ตอนที่ 4 พระเอกของนิยาย

1525 Words
ปึก! หมอหญิงเดินออกมาจากห้องของคนป่วย เกือบครึ่งชั่วยาม (1 ชั่วโมง) ที่นางเข้าไปดูอาการของหม่าซื่อเมี่ยว ด้านนอกยามนี้มีชายหนุ่มในชุดสีขาวฟ้าไล่ระดับเพิ่มเข้ามาอีกคน “คารวะคุณชายสือเจ้าค่ะ” หญิงสูงวัยประสานมือทำความเคารพชายหนุ่มตรงหน้า “นางเป็นอย่างไรบ้าง” เขาเอ่ยถาม “ร่างกายกลับมาเป็นปกติแล้วเจ้าค่ะ ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องคนตายแล้วฟื้นได้มาก่อน เรื่องนี้เกินกว่าความสามารถของหมออย่างข้ามากเจ้าค่ะคุณชาย” หมอหญิงโค้งศีรษะให้ชายผู้มีฐานนันดรสูงกว่าก่อนจะขอตัวเดินออกไป “เรื่องที่ซือเมี่ยวคืนชีพเจ้าจงไปแจ้งข่าวให้ผู้อาวุโสทราบ” หลังจากบ่าวตัวน้อยเดินออกไปพร้อมกับหมอหญิง สือเฟิงเหมียนก็ออกคำสั่งทันที “หากทำเช่นนั้นคนที่ไม่หวังดีต่อนายหญิงอาจจะกลับมาทำร้ายนางได้อีกนะขอรับ” ว่านวั่งซูแย้งอย่างไม่เห็นด้วย “นั่นคือสิ่งที่ข้าต้องการ ข้าจะให้คนของข้าซุ่มดูไว้ ครั้งนี้ข้าจะต้องจับตัวคนที่ทำร้ายนางให้ได้” เพราะคนร้ายจะต้องลงมือซ้ำอีกครั้งเป็นแน่ “เข้าใจแล้วขอรับคุณชาย” แม้ไม่เห็นด้วยกับการปล่อยให้เจ้านายที่ตนต้องปกป้องตกอยู่ในอันตราย แต่ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาจะไม่ทำตามคำสั่งของนายเหนือหัวที่แท้จริงคงไม่ได้ ว่านวั่งซูรับคำก่อนแยกตัวออกมา ผู้คนต่างรู้ว่าเทพพยากรณ์แสนลึกลับนางนี้มีสัมพันธ์เช่นไรกับคุณชายสือเฟิงเหมียน บุตรชายคนเดียวของเจ้าสำนักเถียนเจี๋ยไฉ่แห่งแคว้นเจียง หลายต่อหลายครั้งที่เห็นชายหนุ่มออกจากห้องของเทพพยากรณ์ในยามเช้าตรู่ แม้รู้อยู่เต็มอกว่านั่นหาใช่สิ่งที่บุรุษควรกระทำต่อสตรีที่ยังไม่แต่งงานแต่ด้วยฐานะที่เป็นเพียงคนในสังกัดของตระกูลสือ เขาจึงไม่สามารถเอ่ยคำห้ามปรามได้ ทุกครั้งที่คนทั้งสองพบเจอกันล้วนอยู่ในสายตาของว่านวั่งซูทั้งสิ้น ในอกเต็มไปด้วยความยินดีที่ซือเมี่ยวมีรอยยิ้มอีกครั้งทว่าลึกลงในใจเขากลับเจ็บปวดเพราะตนไม่สามารถเป็นคนทำให้นางยิ้มได้คนนั้น ผู้มาเยือนเปิดประตูหอนอนของเทพสาวเข้าไป เขาเดินตรงไปที่เตียงกว้างก่อนจะเห็นว่านางเข้าสู่ห้วงนิทราไปก่อนเสียแล้ว มือหนาเอื้อมไปลูบศีรษะของคนตัวเล็กก่อนจะดึงเอาผ้าคลุมบางที่เก็บซ่อนใบหน้าหวานสวยเอาไว้ออก ลมหายใจสม่ำเสมอของอีกฝ่ายทำให้เขาโล่งอกไปด้วย ค่ำคืนที่ผ่านมาหลังจากทราบข่าวว่านางตายจากไปโดยไม่ทันได้ล่ำลากัน ทำให้เขากินไม่ได้นอนไม่หลับจนคิดว่าเรื่องที่บ่าวรับใช้มาแจ้งเป็นเพียงเรื่องเท็จจนมาพบร่างบางนุ่มหอมซึ่งมีเพียงความเย็นจับขั้วหัวใจ “ได้โปรดอย่าเป็นอะไรไปอีกเลย” ริมฝีปากหนาประทับลงบนฝ่ามือนุ่มของหม่าซือเมี่ยว “ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าเป็นอะไรไปอีก” คำมั่นนี้ให้ไว้กับหญิงสาวคนสำคัญที่ตนตั้งใจมาตลอดว่าจะปกป้องนางอย่างสุดความสามารถ ฟ้าประทานนางกลับคืนให้เขาอีกครั้งอาจเป็นความเวทนาสุดท้ายที่มีให้คนอ่อนด้อยเช่นเขา หลังจากนี้จะปกป้องนางให้ได้ต่อให้ต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม กลิ่นเครื่องหอมดึงเอาสติของหญิงสาวให้ตื่นขึ้น เปลือกตาปิดสนิทค่อยๆ เปิดออก ก่อนที่จะหลับไปถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นช่วงบ่ายแก่ ยามนี้รอบด้านมืดสนิทมีเพียงแสงไฟจากเทียนเล่มเล็กให้ความสว่าง หากดูจากบรรยากาศโดยรอบเห็นทีอันฉียังคงอยู่ในร่างของหม่าซือเมี่ยว แต่เมื่อจับที่ใบหน้าก็พบว่าผ้าคลุมของนางหายไปแล้ว “ข้าทำเจ้าตื่นงั้นหรือ” เสียงหนึ่งเรียกขึ้น เมื่อมองตามก็พบกับต้นตอของกลิ่นหอมชวนฝันซึ่งออกมาจากกระถางธูปในมือเขา เรื่องนั้นคงไม่ทำให้นางตกใจมากไปกว่าชายหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามาหา การวางน้ำหนักเท้าของอีกฝ่ายบางเบามั่นคงและสมดุลเกินกว่าจะเป็นคนหนุ่ม อันฉีที่ผูกพันกับการจับดาบรับรู้ได้ถึงฝีมือไม่ธรรมดาของเขาจนเมื่อเข้าใกล้แสงเทียนใบหน้าของชายผู้นั้นก็เผยตัวออกมาให้เห็น “คุณชายสือ” ต่อให้ไม่มีป้ายชื่อแนะนำตัวหญิงสาวก็รู้ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่สบตาว่าเขาคือใคร เจ้าของอาภรณ์สีฟ้าอ่อนของท้องนภาในช่วงปลายฤดูหนาวที่กว้างใหญ่ไร้เมฆฝนอันเป็นสัญลักษณ์ของการสิ้นสุดความหนาวเหน็บและจุดเริ่มต้นของความอุดมสมบูรณ์ ใบหน้าหล่อเหลายิ่งกว่าบุรุษผู้ใด จมูกโด่งเป็นสันรับกับคิ้วที่เรียงเป็นเส้นตรงยาว ดวงตาสะท้อนภาพตรงหน้าคล้ายกระจกเงาเพียงแค่จ้องมองก็รู้สึกดั่งต้องมนต์สะกด ริมฝีปากหนามีรอยยิ้มปรากฏอยู่เสมอของเขาไม่ต่างกับที่นิยายเคยบรรยายเอาไว้ สมแล้วกับฉายา ‘พระเอกในฝัน’ คำว่างดงามราวภาพวาดเป็นแบบนี้นี่เอง เขาก็คือ ‘สือเฟิงเหมียน’ พระเอกของนิยายเรื่องลิขิตชะตาเทพพยากรณ์ “หากข้าถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าพอจะบอกข้าทีได้หรือไม่ คงดีถ้าเจ้ารู้ว่าใครเป็นคนทำ ทั้งข้าและวั่งซูเห็นตรงกันว่าเจ้าไม่มีทางป่วยจนสิ้นใจแบบที่ใครพูด” ร่างสูงนั่งลงบนเตียงนุ่มอย่างไม่เคอะเขินทั้งที่มันเป็นห้องนอนของสตรี ยิ่งไปกว่านั้นคือพวกเขาอยู่ด้วยกันตามลำพังโดยปราศจากคนกลางหรือบ่าวรับใช้ เท่าที่อ่านมาความสัมพันธ์ของคนทั้งสองคลุมเครือจนยากจะคาดเดาว่าพวกเขาไปถึงขั้นไหนกันแล้ว นักเขียนเองก็ไม่ได้เฉลยเอาไว้แต่บรรยายย้ำถึงความใกล้ชิดเกินงามของคนทั้งคู่จนทำให้นักอ่านฟินจิกหมอนกันเป็นแถบ อย่างไรเสียพระเอกก็ต้องคู่กับนางเอกอยู่วันยังค่ำ “คุณชาย…ที่จริงข้าจำไม่ได้ว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น รู้ตัวอีกทีก็ตื่นมาในโลงศพเสียแล้ว” หญิงสาวตอบไปตามตรง มันคงดูไม่แปลกหากนางไม่ได้สติตั้งแต่ตอนที่เสียชีวิต ขนาดอันฉียามมาอาศัยร่างนี้ยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้ “งั้นหรือ หลังจากนี้ข้าจะให้หมอเข้ามาดูอาการเจ้าทุกวันและเพิ่มทหารคุ้มกันด้านนอก เพียงแต่กันไว้เท่าใดก็ไม่สามารถทำให้ข้าอุ่นใจได้เลย” ร่างสูงขยับเข้ามาใกล้ก่อนจะดึงเอาร่างเล็กเข้ามาแนบไว้ในอก “คุณชาย คะ คือข้า” หญิงสาวร้อนไปทั้งหน้า ชีวิตตลอด 18 ปีที่ผ่านมาไม่เคยได้ใกล้ชิดเพศตรงข้ามแบบนี้มาก่อน ยิ่งอีกฝ่ายเป็นชายในอุดมคติของผู้หญิงทั่วโลกยิ่งแล้วใหญ่… “พูดมาสิซือเมี่ยว ข้าชอบฟังเจ้าพูด” น้ำเสียงทุ้มนุ่มกังวานข้างหู ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดข้างลำคอขาวก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะประทับลงมาบนผิวนุ่มโดยไม่ให้นางได้ตั้งตัว สองแขนเล็กพยายามดันอกแกร่งให้ออกห่างแต่ก็ไม่สามารถสร้างความสั่นไหวให้เขาได้เลย ‘ร่างกายของเจ้านี่มันอะไรเนี่ยซือเมี่ยว!!’ อันฉีลนลานมากขึ้นไปอีกหลังจากพบว่าแขนขาผอมแห้งแบบนี้ไม่มีปัญญาจะป้องกันตัวจากชายตรงหน้า สายรัดชุดตัวบางถูกเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาปลดออก มืออีกข้างที่เว้นว่างก็ไม่วายดึงแขนเสื้อที่ปิดผิวขาวผ่องของเทพพยากรณ์สาวลงต่ำ “คุณชายขอรับ!!!” คนด้านนอกตะโกนเรียกด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก “คุณชาย แย่แล้วขอรับ หอคัมภีร์ของเถียนเจี๋ยไฉ่กำลังถูกโจมตี!!!” เมื่อถูกเรียกซ้ำเฟิงเหมียนจำต้องปล่อยคนตัวเล็กให้เป็นอิสระ “เดี๋ยวข้ากลับมานะซือเมี่ยว” เขาพูดพลางกระชับเสื้ออันหลุดลุ่ยของนางให้เข้าที่และเดินออกจากห้องไปทิ้งหญิงสาวที่ยังคงขวัญเสียไม่หายกับสัมผัสร้อนรุ่มซึ่งไม่จางไปจากผิวกายขาวละเอียด เขาอาจเป็นชายที่หล่อเหลาและเป็นพระเอกขวัญใจใครหลายคน แต่หนึ่งในกลุ่มแฟนคลับนั้นมิได้มีหวังอันฉีอยู่ด้วย ภูมิคุ้มกันเรื่องผู้ชายของนางยังอ่อนด้อยเกินกว่าจะรับมือเขาได้ทัน ไม่อยากจะคิดว่าถ้าไม่มีเหตุการณ์บุกโจมตีเมื่อครู่จะเกิดอะไรขึ้น ‘ซือเมี่ยวที่ผ่านมาเธอรอดมือคนพวกนี้มาได้ยังไงเนี่ย! คนในก็จ้องจะฆ่า คนนอกก็อยากได้ตัว ซ้ำพระเอกยังจ้องจะจับกินอีก!!’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD