ณิชานันท์ยังคงใจเต้นระรัว กลัวสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น กลัวว่าเขาจะรุกรานเธอมากกว่านี้ ระหว่างที่คิดในห้วงคำนึง กายหนาก็เลื่อนต่ำลงไปเรื่อยๆ ปาดเรียวลิ้นชื้นไปบนพื้นผิวนุ่ม ไล้วนจากฐานทรวงเต็มตึงลงไปยังหน้าท้องเรียบเนียนก่อนจะวนไล้ที่รอบสะดือสวย กายสาวบิดเร่าเสียวซ่านทรมาน พยายามถอยหนีสัมผัสวาบหวามนั้นแต่ก็ไร้ผล เมื่อเขาตามติดชิดใกล้ไม่ยอมห่าง ยิ่งหนียิ่งรุกราน ยิ่งถอยห่างยิ่งลุกล้ำด่ำดิ่งสู่หุบเหวลึกแห่งกฤษณามืดดำ
“อย่าค่ะ ได้โปรด” เสียงหวานห้ามสั่นๆ เมื่อบางอย่างที่ร้อนนุ่มฉ่ำชื้นกำลังปาดไล้จุ่มจ้วงชำแรกแทรกเข้ามาในจุดที่หวงแหนและอ่อนไหวที่สุดของเธอ สาวน้อยห้ามทั้งๆ ที่ยังหลับตา ห้ามทั้งๆ ที่ไม่อาจปฏิเสธการกระทำที่อาจหาญนั้น
“ยอดหญิงของอาเทอร์” เสียงนั้นพึมพำอยู่ไกลๆ แต่ณิชานันท์ก็ได้ยิน ‘เขาชื่ออาเทอร์อย่างนั้นหรือ’ เธอถามในใจ ก่อนจะปรือตาดูว่าเขากำลังทำอะไรกับเธอ แต่แค่เพียงลืมตาขึ้นมา ก็เห็นเขาเปลือยทั้งร่างแล้ว
“คะ...คุณจะทำอะไรฉัน อย่าค่ะ” สติกลับคืนมาเมื่อเห็นร่างเปลือยน่าหวาดหวั่นนั่น สาบานได้ว่าเธอเห็นบางอย่างที่น่ากลัวที่เด่นผงาดต่ำลงไปใต้สะดือของเขา พยายามจะถอยหนี แต่...
“อย่ากลัวเราเลยยอดรัก” บอกเสียงนุ่ม พร้อมกลับก้มลงจุมพิตอีกครั้ง เร่าร้อนกว่าเดิม
สาวน้อยเริ่มสั่นระริก ทั้งกลัวทั้งตื่นเต้น วาบหวาม ความรู้สึกหลายอย่างคละเคล้าจนสับสน ทว่าเพียงไม่นานความรู้สึกทั้งหลายนั้นก็กลายเป็นความปราถนาอย่างเดียว เมื่อความเสียวซ่านบังเกิดขึ้น โอบล้อมรอบกาย รู้สึกว่าเขากำลังประสานร่าง ลึกล้ำ คับแน่น จนแทบหายใจไม่ออก
ริมฝีปากเล็กถูกครอบครองอย่างเร่าร้อน สิ่งที่หวงแหนก็ถูกตอกตรึงฝังแน่นก่อนจะขยับขับเคลื่อนอย่างแสนหวาน มันเสียวซ่านไปจนถึงจิตวิญญาณ กายสั่นสะท้านสะเทือนราวกับแผ่นดินไหว ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกรุนแรงถึงเพียงนี้
“โอ...ยอดหญิงของอาเทอร์” เสียงทุ้มแหบพร่า ส่งแรงกำลังเบียดกายใหญ่เข้าหาลึกขึ้น โจนจ้วงร้อนแรง มันทิ่มแทงเสียดลึกจนสาวน้อยแทบแดดิ้นสิ้นใจด้วยความทรมานแสนหวานซาบซ่านเกินบรรยาย
‘อยากไปให้ถึง’ ณิชานันท์ตะเกียกตะกายโดยไม่รู้ตัว ครวญครางครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อความแข็งขึงร้อนแรงนั้นถาโถมเข้าหาเธอถี่รัวราวกับพายุพัดโหมกระหน่ำ สองแขนเรียวกอดร่างหนาเอาไว้แน่น หน้าท้องเริ่มบิดเกร็งเมื่อความกระสันซ่านเข้มข้นบิดเกลียวสูงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับถูกเหวี่ยงขึ้นไปที่สูงๆ และกำลังจะดิ่งลงเหว แต่กลับถูกเหวี่ยงขึ้นไปอีกครั้งเกือบจะถึงสวรรค์ ทว่าก็ไม่ถึงเสียที
“ได้โปรด ช่วยฉันด้วย...” เธออ้อนวอนเสียงเบาหวิว
แล้วพายุสวาทร้อนแรงก็พัดโหมโถมกระหน่ำ ตอกย้ำความเสียวกระสันอย่างทรงพลังต่อเนื่องด้วยแรงปรารถนา เมื่อร่างใหญ่แหงนเงยอีกครั้ง หญิงสาวก็หวีดร้องออกมาสุดเสียงเมื่อความสุขสมระเบิดพร่างพรายออกมาจนกายเล็กกระตุกไหว สั่นระริกหอบโยน
ทว่าเมื่อความสุขผ่านไปแค่เสี้ยววินาที ณิชานันท์ก็ต้องหวีดร้องขึ้นมาสุดเสียงเมื่อเห็นอาเทอร์กำลังอ้าปากกว้าง โฉบลงมาที่คอของเธอ
“กรี๊ดดด!” ร่างบางใต้ผ้าห่มสะดุ้งเฮือกขึ้นมา เหงือกาฬท่วมตัว หอบหายใจถี่รัวด้วยอาการหวาดผวา
‘ทำไมจะต้องฝันร้ายก่อนเดินทางด้วยเนี่ย’
นกยักษ์ลำใหญ่กำลังบินโฉบลงจอดยังที่หมายปลายทาง คณะถ่ายทำละครต่างก็ตื่นเต้นเมื่อเดินทางมาถึงดินแดนแห่งตำนาน มีสถานที่หนึ่งที่พวกเขายื่นเรื่องขออนุญาตไปถ่ายทำละครตอนอวสาน อีกไม่นานพวกเขาจะเดินทางไปที่นั่น
‘คฤหาสน์จันทรา’
เมื่อทุกคนเดินทางมาถึงห้องพัก เก็บสัมภาระอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้ว ณิชานันท์ก็ขอตัวเพื่อนร่วมห้องแวะไปหาเพื่อนเก่าของเธอแถบชานเมืองของกรุงมิวนิก บ้านของเอลิต้าเป็นบ้านสวนหลังเล็กๆ หวังว่าเพื่อนสาวของเธอคนนี้คงจะยังไม่ย้ายไปอยู่ที่อื่น ความจริงก็อยากจะโทรหาก่อน แต่ว่าเอลิต้าเปลี่ยนเบอร์ใหม่โดยไม่ได้บอกเธอ เพราะเบอร์โทรล่าสุดที่ได้มาโทรหาไม่ติดเลย
ร่างเล็กในชุดโค้ทสีเทา ผูกผ้าพันคอสีขาวสวมหมวกไหมพรมสีดำ ลงจากรถแท็กซี่เสร็จก็เดินต่อไปตามตรอกซอกซอยเล็กๆ ที่สองข้างทางเต็มไปต้นไม้ผลัดใบที่เปลี่ยนสี มีสีเหลืองบ้าง แดงบ้าง น้ำตาลบ้าง หลากสีสันมองดูสวยงาม ทว่ายิ่งเดินเข้าไปในซอยลึกมันกลับยิ่งเปลี่ยว แต่ก็ยังมองเห็นผู้คนเดินสวนกันไปมาบ้าง หลายคนที่เดินผ่านมาเจอเธอต่างทำสีหน้าแปลกๆ อาจเป็นเพราะเห็นเธอเดินมองซ้ายทีขวาทีคล้ายคนกำลังหลงทางกระมัง
ณิชานันท์คิดว่าเธอคงไม่หลงทางหรอก เพราะจำซอยเข้าบ้านของเอลิต้าได้ดี แม้จะมีต้นไม้เพิ่มขึ้นมาหนาตาสูงใหญ่มากขึ้น แต่ภาพรวมเธอก็ยังจำได้ เดินอีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงบ้านของเพื่อนสนิทคนนี้แล้ว หลายปีแล้วสินะที่ไม่ได้เจอกัน
ยามนี้ตะวันเริ่มโพล้เพล้ แต่ก็ยังไม่ถึงกับค่ำมาก ยังไม่ถึงหนึ่งทุ่มเลยไม่น่าจะมีอันตรายอะไร ณิชานันท์ยิ้มด้วยความตื่นเต้นเมื่อเดินมาถึงรั้วหน้าบ้านของเพื่อนสาว ประตูรั้วไม่ได้ปิด เธอจึงค่อยๆ เดินเข้าไปภายในบริเวณบ้าน สายตาก็สอดส่องหาร่างสูงเพรียว ผิวขาว ผมสีบลอนด์ของคนที่คุ้นเคย แต่เดินมาจนถึงประตูบ้านแล้วก็ยังมองไม่เห็นเจ้าของบ้าน
“ลิต้า ลิต้า อยู่หรือเปล่า ฉันณิชา มาเยี่ยมเธอนะ”
เงียบไปพักใหญ่ ขณะที่แขกสาวยังคงเดินไปรอบๆ ตัวบ้าน ผ่านไปจนถึงสวนดอกไม้หลังบ้าน ทุกอย่างยังคงเงียบงัน
‘หรือว่า...จะไม่มีคนอยู่ แต่ทำไม ประตูรั้วไม่ปิด?’