Chapter 5 แผนรวบหัวรวบหาง (1)

2050 Words
Chapter 5 แผนรวบหัวรวบหาง (1) ไอรดาส่ายศีรษะไปมาอย่างช้า ๆ ด้วยความมึนงง หลังจากที่เริ่มรู้สึกตัว เหลือบตาดูนาฬิกาที่ฝาผนังก็พบว่าเวลาล่วงเลยไปจนสายมากแล้ว ซึ่งผิดจากวิสัยที่หล่อนเคยเป็น ด้วยที่ผ่านมามักจะตื่นแต่เช้าอยู่เป็นประจำ หล่อนชอบที่จะไปสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าบริเวณท้ายฟาร์ม เพราะมีทุ่งหญ้าเขียวขจีและลำธารใสสะอาดสายเล็ก ๆ ไหลผ่าน ฤทธิ์กระแช่ทำเอามึนไม่น้อย หญิงสาวคิดพลางซุกหน้าลงกับหมอนอ่อนนุ่ม ไม่มีอารมณ์ที่จะลุกขึ้นมาประกอบกิจใด ๆ มือคว้าผ้าห่มผืนหนามาคลุมกายอีกครั้ง เมื่อรู้สึกว่าศีรษะหนักอึ้งจนอยากที่จะนอนพักต่อ ความทรงจำเมื่อคืนเริ่มวิ่งเข้าสู่หัวสมองอีกครั้ง ก่อนจะมาหยุดนิ่งเมื่อตอนที่หล่อนล้มลงบนพื้นหน้าบ้าน ‘เอ...ล้มลง แล้วเรามาที่ห้องได้ยังไงนะ’ หญิงสาวครุ่นคิด ขณะที่หนังตาก็ยังลืมไม่ขึ้น คิ้วเรียวเริ่มขมวดเข้าหากันจนยุ่ง ด้วยคิดไม่ออกว่าหล่อนมานอนในห้องได้อย่างไร ‘บ้าจริง เราแพ้หรอกเหรอ!’ แทบจะลุกพรวดขึ้นในทันใด ถ้าไม่ติดว่าศีรษะกำลังหนักอึ้ง เมื่อคิดว่าตนจะต้องได้ไปทำในสิ่งที่ประกาศท้าทายเอาไว้ ป่านนี้เขาคงนอนหัวเราะ และกำลังรอคอยให้หล่อนไปทำอย่างที่ปากพูดแน่นอน “คงกลับไปแล้วมั้ง สายขนาดนี้” หญิงสาวพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ขณะคว่ำหน้าลงกับหมอนอ่อนนุ่ม เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าภัทรพลต้องไปทำงานแต่เช้ามืด คนที่หล่อนกำลังนึกถึงอาจจะกลับไปพร้อมกันแล้วก็เป็นได้ ไอรดานอนพลิกไปพลิกมาอยู่ไม่นาน จึงตัดสินใจที่จะลุกไปเข้าห้องน้ำ เนื่องจากรู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมาอีกครั้ง เพียงผ้าห่มคลุมกายเลื่อนหลุด ชุดนอนที่แปลกตาไปจากเดิม ทำให้ใจหายวาบไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที “ตายแล้ว!” ใครเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอ หญิงสาวเฝ้าถามตัวเองพลางยกมือขึ้นทาบอกด้วยความตกใจ “หยะ..อย่าบอกนะ!” ไอรดาต้องเบิกตากว้าง เมื่อความทรงจำน่าอายเมื่อคืนเริ่มกลับคืนมา จำได้ลาง ๆ ว่าเขาอุ้มหล่อนมาส่งนี่นะ ส่งแล้วทำอะไรต่อ หล่อนจำไม่ได้จริงๆ เพียงเท่านั้น หญิงสาวรีบกระโดดผึงลงจากเตียงอย่างลืมความมึนงงไปชั่วขณะ เพื่อสำรวจความผิดปรกติที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายของตน ผ้าห่มถูกหอบขึ้นมาแล้วถูกเหวี่ยงจนไปกองอยู่มุมห้อง ดวงตากลมโตไล่ไปบนที่นอนสีหวานด้วยใจลุ้นระทึก เพื่อหาร่องรอยความผิดปรกติ ร่องรอยที่หล่อนเข้าใจเอาเองว่า เมื่อคืนนี้อีกฝ่ายนั้นทำมิดีมิร้ายกับตนหรือไม่ “ไม่มี…ฟู่…” เสียงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เมื่อไม่พบความผิดปรกติใด ๆ บนผืนผ้า หากแต่ว่าก็ยังไม่ไว้วางใจอยู่ดี ‘ผู้หญิงเสียตัวแล้ว มันเป็นอย่างไรกันนะ’ คิดแล้วใบหน้านวลเริ่มแดงซ่านขึ้นมาในทันใด หล่อนไม่เคยมีประสบการณ์ จึงไม่รู้ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร หากใครมาเห็นหล่อนตอนนี้ ก็คงแปลกใจในท่าทียิ่งนัก เพราะว่าหล่อนกำลังเดินพล่านไปมาอยู่รอบห้องด้วยจิตใจอันฟุ้งซ่าน “ไม่ได้การล่ะ…ฉันต้องไปถามให้ได้” หญิงสาวรีบเข้าห้องน้ำ เพื่ออาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันให้ร่างกายกลับมาสดชื่นอีกครั้ง พลางภาวนาว่าขอให้เขายังไม่กลับไป เพราะอยากคุยเรื่องเมื่อคืนนี้ให้กระจ่าง เพื่อความสบายใจของตนเอง ++++++ “ปึง ๆ ๆ” นรบดีรีบส่งรายงานไปยังแพชชั่นวันแล้วพับฝาโน๊ต บุ๊คลง หลังจากเสียงเคาะประตูห้องได้ดังถี่ขึ้น ชายหนุ่มเดินไปเปิดประตูแล้วเห็นร่างคุ้นตายืนทำหน้าตูมอยู่หน้าห้อง ก็อดที่จะปิดปากหัวเราะออกมาไม่ได้ หญิงสาวก้มลงมองตัวเองด้วยความไม่มั่นใจ ก่อนถามออกมาเสียงฉุน “หัวเราะอะไรไม่ทราบ แล้วทำไมถึงยังไม่กลับไปล่ะ ฮึ!” “เปล่านี่ครับ” “ก็เห็นอยู่” “คุณน่าจะดีใจนะที่ทำให้ผมอารมณ์ดีทุกครั้งเมื่อพบหน้ากัน” ชายหนุ่มยิ้มใส่ตาหล่อนอย่างอารมณ์ดี ท่าทีของเขากวนอารมณ์คนมองได้ดียิ่งนัก เมื่อนึกขึ้นได้ว่ามาหาเขาด้วยเรื่องอะไร จึงเปลี่ยนคำพูดที่ตั้งใจจะเอ่ยออกมา “นี่…” ไอรดาเหลียวซ้ายแลขวา คล้ายกลัวใครจะได้ยิน ก่อนตัดสินใจดันร่างของอีกฝ่ายเข้าไปด้านในห้องโดยที่หล่อนตามเข้าไป แล้วปิดประตูตามหลังทันที “อย่านะ…ผมกลัวแล้ว อย่าทำอะไรผมเลย” ชายหนุ่มแสร้งยกมือขึ้นปัดป้องเพื่อแสดงถึงความหวาดกลัว ก่อนถอยหลังกรูดจนไปชิดขอบเตียง ไอรดาสาวเท้าตามเข้าไปผลักร่างสูงจนล้มหงายลงไปบนที่นอน ก่อนตามไปคร่อมร่างอีกฝ่ายเอาไว้ “บอกมาเดี๋ยวนี้ เมื่อคืนทำมิดีมิร้ายกับฉันหรือเปล่า” น้ำเสียงเข้มเอ่ยถามออกมาพร้อมดวงตากลมโตที่จับจ้องใบหน้าของเขาอย่างเอาเรื่อง สายตาคู่คมจ้องกลับมาเช่นกัน สายตาสองคู่สบประสานกันชั่วครู่ แววตาที่ไม่หลุกหลิกของเขา ทำให้หล่อนคิดว่าเมื่อคืนคงไม่มีอะไรน่ากลัวเกิดขึ้น “แล้วคุณคิดว่าไงล่ะครับ” คนที่ทำว่าหวาดกลัวนักหนายิ้มพราวออกมา ก่อนย้ายแขนทั้งสองข้างมารองไว้ใต้ศีรษะของตนอย่างสบายใจ รอฟังว่าหล่อนจะเอ่ยอะไรออกมา “ไม่รู้ ถ้ารู้จะมาถามทำไม” “แล้วคุณคิดว่ามันมีอะไรบุบสลายไปหรือเปล่า” “แล้วอะไรล่ะ ที่มันบุบสลาย” หญิงสาวอุบอิบออกมา ก่อนเปลี่ยนมานั่งหันหลังให้อีกฝ่ายทันที เพราะรู้สึกว่าเขาเริ่มจะวกเข้าเรื่องถนัดอีกครั้ง “ถ้าคุณอยากรู้ ผมจะช่วยบอกให้เอามั้ยว่ามันแตก ต่างกันยังไง แต่ต้องเป็นภาคปฏิบัตินะ” ชายหนุ่มยันกายลุกขึ้นนั่ง คำพูดของเขาทำให้ไอรดารีบลุกพรวดขึ้น ก่อนย้ายร่างไปยืนอยู่มุมห้องทันที การอยู่ใกล้สิ่งมีชีวิตเช่นชายหนุ่มเบื้องหน้า มันช่างน่าอันตรายยิ่งนัก หญิงสาวคิดก่อนโต้กลับไป “จะบ้าเหรอ ฉันแค่มาถามเท่านั้น หากไม่ได้ทำก็แล้วไปสิ” “แล้วถ้าผมทำจริงล่ะครับ” “ฉันจะลากคอคุณเข้าคุก โทษฐานพรากผู้เยาว์” “พรากผู้เยาว์? ฮ่าๆ นี่คุณ ผมถามหน่อย อายุเลยผู้เยาว์มาเท่าไหร่แล้ว ช่างกล้าพูดออกมาได้นะครับ” ชายหนุ่มหัวเราะด้วยความขบขัน ขณะเดินมาประจันหน้า ก่อนจับปลายคางมนเอาไว้ แล้วพลิกใบหน้าของหล่อนไปมาพลางทำท่าพินิจพิจารณาอย่างสำรวจ “ฉันก็ไม่แก่…เท่าใครบางคนแถวนี้หรอก” หญิงสาวลากเสียงยาว จงใจเน้นคำว่าแก่ให้กระทบใจคนฟังหวังให้เขาเจ็บจี๊ดเล่น ๆ “ใครบอกว่าผมแก่ ผมเพิ่งจะสามสิบกว่า ๆ เท่านั้น กำลังน่ากินเลยรู้ไหม” “นั่นแหละ อี๋…เลขสาม ฉันไม่ชอบกินคนอายุมาก กว่า ฉันชอบกินเด็ก รู้ไว้ซะด้วย” คำพูดนั้นมาพร้อมกับมือที่ปัดมือแกร่งออกไปจากคางของตน ก่อนย้ายที่ไปยืนอยู่อีกมุมหนึ่ง เพราะดูแล้วเขาช่างหาเรื่องมาใกล้ชิดกับหล่อนได้ทุกสถานการณ์จริงๆ “โบราณว่าไว้ เกลียดอะไร มักจะได้อย่างนั้น” “ทฤษฎีนี้ใช้ไม่ได้กับฉัน” “เอาเถอะ ผมว่าเรามาจบประเด็นกันก่อน เพราะตอนนี้คุณมีหนี้ต้องชดใช้ผม” นรบดีรีบยกมือห้ามเพื่อขอสงบศึก ด้วยเขาเองมีเรื่องที่น่าสนุกกว่าการมายืนเถียงกันให้ทำอีกมาก รอยยิ้มมีเลศนัยของเขาทำให้หญิงสาวทำหน้าครุ่นคิด เพราะกังวลไปถึงว่าเมื่อคืนได้ทำอะไรขายหน้าออกมาบ้าง “หนี้อะไรอีกคะ” “คุณอ้วกรดหน้าผมเมื่อคืนนี้ ฉะนั้นผมต้องคิดค่า เสียหายที่หน้าหล่อ ๆ ของผมต้องบุบสลาย รวมทั้งค่าจ้างเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ และค่าทำความสะอาดที่นอนให้คุณด้วย” “หา!” หญิงสาวอ้าปากค้าง พลางยกมือขึ้นปิดบังส่วนสงวนเอาไว้อย่างลืมตัว เมื่อเขาพูดออกมาหน้าตาเฉยว่าเป็นคนลงมือเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ เพราะก่อนหน้านั้นหล่อนเชื่อว่า เขาไปตามแม่บ้านมาเปลี่ยนให้ “ขะ…คุณ ปะ…เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉันจริง ๆ ด้วย” ดวงหน้าสีชมพูระเรื่อซีดเผือดลงไปทันที ขณะละล่ำละลักออกมาเสียงสั่น ป่านนี้เขาคงเห็นร่างกายของหล่อนจนหมดทุกซอกทุกมุม หญิงสาวคิดด้วยความอับอาย ความรู้สึกยามนี้อยากหายตัวไปจากบริเวณนี้ยิ่งนัก “ก็คุณอ้วกออกมา จะให้ผมทำยังไงล่ะ จะปล่อยให้คุณนอนทั้งเลอะ ๆ แบบนั้น มันก็ออกจะใจดำไปหน่อย นี่ผมกำลังทำตัวเป็นพลเมืองดีอยู่นะครับ” ‘พลเมืองดีในคราบผู้ร้ายน่ะสิ…” “อ้าว…” “คุณลวนลามฉันทางสายตา มันก็ไม่ต่างจากการปล้นทรัพย์เท่าไหร่นัก” นรบดีแค่นเสียงหัวเราะออกมา เมื่อรู้สึกว่าหญิงสาวเบื้องหน้าช่างหาเรื่องเขาได้ดียิ่งนัก ชายหนุ่มจึงอดที่จะต่อปากต่อคำไม่ได้ “ผมไม่ได้มองจริง ๆ นะ สาบานได้” ไอรดาหรี่ตามองคล้ายไม่เชื่อ เมื่อคำพูดนั้นมาพร้อมกับแววตากรุ้มกริ่ม แววตาที่หล่อนไม่ชอบเลยสักนิด เขาบอกว่าไม่ได้มอง แต่กลับยืนอมยิ้ม แล้วใครจะไปบ้าจี้เชื่อ “เชื่อตายล่ะ ขนาดฉันตื่นอยู่ คุณก็ยังไม่วายเล้าโลมฉันทางสายตา แล้วนี่แอบลวนลามฉันหรือเปล่าก็ไม่รู้” หญิงสาวก้มลงมองตัวเองอย่างสำรวจ ไม้เว้นแม้กระทั่งด้านหลัง คล้ายต้องการดูให้แน่ใจว่ามีอะไรแปลกไปไม่เหมือนเดิมหรือไม่ อีกฝ่ายเห็นท่าทีของหล่อนจึงอดที่จะสาวเท้าเข้ามาใกล้ไม่ได้ “ผมก็ไม่เลวร้ายขนาดนั้นหรอกคุณ เอาเป็นว่า ผมจะชดใช้ค่าเสียหายให้ก็แล้วกัน” หล่อนเป็นคนประเภทไหนกัน ใจกล้ามาหาเขาถึงห้อง แต่มาแล้วก็กลับทำเป็นยืนตัวสั่นงกอยู่อีกมุม นรบดีคิดขณะเดินมาหยุดยืนตรงหน้าคนที่ทำกล้า ๆ กลัว ๆ “ค่าเสียหายอะไรของคุณ” “ก็…ที่ผมเห็นอะไรต่อมิอะไรของคุณหมดทั้งตัวแล้ว” เขาพูดออกมาหน้าตาเฉย แต่อีกฝ่ายแทบอยากมุดดินหนีเสียเดี๋ยวนั้น “รู้มั้ย ว่าคุณน่ะ…” “แล้วจะย้ำทำไมฮึ ฉันอายนะ ไม่คุยด้วยแล้ว คนลามก หื่นกามที่สุด!” หญิงสาวแหวขึ้นเสียงดังลั่น ก่อนกระฟัดกระเฟียดเดินออกจากห้องไปทันที จริง ๆ แล้วหล่อนอยากหลบหนีสายตาของเขามากกว่า มันทำให้หล่อนอับอายได้ทุกเวลา ไม่อยากให้เขาจับจ้องกันแบบนั้น หญิงสาวหยุดการเคลื่อนไห ก่อนหมุนกายกลับไปยกมือขึ้นชี้หน้าอีกฝ่ายอย่างคาดโทษ เมื่อหล่อนได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจดังไล่หลังตามมา “ไอ้ขวดเมื่อคืนน่ะ มีอีกมั้ย ผมชักติดใจเสียแล้วสิ” ‘หมด หมดกัน ความเวอร์จิ้นของฉัน” หญิงสาวร้องครวญออกมาในใจ เมื่อร่างกายที่ได้เฝ้าถนอมมาตลอดวัยสาว ต้องมาถูกเปิดเผยต่อหน้าชายที่ได้ชื่อว่าค่อนข้างแปลกหน้าสำหรับเธอ แถมเป็นคนที่ตั้งแง่กับเขาตั้งแต่แรกพบเสียด้วย ด้วยความหงุดหงิดที่สุมอยู่ในใจ หล่อนจึงเดินกลับห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นแบบกระชับกับลำตัวมากขึ้น ก่อนเดินลิ่วไปยังด้านหลังฟาร์ ที่นั่นจะทำให้หล่อนลืมทุกสิ่ง หล่อนใช้เป็นที่ระบายอารมณ์ เมื่อยามเครียดจากเรื่องราวที่รุมเร้าเข้ามา...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD