“เอ่อ...”
สุทัศน์ถึงกับพูดไม่ออก เมื่อถูกไล่แบบนี้ ดูไปเจ้านายเขาก็อดทนไม่ใช่น้อย มาเจอผู้หญิงบ้าดีเดือด ไม่มีความอ่อนหวาน น่ารักอย่างที่เห็นเลย อย่างที่เขาว่าจริงๆ คนเราดูจากภายนอกไม่ได้เลย ดูอย่างสองสาวนี้สิ พูดตรงๆ เลย ว่า สวยหวาน น่ารัก หน้าตาออกจะเรียบร้อย แต่ความจริงกลับตรงกันข้ามกันไปหมด
“ผมยังไม่ได้ทานข้าวเลยนะ ขอทานข้าวด้วยคนสิ นะครับคุณษา” ตระการทำเสียงเศร้าพูดกับมาริษา แล้วหันไปยักคิ้วให้กับชนัญธิดา
ชนัญธิดาถึงกับหน้าเสีย เพราะไม่คิดว่าตระการจะใช้ไม้นี้กับเธอ ชวนเธอไปทานข้าวนอกบ้านเธอไม่ยอม ชายหนุ่มถึงกับใช้มุกนี้กับเธอเลยเหรอ สองบอดี้การ์ดหนุ่มก็ใช้ย่อยหันไปมองเจ้านายหนุ่มด้วยความตกใจ ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่นายหนุ่มจะทำตัวแบบนี้ พูดแบบนี้กับสาวๆ
“สงสัยนายเอาจริงวะพี่วี” สุทัศน์หันไปกระซิบบอกนาวี
“อืมม์...” นาวีตอบได้แค่นั้น เห็นทีนายเขาคงจะติดใจ สาวสวยบ้านนี้แล้วแน่นอน อาการหยอกล้อสองสาว ออดอ้อนสองสาวบ้านนี้ เห็นทีคงเกิดยุ่งแน่ๆ นายหนุ่มจะเลือกคนไหนระหว่างชนัญธิดากับมาริษา
“อ้าวนี่คุณตระการยังไม่ได้ทานอะไรมาเลยหรือค่ะ แล้วคุณพาเพื่อนษาไปไหนมา ถ้าไม่ได้ไปทานข้าว”
“ก็ษรเขาไม่ยอมลงไปทานข้าวกับผมนิครับ ผมนั่งหิวอยู่บนรถตั้งแต่เย็นแล้ว ผมชวนษรไปทานข้าว ษรเขาก็ไม่ไป”
“อ้าวษร”
“พอแล้วษา แกไม่ต้องมาถามฉันอีก ช่างเถอะษรผิดเองแหละ คราวหลังจะไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ” ชนัญธิดาบอกอย่างปลงๆ “จะกินข้าวใช่ไหม งั้นเข้าบ้าน เดี๋ยวฉันทำให้คุณกินก็แล้วกัน”
“ขอบคุณครับ...ษรนี่น่ารักจังเลย” ตระการเอ่ยขอบคุณ ก่อนเดินตามชนัญธิดาเข้าบ้านไป ท่าทางของตระการเล่นเอานาวีและสุทัศน์ถึงกับอึ้ง อ้าปากค้างไปเลยเหมือนกัน ส่วนมาริษานั้น พอรู้ว่าท่านประธานใหญ่ของสองหนุ่มกำลังตามจีบเพื่อนเธออย่างแน่นอน
มาริษาเห็นอาการของตระการตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ตอนที่เพื่อนเธอและชายหนุ่มเดินไปซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ตอย่างกับคู่รักแถมยังข่าวในหนังสือพิมพ์เมื่อเช้าอีก หญิงสาวหยิบมันมาอ่านแล้วก็ต้องหัวเราะก๊ากออกมาด้วยความขบขันกับข้อความในหนังสือพิมพ์พร้อมกับรูปภาพที่แปะลงไป ดูจากภาพและข้อความที่นักข่าวเขียนลงไปบอกได้คำเดียวว่าอึ้ง ทึ้ง เสียวไปเลย
“เชิญคุณสองคนด้านในดีกว่า ปล่อยให้คุณต้นอยู่กับยัยษรนานๆ เดี๋ยวก็เกิดเรื่องอีกหรอก”
“ครับ/ครับ”
สองหนุ่มเดินตามเจ้าของบ้านไปอย่างเงียบๆ นึกสงสัยท่าทางประหลาดของเจ้านาย เห็นที พวกเขาต้องเช็คประวัติของสองสาวบ้านนี้เสียแล้วดูจากท่าทางพวกเธอไม่ได้สนใจ หรือพิศวาสอะไรเจ้านายของพวกเขาเลย จะว่าไปก็เพิ่งมีสองสาวนี่แหละ ตอนแรกคิดว่ามีแต่ชนัญธิดาเสียอีกที่ไม่ชอบนายของพวกเขาแต่นี่กลับมีสาวน้อยหน้าหวานเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน
///////////
ชนัญธิดาสาละวนอยู่กับอาหารบนเตา ไม่ได้สังเกตว่าตอนนี้เธอไม่ได้อยู่คนลำพังคนเดียวในห้องครัวของเธอและมาริษาอีกแล้ว
ร่างสูงก้าวเดินมาหยุดตรงหน้าประตู กอดอกพิงประตู สายตาจ้องมองร่างบางที่กำลังยุ่งอยู่กับอาหารบนเตา ภาพสาวน้อยกำลังปรุงอาหาร แล่นผ่านสมองเข้าไปสู่หัวใจอย่างปลื้ม ใครไม่มาเจอแบบเขาไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงที่ไม่ค่อยจะอ่อนหวาน อ่อนโยน และเรียบร้อย อย่างชนัญธิดาจะทำอะไรแบบนี้ได้
“มีอะไรให้ผมช่วยไหม?” เสียงเข้มดังมาจากด้านหลัง ทำเอาคนกำลังวุ่นถึงกับชะงักหันหลังกลับมามองอย่างไม่สบอารมณ์
“ฉันบอกให้คุณนั่งดูทีวีไป แล้วจะเข้ามาทำไม เกะกะ”
“คุณทำอะไรให้ผมทานนะ” ตระการยังยืนนิ่งก่อนจะตัดสินใจสาวเท้ามาหยุดตรงด้านหลัง ชะโงกหน้าไปมองกับข้าวในกระทะ
“ไม่เห็นหรือไงก็ฉันทำอะไรอยู่”
“เห็นแล้วว่าคุณทำอาหารให้ผมทาน แต่ผมถามว่ามันคืออะไร” เขาถามทั้งที่รู้ว่าชนัญธิดาทำผัดผักรวมให้เขา
“ไม่รู้จักเหรอ ผัดผักรวมไง”
“รู้...แต่อยากถามนะ ไม่เอาน่า ผมหิวจะแย่แล้ว คุณรีบทำดีกว่า มาเดี๋ยวผมช่วย” เขาบอกอย่างหวังดี
“ไม่ต้องเลย คุณกลับไปนั่งดีกว่า เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว” ชนัญธิดาหันมาบอกก่อนจะตักผัดผักรวมใส่จาน “ที่นี่ก็เหลือแต่ไข่เจียวหมูสับอีกอย่างหนึ่ง”
“มาน่า...เดี๋ยวผมช่วย” ทันทีที่ชนัญธิดาตักผัดผักรวมใส่จาน ตระการก็ยื่นมือเข้าไปจับจานมาถือเอาไว้เอง ก่อนส่งถ้วยที่ใส่ไข่ที่จะเจียวให้เธอแทน “คุณทอดไข่เลย เดี๋ยวผมเอาจานผักไปตั้งก่อน รีบนะผมหิวแล้ว” คำพูดของตระการ ทำเอาชนัญธิดาถึงกับยืนบื้อไปเลย หันหลังมามองคนพูดที่ตอนนี้เดินถือจานผัดผักไปด้านนอกแล้ว
“ประสาท” กว่าจะได้ทานข้าวกัน ก็เล่นปาไปเกือบสามทุ่มครึ่ง ชนัญธิดานั่งมองคนเป็นนายทานข้าวอย่างเอร็ดอร่อย เกือบห้าทุ่มตระการถึงจะยอมกลับบ้าน ส่วนลูกน้องของชายหนุ่มก็ใช่ย่อย นั่งเฝ้า นิ่งเงียบ เธอเห็นแล้วก็สงสาร จนต้องเดินเข้าไปในครัวจัดทำอาหารให้อีกสองชุด
/////////
มาริษาเดินเข้ามาในห้องนอนของเพื่อนรักอย่างสงสัย วันนี้มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเพื่อนรักของถึงมากับเพื่อนสนิทของเจ้านายเธอ ยิ่งเห็นสายตาไม่พอใจ
ชายหนุ่มเข้ามาวุ่นวายแบบนี้ เธอก็รู้แล้วว่า ต่อจากนี้ เพื่อนเธอคงจะเจอปัญหาที่แสนสาหัสอย่างแน่นอน เท่าที่รู้มาผู้ชายอย่างนายตระการ วีรกิจถ้าต้องการอะไรก็ต้องเอามาให้ได้ แถมยังขึ้นชื่อถึงความหวงน้องสาวอย่างรุนแรงไม่เคยมีผู้ชายคนไหนสามารถเข้าใกล้น้องสาวได้เลย
มาริษาคิดอย่างกังวลเพื่อนเธอจะรอดพ้นจากตระการได้หรือเปล่า ขนาดเพิ่งเจอกันเมื่อวานเองวันนี้เพื่อนเธอโดนรุกหนักขนาดนี้เลย เธอรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนสนิทอย่างแท้จริง
“ษร”
“มีอะไรเหรอษา”
“ษรจะทำยังไงเรื่องคุณต้น”
“ไม่ทำอะไร ษรก็พยายามหลบไงษา” ชนัญธิดาบอกอย่างเบื่อหน่าย เธอเพิ่งรู้จักกับตระการได้เพียงสองวัน ชายหนุ่มคิดยังไงถึงได้ตามติด บังคับ ขู่เข็ญเธอแบบนี้ เห็นที ต่อไปต้องระวังตัวให้มากกว่านี้
“แล้วษรจะหลบคุณต้นยังไง อย่าลืมนะว่าษรทำงานที่เดียวกับคุณต้นนะ”
“เอาน่า...ษรมีวิธีก็แล้วกัน ษาไม่ต้องเป็นห่วง”
“ขอให้มันแน่เถอะไม่อย่างนั้นษาว่าคุณต้นตามติดษรอย่างกับปาท่องโก๋”
ชนัญธิดาหันมามองมาริษาอย่างหนักใจเธอ ลืมคิดไปเลยว่าปัญหาที่น่ากลัวที่สุดก็คือ ตระการตามติดเธอนี่แหละ แบบนี้เธอจะทำอย่างดี ชีวิตการทำงานจะราบรื่นเหมือนอย่างที่เคยเป็นหรือเปล่า ‘ซวยแล้วไงไอ้ษร’
“อาจจะไม่เป็นอย่างที่ษาคิดก็ได้นะ”
“ษา จะค่อยดู ว่าที่ษา คิดนะมันจริงหรือเปล่า”
“ว่าแต่ษร แล้วเรื่องษา เป็นยังไงบ้าง คุณโต ดูแลษาดีไหม”
“บ้า...”
“ไม่ได้บ้านะ เล่ามาเลย ว่าวันนี้เป็นยังไงบ้าง ไปทานข้าวเที่ยงกับคุณโตหรือเปล่า” ชนัญธิดาถามเพื่อนอย่างล้อเลียน ยิ่งเห็นใบหน้าหวานแดงระเรื่อ เธอก็รู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร...
“ษาไม่คุยอะไรกับษรแล้ว ไปนอนดีกว่า เจอกันพรุ่งนี้นะ” ว่าแล้วเธอก็เดินยิ้มกลับออกมาจากห้องของเพื่อนรัก
ชนัญธิดามองจนเพื่อนสนิทเดินออกจากห้อง แล้วหันมานั่งซึมและเซ็งกับปัญหาที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่ ยกมือทั้งสองข้างขึ้นกุมขมับด้วยความเครียด เธอควรจัดการยังไงกับปัญหานี้ดี ‘เฮ้อ...ถ้ามันน่าเบื่อนักก็ลาออกเสียก็หมดเรื่อง’ รอยยิ้มหวานผุดขึ้นกับความคิดนี้ ล้มตัวลงนอนอย่างสบายใจ ที่คิดหาทางออกได้ รอดูสถานการณ์ไปก่อน ถ้ามันเกิดขอบเขตที่เธอตั้งไว้ ก็ลาออกเสียก็หมดเรื่อง
///////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...