แล้วแต่ทำให้เขาได้แสดงออกต่อเธออย่างแข็งกระด้าง
“คุณไม่ใช่ผัวฉัน” ความหยายคายของเขาทำให้เธอแหวกลับแล้วหันหลังหนีไม่อยากแม้แต่จะมองหน้า
“ถ้าฉันไม่ใช่ผัวเธอแล้วไอ้ที่ถูกเอาจนฉีกนั่นเรียกว่าอะไร ดี จะได้ไม่ต้องไปแรดร่านเที่ยวให้คนอื่นเอาอีก”
จิรัชยาได้แต่กำมือแน่น เจ็บจุกกับคำพูดแสบร้อนของเขา
“คุณกลับไปเถอะค่ะ”
“ทำไมผัวอยู่ด้วยแล้วมันจะตายใช่มั้ย”
“ใช่ ฉันเกลียดคุณ ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ ให้ฉันตายเสียยังจะดีกว่า”
หญิงสาวสุดจะทนตะโกนใส่หน้าชายหนุ่ม แล้วหันหน้าหนีนอนหลับตาลง ตอนนี้เธอเหนื่อยเหลือเกิน ไม่อยากจะรับรู้อะไรทั้งนั้น ยังดีที่เทวาไม่ได้เอ่ยวาจาประทุษร้ายหัวใจกันอีก เธอจึงได้แต่นอนให้น้ำตาไหลออกมาเงียบ ๆ จนกระทั่งหลับไป
เมื่อเห็นว่าคนป่วยนอนหลับสนิทแล้วแววตาแข็งกร้าวของชายหนุ่มก็อ่อนลง ไม่ปิดบังความอนาทรห่วงหาในนั้นอีกเลย และที่สำคัญถ้าสังเกตให้ดีแววตายามที่เขาใช้ทอดมองร่างเล็กบนเตียงนั้นยังเจือแววหวานอีกด้วย
จิรัชยารู้สึกว่ากำลังมีใครทำอะไรกับร่างกายตัวเอง พอเธอเปิดเปลือกตาขึ้นก็ต้องกรีดร้องออกมา คนใจร้ายถอดกางเกและแยกขาของเธอให้เปิดออกกว้าง
“คุณทำอะไร ปล่อยนะ” เธอพยายามหุบขาที่ถูกเขาแยกออกแต่มือแกร่งยึดไว้แน่นทำให้เธอไม่สามารถทำได้ดั่งใจ
“ก็แค่ดูความเสียหาย” เขาพูดออกมาหน้าตาเฉย
“แต่คุณไม่ใช่หมอ” พูดไปก็ต้องเบือนหน้าหนี
“ฉันเป็นผัวเธอและฉันก็มีสิทธิ์ที่จะตรวจตราของ ๆ ฉัน”
เทวาพิจารณาสิ่งที่เปิดเผยอยู่เบื้องหน้า มันบวมเป่งและแดงจนน่ากลัว อีกทั้งยังมีร่องรอยของการฉีกขาดอย่างชัดเจน เมื่อสำรวจจนพอใจแล้วเขาถึงสวมกางเกงกลับให้เธอตามเดิม
ระยำ! แค่ได้เห็นไอ้นั่นของเขามันก็ร่ำร้องอยากเข้าไปซุกซบในร่างเธอจนตัวสั่น รสชาติของเธอติดอยู่ที่ปลายลิ้นและสัมผัสยังตราตรึงในทุกอณูของผิวเนื้อ เขาหุนหันเดินออกไปจากห้องพักฟื้นทันที ขืนอยู่นานกว่านี้เกรงว่าจะต้องจับเธอกดคาเตียงคนป่วยแน่ ๆ
พอชายหนุ่มออกไปแล้วจิรัชยาก็ได้แต่ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอีกรอบ เธอไม่เข้าใจว่าเหตุใดเขาถึงต้องโกรธเธอถึงขนาดที่มาทำร้ายกันขนาดนี้