Chapter 4 ยั่วนัก รักซะให้เข็ด (2)
นรบดีรีบจับข้อมือเล็กเอาไว้ เมื่อหล่อนทำท่าจะกระดกแก้วเข้าปากอีกครั้ง อาจเป็นเพราะต้องการดับความกลัดกลุ้ม หญิงสาวจึงดื่มรวดเดียวติดกันไปหลายแก้ว ซึ่งชายหนุ่มประเมินจากสภาพร่างกายของหล่อนแล้ว คงไม่ไหวที่จะดื่มต่ออีกแน่นอน
“ฮื่อ…ฉาน…หวาย…น่า”
ไอรดารีบย้ายมือหนี พลางปัดป่ายมือของอีกฝ่ายเป็นพัลวัล ทั้ง ๆ ที่แทบจะหงายหลังตกเก้าอี้แล้วด้วยซ้ำ
“สภาพนี้น่ะเหรอ”
“อื้อ…หวาย…”
พูดจบหญิงสาวจึงผลุนผลันลุกขึ้น แล้วทำท่าจะเดินให้เขาดูเพื่อให้รู้ว่าหล่อนยังไหว แต่เพียงก้าวแรกหล่อนก็ล้มกลิ้งไปกับพื้นไม่เป็นท่า นรบดีรีบลุกพรวดไปประคองเอาไว้ด้วยความตกใจ
“เห็นมั้ย คุณไม่ไหวแล้ว”
“คูน…น่าน…แหละ…”
หล่อนยื่นมือมาลูบไล้ใบหน้าคมคร้ามเล่น พลางหัวเราะเล็ก ๆ ออกมา ร่างกายอ่อนปวกเปียกอยู่ในอ้อมกอดอีกฝ่าย หากแต่ทว่าหล่อนไม่รับรู้สักนิด ว่ายามนี้ตัวเองไม่ได้นอนอยู่บนพื้นดั่งที่เข้าใจ
“ผมจะพาคุณไปส่งที่ห้อง”
“ม่าย…ฉาน…ม่าย…ปาย…”
หญิงสาวส่ายหน้าไปมาอย่างช้า ๆ นิ้วนุ่มเคลื่อนมาไล้ริมฝีปากของเขาเล่น ซึ่งนรบดีเองก็เพิ่งรู้ว่ายามหล่อนขาดสติแล้วเป็นอย่างนี้นี่เอง ซึ่งถือว่าอันตรายอยู่มาก หากไปกับชายอื่นที่หวังเพียงร่างกายของเธอ
“อย่าดื้อสิครับ”
พูดแค่นั้น ท่อนแขนแข็งแรงรวบร่างอ่อนปวกเปียกขึ้นมาไว้ในวงแขนอย่างง่ายดาย ราวกับว่าร่างกายของหล่อนคือก้อนนุ่นอันแสนเบาหวิว ก่อนที่เขาจะเดินตัวปลิวพาเธอเข้าไปในบ้าน
“ไปทางไหน บอกผมสิ”
นรบดีโน้มใบหน้าลงไปกระซิบกับเจ้าของใบหน้าที่ซุกซบอยู่กับไหล่กว้างของเขา แม้จะเมามากขนาดไหน แต่ก็ไม่วายที่จะกอดคอเขาเอาไว้จนแน่นเช่นกัน
“หือ…”
ไอรดาปรือตาขึ้นมามอง แววตาฉ่ำเยิ้มของหล่อนทำให้อีกฝ่ายถึงกับอ่อนแรงจนแทบปล่อยคนเมาตกพื้นเสียตรงนี้ ใจของเขากำลังกระเจิดกระเจิงไปกับการยั่วยวนที่ออกมาแบบไม่รู้ตัวของเจ้าหล่อน
“หากจะคิดถึงหัวอกของผม คุณมุกอย่ามองผมแบบนี้สิครับ”
“ทามมาย…มอง…อา…ราย”
“คุณกำลังยั่วผมทางสายตา รู้ไหม และผมจะไม่รับรองความปลอดภัยของคุณน่ะสิ”
“คราย…ครายยั่ว”
“คุณนั่นแหละ ที่ยั่วผม”
กว่าจะถึงห้อง ก็เล่นเอาทุลักทุเลกันทั้งคู่ เพราะกว่าที่ไอรดาจะบอกห้องของหล่อนถูกได้ ก็เล่นเอาเดินวนอยู่หลายรอบเลยทีเดียว
ร่างอ้อนแอ้นถูกวางลงบนที่นอนอย่างนุ่มนวล ทว่าไอรดายังคงยิ้มพราวอยู่อย่างนั้น หญิงสาวปรือตามองอีกฝ่ายด้วยแววตาฉ่ำเยิ้ม หล่อนไม่รู้หรอกว่าการแสดงออกเช่นนี้ มันคือการราดน้ำมันชั้นดีลงไปบนกองไฟ หากมันลุกโชนขึ้นมาเมื่อใด หล่อนเองจะต้องเดือดร้อนแน่ เขาคิดขณะพยายามข่มใจอย่างหนัก ไม่ให้คิดลึกกับหล่อนมากไปกว่านี้
“อย่าเชียวนะ อย่าคิดอะไรแบบนั้น”
ชายหนุ่มกัดฟันกรอดพูดออกมา เมื่อรู้สึกว่าความ คิดด้านมืดกำลังจะออกมามีอำนาจเหนือการควบคุมอีกครั้ง หากแต่ว่าหญิงสาวที่นอนระทวยอยู่บนเตียงนั้น กลับไม่ร่วมมือกับเขาเลยสักนิด
“คุณนัท…”
“หือ…”
“ดาร์ลิงค์ขา…”
“โอ๊ะ!”
นรบดีอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อจู่ ๆ มือนุ่มก็กระชากคอเสื้อของเขาอย่างแรง จนใบหน้าคมโน้มไปตามแรงดึงทึ้งนั้น ไอรดายื่นนิ้วมาแตะริมฝีปากของเขาเอาไว้ พลางทำตาหวานเชื่อมใส่ ริมฝีปากอวบอิ่มเผยอขึ้นเล็กน้อย ราวเชิญชวนให้เขาเข้ามาลิ้มลองความหวานล้ำที่ยั่วสายตาอยู่ในระยะประชิด
“คุณมุก...”
เพียงเห็นลีลาการยั่วยวนของหล่อน สติที่ยังพอมีอยู่บ้างของนรบดีถึงกับขาดผึงลงเดี๋ยวนั้น ชายหนุ่มค่อย ๆ โน้มใบหน้าลงไปเพื่อหวังจะสั่งสอนแม่วัวสาว ที่บังอาจมาแหย่พ่อพันธุ์วัยคะนองเช่นเขาอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์เช่นนี้ ให้หล่อนได้หลาบจำ ว่าคราวหลังอย่าริมาก่อกวนหัวใจกันเช่นนี้อีก
“พรวด!”
“อ๊ะ! บ้าจริง”
ชายหนุ่มต้องขบกรามแน่น อารมณ์อันหวามไหวต้องสะดุดลงเดี๋ยวนั้น เมื่อของเสียจำนวนหนึ่งได้พุ่งพรวดออกมาจากริมฝีปากอีกฝ่าย โดยมีใบหน้าคมคร้ามของเขารองรับเอาไว้ ในขณะที่คนก่อเหตุนอนหลับตานิ่งไม่รู้ร้อนรู้หนาวไปเสียแล้ว ว่าได้ฝากร่องรอยอะไรเอาไว้บ้าง
“ยายแสบ”
นรบดีกัดฟันกรอดพูดกับตัวเองด้วยความหงุดหงิดใจ ก่อนยกมือขึ้นเช็ดใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยของเสีย ร่างสูงรีบผละออกจากร่างเย้ายวนเพื่อเข้าห้องน้ำล้างหน้า
จัดการกับตัวเองไม่พอ ยังต้องมาจัดการกับของเสียที่เปรอะเปื้อนรอบ ๆ ริมฝีปาก และตามเสื้อผ้า รวมทั้งที่นอนของหล่อนอีก ความต้องการตามธรรมชาติของวัยหนุ่มเมื่อสักครู่มลายหายไปอย่างสิ้นเชิง
ชายหนุ่มเดินไปรื้อค้นเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้ จัดการนำชุดนอนมาเปลี่ยนให้คนเมา พยายามไม่มองความเย้ายวนตรงหน้า แต่ด้วยสัญชาตญาณของความเป็นชาย ก็อดที่จะลอบมองด้วยความอยากรู้อยากเห็นไม่ได้
หากเขาบังคับใจไม่ให้มองได้ ก็แสดงว่าคงตายด้าน หรือไม่ก็คงชอบไม้ป่าเดียวกัน
นาทีแห่งการเปลี่ยนเสื้อผ้าผ่านไปอย่างทุลักทุเล ด้วยผู้ที่ทำการเปลี่ยนมัวแต่มือไม้สั่นเงอะงะ และการใช้สายตาเอากำไรกับกายสาว หากจะเล้าโลมทางกายเขาย่อมทำได้ แต่เขาจะไม่มีวันทำเรื่องน่าอัปยศอดสูเช่นนั้น เพราะหล่อนกำลังไม่ได้สติและไม่มีทางสู้เขาได้เลย
หากจะพูดกันตามตรง ถ้าเขาทำ มันก็คือการขืนใจกันดี ๆ นี่เอง คนอย่างนรบดีจะไม่มีวันทำเรื่องเสียเกียรติเช่นนั้นเป็นอันขาด และหากเขาทำจริง นับตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปหล่อนคงไม่มองหน้าเขาไปตลอดชีวิต จะมีประโยชน์อะไรถ้าหากได้ตัว แต่ไม่ได้หัวใจติดมาด้วย
ชายหนุ่มคิดว่า การค่อย ๆ หลอกล่อให้หล่อนหลงเข้ามาติดกับดัก มันน่าเร้าใจกว่าการข่มเหงน้ำใจกันมากนัก และหล่อนก็มีพลังมากพอที่จะดึงดูดให้คนอย่างเขาเป็นฝ่ายเดินเกมรุก หล่อนทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นที่จะเข้าไปค้นหาหลายสิ่งหลายอย่างที่ซ่อนอยู่ในตัว
‘เช้ามาคงโวยวายลั่นห้อง หุ ๆ’
นรบดีคิดเองขำเองอยู่ในใจ ด้วยนิสัยของหล่อนแม้รู้จักกันแค่ไม่นานเขาก็พอจะรู้ดีว่าเอาเรื่องขนาดไหน เห็นทีเขาคงต้องสวมชุดมวยไทยไว้รอแต่เช้าเสียแล้ว
“ผมจะคิดค่าจ้างอย่างสาสม คอยดูไปก็แล้วกัน ยายวัวพยศ”
ชายหนุ่มโน้มใบหน้าลงไปกระซิบกับร่างที่นอนหลับไปแล้ว ก่อนตัดสินใจผละออกห่าง แล้วหมุนกายเดินออกจากห้องของหล่อนไป ด้วยกลัวว่าอยู่นานแล้วจิตใจจะฟุ้งซ่านมากไปกว่านี้
นรบดีอมยิ้มไปตลอดทางขณะเดินกลับห้อง ซึ่งเขามีความตั้งใจที่เพิ่งคิดขึ้นมาได้ ว่าไหน ๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว เขาจะขออยู่เที่ยวฟาร์มแห่งนี้อีกสักวันสองวัน โดยตั้งใจจะบอกภัทรพลเพื่อนรักในตอนเช้ามืดว่า ให้กลับไปทำงานก่อน ส่วนเขาจะหาทางกลับเองในภายหลัง
การอยู่ที่ฟาร์มแห่งนี้ต่อ อาจทำให้เขาได้มีโอกาสสานสัมพันธ์กับหล่อนมากขึ้น รวมทั้งคุยเรื่องเงินก้อนโตที่หล่อนอยากได้มาไถ่ฟาร์มแห่งนี้คืนอีกด้วย…