บทที่ 7 โกรธแทน
ฉันเป็นพวกที่ตื่นเช้าประจำ ต่อให้นอนดึกแค่ไหนก็ตื่นเช้า ต่อให้เป็นวันหยุดก็เถอะ! ตื่นแล้วก็รีบเข้าห้องน้ำแล้วลงไปชั้นล่างออกนอกบ้านไปรดน้ำดอกไม้ที่สวนหย่อมหน้าบ้าน เป็นดอกไม้ที่ฉันปลูกเองและดูแลมันเอง
แชะ! ฉันหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปดอกไม้ ตอนที่มีผีเสื้อมาดอมดม และนำไปโพสต์ลงเฟซบุ๊ก แคปชั่นว่า
‘ โลกก็เป็นแบบนี้แหละ นี่ก็เป็น...เป็นคนดีคนหนึ่งที่ไม่มีใครเอา ’
หลังจากรดน้ำพรวดดิน ถ่ายรูปอัพโชเชียลมีเดียแล้ว ก็รีบกลับเข้าบ้านไปล้างเนื้อล้างตัวเพื่อที่จะมาทานข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตา...
แต่ปรากฏว่าพ่อกับแม่ไม่อยู่ บินไปงานต่างประเทศเมื่อตอนรุ่งสางเสียแล้ว มันก็โชคดีมาก ไม่งั้นแม่คงสอบสวนและจับผิดฉันอีก และเรื่องที่บอกพี่ก็อตว่ามีเรียนพิเศษ จริงๆกุเรื่องขึ้นมาเฉยๆเพราะอยากตัดบท
“ พี่ไอซ์ วันนี้ไปเที่ยวไหมคะ ” น้องสาวคนเล็กเอ่ยถามทันทีบนโต๊ะอาหาร
“ ไม่เอา เดี๋ยวคุณแม่ก็ดุหรอก ” ฉันพูด
“ พี่ก็ว่าตามยัยไอซ์นะ ตอนคุณแม่ไม่อยู่ ห้ามไปเที่ยวเล่นนอกบ้าน จำไม่ได้เหรอที่แม่สั่งอะ ยัยอาย ” พี่สาวคนโตพูด
“ พี่เวเว้ก็พูดเกินไป ทำราวกับว่าพวกเรายังเด็กอย่างนั่นแหละ ถ้าแอบไป คุณแม่ไม่รู้หรอกค่าา ”
น้องชายคนที่สามพูดขึ้น อามทำตัวเหมือนเพศที่สามต่อหน้าพวกเรา ซึ่งพวกเราก็ชินแล้ว เพราะนางจะชอบทำตัวแบบนี้ในเวลาที่แม่ไม่อยู่บ้าน และพอจะรู้ว่าอามอะเป็นแล้วแต่ก็แอ๊บไว้ก่อน
“ ผมก็ว่าตามที่พี่ไอซ์กับพี่เวเว้พูดเถอะ เดี๋ยวจะเดือดร้อนเอานะ ถ้าไม่ฟังอะ ” น้องชายคนที่สี่พูด
“ แกก็เป็นแบบนี่แหละวูฟ วันๆเอาแต่อยู่บ้าน ไม่เบื่อหรือไง เป็นเด็กดีแบบนี้ ลองเกเรดูบ้าง สนุกจะตาย เนอะน้องอาย ” อามหันไปพูดกับน้องสาวคนเล็กที่ดูเข้าเป็นปี่เป็นขลุ่ย
“ แล้วแต่พี่อามเลยครับ ถ้ายังไงช่วยปกป้องน้องอายด้วย ” วูฟพูด
“ ปกป้องทำไม คุณแม่จะตีฉันมากกว่าตีน้องอายนะ ถ้ารู้ว่าเราสองคนแอบหนีเที่ยวอะ ” อามพูดอย่างจีบปากจีบคอ...
หลังจากนั้นก็พากันกินข้าวจนเสร็จ ต่างคนต่างแยกย้ายกันไป ส่วนฉันก็เข้าห้องนอนไปนอนเล่นโทรศัพท์มือถือดีกว่า หนังสือค่อยอ่านตอนบ่ายล่ะกัน
เข้าเฟซบุ๊กก็เห็นแจ้งเตือนเยอะมาก สงสัยอยู่นะว่ามีอะไรเกิดขึ้น ก็เลยเปิดอ่าน สรุปมีคนมาคอมเมนต์ใต้รูปดอกไม้เมื่อตอนที่ฉันไปรดน้ำและถ่ายลง น่าจะมาเพราะแคปชั่นมากกว่า ปกติถ้าลงรูปฉันจะไม่เคยโพสต์ใส่แคปชั่นอะไรแบบนี้
{ นี : ว้าว ยัยคุณหนูมีแคปชั่นแล้ว }
{ มีน : ดอกไม้สวยจัง }
{ อิ่ม : ฮั่นแน่....มีอะไรเกิดขึ้นอะเปล่า }
{ พี่ก็อต : ดอกไม้น่ารัก...เหมือนคนถ่าย }
{ พี่บิล : อ่านแคปชั่นแล้ว พี่อยากขายขนมจีบจัง }
{ นี : @พี่บิล / คนเจ้าชู้ }
{ พี่ทิว : กูอยากแท็กไอ้เชี่-กายมาดูดอกไม้เลย แต่กลัวแม่งจะฆ่า มันไม่ชอบให้แท็ก }
{ น้องอาย : ถ่ายตรงไหนพี่ไอซ์ น้องจะไปถ่ายบ้าง }
{ อาม : ไปถ่ายที่หน้าหมู่บ้านไหม ดอกหน้าวัวเต็มเลย / @น้องอาย }
{ น้องอาย : @อาม / ชื่อพี่ไอซ์เหรอคะ? หนูถามพี่ไอซ์โน่น }
{ อาม : @น้องอาย / ตบกันไหมยะ }
คอมเมนต์มีทั้งของเพื่อนๆและน้องๆ ทำให้ฉันถึงกับอ่านไปขำไป แต่อีพี่ก็อตนี่สิ เกินไปจะอ้วก...
วันจันทร์
พอลงมาเพื่อที่จะกินอาหารเช้าก่อนไปเรียนก็เจอพ่อแม่นั่งอยู่ก่อนแล้ว สงสัยเพิ่งจะถึง เพราะทั้งคู่บินไปงานแต่งเพื่อนที่ต่างประเทศสองวันนะ
“ วันนี้รอแม่นะ เดี๋ยวแม่จะไปรับเอง ห้ามกลับกับใครก่อน ” พอเห็นฉันแม่ก็พูดก่อนเลย
“ ค่ะ ”
“ คุณแม่คะ ไหนบอกว่าจะไปรับเวเว้ไงคะ วันนี้ ” พี่เวเว้พูดแทรกขึ้น
“ วันนี้แม่บอกจะพาผมไปกินชาบูด้วยนี่ อย่าลืมนะฮ่ะ ” อามพูด สงสัยจะลืมตัวไปชั่วขณะ
“ อีอาม เอ้ย ไอ้อาม ถ้ายังพูดแบบนี้ แม่จะพาแกไปตอนช่วงล่างแล้วเอาไปให้เป็ดกินแล้วนะ เกิดมาเสียชาติเกิดหมด ทำไมไม่ทำตัวให้เหมือนพ่อ ” แม่พูดด้วยน้ำเสียงห้วน อามนั่งก้มหัวลงทันที ในบ้านมีใครไม่กลัวแม่บ้าง
“ 555+ ” วูฟกับน้องอายก็พากันหัวเราะอย่างขบขัน
“ อีวูฟ ยัยน้องอาย พวกแกหัวเราะอะไรฉันห้ะ ” อามหันไปส่งสายตาดุให้น้องๆทันที แต่ท่าทางก็ยังเบี่ยงเบนไปทางดัดจริต
“ อาม แกจะหยุดไหมห้ะ! ” แม่พูดอีกครั้ง
“ คะ...ครับแม่ ” อามนั่งก้มแล้วตักอาหารตรงหน้ากินทันที
“ คุณแม่ข๋าา วันนี้น้องอายกลับช้านะคะ ให้ลุงสินไปรับห้าโมงนะคะ ” น้องอายพูดขึ้น
“ มีอะไร ทำไมถึงช้า ” แม่ก็ถามอย่างสอบสวนทันที
“ ก็คุณแม่จ้างครูที่โรงเรียนให้สอนหนูเรียนวิชาศิลปะป้องกันตัวไม่ใช่เหรอคะ ” จริงๆน้องอายไม่ได้ชอบ แต่โดนแม่บังคับ
“ อ๋อ ใช่ๆ แม่ลืมไปเลย เก่งมากลูกสาวแม่ที่ยอมทำตามแม่ ” แม่พูดยิ้มๆ อย่างภูมิใจ
“ ที่รักอะ ลูกยังเด็กอยู่นะ ทำไมชอบให้ลูกทำอะไรแบบนี้ ไปบังคับลูกทำไม ”
“ แล้วพี่กัสมีปัญหาเหรอ? ” แม่หันไปเชิดหน้าใส่พ่อ
“ ไม่มีครับบ ” พ่อออกตัวทันที มองออกแหละว่ากลัวเมีย พ่อแทบจะไม่มีปากเสียงเลยนะเวลาแม่อยู่
หลังจากนั้นทุกคนก็พากันกินข้าว จะได้แยกย้ายไปทำหน้าที่ตนเอง ระหว่างที่กำลังใส่รองเท้านักเรัยนกันอยู่...
“ คุณแม่คะ ตกลงว่าคุณแม่จะไปรับหนูไหมคะ ” พี่เวเว้พูดขึ้น
“ แม่ไปรับพี่เวเว้ก็ได้ เดี๋ยวของหนูก็ให้ลุงสินไปรับแทน มารับหนูก่อนแล้วเลยไปรับน้องอายด้วย ”
อาย วูฟ อาม เรียนที่เดียวกัน โรงเรียนมัธยมชื่อดังเหมือนกัน ส่วนพี่เวเว้รายนั้นต่อป.ตรีที่มหาวิทยาลัยชื่อดังเช่นกัน ฉันนะกำลังศึกษามัธยมปลาย ม.หก เทอมสองแล้วตอนนี้
“ คงไม่ได้ แม่ว่าวันนี้จะไปรับยัยไอซ์ก่อน งั้นเอาเป็นว่าพรุ่งนี้แล้วกันนะ แม่จะไปรับเวเว้ ”
พี่เวเว้จะดูเหมือนคนติดแม่มาก นางจะให้แม่ไปคอยรับคอยส่งตลอด ถ้าแม่ปฎิเสธก็จะทำเหมือนเสียใจมาก ซึ่งฉันไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงอยากให้แม่ไปรับหนัก พวกเราอีกสี่คน ไม่มีใครคนไหนที่อยากให้แม่ไปรับเลย อยากให้พ่อไปมากกว่า เพราะพ่อจะตามใจไม่ดุไม่บ่นตลอดทางเหมือนแม่เลย
ลุงสินจะเป็นคนชับรถมาส่งพวกเราทั้งห้าคนประจำ มากับรถตู้ของบ้าน เริ่มแรกก็ส่ง วูฟ อาม อาย ก่อนที่ โรงเรียนA และส่งพี่เวเว้ที่มหาวิทยาลัยC และมาส่งฉันเป็นคนสุดท้ายที่ สถาบันM จริงๆใครๆก็อยากสอบเข้าที่โรงเรียนฉันทั้งนั้น แต่สอบกันไม่ได้นั้นเอง
“ ถึงแล้วครับคุณหนูไอซ์ ”
“ ค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาส่ง ลุงสิน ” พนมมือไหว้ลุงคนขับรถของบ้านทันที มีใครบ้างที่จะไหว้คนขับรถ ก็คงมีแต่คนบ้านฉัน...พวกเรามารยาทดีกันทุกคน...มั้ง
“ ครับ ”
ในห้องเรียน
“ มาสายนะแก ยัยไอซ์ ” มีนเอ่ยทักทันที ที่ฉันเข้ามาในห้องเรียน
“ ก็นอนดึกนะ ก็เลยตื่นสาย ” ฉันพูดจบนั่งลงที่โต๊ะตัวเองทันที
“ ทำไมอะ แชทกับใครอยู่เหรอ? ” อิ่มหันมามองฉัน แล้วยิ้มใส่ทันที
“ ก็เปล่านะ ” ฉันตอบ
หลังจากนั้นคุณครูก็เข้ามา เป็นครูที่ปรึกษาจะมาพบนักเรียนก่อนที่จะแยกย้ายให้ไปเรียนตามวิชาในตารางเรียน
“ เอาล่ะเงียบ ครูมีเรื่องจะบอก วิชานี้คุณครูผู้สอนก็คือครูวิไล ท่านจะลาทั้งสัปดาห์ แต่...ก็มีงานให้ทำ อย่าเพิ่งดีใจไป และครูเองก็จะเป็นคนมาเฝ้าพวกเธอด้วย ตลอดทั้งสัปดาห์เลย และวันนี้ครูเองคงจะเฝ้าไม่ได้นะ เพราะครูก็มีสอน งานที่จะให้ทำก็คือ ทำรายงานสำรวจรุ่นพี่นักศึกษาปี1 ปี2 ปี3 ปี4 เกี่ยวกับการใช้ชีวิตในรั้วมหาลัยแห่งนี้ ให้แบ่งกลุ่มกันละสี่คนนะ และมาหยิบฉลากว่าใครได้คณะไหน ”
หมดคาบแรก ต่อคาบสองคาบสามและคาบสี่ ก็จบไป ทุกคนก็พากันตรงไปยังโรงอาหารทันทีเพราะเป็นเวลาพักเที่ยง
“ พวกเราได้คณะนี้ มีใครบ้างนะที่เป็นรุ่นพี่ที่ต่อที่นี่เลย ” มีนพูด
ที่หาคือรุ่นพี่ ที่เรียนที่นี่ตั้งแต่มัธยมสี่ จนขึ้นป.ตรี จริงๆคือจะขอรายงานนั้นมาลอก เพราะแอบได้ยินเพื่อนๆพูดและจะทำแบบนี้กันหมด คือขี้เกียจไปสอบถามเป็นรายคนนะสิ แล้วคณะหนึ่งมีเกิน50คนนะ ตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสี่คิดดู และที่รู้ๆรายงานพวกนี้ ยังไงพวกที่เพิ่งขึ้นปีหนึ่ง คงยังไม่ทิ้งหรือเผาแน่นอน
“ ก็มีกลุ่มอีพี่ดิวไง ” นีพูด ฉันนิ่งไป ถามว่ายังรู้สึกยังไง ก็บอกไม่ถูกนะ แต่ไม่ขอพูดถึงเสียยังดีกว่า
แต่ก็เนอะ....ตั้งแต่ที่พี่กายมาวนเวียนใกล้ๆ ก็ทำให้รู้สึกเบิกบานอีกครั้ง ไม่ใช่ว่าฉันเป็นพวกประเภทรักง่ายหน่ายเร็วนะ คงไม่ใช่หรอก ปกติก็ไม่ค่อยจะสนิทกับผู้ชายมากเท่าไหร่ด้วย แล้วอีพี่กายฉันก็เพิ่งได้คุยได้ชิดใกล้แค่วันศุกร์เอง อะไรจะชอบเขาไปแล้ว ไม่ใช่หรอก....
“ ไอ้เชี่-ดิวตัดแม่งไปเลย ไม่ต้องไปถามหรอก คณะที่พวกเราได้ ก็มีอีกหลายคนนะที่เรียนต่อที่นี่อะ ” มีนพูด
“ พี่ก็อตไง ฉันว่าให้ยัยไอซ์พูดขอ ก็คงได้เลย พี่เขาจีบแกอยู่ไม่ใช่เหรอไอซ์ ” นีพูด
“ ใช่ๆ ถ้าไม่กล้าขอพี่ก็อต บอกผ่านพี่กายไหม ” อิ่มเสนอ
ฉันไม่ได้ออกความคิดเห็นใดๆ ได้แต่ยืนนิ่งเพื่อรอจะรับข้าว พวกเรามาต่อคิวซื้อข้าวกินกันแล้ว พอได้ครบก็ไปหาโต๊ะเพื่อที่จะนั่ง
“ ฉันจะไปซื้อน้ำนะ ” มีนพูด
“ ฉันไปกับแกล่ะกัน ” อิ่มพูด
” ขอฉันขอน้ำเปล่านะ ” ฉันพูดขึ้น และเพื่อนๆก็พากันไปซื้อน้ำ ที่โต๊ะเลยเหลือแค่ฉันกับนี ที่นั่งเฝ้าโต๊ะ
“ ขอนั่งด้วยคนนะ ” ฉันกับนีเงยหน้าขึ้นมองคนที่มาใหม่ทันที
“ พี่ก็อต หวัดดีค่ะ ” นีเอ่ยทักทันที
“ นั่งได้ไหม ” พี่ก็อตพูดย้ำ
“ เอ่อ...คือมีเพื่อนอีกสองคน ไม่แน่ใจว่าจะนั่งพอไหมคะ ” นีพูด
ฉันนั้นรีบหลบสายตาต่ำลง คือถ้าเราไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ต่อให้เขาจะตื้อขนาดไหนก็เถอะ มันอาจจะยิ่งทำให้เรารำคาญใจมากกว่านะ
“ อะ น้ำส้ม พี่ซื้อมาให้ ” พี่ก็อตยื่นขวดน้ำส้มมาที่ตรงหน้าฉันทันที
“ เอ่อ...ไอซ์ไม่กินน้ำส้มค่ะ และขอบคุณนะคะที่นึกถึงไอซ์ ”
“ ยัยคุณหนูไม่เอา แต่นีเอาแทนก็ได้ค่ะ ” นีฉวยน้ำส้มจากมือพี่ก็อตทันที
แล้วยัยมีนกับยัยอิ่มก็เดินกลับมาพอดี มองพี่ก็อตเป็นตาเดียวอย่างสงสัยแต่ไม่ได้ถามอะไร พวกนางก็นั่งลงและยื่นน้ำเปล่าให้ฉัน
“ อ๋อ งั้นขยับตัวอีกนิดได้ไหม พี่จะได้นั่งลงใกล้ๆ ” พี่ก็อตก็ไม่หยุด พี่เขานั่งลงใกล้ฉัน มาเบียดจนฉันรู้สึกไม่โอเค แต่ด้วยความที่ซุ่มซ่ามแหละ เผลอไปปัดจานข้าวพี่เขาที่กำลังจะวางลงบนโต๊ะ
พรึ่บ!
“ เฮ้ย ยัยไอซ์!! ” นีพูดเสียงดัง
“ เอ่อ...ขอโทษค่ะ ไอซ์ขอโทษนะคะ ” จานข้าวคว่ำลงใส่กางเกงพี่ก็อตจนเลอะหมดเลย
“ ไม่เป็นไรครับ ”
“ แกนี่นะ ไปปัดจานข้าวพี่เขาทำไมกัน จะบ้าเหรอ ” จู่ๆนีก็พูดเสียงดังราวกับโกรธแทน ฉันก็ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่
“ นีแกก็พูดดีๆหน่อยสิ ยัยไอซ์ไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย ” มีนพูดขึ้นอย่างเข้าข้างฉัน
“ ใช่ๆ ไอซ์ไม่ได้ตั้งใจหรอก ” อิ่มพูดเสริม
“ ไม่เป็นไรครับ น้องๆอย่าทะเลาะกันเพราะเรื่องพี่เลยครับ ” พี่ก็อตลุกขึ้นยืนและส่งยิ้มมาให้ฉันอย่างไม่ได้คิดโกรธ
“ ยัยไอซ์แกก็ไปช่วยล้างตัวพี่เค้าดิ ” นีพูดต่อ
“ เอ่อ... ”
“ พวกเราว่าจะรีบกินข้าว แล้วจะไปทำรายงานต่อ พี่ก็อตคงไม่ว่าใช่ไหม ถ้ายัยไอซ์ไม่ไปช่วยล้างตัว ” มีนพูดแก้สถานการณ์ให้ทันที
“ ได้ๆ พี่ไม่รบกวนหรอก แต่พี่ขอตัวสักครู่นะ แล้วจะกลับมา ไอซ์รอพี่แป๊บนะ ” แล้วพี่ก็อตก็เดินไป
“ นีช่วยค่ะ ” นีพูดจบก็วิ่งตามพี่ก็อตไป
“ ยัยนีนี่ยังไงกัน เห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อน ” มีนพูดขึ้น คล้อยหลังคนทั้งสองที่เดินไปห้องน้ำ
“ อืม ใช่ ไม่เห็นต้องโกรธไอซ์ขนาดนั้นเลย หรือว่ายัยนีจะชอบพี่ก็อต ” อิ่มพูด
เราทั้งสามคนนั่งก้มหน้าก้มตากินข้าวของต่อจนเสร็จ ยัยนีกับพี่ก็อตก็ยังไม่กลับมา
“ ที่รักกินข้าวเสร็จแล้วเหรอ? ” เสียงนี้ทำให้พวกเราทั้งสามหันไปมอง
?__________?
นามปากกาByMinne