รัชวินได้แต่อึ้งๆ หันไปมองมาริษาตามคำพูดที่ชนัญธิดาพูด ผู้หญิงตรงหน้าเขานี้ สวย หวาน น่ารัก อย่างกับตุ๊กตาญี่ปุ่น
“ผมขอคุยกับษา ไม่ใช่คุยกับคุณนะชนัญธิดา” ชิรวุธขึ้นเสียงอย่างไม่พอใจ ผู้หญิงปากร้าย แบบนี้ใครจะเอาทำเมีย นิสัยแย่ๆ แส่ ไปทุกเรื่อง
“เอางั้นก็ได้ แต่คุณเน็ตคุยว่าที่สามีของยายษาไปล่ะกัน ฉันเบื่อที่จะพูดกับคนโง่ ฟังภาษาไทยไม่ออก”
“ชนัญธิดา” คำพูดแต่ละคำ สุดแสนจะแทงใจดำของชิรวุธอย่างรุนแรง นึกเจ็บใจในความโง่ของตัวเอง ที่ตัดสินใจบอกเลิกมาริษาเมื่อสองปีก่อน
“งั้นรอแป๊บนะคุณชิรวุธ” หันไปยิ้มให้รัชวิน
“คุณโตค่ะ พอดีมีคนอยากคุยกับษาเขานะคะ ษรบอกเขาแล้วว่าษากับคุณโตกำลังจะไปซื้อของมาทำอาหารกินกันตอนเย็น เขาก็ไม่เชื่อ อยากคุยกับษาให้ได้นะคะ คุณโตบอกเขาหน่อยสิคะ ว่าคุณโตเป็นอะไรกับยายษา”
ชนัญธิดาพูดขึ้นเสียยืดยาว เล่นเอาคนในโต๊ะถึงกับอึ้ง แปลกใจ เครียด ประหลาดใจและขบขัน ในความร้ายกาจของเธอไม่น้อย ไม่ต้องคิดถึงคู่สนทนาที่ตอนนี้ยืนกำหมัดแน่นด้วยความโกรธแค้น และชิงชัง ในความเจ้ากี้เจ้าการของเธอ
“ษร แกทำบ้าอะไรของแก”
มาริษาถามเสียงชนัญธิดา เสียงเบาที่สุดเท่าที่เธอเคยทำ เพราะไม่ได้อยากอดีตคนรักได้ยิน ยิ่งเห็นสีหน้าของสองหนุ่มด้วยแล้ว ก็ยิ่งกลัว
“ชู่ๆ” ชนัญธิดา ไม่ตอบเพื่อน ยกมือขึ้นมาปิดปาก บอกให้หยุด ก่อนจะส่งโทรศัพท์ให้รัชวิน พร้อมส่งสายตาขอร้อง
“ช่วยเพื่อนษรหน่อยนะคะ” หญิงสาวพร้อมกับเบี่ยงตัวเข้าไปกระซิบข้างหูรัชวิน
“ครับ” รัชวินได้แต่ยิ้มอย่างยินดี โชคเข้าข้างแบบนี้ ใครจะไม่รับแบบนี้ช่วยเต็มที่สุดความสามารถเลยล่ะ“สวัสดีครับ” ขายหนุ่มทักทายปลายสายออกไป
ชิรวุธถึงกับเงียบ เมื่อได้ยินเสียงผู้ชายรับโทรศัพท์ของอดีตคนรักแบบนี้ เพราะไม่เคยไม่ใครกล้าแตะต้องโทรศัพท์ของมาริษาแบบนี้ ขนาดตอนเขาคบกับเธอ เขายังไม่กล้าแตะโทรศัพท์ของอดีตคนรักเลยสักครั้ง
“ผมขอคุยกับษาเขาหน่อย”
“คุณเป็นอะไรกับษาหรือครับ”
รัชวินเริ่มต้นถามทันทีเหมือนกัน จากน้ำเสียงบอกได้เลยว่า ผู้ชายคนนี้คงเคยเป็นอดีตคนรักของมาริษาอย่างแน่นอน จากคำพูดของชนัญธิดา เขาก็พอสรุปได้แล้วว่า เรื่องราวมันเป็นอย่างอย่างไร
“แล้วคุณล่ะเป็นอะไรกับแฟนผม” ชิรวุธเรียกมาริษาว่าแฟนอย่างเต็มปากเต็มคำ
“แต่ที่ผมรู้มาคุณกับษากลายเป็นอดีตกันไปแล้วนิครับ อีกอย่างตอนนี้ผมกับษากำลังจะแต่งงานกัน พวกผมกำลังจะไปซื้อของมาทำอะไรทานกัน คุณมีอะไรจะคุยอีกไหม ถ้าไม่อะไรแล้ว ผมขอตัวพาว่าที่ภรรยาผมไปซื้อของก่อนนะครับ”
“แก!”
“สวัสดีครับ” รัชวินตัดสาย แล้วส่งโทรศัพท์ เครื่องจิ๋วคืนมาริษา ก่อนจะเห็นใบหน้าหวานที่ซีดกลับมาแดงระรื่นด้วยความเขินอาย แค่เห็นใบหน้าหวานแสดงออกมาแบบนี้ หัวใจของเขาก็เต้นระรัวออกมาเลยทีเดียว อย่างน้อยถึงเขาไม่รู้ว่ามาริษาคิดกับเขายังไง แต่ที่แน่ๆ เขารู้แล้วว่าชนัญธิดากับมาริษาเป็นเพื่อนกันจริงๆ
“ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยษา” เธอรับโทรศัพท์มาถือ ก่อนจะเอ่ยขอบคุณเจ้านายหนุ่มที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเธอ
“ผมเต็มใจช่วยนะ” รัชวินตอบกลับด้วยน้ำเสียงอบอุ่น และอ่อนหวาน ก่อนจะหันไปสบตากับตัวคิดแผนการอย่างสงสัย แต่ก็นึกขอบคุณที่ทำให้เขาได้รู้อะไรมากขึ้น ส่วนตระการนั่น เขาได้แต่นั่งฟังเฉยๆ นั่งพิจารณาชนัญธิดาอยู่เงียบๆ เพราะเขาไม่ได้สนใจสาวน้อยหน้าหวานอย่างมาริษา คนนั้นขอยกให้เพื่อนเขาไปเลยล่ะกัน ดูอาการเพื่อนเขาสิดีใจซะขนาดนั้น เมื่อรู้ว่าสาวน้อยหน้าคม ตาโตกับแม่สาวน้อยหน้าหวานนั่นไม่ได้เป็นอะไรกัน แถมยังได้โปรโมชั่นพิเศษสุดจากชนัญธิดาเสียอีก
ชายหนุ่มหันมาพิจารณาชนัญธิดาอย่างจริงจัง สาวน้อยผู้นี้มีใบหน้าสวย ตาคมกลมโต ปากเรียว จมูกเล็กสวยได้รูป แบบว่าปากนิดจมูกหน่อย ทุกอย่างที่ประกอบอยู่บนใบหน้านั่น บอกได้เลยทีเดียวว่าผู้หญิงคนนี้สวยมากทีเดียว แต่ที่น่าสนใจความกว่านั้นคือ ความเด็ดเดียว เก่งกาจ ฉลาด ทันคน แถมยัง เจ้าเล่ห์อย่างร้ายกาจ รอยยิ้มหวานที่พูดคุยกับเพื่อนเขาอีก รอยยิ้มก็สวย ฟันเรียงกันอย่างเป็นระเบียบสวยงาม เวลายิ้มจะเห็นลักยิ้มบุ๋มลงทั้งสองข้าง
“ขอบคุณที่ช่วยเพื่อนษรนะคะคุณโต” ชนัญธิดาขอบคุณก่อนจะส่งยิ้มสวยให้รัชวิน ส่วนเพื่อนเธอนั้นไม่ต้องสงสัย นั่งหน้าแดงระรื่น พูดไม่ออกอยู่ตรงข้ามเธอ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมยินดีช่วย”
“แกจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอษา คุณโตอุตส่าห์ช่วยเหลือแก ขนาดนี้ เอาเป็นว่า เรื่องยัยอันชิกาอะไรนั่น ฉันจะไม่สนใจ เอาเรื่องแล้ว ถือว่าเมื่อกี้ที่คุณโตเขาช่วยแก เป็นอันจบเรื่องยัยอันชิกา แต่ถ้ามีเรื่องขึ้นมาอีก ฉันจะไม่ปล่อยยายนั่นเอาไว้แน่นอน”
ชนัญธิดาขู่เอาไว้ จนรัชวินแปลกใจ ดูแล้วทั้งมาริษาและชนัญธิดาจะรักใคร่ปรองดองกันมากๆ ก่อนหันมาพูดกับรัชวิน เพราะเธอไม่ต้องการจะเสวนากับท่านประธานใหญ่ของเธอ ผู้ชายที่เธอไม่อยากเจอที่สุดก็นายตระการ วีรกิจนี่แหละและดูเหมือนตระการจะเข้าใจความหมายและการแสดงปฏิกริยานั้นของชนัญธิดา ชายหนุ่มได้แต่นึกแปลกใจ ว่าทำไมหญิงสาวถึงได้ดูไม่ค่อยจะชอบเขาเท่าไหร่นัก แค่อาการเมินเฉย ไม่สนใจที่จะคุยกับเขา ก็ดูออกแล้วว่า หญิงสาวพยายามที่จะเลี่ยงการสนทนากับเขา
“เอาอย่างนี้ดีกว่า ถือเป็นการขอบคุณคุณโตที่ช่วยเพื่อนษร วันนี้ษรกับยัยษาจะทำอะไรทานกัน ถ้าคุณโตและเอ่อ...ท่านประธานไม่รังเกียจ จะให้เกียรติไปทานอาหารกับพวกเราไหมค่ะ”
“จริงๆ เรียกผมว่าต้นก็ได้นะ อีกอย่าง เราไม่ได้อยู่ในบริษัทเสียหน่อย ทำไมต้องเรียกชะเป็นทางการขนาดนั้น” ตระการพูดขึ้นอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่... ‘ทีเรียกเพื่อนเขา คุณโต คุณโต แต่ที่กับเขาเรียกท่านประธาน มันน่านัก...’
“ฉัน เรียกชื่อท่าน...เอ่อ คุณต้นได้แน่หรือคะ”
“ได้สิ...ทำไมจะเรียกไม่ได้” น้ำเสียงเข้มถามขึ้นอย่างไม่พอใจ ยิ่งเห็นสายของเพื่อนก็ยิ่งอารมณ์เสีย สงสัยเพื่อนเขาจะรู้ว่าเขาคิดจะทำอะไรชนัญธิดาอย่างแน่นอน ไม่งั้นคงไม่ส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาแบบนี้หรอก รู้แล้วไง มันสิทธิ์ของเขาที่จะทำอะไร หรือไม่ทำอะไร
/////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...