หวาดหวั่น1 NC20+++
ดวงตากลมโตสีน้ำผึ้งที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม กำลังกวาดมองไปรอบตัวด้วยความอยากรู้ว่าที่ที่เธออยู่มันคือที่ไหน บนที่นอนหนานุ่มสีหวาน รอบด้านมีผ้าม่านบางเบาสีครีมปลิวไสว รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ที่แกะสลักงดงามด้วยลวดลายวิจิตรตระการตาที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ทำให้สาวน้อยมองด้วยความรู้สึกหลงใหลชื่นชมไปชั่วขณะ ตกอยู่ในภวังค์ที่เหมือนมีมนต์ขลังอยู่ชั่วครู่ ทว่าเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู ใบหน้าอ่อนเยาว์แสนหวานก็หันขวับไปมองทางต้นเสียงด้วยความตระหนกตกใจ
“คะ...คุณเป็นใคร!”
ผู้ชายในชุดหนังสีดำ สีผมดำสนิทแต่มีใบหน้าที่ซีดขาวราวกับกระดาษช่างตัดกับริมฝีปากสีแดงสดที่เม้มสนิทจนเป็นเส้นตรงมากเหลือเกิน แต่นั่นไม่ใช่จุดสำคัญที่ทำให้หญิงสาวรู้สึกตื่นกลัว ดวงตาสีเทาเข้มที่ยากจะหยั่งลึกนั่นต่างหากที่เธอกำลังนึกหวั่นไหว หวาดหวั่น มันช่างดูลึกลับและดูเหมือนจะมีพลังบางอย่างแฝงอยู่ พลังนั้นตรึงสายตาของเธอให้มองเขาอย่างมิอาจหลบเลี่ยง
เขาช่างดูอันตรายด้วยรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาเกินมนุษย์มนา กระตุกหัวใจดวงน้อยให้สั่นไหวรัวแรงอยู่ในอก ยิ่งเขาเดินเข้ามาใกล้การหายใจของณิชานันท์ก็ยิ่งติดขัด พลางค่อยๆ กระถดถอยห่างขึ้นไปทางหัวเตียงเรื่อยๆ มองชายหนุ่มด้วยแววตาตื่นๆ ดั่งกวางสาวระแวงภัย
แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ใส่ใจคำถามของเธอเลย เพราะริมฝีปากสีแดงสดยังคงเม้มสนิท ความเงียบงันเริ่มเข้ามาครอบคลุม ลมหนาวจากทางหน้าต่างที่พัดเข้ามาทำให้กายสาวเริ่มสัมผัสกับความหนาวเย็นจนตัวสั่น
“อย่าเข้ามานะ” เมื่อเอ่ยประโยคนี้ออกไป หญิงสาวก็สังเกตเห็นว่าแววตาเย็นชาของเขาดูเปล่งประกายน่ากลัวมากยิ่งขึ้น ริมฝีปากยกสูงนิดๆ คล้ายจะยิ้ม แต่ทว่าณิชานันท์ไม่ชอบรอยยิ้มแบบนี้เลย และเพียงชั่วพริบตาเดียวเขาก็มานั่งชิดติดกับเธอเสียแล้ว
ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง ริมฝีปากเล็กเผยอออกด้วยความตกใจเมื่อปลายนิ้วเย็นเฉียบเชยคางเรียวขึ้นมา ขณะที่ใบหน้าชวนฝันโน้มลงมาใกล้ ใกล้จนริมฝีปากแทบจะชนกัน
ร่างเล็กในชุดนอนบางเบานั่งนิ่งเป็นหุ่น เหมือนถูกสาปให้เป็นอัมพาตไปชั่วขณะ ขยับเขยื้อนไม่ได้ ไม่มีแม้เสียงที่จะหลุดลอดออกมาจากริมฝีปากจิ้มลิ้มสีชมพู จะมีก็แค่เพียงหัวใจดวงน้อยที่เต้นระทึกรัวแรงเมื่อปากสีสดของเขาประกบลงมาครอบครองด้วยความเสน่หาล้ำลึก พาเธอดื่มด่ำกับมนต์เสน่หาแสนหวานที่ไม่เคยพานพบมาก่อนในชีวิตสาว
ยากที่จะปฏิเสธ ยากที่จะต่อต้าน พลังบางอย่างดึงดูดให้สาวน้อยเอนกายเข้าหาอกแกร่งราวกับคุ้นเคยกับอ้อมกอดแข็งแรงของเขามานานแสนนาน ความตื่นกลัวกำลังถูกแทนที่ด้วยความประหม่าหวั่นไหวภายในหัวใจอย่างประหลาด ทั้งที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกแค่ไม่กี่นาที
อ้อมกอดเริ่มรัดแน่น ‘เธอกำลังจะขาดอากาศหายใจ’ ณิชานันท์คิด ร่างเล็กเริ่มดิ้น เกือบจะขาดใจอยู่แล้วเขาจึงได้ถอนริมฝีปากออก
“เจ้าเป็นของเรา เป็นของเราตลอดกาล” เสียงนั้นแทรกเข้ามาในโสตประสาทของหญิงสาว เธอได้ยินประโยคนี้ดังก้องอยู่ในหู มันช่างนุ่มนวลทว่าช่างแสดงถึงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของยิ่งนัก ‘แล้วเธอเป็นของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน’ ยังไม่ทันได้คิดอะไร เขาก็โน้มใบหน้าลงมาจุมพิตเธออีกครั้ง อาการต่อต้านเริ่มน้อยลงเมื่อความรู้สึกวาบหวามบางอย่างที่แผ่ซ่านเข้าไปถึงจิตวิญญาณเริ่มเข้ามาแทนที่ ใยสมองอื้ออึง คิดอะไรไม่ออก กายเล็กสั่นสะท้านทั้งที่อ้อมแขนนั้นแสนจะอบอุ่น เผลอจูบตอบเขาอย่างหลงลืมตน
...เขาเป็นใคร? ...ใจส่วนลึกยังอยากรู้
...เราคือชายที่เจ้ารัก...เสียงนั้นตอบกลับมา เธอแน่ใจว่าได้ยินเขาตอบกลับอย่างชัดเจน ภายในใจเริ่มหวั่นไหว เธอน่ะหรือรักเขา รักตั้งแต่ตอนไหนกัน
...เมื่อนานมาแล้ว...เสียงนุ่มทุ้มตอบกลับมาอีก ทั้งที่ริมฝีปากของเขายังส่งมอบความหวานล้ำ วาบหวามซาบซ่านใจให้กับเธออยู่
...รู้ไหมว่าเราคิดถึงเจ้ามากแค่ไหน...
หัวใจสาวน้อยรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด เมื่อได้ยินเขาบอกว่าคิดถึงเธอ สองแขนเล็กโอบกอดร่างใหญ่ ไม่รู้ว่าตนเองรู้สึกอย่างไร รู้แค่เพียงว่าอยากทำแบบนี้ เหมือนต้องมนตรา รู้สึกปรารถนา อยากแนบชิดมากกว่านี้ ทั้งๆ ที่ยังกลัว ประหม่า สั่นไหว หัวใจเต้นโครมครามแรงมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่อาจควบคุม
เมื่อลืมตามองชายหนุ่มอีกครั้ง เขาก็เปลือยท่อนบนเรียบร้อยแล้ว เปิดเผยกล้ามเนื้อหนุ่มแน่นน่าสัมผัส มือใหญ่ยกขึ้นมาปลดเปลื้องอาภรณ์ของเธอออกอย่างนุมนวล ค่อยๆ เปิดเปลือยหัวไหล่บางขาวผ่อง ร่นผ้านุ่มลงมาถึงเนินทรวงอวบอิ่ม แค่เพียงปลายยอดถันโผล่พ้นชุดนอนสีหวานเท่านั้น ริมฝีปากที่จูบเธอเมื่อครู่ก็ลดต่ำลงเป่าลมหายใจรินรดดอกบัวคู่งามทั้งสองข้างพาให้ใจสั่นหวิว
เขาหยอกเย้าเธอด้วยปลายลิ้นแผ่วพลิ้วราวปีกผีเสื้อบินผ่านบริเวณป้านสีหวานรอบยอดสีชมพู พลางเงยหน้าหล่อเหลาขึ้นมาโปรยรอยยิ้มหวานลึกซึ้งตรึงใจให้กับเธอแว้บหนึ่งก่อนจะก้มลงครอบครองยอดดอกบัวด้วยปากที่เริ่มอุ่นจัดของเขา
“อย่าค่ะ อย่าทำแบบนั้น อย่าทำ...” เสียงหวานขาดๆ หายๆ เมื่อความวาบหวามรัญจวนใจก่อตัวขึ้นที่ปลายยอด แทรกซึมแผ่ซ่านไปทั่วสรรพางค์กายจนสั่นระริกราวกับเหน็บหนาว ใบหน้างดงามสะบัดไปมา เริ่มหอบหายใจกระชั้น เมื่อความรู้สึกพิเศษนั้นเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ถึงกับเปล่งเสียงร้องครางออกมาเบาๆ
“เราปรารถนาเจ้ายิ่งนัก หวานเหลือเกิน” เขาเอ่ยชิดยอดทรวง แทรกจมูกโด่งคมสันดื่มด่ำกับเนินเนื้อนุ่มแสนหวานนั้นอย่างหลงใหล และคลั่งไคล้เสน่หา