ตอนที่7

2077 Words
ตอนที่7 เพียงนางร้ายปลดระวาง "ข้าจะเปลี่ยนอาหารการกินของข้าเอง สามารถทำได้หรือไม่"หลี่ซูเจินเอ่ยถามสาวใช้ทั้งสองอีกคราด้วยความสงสัย นางแม้จะเป็นภรรยาของแม่ทัพแล้ว แต่นางก็ไม่รู้เช่นกันว่านางนั้นจะมีสิทธิ์มีเสียงอะไรในจวนแห่งนี้บ้าง ทั้งนางและเขาต่างก็ถูกสมรสพระราชทานมัดมือชกให้แต่งงานกันแบบไม่ได้รักกันมาก่อน เขาอาจจะไม่พอใจก็ได้ "ได้เจ้าค่ะ ท่านเป็นฮูหยินของจวนมีอำนาจทุกอย่างรองจากนายท่าน" อาหลีเอ่ยตอบให้เจ้านายสาวได้รู้ถึงอำนาจและความสามารถของฮูหยินแม่ทัพได้รับรู้ทันที "ดี ๆ งั้นหลังจากนี้ก็ทำตามแผนของข้าละกัน"เมื่อรู้ว่านางมีอำนาจไม่น้อยดังนั้นนางจึงร่ายยาวกับสิ่งที่นางต้องการเปลี่ยนแปลงหลังจากนี้ทันทีให้กับสาวใช้ทั้งสองได้รับรู้ถึงแผนการของนาง~ เพราะว่าสามเดือนหลังจากนี้นางจะเป็นคนที่ปังปุริเย่! นางจะเป็นตัวประกอบของนิยายที่สวยและรวยความสุขที่สุดในโลกนิยายนี้อย่างไรล่ะ ........................ หลี่ซูเจินนั่งอยู่บนโต๊ะหนังสือที่ถูกจัดเป็นระเบียบร้อยทันทีที่สองสาวใช้พานางมายังเรือนแห่งนี้ นางจ้องมองทุกอย่างเงีบบ ๆ ด้วยสายตาเป็นประกาย ไม่ไกลจากนางมีอาหลัวและอาหลีคอยฝนหมึกไว้ให้นางสำหรับบรรจงเขียนรายการข้าวของต่าง ๆ ที่นางต้องการจะซื้อ สิ่งที่นางต้องการจะซื้อนั้นเป็นสิ่งของสำหรับการเปลี่ยนแปลงตัวนางทั้งสิ้น นางต้องการจะซื้อสมุนไพรสำหรับผิวหน้าและผิวกายเพราะหลี่ซูเจินนี้มีสิวเยอะมาก ๆ ถึงแม้จะมีผิวที่ขาวดุจไข่มุกแต่กลับมีแผลเป็นด่างดำจากการเกาและถูกแมลงกัดอยู่บ่อย ๆ ดังนั้นนางต้องมั่นขัดผิวบ่อย ๆ และยังต้องหมั่นบำรุงผิวด้วยน้ำมันสกัดเพื่อให้มีสีผิวที่เรียบเสมอกัน ในเรื่องของการลดน้ำหนักนางก็เลือกซื้อผักผลไม้และอาหารการกินที่มีประโยชน์ที่สำคัญสำหรับการไดเอ็ตในครั้งนี้ด้วย รายการข้าวของต่าง ๆ ถูกนางเขียนลงไปอย่างรวดเร็วไม่ถึงหนึ่งจิบชาก็แล้วเสร็จทันที "ฝากพวกเจ้าไปจัดการธุระให้ข้าด้วยนะ" มืออวบอ้วนที่หนาเตอะยื่นกระดาษรายการของที่นางต้องการซื้อให้สาวใช้ของตนเอง นางส่งยิ้มให้กับทั้งสองทันที "เจ้าค่ะฮูหยิน" สาวใช้รับกระดาษรายการของมาด้วยความยินดี ก่อนจะเก็บไว้ในอกเสื้อเพื่อเตรียมไปซื้อในตอนที่ว่าง ๆ "วันนี้ก็พอแค่นี้เถอะนะ...พวกเจ้ามีอะไรที่อยากทำก็ไปทำเถอะ ข้าอยากอยู่เงียบ ๆ คนเดียวสักพักเพื่อทบทวนอะไรนิดหน่อย" หลี่ซูเจินเอ่ยกับสาวใช้ทั้งสองที่อยู่เป็นเพื่อนนางมาหลายชั่วยามแล้ว นางในตอนนี้ไม่ได้มีสิ่งที่ต้องทำมากนัก และนางก็อยากอยู่เงียบ ๆ คนเดียว นางตั้งใจจะเดินสำรวจจวนของสามีเสียหน่อยเดินกินลมชมวิวเงียบ ๆ คนเดียวเพื่อให้สมองโล่ง แม้นางจะบอกว่านางทำใจยอมรับได้เรื่องทะลุมิติมาสิงร่างคนอื่น แต่ในใจลึก ๆ นางก็ยังอดตื่นตะลึงไม่หาย มันช่างเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อไม่น้อย ด้วยความที่นางเป็นดาราแน่นอนพล็อตหนังแนวนี้นางก็เจอมาบ่อย ๆ และก็เป็นเรื่องราวยอดฮิตติดลมที่ขายดีเสมอมาอยู่หลายสิบปีเชียว "เจ้าค่ะ พอถึงเวลาอาหารเย็นเดี๋ยวบ่าวจะมาตามนะเจ้าคะ" สองสาวใช้ขอตัวลาจาก เพื่อให้เจ้านายนั้นได้ใช้เวลาเงียบ ๆ ตามที่ต้องการ อาหลีอามัวพากันจากไปพวกนางตั้งใจจะไปซื้อของที่ตลาด ตามที่ฮูหยินของพวกนางต้องการทันทีเพื่อไม่ให้เวลามีอยู่นั้นเสียเปล่าผ่านเลยไป~ "อืม" คล้อยหลังสาวใช้จากไป หลี่ซูเจินก็กระชับเสื้อคลุมตัวให้เรียบร้อย นางเดินไปสวมรองเท้าที่มีหยกสวยงามตกแต่งอย่างหรูหรา นางส่ายหัวให้กับรสนิยมของหลี่ซูเจินคนเก่า 'ช่างเป็นสตรีฟุ่มเฟือยจริง ๆ' หลี่ซูเจินนางเดินสำรวจจวนตระกูลหยางคนเดียวเงียบ ๆ จวนแห่งนี้ช่างเงียบสงบเรือนแต่ละเรือนนั้นก็ตั้งอยู่ไม่ใกล้แต่ก็ไม่ไกลจากกัน ทุก ๆ มุมของสวนมักจะถูกทำความสะอาดเรียบร้อยอยู่เสมอ จวนสกุลหยางแห่งนี่ไร้ความวุ่นวายเพราะที่จวนแห่งนี้ไม่ได้มีญาติผู้ใหญ่และพี่น้องเป็นโขยงเหมือนจวนอื่น ๆ ที่นี่มีเพียงแค่นางและหยางเฉินหลงเท่านั้นที่เป็นเจ้านายของบ้านที่แท้จริง นางชอบที่นี่...ที่นี่ก็ดีนะสำหรับคนอย่างนางที่ขี้เกียจจะวุ่นวายกับใครเพราะมากคนก็มากเรื่องเท่านั้น ชีวิตหลังจากนี้ของนางจะมีแต่ความสุขเท่านั้น นางจะเป็นเพียงนางร้ายที่ปลดระวาง วางมือจากการเป็นนางร้ายและผันตัวเป็นเพียงตัวประกอบที่ไม่สลักสำคัญอันใดของนิยายเรื่องนี้เอง นางจะมองดูเหล่าตัวเอกดำเนินเรื่องอยู่ในมุมเงียบ ๆ ไม่ไปยุ่งวุ่นวาย และข้อสำคัญอีกข้อหนึ่งนั้นก็คือ....นางจะพิชิตใจพระรอง...สามีที่แสนอาภัพให้รักนางอย่างหัวปักหัวปำเพียงคนเดียวจนไม่มีเวลาไปเหลียวแลแม่นางเอกที่หลอกใช้คนเก่งพรรคนั้น ไหน ๆ ก็ได้โอกาสทะลุมิติมา...แถมโชคดียังมีสามีแล้วก็ต้องใช้งานเสียหน่อยจะปล่อยให้เสียของได้อย่างไร ชาติก่อนนั้นนางไม่ทันจะมีสามีเลยก็ตกน้ำตายก่อน อามิ๊จิโม๊ะของนางนั้นยังไม่เคยผ่านการทดลองงานมาก่อนเลยสักครั้ง นางช่างเป็นคนที่เกิดมาเสียชาติเกิดจริง ๆ แต่ในชาตินี้นางจะไม่ยอม นางจะไม่รักนวลสงวนตัวนางจะรุกสามีของนางทุกวัน เพราะอย่างไรแล้วนางก็ไม่สามารถหย่าขาดกับเขาได้ ดังนั้นทั้งเขาและนางก็ถูกลิขิตให้คู่กันแล้ว ชีวิตหลังจากนี้ของนางนั้นก็ขึ้นอยู่กับเขาทั้งสิ้นเขาร่ำรวยนางก็สุขสบาย เขาตกอับนางก็จะอยู่เคียงข้างเขาเงียบ ๆ ไม่ไปไหน เพราะฉะนั้นนางจะจับพระรองกินลงท้องเอง ฮึ! นางไม่มีทางให้แม่นางเอกมีสิทธิ์มาปลอบโยนพระรองที่อบอุ่นหรอก...เพราะหน้าที่ปลอบโยนสามีนั้นมันเป็นหน้าที่ของภรรยาอย่างนางอย่างไรล่ะ ........................... หนึ่งเดือนผ่านไป...รุ่งอรุณเช้าของวันใหม่มาเยือนหลังจากที่ออกกำลังกายเสร็จ หลี่ซูเจินนางก็ไปอาบน้ำผลัดเปลี่ยนชุดใหม่เพื่อไปทานอาหารเช้าต่อทันทีตามลำดับ จานอาหารเพียงจานเดียวที่ด้านบนนั้นเต็มไปด้วยของง่าย ๆ อย่างไข่ต้มและผักต้ม ร่างอวบที่ตอนนี้สัดส่วนของนางนั้นลดลงและเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าที่มีแต่สิวหนองตอนนี้ก็ดีขึ้นแม้จะยังมีสิวบ้างแต่ก็ลดลงมากเหลือเพียงร้อยดำที่ตกสะเก็ดจนรอยดำ หลี่ซูเจินนั่งลงบนเก้าอี้อย่างรวดเร็ว นางไม่รีรอช้าก็ลงมือทานไข่ต้มสามลูกด้านหน้านางทันที ข้าง ๆ จานยังมีมันเทศฟักทองต้มวางคู่กัน นางทานอาหารตรงหน้าอย่างคุ้นชิน นี่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีต่อร่างกาย ด้วยความที่นางทานแบบนี้มาจนชินแล้วทำให้การทานในครั้งนี้จึงง่ายผ่านไปอย่างง่ายดายและรวดเร็วไม่ถึงหนึ่งเค่อนางก็ทานอาหารตรงหน้าหมดทันที "น้ำดื่มเจ้าค่ะฮูหยิน" อาหลียื่นแก้วน้ำเปล่าขนาดเท่าฝ่ามือ ที่ถูกสั่งทำมาใหม่โดยเฉพาะให้ผู้เป็นเจ้านายสาวไว้ดื่มน้ำเปล่า "ขอบคุณมาก" หลี่ซูเจินรับถ้วยน้ำมา นางเอ่ยขอบคุณสาวใช้ด้วยความคุ้นชินและรีบดื่มน้ำเปล่าตามไปติด ๆ ทันทีสองแก้ว "ต่อไปก็พอกผิวหน้าเจ้าค่ะ" อาหลัวที่รอเจ้านายสาวย่อยอาหารแล้วนางก็ร่ายรายการที่ต้องทำเป็นลำดับต่อไปทันที นั้นก็คือการพอกผิวหน้าด้วยสมุนไพร "ฝากด้วยนะ" ร่างอวบที่ในตอนนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นางในตอนนี้มีดีทั้งนิสัยและร่างกาย หลี่ซูเจินยิ้มกว้างให้กับสาวใช้ทันทีด้วยความจริงใจ อาหลีอาหลัวนั้น...พวกนางทั้งสองคนนั้นช่างจริงใจและซื่อสัตย์ที่สุด หนึ่งเดือนที่ผ่านมานี่พวกนางทั้งสองคนนั้นดูแลนางอย่างดีจนนางได้แต่ประหลาดใจ ทำไมพวกนางถึงดีกับนางขนาดนี้กันนะ "ยินดีเจ้าค่ะ" "ยินดีเจ้าค่ะ" หลี่ซูเจินนอนลงไปบนเตียงนางหลับตาลงเพื่อให้สาวใช้นั้นลงมือพอกสมุนไพรที่มีสรรพคุณสำหรับปลอบประโลมผิวที่อักเสบเหมือนเคยเช่นในทุกวัน ตลอดวันเวลาที่ผ่านมานั้น...ไม่เคยเสียเปล่า นางทั้งออกกำลังกายอย่างหนัก ทานอาหารเพื่อสุขภาพทุกมื้ออาหารทั้งผักและผลไม้ที่ดีมิได้แค่เพียงเท่านี้นางทั้งยังดูแลผิวหน้าและผิวกายด้วยความสม่ำเสมอมิเคยลืมเลือนเลยสักวัน วันเวลาแต่ละวันของนางนั้นหมดไปกับการดูแลตัวเองให้ดีขึ้นเท่านั้น~ และมันก็คุ้มค่าที่สุด...เพราะวันเวลาที่หมุนเวียนแปรผกผันผ่านไปดุจสายน้ำนั้น ก็ทำให้หลี่ซูเจินในวันนี้เปลี่ยนแปลงเป็นคนใหม่ นางในตอนนี้ไม่ได้มีน้ำหนักร่วมร้อยกิโลแล้วแม้ในตอนนี้นางไม่ได้มีรูปร่างที่ผอมบางดุจกิ่งหลิวแต่ก็ไม่ได้อ้วนพุ่งย้วยเหมือนคราแรกที่นางส่องคันฉ่องทองเหลือง นางในตอนนี้มีร่างกายอวบเต็มไม้เต็มมือแต่ก็มีส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างเห็นได้ชัด นางมีหุ่นที่กระชับขึ้นจากการออกกำลังกาย สิวต่าง ๆ ที่เคยมีก็เริ่มดีขึ้นอย่างมาก แต่ยังคงมีรอยดำฝากไว้บ้างตามแผลที่แห้ง หลี่ซูเจินในอาภรณ์เขียวชมพูนางแต่งองค์ทรงเครื่องด้วยความรวดเร็วเครื่องประดับต่าง ๆ ถูกปักลงบนมวยผมของนางอย่างพอดีมิได้มากเกินและน้อยเกิน นางลงมือปกปิดรอยสิวด้วยเครื่องสำอาง 'ช่างคุ้มค่าจริง ๆ' หลี่ซูเจินนางจ้องมองเงาตนเองที่สะท้อนออกมาจากคันฉ่องทองเหลืองด้วยสายตาเป็นประกายทันทีอย่างพึงพอใจ "งดงามมากเจ้าค่ะฮูหยิน" อาหลัวเอ่ยชมเจ้านายสาวทันทีที่แต่งองค์ทรงเครื่องแล้วงดงามอย่างมาก ด้วยความที่อยู่ด้วยกันมาตลอดสามเดือนนั้น...ฮูหยินของพวกนางไม่เคยแต่งหน้าแต่งกายที่หรูหราเลย นี่เป็นครั้งแรกที่พวกนางได้ช่วยเจ้านายสาวแต่งองค์ทรงเครื่องด้วยความเต็มยศครั้งแรก "เป็นเพราะพวกเจ้าช่วยเหลือข้าอย่างไรล่ะ" หลี่ซูเจินเอ่ย ถ้าไม่มีสองคนนี้ช่วยเหลือนางมาตลอดสามเดือนทุกอย่างก็คงไม่ง่ายดายเช่นนี้หรอก หนทางการเป็นคนสวยนั้นลำบากเสมอแต่นางโชคดีที่รวยทุนทรัพย์จึงทำให้ทุกอย่างง่ายดายและบวกกับความพยายามของนางที่สม่ำเสมอผลลัพธ์จึงออกมาได้ดีแบบนี้ "ไม่จริงเจ้าค่ะ เป็นเพราะความพยายามของท่านล้วน ๆ" อาหลีเอ่ยแย้งทันที "ใช่อาหลีพูดถูกเจ้าค่ะ ตลอดสามเดือนที่ผ่านมานั้น...ฮูหยินพยายามมากแค่ไหน พวกข้าเห็นด้วยสองตา" อาหลัวจ้องมองเจ้านายสาวด้วยความนับถือ ตลอดสามเดือนที่ผ่านมานั้นเจ้านายของนางนั้นพยายามแค่ไหนพวกนางรับรู้มาตลอด "ก็จริงอย่างที่เจ้าว่า ความพยายามของข้าตลอดสามเดือนที่ผ่านมานั้น ช่างคุ้มค่าจริง ๆ" หลี่ซูเจินก็เห็นด้วย เพราะที่ผ่านมานั้นนางพยายามจริง ๆ กับการเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น "ไปกันเถอะเจ้าค่ะ เวลานี้นายท่านน่าจะกลับมาถึงจวนแล้ว" อาหลีเอ่ยเตือนเจ้านายสาวทันที เพราะวันนี้ท่านแม่ทัพของพวกนางจะเดินทางกลับมาแล้ว "อืม ไปกันเถอะ" หลี่ซูเจินเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น วันนี้เป็นวันแรกที่นางและเขาจะได้เจอหน้ากันอีกครั้งอย่างเป็นทางการ สามีของนางจะมีหน้าตาเป็นอย่างไรกันนะ?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD