(END : พิมพ์ตะวัน)
การรวมพลกันของชาววิศวะ ทั้งปีหนึ่ง สอง สาม และสี่ผ่านไปได้ด้วยดี รุ่นพี่ก็บอกถึงกำหนดการต่าง ๆ แบบคร่าว ๆ ไปว่า เดือนไหนจะมีกิจกรรมอะไร และหลังจากสอบเสร็จเราจะมีค่ายรับน้อง (โหด) ที่พวกน้อง ๆ ทุกคนต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพราะหากใครไม่เข้าร่วมก็จะไม่ได้รับเกียร์รุ่น
(เกียร์ = สัญลักษณ์ตัวแทนของวิศวะ)
หลังจากที่รุ่นพี่ได้บอกกฎเกณฑ์ประจำคณะวิศวะ ข้อปฏิบัติต่าง ๆ รวมไปถึงการเข้าร่วมกิจกรรม การแข่งขันสำคัญ ๆ ของคณะ เสร็จแล้วก็แจกไอดีกลุ่มไลน์หลักของทั้งคณะ เพื่อที่เวลามีกิจกรรมอะไรก็จะมีการแจ้งผ่านไลน์เป็นหลัก
และอย่างที่รู้กันดีว่า ทุกคณะจะมีการแข่งขันกีฬาภายในมหาวิทยาลัย ซึ่งทุกคณะจริงจังกันมาก ๆ แล้วก็มีเรื่องต่อยตีกันแทบจะทุกปี และน้อยคนมากที่จะย้ายคณะกลางคันแบบเพอร์ซุส
แต่ดูเหมือนเขาไม่ได้มีท่าทีกังวลใจอะไรเลย แถมยังเข้ากันได้ดีกับพวกสาว ๆ คนอื่นในคณะอีกด้วย
"ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ที่ให้ความร่วมมือมาชุมนุมกันอย่างครบถ้วนในวันนี้" รุ่นพี่ปีสี่เริ่ม ๆ เข้าแถวเรียงหน้ากระดาน เป็นอันจบพิธีชุมนุมรุ่นพี่รุ่นน้องในวันแรก
"แรดเหลือเกินพ่อคุณ" พิมพ์ตะวันมองไปที่เขา แล้วทำได้แค่ยืนแบะปากอย่างหมั่นไส้
"ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ที่ให้ความร่วมมือมาชุมนุมกันอย่างครบถ้วนในวันนี้"
"และคืนนี้ คณะวิศวะของเราจองโต๊ะที่บลูมูนบาร์ไว้สิบสองโต๊ะด้วย"
"หวังว่าทุกคนจะเข้ามาร่วมสนุกด้วยกันนะ"
จู่ ๆ ไอ้ฝรั่งจอมหื่นก็ยกมือขึ้นขณะที่รุ่นพี่ยังไม่ทันจะพูดจบดี
"มีอะไรเหรอ คุณเพอร์ซุส จากบริหาร" รุ่นพี่ปีสี่ถามกลับด้วยใบหน้านิ่ง และดูไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไร
"สิบสองโต๊ะ คิดว่าไม่น่าจะพอหรอกนะ" เพอร์ซุสลุกขึ้นยืนและพูดขึ้นก่อนจะกวาดสายตามองไปยังรุ่นน้องปีหนึ่ง ปีสอง ปีสาม และปีสี่ที่ยืน ๆ กันอยู่
"เหมาทั้งบาร์เลย ไม่ดีกว่าเหรอ" คำพูดของเพอร์ซุสทำให้หลาย ๆ คนหันมองหน้ากัน และมีอีกหลายคนที่กระซิบกระซาบกันสนั่น
(มึงคนนี้แหละ กัปตันทีมบอล BBA ปีก่อน) เสียงของพวกผู้ชายก็หันไปหารือกันทันที
"ส่วนเรื่องค่าเหล้า คืนนี้ดื่มฟรีไม่มีอั้น" เพอร์ซุสพูดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มาเตรียมจะกดโทรจองบาร์ทั้งบาร์ให้กับทั้งคณะ
(ฟรีจริงดิ?) เสียงออโต้ตาโตขึ้นมาทันควัน พอได้ยินคำว่าเหล้าฟรี
(เชี่ย...เขารู้ไหมว่าคณะเราแดกเหล้าโหด) วาโยขมวดคิ้วพร้อมกับลูบปากเหมือนหิวโหยมานาน
"แบบนี้...คิดว่าไง" เพอร์ซุสเดินออกจากแถวรุ่นน้อง และมุ่งหน้าตรงไปทางคนที่ถือว่าเป็นผู้คลั่งในระบบโซตัสแบบขั้นสุดแล้ว
"ขอโทษนะครับคุณเพอร์ซุส แต่คณะวิศวะของเราไม่ใช่คณะบริหารของคุณนะ" รุ่นพี่ประกาศออกไมค์เหมือนจงใจฉีกหน้าเพอร์ซุส
"ที่แห่งนี้ ทุกอย่างไม่ได้ซื้อได้ด้วยเงิน" ขณะที่เขาพูดอยู่ เพอร์ซุสเองก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับเดินตรงไปหยุดตรงหน้าของเขา
"งั้นเหรอ" เขาใช้ลิ้นดุน ๆ ที่กระพุ้งแก้มเล็กน้อย
"ดังนั้นถ้าคุณอยากเป็นส่วนหนึ่งของวิศวะ คุณก็ต้องทำให้ทุกคนเห็นและยอมรับว่าคุณจะเป็นพวกของเราได้จริง ๆ " รุ่นพี่พูดเสียงแข็งตอกกลับใบหน้ากวน ๆ ของเขาไป
"แต่ผมคิดว่าคงยากหน่อย เพราะกัปตันทีมบอลบริหารที่เคยเอาชนะวิศวะเมื่อปีก่อน วันนี้ดันจะย้ายมาเป็นวิศวะ แค่เริ่มต้น ความเป็น BBA ของคุณมันก็กลบไม่มิดแล้ว"
"….." ร่างสูงยืนฟังอีกฝ่ายพูดจนจบ ก่อนจะหันหน้ากลับไปมองเด็กวิศวะทั้งคณะอีกครั้ง
"ผมเข้าใจในระบบโซตัสของคุณเป็นอย่างดี" เพอร์ซุสหันไปพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลัง โดยที่เขาแทบไม่ต้องใช้ไมค์ใด ๆ แต่สามารถสะกดทุกสายตาให้หันไปมองทางเขาได้
"และที่ผมยอมสละเวลาส่วนตัว มาร่วมกิจกรรมรับน้องในครั้งนี้"
"ก็เพื่อจะแสดงให้พวกคุณได้เห็นว่า ผมต้องการที่จะเป็นหนึ่งเดียวกับทุกคน"
"และสิ่งหนึ่งที่ผมอยากทำให้ทุกคนได้เห็นก็คือ เวลาที่ผมเป็นพวกของใคร"
"เวลาที่ผมทุ่มเทให้ใคร ผมทุ่มได้หมดตัว"
"หวังว่ารุ่นพี่ รุ่นน้อง และเพื่อน ๆ ทุกคน จะเห็นแก่ความตั้งใจของผม"
"และมางานปาร์ตี้คืนนี้กันเยอะ ๆ นะครับ" เพอร์ซุสพูดเพียงเท่านั้น ก่อนจะกดโทรศัพท์เดินออกไปจองบลูมูนบาร์ทั้งบาร์ เพื่อปิดฉลองให้กับคณะวิศวะ
"เชี่ย...เอาจริงขนาดกูเป็นผู้ชาย กูยังว่ามันเท่โคตรเลยว่ะ" เสียงของวาโยพูดขึ้น แต่พอเขาหันไปเห็นหน้าหงิกงอเป็นของอาร์เดล เขาก็หุบยิ้มทันที
"เท่เชี่ยอะไร แบบนี้เรียกขี้เก๊กต่างหาก" พิมพ์ตะวันแบะปากมองไปทางเพอร์ซุส ที่หลังจากที่เขาพูดจบก็เดินหลบออกไปสูบบุหรี่แบบหน้าตาเฉย
ส่วนคนอื่น ๆ ก็ยืนซุบซิบนินทาถึงเขากันอย่างเมามัน ก็คนบ้าอะไร มั่นหน้ามั่นโหนกเสียเหลือเกิน (พิมพ์ตะวันคิดภายในใจ)
แต่ในขณะที่เธอกับเพื่อน ๆ กำลังจะเดินแยกย้ายออกจากลานกิจกรรม
"ฉันชอบเขา ๆ ๆ ใครไม่รับเข้าคณะ...ฉันรับ" รุ่นพี่สาวอีกคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็หันไปกรี๊ดเพอร์ซุสกับเพื่อนของเธอ
"หล่อมาก...มาก ๆ เขาควรเป็นของกู" เพื่อนสาวของเธอก็มองเพอร์ซุสตาเป็นมันไม่ต่างกัน
"เราโสดนะ" สาวอีกคนก็หัวร่อต่อกระซิกกันไปมา คงจะแค่แซวกันเล่น ๆ นั่นเอง
"เห็นว่าไอ้หมอนี่มันฟันสาวนิเทศกับบริหารแทบหมดคณะแล้วมั้ง" อาร์เดลหันกลับมาคุยกับกลุ่มเพื่อน และส่ายหน้าเบา ๆ
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า อาร์เดลแค้นฝังใจและเกลียดเพอร์ซุสมากแค่ไหน
"หรือว่ามันจะย้ายมาเพื่อล่อสาววิศวะวะ" เลโอรีบวิเคราะห์ต่อในทันที
"แต่เชื่อกูเถอะว่ามึงปลอดภัยแน่ ๆ ไอ้พิมพ์ เพราะมึงน่ะดุอย่างกับ ร็อตไวเลอร์โซ่หลุด" ออโต้พูดเสริมขึ้นและเดินคล้องคอของพิมพ์ตะวันเดินไป
"มันคงไม่คิดจะมาฟันมึงแน่ ไอ้พิมพ์" คนตัวเล็กกัดฟันกรอดและหันไปยิ้มให้ออโต้เพื่อปล่อยให้เขาได้มีโอกาสพูดจนจบเสียก่อน
"โธ่ไอ้ออโต้ ปากหมา ๆ อย่างมึง มันก็น่าจะโดนส้นตีนยัดปากอยู่นะ" พิมพ์ตะวันกระชากหัวของไอ้ออโต้ ก่อนจะไล่ทุบมันอย่างบ้าคลั่ง
แต่แล้วจู่ ๆ ออโต้ก็หยุดชะงักพร้อมกับลูบที่หน้าอกราวกับเจ็บปวดหัวใจปางจะขาดใจตายตรงนี้ ซึ่งพอพิมพ์ตะวันหันไปมองตามสายตาของออโต้ ยอมรับว่าเธอเองก็ชะงักไม่ต่างกัน
"พี่มีนา...คนสวยของกู" ออโต้มองตามสาวสวยตาปริบ ๆ
ภาพตรงหน้าคือ พี่มีนา...สาวสวยสุดฮอต วิศวะคอมปีสี่ อดีตดาวมหาวิทยาลัยในรุ่นของเธอ เดินเข้าไปคุยกับเพอร์ซุสด้วยท่าทีแปลก ๆ ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินจูงมือกันไปพร้อมกันหันมาจูบนัวเนียกันไปตลอดทางเดินไปที่รถ
"นี่มันเขตมหาวิทยาลัยนะเว้ย" พิมพ์ตะวันส่ายหน้ากับพฤติกรรมของคนอย่างเพอร์ซุสที่ไม่แคร์อะไรเลยจริง ๆ
หอพักนักศึกษา
แก๊ก... มือเล็ก ๆ ไขประตูห้อง แต่พอจังหวะที่พิมพ์ตะวันผลักประตูเปิดเข้าไป...
"เซอร์ไพรส์"