นิลลา....
"หนูหิวมั้ย อ่ะนี่จ๊ะฉันซื้อขนมกับนมมาฝาก" ผู้หญิงคนนี้ยื่นถุงขนมมาให้ฉันแต่ฉันไม่กล้ารับเพราะเราไม่รู้จักกัน
"เอ่อคุณเป็นใครเหรอคะทำไมถึงซื้อขนมมาให้หนู"
"พอดีว่าฉันมาเยี่ยมญาติน่ะแล้วฉันก็สังเกตเห็นหนูนั่งเฝ้ายายมาตั้งแต่ตอนเย็นจนถึงตอนนี้ฉันไม่เห็นหนูกินอะไรเลยฉันคิดว่าหนูน่าจะหิวก็เลยเดินออกไปซื้อขนมกับนมมาให้หนูน่ะ รับไปสิจ๊ะ"
"ขอบคุณนะคะแต่หนูอิ่มน้ำแล้วค่ะ" ฉันรู้สึกเกรงใจก็เลยไม่กล้ารับ
"รับไปเถอะ หนูรู้มั้ยว่าฉันถูกชะตากับหนูมากเลยนะ"
"ขอบคุณค่ะ" ฉันยกมือขอบคุณผู้หญิงใจดีตรงหน้าก่อนจะถามชื่อของเธอ
"คุณชื่ออะไรคะ"
"ฉันชื่อมาลีจ๊ะเรียกว่าน้ามาลีก็ได้นะ^^"
"ขอบคุณนะคะคุณน้ามาลี"
"ไม่ต้องเรียกคุณก็ได้นะเรียกน้ามาลีเฉยๆก็พอ^^"
"ค่ะน้ามาลี"
และนั่นคือครั้งแรกที่ฉันได้เจอกับคุณน้ามาลี ใช่ค่ะผู้หญิงใจดีคนนี้เธอชื่อว่าคุณมาลี คุณน้ามาลีใจดีกับฉันมากไม่เพียงเท่านั้นเธอยังช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนเกินต่างๆของยายอีก หลังจากจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายทุกอย่างคุณน้ามาลีก็อาสามาส่งฉันกับยายที่บ้าน
"นี่บ้านที่นิลอยู่กับยายเหรอจ๊ะ"
"ค่ะ"
"นิลกับยายคงจะอยู่กันอย่างลำบากมากเลยสินะเนี่ย" คุณมาลีมองรอบๆบ้านแล้วหันมาพูดกับฉันด้วยสายตาอ่อนโยน
"ค่ะแต่นิลชินแล้วค่ะ"
"นิลอยากมีบ้านสวยๆให้ยายอยู่มั้ย"
"อยากค่ะแต่มันคงเป็นไปไม่ได้" ฉันรู้ว่าตัวเองคงไม่มีปัญญาหาบ้านดีๆสวยๆให้ยายอยู่ได้เพราะฉันเป็นแค่เด็กมอสามที่ยังเรียนไม่จบแต่ถึงจะเรียนจบแล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะไปหางานทำที่ไหนเพราะจบแค่มอสามเท่านั้นอย่างมากก็คงไปเป็นลูกจ้างร้านอาหารหรือไม่ก็อาจจะต้องไปทำงานก่อสร้าง แม้ว่าฉันอยากเรียนให้สูงกว่านี้แต่ฉันก็ทำไม่ได้เพราะฉันต้องหางานทำเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูยายที่ตอนนี้คุณหมอสั่งห้ามไม่ให้ยายทำงานหนักอีก ทางเดียวที่ฉันทำได้ก็คือต้องหางานทำหาเงิน
"ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ล่ะน้าจะช่วยนิลเองนะ^^"
"หมายความว่ายังไงคะน้ามาลีจะให้งานนิลทำเหรอคะขอบคุณมากๆเลยนะคะ^^" ฉันรีบยกมือไหว้น้ามาลีเพราะคิดว่าเธอจะหางานทำให้ฉัน
"ใครบอกล่ะจ๊ะน้าไม่ยอมให้หลานสาวของน้าทำงานหรอกน้าจะพานิลกับยายไปอยู่กับน้าที่กรุงเทพ"
"ไปอยู่กรุงเทพเหรอคะ??"
"ใช่จ๊ะไปอยู่บ้านน้าน้าจะส่งเสียนิลเรียนเองส่วนยายนิลก็ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะที่บ้านของน้ามีแม่บ้านหลายคนน้าจะให้พวกเขาช่วยดูแลยายตอนที่นิลไปเรียน"
"ทำไมน้ามาลีดีกับนิลกับยายขนาดนี้คะทั้งๆที่เราเพิ่งรู้จักได้ไม่กี่วันเอง"
"น้าบอกแล้วไงจ๊ะว่าน้าถูกชะตากับนิลตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ นิลรู้มั้ยว่าน้าเอ็นดูนิลมากเห็นนิลทีไรน้าก็คิดถึงลูกสาวของน้าทุกครั้ง"
"แล้วตอนนี้ลูกสาวน้ามาลีอยู่ไหนเหรอคะ"
"ลูกสาวน้า..เสียแล้วจ๊ะเสียตั้งแต่แกยังไม่ทันได้ลืมตาดูโลกถ้าแกยังมีชีวิตอยู่แกก็คงอายุเท่านิลนี่แล่ะ" น้ามาลีพูดด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย
"นิลขอโทษนะคะที่ถามคือนิลไม่รู้จริง" ฉันรีบยกมือขอโทษเมื่อถามถึงลูกสาวของน้ามาลี
"ไม่เป็นไรจ้ะน้าทำใจได้แล้วแต่พอเห็นหน้านิลน้าก็อดคิดถึงลูกสาวตัวเองไม่ได้ ตกลงนิลไปอยู่กับน้าที่กรุงเทพนะ น้าจะดูแลนิลอย่างดีเลยยายด้วย^^"
"เรื่องนี้นิลคงต้องถามยายก่อนนะคะนิลคงตัดสินใจเองไม่ได้ค่ะ"
"ได้จ๊ะถ้าอย่างงั้นน้ากลับก่อนนะไว้พรุ่งนี้น้าจะมาฟังคำตอบ^^"
"ค่ะ"
"อ่ะนี่อาหารทะเลน้าให้คนขับรถไปซื้อมานิลเอาไว้กินกับยายนะ" น้ามาลียื่นถุงอาหารทะเลมาให้ฉันซึ่งมันเยอะมากและแต่ละอย่างก็คือแพงๆทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นปลาปูกุ้งหอยอยากจะบอกว่าตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยกินของแพงๆพวกนี้เลย
"ขอบคุณอีกครั้งนะคะ" ฉันยกมือไหว้น้ามาลีอีกครั้ง
หลังจากที่น้ามาลีเธอกลับไปแล้วฉันก็ขึ้นไปดูยายที่นอนหลับอยู่ข้างบนบ้านยายคงจะเพลียมากเพราะนั่งรถนาน ฉันมองหน้ายายแล้วก็นั่งคิดว่าจะทำยังไงดีใจนึงก็อยากไปอยู่กับน้ามาลีเพราะเธอบอกว่าจะส่งเสียฉันให้ได้เรียนหนังสือแล้วก็จะดูแลยายให้ด้วยแต่ใจนึงก็กลัวเพราะเราเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน ฉันลังเลใจมากแต่เวลาหลายวันที่ฉันเฝ้ายายอยู่ที่โรงพยาบาลน้ามาลีก็คอยมาดูแลช่วยเหลือทุกอย่างแม้ว่าญาติของเธอจะออกจากโรงพยาบาลไปหลายวันแล้วก็ตาม
วันต่อมา...
หลังจากที่หยุดเรียนไปหลายวันเพราะต้องไปดูแลยายที่โรงพยาบาลฉันก็กลับมาเรียนตามปกติพอเดินเข้ามาถึงในโรงเรียนก็เห็นว่ามีการจัดงานอะไรสักอย่าง
"โรงเรียนจัดงานอะไรเหรอ" ฉันถามเพื่อนร่วมชั้น
"วันนี้มีผู้ใหญ่ใจดีจะมามอบทุนการศึกษาแล้วก็เลี้ยงอาหารกลางวันพวกเราน่ะสิ"
"เหรอดีจังเลยนะ"
"ใช่เห็นว่ามาจากกรุงเทพด้วยนะสวยแล้วก็รวยมากด้วยเพราะให้ทุนเด็กนักเรียนทุกคนเลย"
"จริงเหรอดีจัง"
"เธอโชคดีมากเลยนะที่กลับมาเรียนวันนี้ทันไม่อย่างงั้นอดกินของอร่อยแน่ๆ"
"อื้มมม"
ตอนนี้นักเรียนทุกคนกำลังยืนเข้าแถวหน้าเสาธงแล้วคุณครูก็ได้แจ้งเกี่ยวกับเรื่องนี้ซึ่งผู้ใหญ่ใจดีที่จะมามอบทุนการศึกษากับเลี้ยงอาหารกลางวันก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นน้ามาลีนั่นเอง เธอไม่ได้ใจดีแค่กับฉันกับยายแต่เธอยังใจดีและใจบุญกับทุกๆคนอีกด้วย ฉันดีใจที่ได้เจอคนดีๆอย่างน้ามาลี และนี่อาจจะเป็นความโชคดีเพียงเรื่องเดียวในชีวิตของฉันที่ได้เจอน้ามาลี
หลังเลิกเรียนฉันรีบกลับมาบ้านเพื่อหากับข้าวให้ยายกินแต่พอมาถึงก็เจอรถของน้ามาลีจอดอยู่ พอเดินขึ้นมาบนบ้านก็เห็นน้ามาลีกับยายของฉันพูดคุยกันอยู่
"มาแล้วเหรอนิลมานั่งนี่ลูก" ยายกวักมือเรียกฉันให้ไปนั่งใกล้ๆ
"คุณมาลีเธอมาคุยกับยายเรื่องจะให้นิลไปอยู่ด้วยที่กรุงเทพ"
"ยายอย่าเรียกมาลีว่าคุณสิคะเรียกมาลีเฉยๆก็พอ"
"ไม่ได้หรอกจ๊ะยายเกรงใจ"
"จะมาเกรงใจอะไรล่ะคะอีกหน่อยเราก็ต้องไปอยู่ด้วยกันแล้ว นิลจ๊ะน้าคุยกับยายดาวแล้วนะยายยอมไปอยู่กรุงเทพแล้ว^^"
"จริงเหรอจ๊ะยาย" ฉันหันมาถามยาย
"ใช่ลูกยายอยากให้นิลมีอนาคตที่ดีได้อยู่ดีกินดีได้เรียนหนังสือสูงๆเหมือนที่นิลฝันเอาไว้แล้วอีกอย่างคุณมาลีท่านก็เป็นคนดี"
และนั่นคือจุดพลิกผันในชีวิตของฉัน
หลังจากที่ฉันเรียนจบมอสามน้ามาลีก็ให้คนขับรถมารับฉันกับยายเข้ากรุงเทพเพื่อมาอยู่กับเธอ ฉันทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้มากรุงเทพ
"ตื่นเต้นเหรอลูกมือมีแต่เหงื่อเต็มเลย" ยายถามฉันเพราะฉันกุมมือยายไว้ตลอดเวลา
"จ๊ะตื่นเต้นมากเลย ยายจ๋าเราจะไม่ต้องลำบากกันอีกแล้วนะ"
"อื้มมม คุณมาลีเธอใจดีมากๆเลยนะ นิลต้องทดแทนบุญคุณของเธอนะลูก"
"ค่ะนิลจะไม่ลืมเลย"
และเมื่อรถแล่นเข้ามาในรั้วบ้านหลังใหญ่ฉันยิ่งรู้สึกตื่นเต้นและคอยมองไปรอบๆ
"คุณลุงคะนี่บ้านน้ามาลีเหรอคะ" ฉันถามคุณลุงคนขับรถ
"ใช่"
"สวยมากเลยค่ะเกิดมานิลไม่เคยเห็นบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลย"
"บ้านหลังใหญ่ตรงหน้าที่เห็นเป็นบ้านของคุณท่านกับคุณผู้หญิงแม่คุณมาลีส่วนบ้านของคุณมาลีอยู่อีกหลังข้างใน"
"ค่ะ" ฉันพยักหน้ารับทราบจากนั้นรถก็แล่นเข้ามาด้านหลังซึ่งมีบ้านอีกหลังตั้งอยู่ภายในรั้วบ้านเดียวกันแม้จะไม่ได้ใหญ่โตเท่าบ้านหลังแรกที่รถขับผ่านมาแต่มันก็ใหญ่อยู่ดีสำหรับเด็กบ้านนอกอย่างฉัน
"ยินดีต้อนรับนะจ๊ะ^^" พอฉันกับยายลงจากรถน้ามาลีก็เดินมาต้อนรับแล้วพาฉันกับยายเข้าในตัวบ้านโดยมีคุณลุงคนขับรถคอยถือกระเป๋าเดินตามเข้ามาตอนแรกฉันจะถือเข้ามาเองเพราะเกรงใจแต่น้ามาลีบอกไม่ต้องเพราะฉันมีฐานะเป็นหลานสาวของเธอ
"นี่ห้องของนิลนะส่วนห้องของยายอยู่อีกห้องนึง"
"อันที่จริงให้นิลกับยายนอนห้องเดียวกันก็ได้นะคะไม่ต้องแยกห้องก็ได้ค่ะ" ฉันบอกด้วยความเกรงใจ
"ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะบ้านหลังนี้มีหลายห้องนิลจะได้มีห้องนอนส่วนตัวยังไงล่ะส่วนยายก็จะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ นิลอย่าลืมนะว่าคุณหมอบอกให้ยายนอนพักผ่อนเยอะๆถ้านิลอยู่ห้องเดียวกับยายแล้วนิลเดินเข้าเดินออกยายก็ไม่ต้องนอนพอดี" เหตุผลของน้ามาลีทำให้ฉันเข้าใจได้
"ยายขอบใจคุณมากนะที่ใจดีกับเราสองคนยายหลาน"
"ไม่เป็นไรค่ะยายก็อย่างที่มาลีบอกว่ามาลีเอ็นดูนิลเหมือนลูกแท้ๆ^^"
"นิลไม่รู้จะตอบแทนบุญคุณน้ามาลียังไงดีที่ใจดีกับนิลกับยายถ้ามีอะไรให้นิลทำก็บอกนิลได้เลยนะคะ"
"ขอบใจนะจ๊ะตอนนี้ยังไม่มีอะไรหรอกแต่ต่อไปในอนาคตมีแน่นอนจ๊ะ^^"
ในวันนั้นฉันไม่เข้าใจคำพูดนี้ของน้ามาลีจนกระทั่ง....