"ขอบคุณมากนะหนูไอรีส ห้องสี่ศูนย์หนึ่งนะจ๊ะ"
ไอรีสส่งยิ้มให้ป้าใจ พร้อมกับรับถาดอาหารมาจากมือของป้า เธอเดินเข้าไปในโรงแรมอย่างคุ้นเคย ก่อนจะกดลิฟต์เพื่อเดินทางขึ้นไปชั้นสี่
สี่ศูนย์หนึ่ง
"ก๊อก!! ก๊อก!!"
"อาหารมาส่งค่ะ!"
"...เข้ามาเลย ไม่ได้ล็อก"
เธอดันประตูเข้าไป มีเสียงราวกับว่าเจ้าของห้องกำลังอาบน้ำอยู่ เธอวางถาดอาหารบนโต๊ะ ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป
"เท่าไหร่!"
"คะ?"
เขาเดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีผ้าขนหนูพันส่วนล่างเอาไว้ บนตัวของเขามันมีรอยสักมากมาย อีกทั้งบนใบหน้าตรงช่วงแก้มยังมีรอยแผลถูกฟันเป็นทางยาวถึงจมูก ถึงจะดูน่ากลัวแต่ปฏิเสธเสน่ห์ที่มากมายของเขาไม่ได้เลย..
รอยแผลเป็นนี้มิได้ดูเป็นตำหนิ แต่มันช่วยเสริมให้เขาดูน่าเกรงขามขึ้นมาต่างหาก
"...ค่าอาหารนี่ เท่าไหร่?"
อ่า.. เหมือนกับว่าเธอจะไม่ได้ถามป้าใจเลยว่าค่าอาหารนี่มันกี่บาท
"ขอโทษด้วยนะคะ พอดีว่าหนูลืมหยิบบิลค่าอาหารมาด้วย เดี๋ยวจะรีบเอามาให้ใหม่นะคะ!"
ไอรีสหมุนตัวเพื่อที่จะเดินออกไป แต่เขาเดินเข้ามาคว้าแขนเธอเอาไว้ พร้อมกับหยิบเงินแบงก์พันให้เธอสองใบ
"ไม่ต้องมาอีก..."
"อ่า.. ขะ.. ขอบคุณค่ะ"
เธอรับเงินนั่นมาพร้อมกับยกมือไหว้ขอบคุณ แต่พอเธอจะเดินจากไปก็ยังไม่ยอมปล่อยมือที่จับแขนเธอ
"เป็นเด็กเสิร์ฟงั้นเหรอ?"
"ไม่ใช่ค่ะ แค่มาช่วยเฉยๆ บางทีคุณควรจะปล่อย..มือหนู"
เขาปล่อยมือเธอออก ไอรีสถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอก้มหน้าให้เขาอีกครั้ง พร้อมกับเดินไปที่ประตู
"กริ๊ก!"
ในขณะที่เธอจับลูกบิดประตูเขากลับเดินมาด้านหลังแล้วล็อกกลอน เขายืนอยู่ด้านหลังโดยที่ช่องว่างระหว่างเรามันไม่ถึงคืบด้วยซ้ำ!
และ..ตอนนี้เธอกำลังหวาดกลัว
"อ่า..มันแย่นิดหน่อย ตรงที่เธอปลุกมันให้ตื่นขึ้นมา..."
ปลุกอะไรกัน ปลุกอารมณ์โมโหของเขางั้นเหรอ? เธอพูดอะไรผิดกันนะ เธอก็แค่เอาข้าวมาส่งตามปกติ
"และ..เธออาจจะต้องเป็นคนช่วย ให้มันสงบลง"
ไอรีสหมุนตัวมามองหน้าของเขา
"บางที.. หากว่าคุณกินข้าว คุณอาจจะสงบลงก็ได้นะคะ"
เธอคิดว่าเธอเป็นบ่อยๆในตอนที่หิวมากๆ เธอจะโมโห และนั่นเรียกว่าโมโหหิว เขาคงจะโกรธที่เธอเอาข้าวมาส่งช้าสินะ !
ไอรีสถอนหายใจอย่างโล่งอก
"ไม่เป็นไร หนูเข้าใจคุณดี มานี่สิคะ"
"ห๊ะ!?"
เธอกล่าวพร้อมกับจูงมือเขาไปนั่งบนโซฟา
"แกงส้มไข่ปลานี่อร่อยมากเลยค่ะ คุณต้องลองชิมฝีมือป้าใจอร่อยไม่แพ้ใครแน่นอน!"
ยัยเด็กนี่คิดว่าคำพูดของเขาเป็นคำพูดที่เธอสามารถล้อเล่นได้งั้นเหรอวะ!!
"อ้าปากสิคะ"
เธอยกช้อนมาจ่อที่ปากของเขา พร้อมกับมองเขาด้วยสายตาที่คาดหวัง ให้ตายเถอะ! เขากำลังจะพ่ายแพ้ให้กับสายตาที่ไร้เดียงสานั่น
เขาอ้าปากเพื่อให้เธอตักข้าวป้อนเขา
"ชื่ออะไร?"
"ไอรีสค่ะ คุณดู..ใจดีกว่าที่คิดนะคะ"
"หึ ด่วนสรุปไปรึเปล่าสาวน้อย เธอเห็นบนที่นอนนั่นไหม มันมีปืนและมีดวางอยู่ ฉันอาจจะทำร้ายร่างกายเธอก็ได้.."
เธอไม่เข้าใจเลยว่าเขาจะพูดเพื่อตอกย้ำให้เธอกลัวเขาทำไมกัน!!
"อร่อมไหมคะ?"
"อืม ก็พอกินได้"
"อย่างนั้นอารมณ์ของคุณ สงบลงแล้วใช่ไหมคะ พอดีหนูนัดเพื่อเอาไว้ที่ร้านอาหาร หนูคงจะต้องไปแล้ว"
"แล้วถ้าไม่ให้ไปล่ะ?"
เธอพึ่งจะเคยเจอคนเช่นนี้เป็นครั้งแรก...
"แล้วคุณจะให้หนูอยู่กับคุณทำไมคะ ถ้าคุณเบื่อที่จะอยู่คนเดียว คุณลงไปด้านล่างพร้อมกับหนูไหม ที่นี่มีผับติดริมทะเลด้วยนะคะ"
ฟาริคมองหน้าของไอรีสอย่างถูกใจ ยัยเด็กนี่ช่างพูดดีจริงๆ
"ไม่ไป และก็ไม่ให้เธอลงไปด้วย!"
วิ่งหนีไปเลยดีไหมนะ...
ตอนนี้เธอนั่งอยู่ที่พื้นหากว่าวิ่งไปที่ประตู เขาอาจจะวิ่งตามไม่ทันเพราะเขานั่งอยู่บนโซฟา
ฟาริคเอื้อมมือมาจับมือของไอรีสเอาไว้
"คิดว่าจะวิ่งหนีทันงั้นเหรอ? มานั่งตรงนี้สิ"
เขาออกแรงดึงเบาๆให้เธอเดินมานั่งลงข้างเขา
"กินสิ บอกว่าอร่อยไม่ใช่รึไง?"
อ่า บางทีเขาอาจจะไม่ได้เลวร้าย อย่างที่เธอคิดก็ได้นะ ไอรีสหยิบจานขึ้นมาก่อนเธอจะตักข้าวใส่จานและนั่งกินข้าวหน้าตาเฉย
"ไม่กลัวแล้วงั้นเหรอ?"
เธอส่ายหน้าเบาๆ
"หนูหิวมากกว่าค่ะ และก็คิดว่าคุณคงจะเหงา มาเที่ยวคนเดียวโดยไม่มีเพื่อนแบบนี้ ไม่มีใครคบงั้นเหรอคะ?"
ฟาริคหัวเราะ เขาหัวเราะเสียงดังอย่างลืมตัว วันนี้เขามาเที่ยวงานวันเกิดลูกน้องของเขา แดนเนียล เขาเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของที่นี่ พร้อมกับเป็นคนคุมพื้นที่แถวนี้ทั้งหมด
ฟาริค คือมาเฟียที่ปกคลุมคนจำนวนมาก มีธุรกิจที่เป็นทั้งสีขาว สีเทา และสีดำ ที่วันนี้เขาไม่มีบอดี้การ์ดเพราะเขาสั่งให้เจ้าพวกนั้นลงไปสนุกที่ผับ ไหนๆวันนี้ก็เป็นวันหยุดเขาก็เลย ใจดีกับลูกน้องสักวัน
ยัยเด็กนี่กล้าว่าเขาไม่มีคนคบงั้นเหรอ?
"อายุเท่าไหร่แล้ว"
"หนูไม่คิดว่าเราสนิทกันจนขนาดที่หนูจะต้องบอกเรื่องส่วนตัวกับคุณนะคะ อีกอย่างคุณไม่ควรชวนหนูคุยเวลาที่หนูกำลังกินข้าว มันเสียมารยาทนะคะ!"