ตอนที่ 5.ผู้หญิงปริศนา

1538 Words
“ดีแล้ว หน้าตาหมองๆ แบบนี้ หากเป็นไอ้จ้อน ไอ้แก้ว พี่จะคิดว่ามันมีปัญหาเรื่องผู้หญิง แต่นี่เป็นขุนไง เลยไม่อยากเข้าใจผิดไปเอง” “บ้าเหรอพี่ ผมจะไปมีปัญหาเรื่องแบบนั้นได้ไงล่ะ” ขุนเขาปฏิเสธพัลวัน “ความจริงอายุขนาดขุน สมควรมีปัญหาเรื่องนั้นได้แล้วนะ” ขุนเขาย่นปลายจมูก สัพยอกพี่ชายเสียงขลุกขลัก “ผมไม่อยากมีผู้คุมเหมือนพี่ภูหรอก จะไปไหนแต่ละทีต้องรอให้เมียอนุญาตก่อน” “ไอ้น้องคนนี้นี่...ทั้งหมดนั่นเพราะเขาห่วง เลยไม่อยากให้เถลไถลไปไกลตา” “ครับ ผมเข้าใจ แต่แหม...คนเคยอิสระมาทั้งชีวิต จู่ๆ ถูกยัดใส่กรงมันคงอึดอัดน่าดู” “มันก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกวะ” ภูผาแก้ตัว ตั้งแต่กานดามีลูกสาวให้กับเขาคนแรก ความเป็นห่วงที่มีต่อเขาเพิ่มขึ้นเท่าตัว ถึงจะอึดอัดไปบ้างแต่ภูผาพยายามเข้าใจ งานสวน งานไร่ที่เต็มไปด้วยคนงานวัยกลัดมัน ห่างไกลความเจริญ และเต็มไปด้วยเรื่องราวกระทบกระทั่ง คล้ายๆ บ้านป่าเมืองเถื่อนที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ภูผากับขุนเขารับช่วงต่ออาชีพเกษตกรมาจากบิดา มารดา หนุ่มกรุงที่ไม่คุ้นกับวิถีคนบ้านไร่ ต้องปรับตัวทำความคุ้นเคยไม่น้อย จากไร่เล็กๆ ขยายออกไปเรื่อยๆ งานก็เยอะขึ้น เรื่องวุ่นๆ ก็เยอะขึ้นเป็นเงา “ไม่เอาล่ะ ผมยังไม่พร้อมที่จะต้องอุ้มลูกเวลานี้” “อย่าทำเป็นปากดีไปขุน คนแบบนี้พี่เห็นมานักแล้ว ระวังเถอะชอบนักเรื่องอย่าว่า พลาดขึ้นมาจะหัวเราะไม่ออก” ขุนเขาสะอึก เหมือนคนมีชนักปักหลัง เขาเม้มปากไม่ตอบโต้ หยิบหมวกสานมาครอบศีรษะ และตะโกนบอกภูผาเสียงห้วน “ผมไปดูคนงานเก็บสตรอว์เบอร์รีดีกว่า” ภูผายกนิ้วชี้ถูข้างจมูก มองแผ่นหลังเหยียดตรงของน้องชายด้วยแววตาครุ่นคิด มันมีบางอย่างสะกิดใจเขา แม้จะรู้ดีว่าขุนเขาไม่ใช่คนเหลวไหล น้องชายรู้จักระวังตัวเองอย่างดี หลายปีมานี่ไม่เคยเกิดเรื่องวุ่นวาย ถึงแม้ขุนเขาจะเป็นหนุ่มเสเพลเต็มตัว ตอนที่ 6. ของขวัญจากมือพระเจ้า คริษฐายืนหน้าซีด พยายามเกาะกำแพงอิฐเป็นหลัก จู่ๆ ความรู้สึกวูบวาบก็เกิดขึ้น เหงื่อเธอแตกซิกๆ ตาพร่าและรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนใต้ฝ่าเท้าจนร่างกายโอนไปเอนมา “ริด ไหวไหม...” ณาราถามเสียงหลง สีหน้าเผือดแทบไม่มีเลือดของคริษฐาพลอยทำให้เธอรู้สึกตกใจไปด้วย “พยุงเราไปนั่งทีนา” คริษฐาตัดสินใจขอความช่วยเหลือ ก่อนที่ตนเองจะวูบไปเสียก่อน ณาราพยุงคริษฐาไปนั่งที่เก้าอี้เหล็กตัวหนึ่งริมถนนหน้าหอพักนั่นเอง เธอควานหาถ้ำยาดมมาจ่อที่ปลายจมูก กลิ่นสมุนไพรอาจจะช่วยทำให้คริษฐารู้สึกดีขึ้น “นาบอกแล้วเห็นไหม โหมงานมากๆ ร่างกายจะไม่ไหวเอา” “นา...” คริษฐากระซิบเสียงสั่น คว้ามือณารามากุมไว้ “หืม...มีอะไรเหรอริด เกิดอะไรขึ้น มีเรื่องไม่สบายใจหรือไง?” คริษฐาเป็นคนปากแข็ง หากไม่ลำบากจริงๆ ไม่มีทางขอความช่วยเหลือจากใคร “ริดไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดีน่ะนา” “เอาตรงๆ เลยริด ต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอแน่ สัญชาติญาณนาบอก” ณาราเดาถูก หลังจากจับสังเกตคริษฐามาเกือบอาทิตย์ ท่าทางว้าวุ่นเหม่อลอยบ่อยๆ เหมือนมีเรื่องกังวลในใจ “อย่าบอกนะว่าตาแก่นั่นก่อเรื่องให้เธอเดือดร้อน” คริษฐาถอนใจ “ไม่เกี่ยวกับลุงแดนหรอก...แต่...” ถึงจะไม่แน่ใจเต็มร้อยนัก แต่บางอย่างในใจย้ำเตือน นับตั้งแต่เป็นสาวคริษฐาไม่เคยมีปัญหาเรื่องประจำเดือน สุขภาพเธอแข็งแรงดี ประจำเดือนคลาดเคลื่อนบางครั้ง แต่ไม่เคยหายไปนานเกินสามอาทิตย์ แต่นี่ เธออดทนรอประจำเดือนตัวเองมาครบหนึ่งเดือนเต็ม สิ่งที่ควรมาก็ยังไม่มีวี่แววสักที “ถ้าริดท้อง...ริดควรทำยังไงดี” คริษฐากลั้นใจถาม “บ้าน่า เธอไม่เคยมีแฟนนะริด หากเธอไม่ไปยุ่งกับผู้ชายก็ไม่มีทางท้องหรอก หรือว่า...” ณารากะพริบเปลือกตาปริบๆ มองท่าทางสลดลงของคริษฐาอย่างคาดไม่ถึง “เธอไปพลาดท่าให้ผู้ชายคนไหนมา คงไม่ใช่...” “ไม่ใช่ลุงแดนหรอกนา เขาเป็นใคร ริดก็ไม่รู้” ณารายกมือเกาหลังศีรษะ “หมายความว่าไงริด นาไม่เห็นจะเข้าใจ” คนที่มุ่งมั่นกับการเรียนตั้งแต่ตอนที่มารดายังมีชีวิตอยู่ หรือหลังจากที่ท่านสิ้นลมไปแล้ว ไม่เคยเหลวไหลสักครั้ง ไม่มีทางทำเรื่องที่เสี่ยงให้เกิดความผิดพลาดหรอก คริษฐามีเป้าหมายที่ต้องไปให้ถึงนี่ “เรื่องมันเกิดขึ้นตอนไหนล่ะ” เวลาสิบนาทีที่นั่งฟังเรื่องราวที่อัดอั้นอยู่ในใจของเพื่อนสนิท ณาราอึ้งและกรุ่นโกรธไปด้วย ความซวยมาเยือนคริษฐาเพราะผู้ชายคนนั้น โชคร้ายที่อุบัติเหตุนั้นทิ้งบางอย่างไว้ให้คริษฐาด้วย “นาอยากไปฆ่าไอ้แก่นั่นให้ตายคามือนัก คนอะไรไม่รู้ ระยำไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ” ต้นเหตุเพราะแดนไทยหวังหลอกล่อลูกเลี้ยง ถึงคริษฐาจะพ้นเคราะห์จากผู้ชายแก่คราวพ่อคนนั้น แต่กลับเหมือนหนีเสือปะจระเข้ แถมไม่รู้อีกว่าจระเข้ที่วางไข่นั้นเป็นใครมาจากไหนเสียอีก “ริดทำอะไรไม่ถูกเลยนา” คริษฐาตอบเสียงแฝงความเศร้า ความคืดเธอตีบตันและรู้สึกมืดมน “ตรวจหรือยัง มันอาจจะแค่เลื่อนก็ได้นะ นาเคยประจำเดือนไม่มาสองเดือนติดๆ กันเลยนะ” ณาราพยายามปลอบใจ เธอไม่เคยกังวลเรื่องพรรค์นั้นเพราะไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเพศตรงข้าม แต่ในกรณีคริษฐามันไม่ใช่ไง “ไม่ ยังเลย” “รอนาอยู่ตรงนี้นะ หรือจะขึ้นไปรอที่ห้องดีล่ะ เดินไหวไหม” “ไหวแล้ว ริดขึ้นไปรอที่ห้องดีกว่า...” วันนี้เธอคงไม่มีแก่ใจเรียน เมื่อมีปัญหาหนักสุมอก ณาราเดินกึ่งวิ่งตรงไปยังร้านขายยา หลังจากเลือกที่ตรวจครรภ์ยี่ห้องที่เภสัชกรณ์แนะนำก็รีบตรงดิ่งกลับห้องพักทันที ตอนที่ 7. หนทางตีบตัน คริษฐาอึ้งจุกในอก พูดอะไรไม่ออก หลังผลตรวจHCG(ตรวจการตั้งครรภ์)เป็นบวก หน้าเธอซีดเข่าอ่อนลงดื้อๆ “จะทำยังไงดีนา?” เสียงแห้งโหยดังขึ้น ณารายิ้มแหยๆ เธอเองก็คิดอะไรไม่ออก ทั้งสองคนยังเป็นแค่วัยรุ่นที่ยังอยู่ในวัยเรียน แม้จะมีอายุเกินยี่สิบปีมาแล้ว แต่ก็ยังถือว่าเป็นเด็กอยู่ดี คริษฐายกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลปรี่ออกมาไม่ขาดสาย เธอเม้มปาก ชั่งใจอยู่พักใหญ่ ก่อนจะพูดเสียงกระท่อนกระแท่น “เราไม่เอาเด็กออกนะนา เขาไม่มีความผิด เราจะพยายามเลี้ยงเขาให้ดีที่สุดในฐานะแม่” พอพูดจบประโยค ความรู้สึกหนักอึ้งในใจผ่อนคลายลงอย่างน่าประหลาด ความกลัวอนาคตลดลงเกินครึ่ง แม่ของเธอลำบากเลือดตาแทบกรระเด็นยังกัดฟันเลี้ยงเธอมาจนเติบใหญ่ได้ แม่ที่ไม่มีความรู้ด้วยซ้ำ เธอเชื่อว่าสองมือของเธอโอบอุ้มเด็กคนนี้ไว้ได้อย่างแน่นอน “ตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม?” ณารากลั้นใจถาม คริษฐาพยักหน้าตอบ เธอไม่มีคำอธิบายเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นเลย เธอไม่รู้แม้แต่ชื่อของเขา ที่จำได้ก็แค่เค้าโครงหน้า ที่เห็นเพียงแค่...ครั้งเดียว “สิ่งแรกที่ควรทำตอนนี้ คือเรียนให้จบ” นั่นเป็นความโชคดีอีกอย่างของคริษฐา เธอเหลือแค่การเรียนในเทอมสุดท้ายก็จบแล้ว การสอบครั้งหน้าคือผลสอบตัดสินชะตาชีวิตของเธอ หลังจากนั้น เธอคงต้องทุ่มเทกำลังทั้งหมด เพื่อ ‘ลูก’ หนทางข้างหน้า คงไม่มืดมนสำหรับเธอกับลูกนักหรอก “ไม่ต้องคิดมานะริด เธอยังมีเรา” ณาราพูดปลอบใจ “อืม...” เพื่อนคือสิ่งยึดเหนี่ยวเดียวที่คริษฐามีตอนนี้ นับตั้งแต่รู้จุดหมายของชีวิต คริษฐาคิดทบทวนหลายตลบ เธอตั้งใจอ่านหนังสือเพื่อผลการเรียนเทอมสุดท้าย หลังจากนั้นคงได้ตั้งต้นใหม่ในฐานะแม่เต็มตัว เธอมั่นใจว่าตัวเองผ่านช่วงเวลาวิกฤติไปได้แน่ๆ เธอมีสองมือ มีสองขา หากไม่ตายก่อน เชื่ออย่างแน่นอนว่าตัวเองเอาตัวรอดได้ ช่วงเวลาเคร่งเครียด แดนไทยหายหัวไปเลย เขาไม่โผล่หน้ามากวนใจเธออีกเลย เธอเลยมีเวลาวางแผนคร่าวๆ ให้กับตัวเองในอีกหลายเดือนข้างหน้า ระหว่างนั้นก็ตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงานเก็บออมเงินไว้เป็นทุนสำรองใช้ในช่วงที่เธอไม่สามารถทำงานได้ ณาราเองก็คอยเป็นกำลังใจอย่างดี เธอเลยรู้สึกดีขึ้นเรื่อยๆ “ริด นามีข่าวดีมาบอก” ณารายิ้มแป้นมาแต่ไกล
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD