EP2.3 ll เป็นเเฟนกันเลยได้ปะ? [3]

1104 Words
เฮ้ยยยยยยย! เขาอ่อยฉันปะวะ!!! เฮ้ยยยยยยยย อ่อยอ่ะ อ่อยชัวร์! ดูหน้าดิ ช้อนตาแบบนี้ ทำท่าอย่างนี้ พูดจาเยี่ยงนี้ ชัดเลย ชัด! หน้าตาติ๋มๆ จิ้มลิ้มนี่ร้ายอ่ะ! เอ๊ะ หรือฉันคิดไปเอง? โอ๊ย สับสน! ฉันนั่งกลอกตาไปมาคิดทบทวนในมันสมองว่าใช่หรือไม่ใช่ ก่อนจะหันไปลองเชิงเขา ความรู้สึกร้อนผ่าวเริ่มตีรวนขึ้นมาจากกลางอกลามไล้มายังใบหน้า เอาวะ! “ถ้าใช้ตะเกียบไม่เป็น งั้นเดี๋ยวเราป้อนให้ไหม?” ฉันยื่นข้อเสนอ เซฟมองฉันนิ่งยังไม่ทันตอบอะไร ฉันก็พูดต่ออย่างจงใจ สาบานเลยว่านี่ไม่ได้จะกวนตีน… “แล้วถ้าจะป้อนนี่ ต้องขอแม่ก่อนด้วยปะ?” “ไม่ต้องหรอก” เขาปฏิเสธพร้อมกระตุกยิ้มอ่อนแบบโคตรพ่อโคตรแม่อ่อย คือชัดมาก คือมันใช่ ผู้ชายอะไรแค่ปั้นหน้ายิ้มนิดๆ ก็ทำให้ฉันสยบได้แล้ว “แต่มีข้อแม้นะ” “ข้อแม้?”ฉันย่นคิ้ว ข้อแม้อะไรอีกวะ นู่นนั่นนี่ พิธีรีตองเยอะจริง เป็นแฟนกันเลยไม่ได้เหรอวะ? บอกชอบแล้วเป็นแฟนกันเลยได้ปะ? ในหนังก็เป็นแบบนี้ ทำไมทีชีวิตจริงมันยุ่งยากจัง! หลินไม่ปลื้ม! “ก็ถ้าเธอชอบเรา แสดงว่าเธออยากอยู่กับเรา” “ก็ใช่” “แต่เราเรียนกันคนละสาขา หาเรื่องเจอกันได้ไม่บ่อยหรอก ยิ่งปีสูงๆ แล้วยิ่งต้องเรียนวิชาเอกของตัวเอง” “นั่นก็ถูก” ฉันพยักหน้าเห็นด้วย แต่รู้สึกถึงรังสีแปลกๆ จากคนตรงหน้า “งั้นเธอเข้าชมรมเรามั้ย จะได้เจอกันบ่อยๆ ไง?” นัยน์ตาหวานใสกะพริบตาปริบๆ สามครั้งดั่งกำลังสะกดจิตให้ฉันพยักหน้ารับอย่างไม่คิด เออ ดี อีผู้หญิงใจง่าย! เขาเสนออะไรก็ไม่ปฏิเสธเลย! กระเหี้ยนกะหือรืออยากได้ผู้ชายคนนี้จนไม่คิดตริตรองอะไรสักอย่าง ถ้าพ่อรู้ พ่อคงภูมิใจมากแน่ๆ “จริงนะ ดีใจจัง” เขาแสดงท่าทีดีใจเหมือนเด็กได้ของเล่น แสงไฟจากด้านบนก็ซูมฉับเข้าที่ใบหน้าหวานๆ เหล่าหมู่มวลดอกไม้ ผึ้งอมรพรพรรณเบิกแย้มแฉล้มอยู่ข้างแก้มใส ออร่าฟรุ้งฟริ้งประปรายอยู่รายรอบตัวร่างสูง ทำเอาฉันกลืนน้ำลายอึก… โอ้โห คุณพ่อขา คนนี้แหละ ว่าที่สามีหนูเลย! จะเอาอ่ะ อยากได้ T^T โอย ใจเย็นไว้ หลิน! มันแค่ภาพลวงตา! นี่มันบ้าชัดๆ ฉันเห็นภาพเขายังกับหลุดออกมาจากการ์ตูนผู้หญิงเลยอ่ะ ยิ้มน่ารักแบบนี้ได้ไงวะ ผิดกฎหมายมากอ่ะ! แจ้งจับได้มั้ย? ก่อนที่หัวใจฉันจะวาย! “ห้ามกลับคำนะ” เขาพูดอีก ฉันก็พยักหน้าอีก เออ แม่งคำพูดหรือประกาศิตวะ ไม่ว่าจะบอกอะไร ฉันก็เซย์เยสไปทุกสิ่งทุกอย่างเลย “ไม่กลับคำหรอก ฉันพูดแล้ว” ฉันพูดเสียงเรียบแต่พยายามตั้งสติ สมาธิ ไม่ให้หลุดออกนอกกาแล็กซี่ ฉันหรี่สายตาพินิจพิจารณามองหน้าเขาก่อนจะเอียงคอสี่สิบห้าองศา ทีเขายังมีข้อแม้ได้ ทำไมฉันจะมีบ้างไม่ได้วะ… “ดูท่านายจะอยากให้เราเข้าชมรมนายมากนะ” “ก็ใช่สิ เราจะเลื่อนสถานะจากกลุ่มนิสิตเป็นชมรมไง แต่ว่าคนไม่พอเลยต้องหาคนเพิ่ม” เขาเอ่ย ต๊าย ผู้ชายรักกิจกรรม นี่แหละ มันใช่ พ่อของลูกฉัน! ถ้าเขาพูดแบบนั้นแสดงว่าฉันเป็นคนสำคัญที่จะช่วยเขาได้ใช่ปะ? “เราก็ได้เปลี่ยนจากกลุ่มนิสิตเป็นชมรม เธอก็ได้อยู่ใกล้เราไง วินวินทั้งคู่” เขาพยายามชักแม่น้ำปิงวังยมน่านมาทำให้ฉันคล้อยตามความคิดของเขา ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าชมรมอะไร แต่แค่มีผู้ชายคนนี้อยู่ นั่นก็ตอบทุกอย่างได้แล้วปะวะว่าฉันจะเข้าหรือไม่เข้า? แต่ฉันว่ามันยังวินได้อีกอ่ะ… แค่นี้มันไม่พออ่ะ อยากได้มากกว่านี้! ฉันไม่ได้อยากอยู่ใกล้เขา เข้าใจปะ? ฉันอยากได้เว้ย! อยากได้เป็นผอ- ออ – ผัว! เป็นสามี หรือเป็นสถานะที่สามารถปรามอีชะนีทุกเผ่าพันธุ์ที่เข้ามาแอ๊วเขาได้อ่ะ! โอ๊ย จะมีแฟนทั้งที ทำไมมันยากนักยากหนาวะ อยากเกิดเป็นสโนไวท์อ่ะ ตื่นมาก็มีผัวเลย ไม่ต้องอ่อย ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น นอนสวยๆ รอคนหล่อมาเจอก็จบปิ๊ง ชีวิตดี๊ดี! “งั้นเรามีข้อแม้ เราจะเข้าชมรมนายก็ได้” ฉันพูดพลางใช้ตะเกียบคีบบะหมี่ในชามของเขาแล้วเอาจ่อที่ริมฝีปากสีอ่อน ก่อนจะกระตุกยิ้มชั่วๆ พร้อมกับนัยน์ตาพราวประกายไปด้วยความเจ้าเล่ห์ “แต่วันนี้นายต้องอยู่กับเราทั้งวัน… ‘ทั้งคืน’ เลยนะ” “ไม่ได้หรอก แม่เราให้กลับบ้านก่อนสองทุ่ม เดี๋ยวเค้าเป็นห่วง” คำตอบที่ดับความฝันฉันทันตาดังขึ้น ใบหน้าร่าเริงยกยิ้มหวานซึ่งต้านทานได้ยากก่อนจะอ้าปากกินบะหมี่เหมือนเด็กๆ “อร่อยเนอะ” แล้วเขาก็เคี้ยวหงับๆ ปล่อยให้ฉันสตั๊นไปครู่นึง สะ สองทุ่ม สองทุ่มเองเหรอ! นายเป็นเด็กดีมากไปมั้ย อายุเท่าไหร่แล้วเนี่ย! คือไง ที่รีบกลับนี่เขากลัวบ้านหายเหรอ ตอบ! “วันเดียวเองน่า… นะ” ฉันอ้อนวอนด้วยสายตาน่ารักน่าชังที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดวงหน้าหวานระบายยิ้มอีกครั้ง “ไม่ดีหรอก ดึกๆ มันอันตราย โจรผู้ร้ายเยอะแยะ โดนฉุดไปทำไงล่ะ?” ไอ้โจรผู้ร้ายที่นายว่ามานี่มันฉันชัดๆ คือถ้าตีหัวจับปล้ำทำผัวแล้วไม่ผิดกฎหมาย นายไม่เหลือซากแล้วอ่ะ บอกเลย แต่ดีใจด้วยนะที่ฉันมีธรรมมะในสันดานบ้างนิดหน่อย เลยยังไม่ทำ… “จะห่วงอะไร เดี๋ยวเราไปส่ง” “เธอจะไปส่งได้ไง มันอันตราย ซอยบ้านเราเปลี่ยว” เขาปัดก่อนจะช้อนสายตาไปที่บะหมี่อีกที รอให้ฉันป้อน แหมๆ ติดใจบะหมี่พี่โป้งล่ะสิ นี่ถ้าอยากกินฟรีตลอดชีวิตก็บอกได้นะ ฉันพร้อม! “เฮ้ย ไม่เป็นไร เราไม่กลัว” ฉันออกตัวพร้อมกับทุบอกตัวเองเบาๆ “เราแข็งแรงนะ โจรผู้ร้ายทำอะไรเราไม่ได้หรอก” “แข็งแรงแค่ไหนก็เป็นผู้หญิงน่า” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแกมเป็นห่วง ทำเอาฉันชะงักไปนิดนึง โอ๊ย เขาเป็นห่วงฉันด้วยอ่ะ น่ารักเป็นบ้าเลยว่ะ ทำไงดี จะเอาคนนี้ๆๆ จะเอาอ่ะ จะอาวววว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD