ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูห้องทำให้คนรอแอบสะดุ้งเบาๆ และรีบปิดหน้าเว็บไซต์ที่เปิดค้างไว้ทั้งหมด ร่างระหงลุกเดินไปยังหน้าประตูห้อง อดไม่ได้ที่จะเดินวนไปวนมาหลายรอบกว่าจะสูดหายใจลึกๆ แล้วดึงบานประตูเปิดออก
‘เด็กส่งกาแฟ’ คนเดิมยืนฉีกยิ้มแป้นอยู่หน้าห้องเหมือนทุกเช้า
และ ‘คนสั่งกาแฟ’ คนเก่า ก็ยืนเฉย สีหน้าบอกบุญไม่รับอย่างที่ทำอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันด้วยความเคยชินอย่างไม่ทันตั้งใจ
ชายหนุ่มแอบเสียววาบๆ อยู่ในใจกับท่าทีของเธอ ไหนเมื่อวานอัศนีบอกเขาเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าหวานใจตกลงจะเปิดใจให้เข้าก้าวเข้าไปในฐานะเพื่อนแล้วไง? แต่ทำไมเธอยังเย็นชาแบบเดิมได้อีกเนี่ย หรือเพื่อนเขาจะโม้? ก็ไม่น่าใช่นี่...
“ขอบคุณ”
ดีกว่าเดิมนิดหนึ่งตรงที่เมื่อวางเงินลงบนถาดและหยิบแก้วกาแฟไป เสียงหวานติดจะแหบนิดๆ ก็เอ่ยคุยด้วยสั้นๆ เป็นครั้งแรก ถึงจะตามมารยาทก็ตามที ปฏิญญาลอบยิ้มกริ่ม ก่อนฉวยกล่องมาการองพิสตาชิโอที่เธอสั่ง ส่งไปให้ หากเพียงมือบางรับกล่องไว้เท่านั้น ร่างสูงก็ทรุดลงทันควันพร้อมกับแตะมือที่อกเสื้อแน่นจนหวานใจสะดุ้งโหยง!
“จ...จ...” เอ่ยออกมาเพียงแค่นั้นก็หยุดไป ด้วยท่าทีทรมานอย่างสุดแสน
เจ็บหัวใจ?
เป็นโรคหัวใจเหรอ?!
หวานใจเดาไปต่างๆ นาๆ หัวใจเต้นโลดด้วยความตระหนก หากแต่เมื่อคิดจะผละไปกดโทรศัพท์เรียกรถพยาบาล ชายหนุ่มตรงหน้าก็กลับยื่นมือมาหา
ในมือหนามีมาการองพิสตาชิโอชิ้นหนึ่งที่ถูกปั้นเป็นรูปหัวใจอย่างน่ารัก...
“Just love aholic”
บอกพร้อมโปรยรอยยิ้มชวนหวามใจส่งมาให้ ในแบบที่หากเป็นแต่ก่อน หวานใจคงแย่งถาดนั่นมาฟาดเขาเสียทีโทษฐานแกล้งหลอกให้เธอตกใจ! หากแต่เมื่อเห็นมาการองชิ้นนั้น หวานใจจึงเพิ่งนึกได้ว่าทำไมวันนี้มาช้า เพราะมัวทำนี่เองอยู่ละมัง... มือบางจึงรับขนมชิ้นนั้นมาถือไว้
ก่อนคลี่รอยยิ้มหวานจรุงใจให้เป็นครั้งแรก จนคนมองอ้าปากค้างน้อยๆ หัวใจพองโต...
“คุณนี่” เธอเอ่ย เสียงแหบ... ทว่าสดใส “คงมีบร๊ะเจ้าเป็นไอดอลสินะ”
บอกจบก็เลิกคิ้วข้างหนึ่งอย่างจงใจล้อ ก่อนดึงประตูปิดเบาๆ ปล่อยให้ชายหนุ่มลุกขึ้นมายืนมองประตูอย่างงุนงง ปฏิญญาบวกลบคูณหารอยู่ ในใจ บร๊ะเจ้าคือศัพท์แสลงในสังคมออนไลน์ ที่ใช้เรียกนักร้องคนหนึ่งคือ ‘โจ๊ก โซคูล’ ผู้เป็นบิดาแห่ง ‘ความเสี่ยว’ ทั้งหมดทั้งมวลในโลก
ถึงจะเสี่ยว แต่โจ๊กเป็นชายหนุ่มที่มีความคิดอ่านชาญฉลาดและรักครอบครัวยิ่ง แฟนเพลงจึงพากันรักและชื่นชมในความเสี่ยวนั้น แต่คือต้องเป็นบร๊ะเจ้าไง นิยามคำว่าเสี่ยวถึงจะ...ดูดี
แต่หากเป็นคนอื่นทำ...
ตายล่ะหวา สงสัยว่าเขาจะเดินหมากอะไรผิดไปแล้วล่ะ หวานใจถึงมองเขาเป็นตัวตลกมากกว่าจะชื่นชมแบบนั้น!
“หัวเราะอะไรนักหนา?”
ปฏิญญาบ่นเบาๆ อย่างหงุดหงิด เมื่อนัดเจออัศนีเพื่อนสนิทที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งและเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อเช้า มือหนาตบบ่าเขาหนักๆ ทั้งที่ยังไม่เลิกหัวร่องอหาย ก่อนกอดคอพากันเดินเข้าไปในร้านหนังสือสาขาใหญ่ที่หมายของวันนี้
“ก็แกนี่ล่ะน้า! ทำไมเลือกหนังสือเล่มนั้นไปอ่านวะ? แกรู้ไหมว่าแอ้มเขียนเรื่องนั้นตอนที่มีผู้ชายเสี่ยวๆ มาตามจีบ แล้วแอ้มรำคาญก็รำคาญ แต่มุกของหมอนั่นจะว่าไปก็ฮาดี เลยเอาไปเป็นข้อมูลแต่งนิยายซะ พอแต่งจบก็ลาขาด ย้ายคอนโดหนีแทบไม่ทัน”
“ร้ายว่ะ” ปฏิญญาทำท่าขยาด “แบบนี้มันถูกเหรอวะ เหมือนหลอกใช้ยังไงไม่รู้”
“ไม่ๆ” อัศนีโบกมือปฏิเสธแทนหวานใจ “แอ้มน่ะ บอกหมอนั่นแต่แรกแล้วว่าไม่ชอบ แต่คุยกันได้จะเอามุกเสี่ยวๆ ไปแต่งนิยาย แต่นิยายจบก็เลิกคุยกันนะ เราไม่ได้ชอบคุณ บอกไปแนวๆ นี้ แต่หมอนั่นมั่นใจเกินไปไง คิดว่าตัวเองทำให้แอ้มชอบได้ภายในระยะเวลาก่อนนิยายจบนี่แหละ”
อัศนียักไหล่
“ก็วินๆ กันทั้งสองฝ่าย สุดท้ายไม่ชอบก็คือไม่ชอบอยู่ดี”
ปฏิญญาร้องอ๋อในคอพร้อมกับพยักหน้ารับ ก่อนเดินตามร่างสูงไล่เลี่ยกันของเพื่อนสนิทเข้าไปมุมนวนิยายรักโรแมนติกที่ถูกจัดเป็นบูธสีชมพูหวานแหวว รอให้อัศนีเลือกหาหนังสืออยู่พักใหญ่ ก่อนหยิบออกจากชั้นวางมาสองสามเล่ม ส่งให้เขาถือไว้
“แอ้มมีสามนามปากกา ถ้าหนังสือเก่าๆ ไม่มีวางหน้าร้านแล้วล่ะ ต้องไปสั่งซื้อทางเน็ตไม่ก็เว็บไซต์สำนักพิมพ์ แกลองเอาสามเล่มนี้ไปอ่านก่อนแล้วกัน นี่ล่าสุดแล้ว จริงๆ ยืมฉันก็ได้นี่หว่าไม่เห็นต้องหาซื้อเองเลย ตั้งแต่หนังสือเล่มแรกมาจนล่าสุดนี่ฉันได้ฟรีจากแอ้มตลอดแหละ”
ปฏิญญาส่ายหน้าดิก
“แกเก็บไว้เหอะ ของที่มีคนมอบให้ด้วยความรู้สึกดีๆ แกก็ควรเก็บไว้ดีๆ อย่าให้ใครยืมสุ่มสี่สุ่มห้า ถ้ามันหายหรือยับขึ้นมา คนให้เขาจะเสียใจ”
บอกจบก็ยกหนังสือขึ้นกระแทกไหล่อัศนีเบาๆ แล้วเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ ปล่อยให้เพื่อนมองตามอย่างกึ่งขำกึ่งอิ่มอกอิ่มใจที่เลือกคนไม่ผิด
ก่อนนี้เขาเองนั่นแหละบอกนามปากกานามหนึ่งของหวานใจให้และแนะนำให้ปฏิญญาไปหาหนังสือของเธอมาอ่าน เพราะเชื่อว่านักเขียนนวนิยายก็คงเขียนนิสัยของพระเอกแต่ละเล่มออกมาไม่หนีจาก ‘เสปก’ ของตนเองเท่าไร
ยกเว้นเล่ม ‘แจ็คพอต’ ที่ปฏิญญาเลือกซื้อไปและทำตามพระเอกจอมเสี่ยวอยู่เป็นนานสองนานนั่นแหละ ที่อัศนีรู้ที่มาที่ไปของอิมเมจแน่ชัดว่ามาจากไหน
“แอบแซ่บกันแน่เลยเธอ ดูสิสนิทขนาดนี้ ต๊าย! ลูกพิชญ์ของฉัน ละลายไปหมดแล้ววว”
เสียงนั้นดังแว่วเข้าหูตอนปฏิญญาหันกลับมากวักมือเรียกเขาพอดี อัศนีหันไปทางต้นเสียง เห็นหญิงวัยกลางคนสองคนกำลังซุบซิบกันหน้าแดงแจ๋ และรีบหลบตาเขาวูบวาบพร้อมกันทำทีเลือกหนังสือทันทีต่อจากนั้น ชายหนุ่มจึงเพิ่งรู้สึกตัวว่าเขาพาเพื่อนสนิทกอดคอกันเข้ามามุมหนังสือสีชมพู...
“ไม่ใช่นะครับ”
รีบหันไปปฏิเสธ อย่างน้อยก็เพื่อภาพพจน์ของปฏิญญาที่แม้เป็นดาราอิสระแต่ก็มีละครของช่องเขาอีกมากจ่อคิวให้เลือกเล่น หากแต่นอกจากดูเหมือนจะไม่เชื่อแล้ว สองสาวเหลือน้อยยังดูเอียงอายกับการจิ้นให้เขาสองคนแอบได้เสียกัน ก่อนจะวิ่งกรี๊ดกร๊าดหนีไป