“เงียบแบบนี้แสดงว่าไม่ งั้นก็เตรียมตัวตกงานได้”
“แต่ว่าหนูพึ่งจะสิบแปดเองนะคะ คุณไม่กลัวโดนข้อหาพรากผู้เยาว์เหรอ?”
ฉันนี่ก็ฉลาดหาทางเอาตัวรอดเก่งเหมือนกันนะ แต่ดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะไม่สนใจคำพูดของฉันแม้แต่น้อย
“สิบแปดงั้นเหรอ? ดีนะฉันชอบ”
อึก!!
ฉันลอบกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่เมื่อเห็นรอยยิ้มร้ายกาจที่ผุดขึ้นมาบนใบหน้าของเขา ก่อนที่จะนึกอะไรบางอย่างออก
“ด เดี๋ยวค่ะ งั้นหนูขอเป็นวันอื่นได้ไหมคะ วันนี้ประจำเดือนหนูมา” ใช่ วันนี้ประจำเดือนฉันมาจริงๆ แต่ดีหน่อยที่ฉันเป็นคนไม่ค่อยปวดท้องสักเท่าไหร่ เลยยังทำงานไหวอยู่ อีกอย่างวันนี้ฉันก็ลาไม่ได้ด้วย เพราะถ้าลาพี่เจนนี่ก็ไม่มีคนช่วยอีก
“อย่ามาโกหก”
พรึ่บ!!
“อ๊ะ ค คุณจะทำอะไรคะ?” จู่ๆคนตรงหน้าก็จับฉันให้นอนราบลงบนเตียงก่อนที่เขาจะตามขึ้นมาคร่อมบนตัวของฉัน
“ก็จะพิสูจน์ไง ว่าประจำเดือนเธอมาจริงไหม บอกไว้ก่อนนะว่าฉันไม่ชอบคนโกหก” ว่าจบเขาก็เลื่อนมือข้างนึงลงไปสัมผัสกับจุดสงวนของฉัน ดีนะที่เขาแค่สัมผัสด้านนอก ไม่ล้วงเข้ามาด้านใน
“บอกแล้วไงคะ ว่าประจำเดือนหนูมาจริงๆ ถ้าคุณไม่เชื่อ ให้หนูถอดให้คุณดูไหม”
“กล้าเหรอ?” นี่เขาโรคจิตหรือเปล่าเนี่ย ฉันแค่พูดไปงั้นๆเองนะ ใครจะกล้ามาถอดให้คนที่ไม่รู้จักดูกันเล่า
“ถ้าคุณไม่รังเกียจเลือดสีแดงสดๆของหนู ก็ได้นะคะ” เอาวะ พูดให้มันเห็นภาพกันไปเลย ดูซิว่ายังจะอยากดูอยู่ไหม
“หึ เธอนี่ไม่เบาเหมือนกันนะ แต่ฉันไม่ชอบอะไรที่มันสกปรกๆ” เยส ได้ผลเว้ย แกนี่ก็ฉลาดดีเหมือนกันนะยัยอลิซ ฉันแอบหัวเราะในใจ เพราะว่าการกระทำบ้าบิ่นของฉันมันได้ผลจริงๆ เพราะตอนนี้เขายอมปล่อยฉันให้เป็นอริสระแล้ว
“งั้นหนูออกไปได้แล้วใช่ไหมคะ?”
“ยัง” อะไรของเขาอีกวะเนี่ย อยากจะบ้าตายจริงๆ
“คืนนี้อยู่ดื่มเป็นเพื่อนฉันก่อน ฉันไม่ชอบดื่มเหล้าคนเดียว”
“แต่ว่าหนูต้องรีบกลับบ้านค่ะ ยายหนูป่วย หนูไม่อยากทิ้งยายไว้คนเดียว” ลิมิตของฉันคืนนี้คือไม่เกินตีหนึ่ง แต่ตอนนี้มันจะตีหนึ่งแล้วไง ฉันไม่อยากให้ยายต้องนอนคนเดียวตามลำพัง
คนตรงหน้าหรี่ตามองฉันอย่างจับผิด นี่คงไม่ได้คิดว่าฉันโกหกอีกหรอกนะ
“หนูพูดจริงๆนะคะ ไว้เดี๋ยวหนูจะดื่มเป็นเพื่อนคุณวันอื่น แล้วก็จะยอมถวายตัวให้คุณด้วย ดีไหมคะ” ซึ่งไม่น่าจะมีวันนั้นแน่นอน เพราะยังไงฉันกับเขาคงไม่ได้เจอกันอีก
อีกอย่างต่อให้เขาตามหาฉันก็ไม่มีทางเจอแน่นอน เพราะชื่อที่ฉันบอกเขาไปไม่ใช่ชื่อฉันจริงๆสักหน่อย หึ
“งั้นเอาโทรศัพท์เธอมา”
“จะเอาไปทำไมคะ?”
“บอกให้เอามาก็เอามาไง”
“ถ้าหนูยอมให้ คุณจะยอมให้หนูออกจากห้องนี้ใช่ไหมคะ?”
“เธอนี่ถามมากนะ อยากกลับไหมบ้าน” สิ้นเสียงคนตรงหน้า ฉันก็รีบยื่นโทรศัพท์ให้เขาทันที เอาวะดีกว่าอยู่ในห้องนี้กับเขาก็แล้วกัน
ครืด!! ครืด!! ครืด!!!
แล้วจู่ๆโทรศัพท์ในมือของเขาก็สั่นขึ้นมา คนตรงหน้าชูมันขึ้นพร้อมกับเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“เวลาที่ฉันโทรหา เธอต้องมาทันที แล้วก็นี่เบอร์ฉันเมมไว้ด้วย” ไม่อยากเมม ไม่อยากเจอหน้าอีก ฉันได้แต่พูดมันในใจ แต่ความเป็นจริงก็คือยอมรับโทรศัพท์ของตัวเองกลับมา แล้วพิมพ์ชื่อคนตรงหน้าลงไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ว่าแต่เขาชื่ออะไรทายทายนะ
“คุณชื่ออะไรนะคะ?”
“เพทาย ฉันชื่อ เพ ทาย” เขาตอบฉันกลับมาด้วยน้ำเสียงดุดัน พร้อมกับพูดย้ำชื่อตัวเองช้าๆ ชัดๆ ฉันก็พิมพ์ตามที่เขาบอกก่อนจะยื่นโทรศัพท์ไปให้คนตรงหน้าดู
“โอเคค่ะ หนูเมมเบอร์คุณแล้วเรียบร้อย ทีนี้คุณจะปล่อยหนูไปได้หรือยังคะ?”
“เชิญ ปิดประตูห้องให้ฉันด้วย” ฉันพยักหน้ารับโดยทันที ก่อนจะรีบพาตัวเองลงจากเตียง แล้วเดินออกจากห้องนี้มา โดยไม่ลืมหันไปปิดประตูตามที่เขาบอก
“ฟู่ นึกว่าจะไม่รอดแล้วยัยอลิซ” ฉันพ่นลมหายใจออกมาอย่างรู้สึกโล่งอก ก่อนจะรีบเดินกลับไปหาพี่เจนนี่ตรงเคาน์เตอร์บาร์ทันที
สาธุสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งปวงได้โปรดช่วยลูกช้างไม่ให้ต้องพบเจอกับผู้ชายคนนี้อีกนะเจ้าคะ
ตลอดทางที่เดินฉันก็ยกมือขึ้นไหว้พร้อมกับนึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นาทีคือต้องพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วแหละฉัน เฮ้อ…..