“เปล่าๆ... เรื่องส่งกาแฟ... เพราะพิชญ์มัน... กำลังจะรับบทเป็นเด็กส่งกาแฟในละครเรื่องหน้า เลยมาซ้อมๆ ไว้ เฮ้ย เราก็เพิ่งรู้นี่แหละว่ามันมาซ้อมที่นี่น่ะ”
“จริงเหรอ...”
อีกฝ่ายหรี่ตามอง เสียงถามยังติดจะตะขิดตะขวงใจจนฝ่าย ‘ด้นสด’ แอบเสียวสันหลังวาบๆ
“จริงสิ” เขายืนยัน สีหน้าสดใส “แล้วแอ้มคิดว่าอะไรล่ะ เรางงนะ โกรธอะไรเนี่ย”
หวานใจมองสบตาเพื่อนหนุ่มที่กำลังหัวเราะออกมาเบาๆ ด้วยใบหน้าซื่อใสไร้พิษสงแล้วก็อดไม่ได้ที่จะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง หนแรกที่เธอเห็นหน้าปฏิญญาใกล้ๆ วันนี้ หน้าของเขาถูกพอกด้วยดินสอพองหนาจัดจนมองไม่เห็นเค้าโครงใบหน้าที่แท้จริง พอล้างออก... เธอก็เริ่มรู้สึกว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้เจอเขา... นึกไปนึกมา ถึงจินตนาการออกว่าหากเด็กส่งกาแฟจอมเสี่ยวนั่นถอดเสื้อออก และสาดน้ำให้ตัวเปียกหน่อย...
ก็ผู้ชายตรงหน้าเธอดีๆ นี่เองแหละ!
เด็กส่งกาแฟในคอนโดเป็นคนๆ เดียวกับดาราดังที่ไม่เห็นจำเป็นต้องมาส่งกาแฟหาเลี้ยงชีพแบบนั้น มันแปลกไหมล่ะ?
“แล้วไป” เธอเอนตัวพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลายขึ้นนิดหนึ่ง โอเค... เชื่อก็ได้ “นึกว่าเล่นตลกอะไรกัน... งั้นบอกเขาได้ไหมว่าอย่ามาส่งกาแฟที่ห้องเราอีก ไปฝึกกับคนอื่นเถอะ”
“แต่ไหนๆ ก็รู้จักกันแล้ว...”
“ไม่รู้จัก” เธอโวยวาย “เราเคยบอกสายฟ้าแล้วนะว่าไม่อยากรู้จักเพื่อนคนไหนของสายฟ้าอีก”
อาการถอนหายใจยาวของคนตรงหน้าทำให้หวานใจอดรู้สึกผิดลึกๆ ไม่ได้ อัศนีดีกับเธอเหลือเกิน... ดีจนเกินไป เขาทั้งโอ๋ ทั้งเอาใจ จนบางทีเธอก็รู้สึกว่าตัวเองเอาแต่ใจเอาแต่ได้กับเขาอยู่ฝ่ายเดียว
บางที เธออาจเอาแต่ใจตัวเองเกินไป
“เรื่องมันผ่านมานานแล้วนะ” เสียงทุ้มเอ่ยออกมา...จริงจัง...เสียจนคนเกือบจะอ้าปากเถียงต้องหยุดฟังอย่างขัดใจเล็กๆ “พิชญ์มันไม่ใช่ไอ้โมทย์ และไม่มีวันจะใช่... โอเคเราผิดเองที่เคยแนะนำแอ้มให้รู้จักไอ้สวะนั่น! แต่เราสาบานอีกทีก็ได้ว่าเราไม่ได้ตั้งใจ”
หวานใจนิ่งฟัง เธอก้มหน้าลงต่ำ คิดถึงเรื่องเลวร้ายในอดีตที่ ‘ปราโมทย์’ เคยก่อไว้กับเธอแล้วก็อดไม่ได้ที่จะขยะแขยงขึ้นมาอีกระลอก
“ถึงพิชญ์มันจะบ้าๆ บอๆ แต่มันเป็นคนดีนะ เราขอยืนยัน แอ้มไม่อยากมีเพื่อนดีๆ เพิ่มอีกสักคนเหรอ?”
คนฟังส่ายศีรษะรัวจนเรือนผมหยักศกไหวตามเป็นคลื่นน่ามอง
อัศนีถอนหายใจอีกเฮือก
“ยี่สิบปีที่รู้จักกันมา เราไม่เคยขออะไรแอ้มเลย ถ้าเราจะขอให้รับพิชญ์ไว้เป็นเพื่อนเหมือนเราอีกคน มันไม่มากเกินไปใช่ไหม?”
คนถูกขอขบริมฝีปาก อย่างที่เผลอทำเสมอเวลาใช้ความคิดหนักๆ จะให้เธอไว้ใจเพื่อนของเขา...คนตาดุ...ดุเสียยิ่งกว่าเธอนั่นได้อย่างไรเล่า ก็ในเมื่อสมัยเรียนมหาวิทยาลัยปีสอง เมื่อราวหกปีก่อน เพื่อนที่อัศนีเคยแนะนำให้เธอรู้จักด้วยความบังเอิญ กลับกลายเป็นคนเลวที่ทำร้ายทั้งร่างกายและหัวใจของเธอ!
ความที่ไม่เคยถูกรังแก แม้ไม่อาจได้รับความอบอุ่นเต็มที่จากแม่อ้อยผู้เป็นแม่ของเด็กกำพร้านับร้อย หากแต่ท่านก็กางปีกปกป้องดูแลเธอราวกับลูกในไส้มาตลอด ซ้ำยังมีอัศนีอีกคนที่คอยปกป้องราวกับเธอเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ ความช็อคและอคติจึงทำให้เธอเอ่ยปากขออัศนีทั้งน้ำตาในวันเกิดเหตุ
‘อย่าแนะนำเพื่อนของนายให้เรารู้จักอีก’
‘เรากลัว...’
แต่เธอก็เถียงไม่ได้อีกเหมือนกันว่าปฏิญญาไม่เหมือนปราโมทย์ อย่างที่อัศนีบอกนั่นแหละ
เขาติดจะเหมือนอัศนีมากกว่าเสียด้วยซ้ำ
วินาทีที่เขาช่วยเธอไว้เมื่อครู่ เบื้องหลังแผ่นหลังกว้างแข็งแกร่งนั้น เธอรู้สึกราวถูกโอบไว้ด้วยอ้อมกอดล่องหนที่เจือกระแสแห่งการปกป้องคุ้มครองเต็มกำลัง คล้ายอัศนี...แต่แตกต่าง...ปฏิญญาทำให้หัวใจเธอสั่นมาจนถึงตอนนี้ที่ยังปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่อยากรู้จัก! ต่างจากอัศนีที่เพียงทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจ เหมือนพ่อ เหมือนเพื่อน เหมือนพี่ชาย
“เราตามใจแอ้มนะ”
ไหล่บางไหวน้อยๆ เมื่อคนตรงหน้าขยับลุกขึ้นพร้อมกับถอนหายใจอีกเฮือก ร่างสูงเดินผ่านโต๊ะรับแขกมาหา ก่อนวางมือลงบนเรือนผมหยักศกอ่อนนุ่มของคนที่ยังคงนั่งกอดอก ก้มหน้า
“เรากลับก่อนแล้วกัน สัญญากับพวกมาวินไว้ว่าจะพาไปเลี้ยงเอ็มเคตอนเย็นน่ะ ไว้ถึงบ้านแล้วจะโทรหานะ”
บอกจบก็ละมือออกและกำลังจะเดินผ่านไป ก่อนถูกมือน้อยๆ ดึงชายเสื้อไว้ อัศนีลอบยิ้มในหน้า ก่อนรีบลบรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้นออกโดยไว เมื่อหันกลับไปมองสบตาหญิงสาวที่เงยมองมาอย่างสับสน นัยน์ตาคมหวานเปี่ยมไปด้วยความกลัว... แต่ก็ปะปนกับความเหงาลึกอย่างเห็นใจ
เธอไม่มั่นใจนักว่าควรตัดสินใจอย่างไร หากแต่ว่า... อัศนีไม่เคย ‘ขอร้อง’ อะไรเธอมาก่อน และเขาดูหนักใจกับเรื่องนี้ เธอไม่อยากเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขารู้สึกแย่ และเรื่องมันก็เล็กนิดเดียว เธอเองที่โวยวายตีโพยตีพาย
ถ้าการที่เธอรับผู้ชายคนนั้นเข้ามาในชีวิตในฐานะคนรู้จักแล้วทำให้อัศนีสบายใจ...
“เราแล้วแต่สายฟ้าแล้วกัน”
พิชญ์ ปฏิญญา – ค้นหาด้วย google
เมื่อปลายนิ้วเรียวกดปุ่มเอ็นเทอร์ หน้าเว็บไซต์ชื่อดังก็รันไปยังผลการค้นหากว่าหกแสนรายการ หวานใจเอนกายพิงพนักเก้าอี้ กดอ่านข่าวและดูคลิปวิดิโอต่างๆ ที่เกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นจนแทบหลงลืมเวลา
มารู้ตัวอีกทีก็เมื่อดวงตะวันสาดแสงอ่อนๆ เข้ามาภายในห้อง เหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเกือบๆ เจ็ดโมงเช้า หญิงสาวจึงเข้าไปอาบน้ำอาบท่า แล้วออกมานั่งหน้าคอมพิวเตอร์ตัวเดิม
รอเวลากาแฟมาส่ง...
อาจเพราะไม่ได้นอนทั้งคืน เลยลืมไปเสียสนิทว่าก่อนกาแฟมาส่ง เธอต้องโทรไปสั่งก่อนสิ! คิดได้ดังนั้นก็ยกหูโทรศัพท์ขึ้นกดเบอร์ภายในและสั่งกาแฟเย็นแบบเดิมๆ ที่ชอบดื่มกับขนมอีกอย่าง จากนั้นจึงมานั่งรอหน้าคอมพิวเตอร์อีกหน วันนี้กาแฟมาส่งช้ากว่าปรกติ... แต่หวานใจไม่ทันสังเกตความผิดปรกตินั้น เพราะเธอกำลังเพลิดเพลินกับคลิปวิดิโอซุบซิบดาราของปฏิญญา และล่าสุดพิธีกรกำลังแซวชายหนุ่มที่ช่วงหลังๆ มานี้ ชอบพกหนังสือนิยายรักมาอ่านช่วงพักกองเป็นประจำ
หวานใจเผลอหัวเราะคิก ผู้ชายอ่านนิยายรัก อีกทั้งยังเป็นปฏิญญาคนนั้นเนี่ยนะ?
แนวหนังสือที่อ่านช่างไม่เข้ากันเลยกับหน้าดุๆ กวนๆ สไตล์แบดบอยของเขา และฉายา ‘พญามารแห่งทศวรรษนี้’ ที่เขาถือครองไว้ด้วยอีก
หมดกัน!