ตัวเมืองพังงา
ข่าวสารในแวดวงสังคมของกลุ่มไฮโซในเมืองไทย ปรากฏอยู่บนหน้าจอโน้ตบุ๊กภายในห้องนอนขนาดใหญ่ของนายหัวหนุ่ม คฤหาสน์หลังงามของตระกูลนรบดินทร์ ตั้งอยู่ใจกลางของเมืองพังงา ใช้สำหรับเป็นสถานที่พำนักยามเมื่อชายหนุ่มขึ้นมาบนฝั่ง
ดวงตาคมกริบจ้องอยู่บนหน้าจอโน้ตบุ๊กตลอดเวลา เมื่อเขาอ่านข่าวการหมั้นของไฮโซหนุ่มดีกรีนักเรียนนอกระหว่าง นเรศ วิกิจธรานนท์และดวงใจ หิรัญญากร ซึ่งเขาเคยได้อ่านมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน
และนั้นทำให้สิงหาจำชื่อคู่หมั้นหนุ่ม ดีกรีนักเรียนนอกของอดีตคนรักได้อย่างขึ้นใจ ทว่าไม่ว่าจะอ่านย้อนหลังไปนานถึง 5 ปีก็ไม่พบข่าวพิธีแต่งงานของทั้งสองแม้แต่น้อย เป็นเหตุให้สิงหา เกิดความสงสัยอย่างยิ่งยวด
“มีแค่งานหมั้น แล้วงานแต่งทำไมไม่มีหรือเกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอ”ชายหนุ่มพึมพำด้วยความแปลกใจกับข่าวที่เขาเพิ่งได้รับรู้
ตลอดระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมาเพราะความเสียใจที่ต้องผิดหวังจากความรัก ทำให้เขาปิดกั้นข่าวสาร และการรับรู้ทุกอย่างไม่อยากได้ยินหรือเห็นทุกสิ่งที่เกี่ยวกับผู้หญิงซึ่งทำร้ายหัวใจของเขา เก็บตัวอยู่แต่บนเกาะจันทราไม่เคยเหยียบขึ้นฝั่งจนกระทั่งวันนี้
ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ทำงานพลางใช้ความคิดกับข่าวสารที่เขาเพิ่งได้ล่วงรู้ มือหนายกนามบัตรของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นของผู้หญิงซึ่งเป็นคนทำร้ายหัวใจของเขา ภายในใจเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นเพราะเหตุใด ดวงใจ หิรัญญากร จึงไม่แต่งงานเสียทีทั้งๆ ที่เวลาล่วงเลยผ่านมาถึง 5 ปีเต็ม
ทันใดนั้นเอง
ก๊อก!ก๊อก!ก๊อก! เสียงเคาะประตูอยู่ตรงหน้าห้องเป็นสัญญาณเพื่อขออนุญาตคนด้านใน
“เข้ามา!”เสียงอนุญาตดังพร้อมๆ กับประตูห้องถูกเปิดออก ปรากฏร่างผอมของพ่อบ้านวัยชราซึ่งมีหน้าที่คอยดูแลคฤหาสน์หลังงามของตระกูลนรบดินทร์ ค่อยๆ ก้าวเข้ามาในห้อง
“นายหัวครับมีแขกต้องการขอเข้าพบขอรับ”
คิ้วเข้มเรียงตัวได้รูปสวยขมวดเข้ากันโดยพลันเมื่อดิ้นเช่นนั้น
“เขารู้ได้อย่างไงว่าฉันขึ้นมาบนฝั่ง เพียงแค่วันแรกที่มาถึง มีคนต้องการขอเข้าพบเลยอย่างนั้นเหรอ แล้วนี่พากันมากี่คนลุงอุ่น”ชายหนุ่มถามชายชรากลับไป
“มาเพียงคนเดียวครับนายหัว เขาแนะนำตัวว่าชื่อ นเรศ วิกิจธรานนท์ ตอนนี้กำลังยืนรออยู่หน้าประตูด้านนอกของตัวบ้านขอรับ”พ่อบ้านอายุอานามเกือบ 70 ปีรายงานผู้เป็นนาย
“นเรศ วิกิจธรานนท์ ยืนรออยู่หน้าประตูอย่างนั้นเหรอ”เขาทวนชื่อที่เพิ่งได้ยินทันทีดวงตาสีนิลกาฬลุกโชนวาววับขึ้นมาทันที
“ไปเชิญเขาเข้ามานั่งรอในห้องรับรองแขก เดี๋ยวฉันลงไปลุงอุ่น”
“ขอรับนายหัว”เฒ่าอุ่นรับคำรีบรุดไปทำตามคำสั่งของผู้เป็นนาย
“มันแน่มาก...ใจกล้าเข้ามาหาฉันถึงในบ้านเสียด้วย” ชายหนุ่มพึมพำออกมาเบาๆ ร่างสูงใหญ่ก้าวเดินออกจากห้องหนังสือของเขาทันที
ห้องรับรองแขก
ร่างสูงของชายหนุ่มในวัย 35 ปี นเรศ วิกิจธรานนท์ ในชุดสูทสากลราคาแพง ใบหน้าเครื่องเคราของเขาจัดอยู่ในประเภทหนุ่มสำอางค ราวประหนึ่งโอปป้าพระเอกซีรีสเกาหลีก็ว่าได้ อีกทั้งผิวกายที่แลดูขาว จึงเจ้าสำอางมากกว่าเป็นชายหนุ่มร่างกายบึกบึนดั่งเช่นนายหัวหนุ่มที่ปรากฏตัวต่อหน้าเขาในขณะนี้
“เออ....”ชายหนุ่มเกิดอาการประหม่า ครั้นสายตาของเขาสบประสานเข้ากับสายตาคมกล้าของนายหัวเจ้าของเกาะจันทราซึ่งกำลังยืนจ้องเขาด้วยสายตาไม่กระพริบ อาการติดอ่างจึงบังเกิดขึ้น ก่อนจะได้ยินอีกฝ่ายเปิดฉากสนทนา
“คุณขอเข้าพบผมแต่กลับไม่พูดไม่จา ถ้าหากคุณไม่มีอะไรก็เชิญกลับไปได้แล้ว”นายหัวหนุ่มเอ่ยปากไล่เสียดื้อๆ ทันทีที่เปิดฉากการสนทนา และนั้นทำให้อีกฝ่ายเริ่มรู้สึกตัว
“ดะ...เดี๋ยว...เดี๋ยวสิครับนายหัว มาถึงก็อย่าเพิ่งไล่กันเลยนะครับ กว่าผมจะได้มีโอกาสพบกับนายหัวเจ้าของหมู่เกาะจันทรายากเย็นยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา กรุณาใจเย็นฟังผมสักนิดเถิดครับ ผมขอร้อง....เพราะเรื่องที่จะบอกกับนายหัวมันไม่ใช่เรื่องการขอซื้อหมู่เกาะจันทราหรือขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่แต่อย่างใด แต่ผมมาเพราะเรื่องของดวงใจ”
ชายหนุ่มเอ่ยชื่อของคู่หมั้นสาวออกมาทันที และลอบสังเกตอาการเปลี่ยนแปลงของบุรุษหนุ่มตรงหน้าด้วยสันดานเจ้าเล่ห์ที่เต็มไปด้วยกลโกง
สิงหาขมวดคิ้วเข้มเข้าหากันด้วยความแปลกใจเมื่อคนตรงหน้าเอ่ยชื่อผู้หญิงที่เขาเคยหลงรักและทุกวันนี้ก็ยังรักเธอไม่เปลี่ยนแปลง และที่สำคัญนายนเรศรู้จักเขาได้อย่างไรกัน ทว่าตัวเขาเองก็มิอาจปฏิเสธได้ว่า รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาโดยพลันทันทีที่ได้ยินชื่อของเธอ
“คุณจะมาคุยเรื่องของดวงใจกับผม ทั้งๆที่ผมกับคุณไม่เคยรู้จักและไม่เคยมีสัมพันธ์ภาพต่อกันเลยอย่างนั้นเหรอคุณนเรศ คิดว่าไม่ใช่กระมังพวกนายธนาคารล้วนแล้วแต่หาประโยชน์ให้กับตัวเองทั้งนั้น จะไม่ยอมเสียประโยชน์ของตัวเองให้กับใครเด็ดขาด”สิงหากล่าวตอบตรงประเด็นอย่างไม่อ้อมค้อม
“แม่งเอ๊ยฉลาดเป็นกรดเลยนะมึง กูก็อยากรู้เหมือนกันว่าระหว่างมึงกับกูใครจะแน่กว่ากัน ถ้าไม่ติดว่าเป็นเจ้าของหมู่เกาะจันทราแล้วละก็ เรื่องอะไรที่กูจะลดตัวมาเสวนาด้วย”นเรศ นั่งก้มหน้าเพื่อหลบสายตาหลุกหลิกของเขาก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ที่ผมมาวันนี้เพื่อมาคุยเรื่องส่วนตัวระหว่าง ผมกับนายหัวและดวงใจและอยากจะอ้อนวอนขอร้องให้นายหัวช่วยบอกดวงใจอย่าเลื่อนวันแต่งงานของเราอีกต่อไปเลย เธอเลื่อนวันแต่งงานออกไปอย่างไม่มีกำหนดเพราะมีสาเหตุมาจาก ผู้ชายที่ชื่อสิงหา นรบดินทร์ ซึ่งก็คือคุณ!”
นเรศกล่าวย้ำชัดถ้อยชัดคำ จนทำให้อีกฝ่ายถึงกับชะงักงันไปเลยทีเดียวเมื่อได้ยินเช่นนั้น ก่อนจะได้ยินอีกฝ่ายเอ่ยสำทับขึ้น
“เพราะคุณทำให้ดวงใจ บ่ายเบี่ยงที่จะเข้าพิธีแต่งงานกับผมมาโดยตลอด 5 ปีที่ผ่านมาผมเฝ้ารอคอยเธอแต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือและการตอบสนองของคู่หมั้นตัวเอง นายหัวคงจะสงสัยว่าทำไมผมถึงรู้จักคุณนั้นเป็นเพราะเราสองคนทะเลาะกันทุกครั้งถึงสาเหตุที่เธอเลื่อนพิธีแต่งงานมาโดยตลอด จวบจนกระทั่ง”
ชายหนุ่มกล่าวได้เพียงแค่นั้นก็แกล้งทำทีหยุดพูดไปเสียเฉยๆ เพื่อรอดูท่าทีอีกฝ่าย ทว่ากลับไม่เป็นดั่งที่คิดเมื่อนายหัวหนุ่มยังคงยืนฟังอย่างสงบนิ่งไม่มีทีท่าว่าจะแสดงอาการอะไรออกมาแม้แต่น้อย
“โธ่เว้ย! ตกลงมันหลงรักดวงใจจริงๆ หรือเปล่าวะ ทำไมมันถึงได้นิ่งเฉยไม่ทุกข์ไม่ร้อนห่าเหวอะไรทั้งสิ้นเลยวะ ตกลงไอ้พวกสืบข่าวมันสืบมาให้กูผิดหรือถูกกันแน่วะเนี่ย”
นเรศสบถอยู่ภายในใจอย่างไม่สบอารมณ์ ที่แผนการของเขาเริ่มไม่เป็นดั่งที่คาดการณ์เอาไว้ ก่อนจะแกล้งถอนหายใจออกมาเบาๆ
เห้อ...ชายหนุ่มลอบสังเกตอีกฝ่ายก่อนจะเดินตามแผนของเขาต่อไป
“ดวงใจเอ่ยปากบอกกับผมด้วยตัวเองว่าสาเหตุที่ทำให้เธอต้องเลื่อนพิธีออกไปโดยไม่มีกำหนดนั้นก็เพราะว่าเธอมีคนรักอยู่แล้ว และไม่เคยลืมไปจากหัวใจของเธอได้เลย และเธอบอกกับผมอย่างชัดถ้อยชัดคำว่าคนรักของเธอคือผู้ชายที่ชื่อ สิงหา นรบดินทร์ และนี่คือสาเหตุที่ผมมาวันนี้ คงไม่ต้องบอกว่าเพราะอะไร เพราะผมต้องการให้คุณช่วย!”