ฉันหันกลับมาทางเดิมเลิกสนใจกับภาพตรงหน้า สนใจไปก็เท่านั้นแหละ อย่าไปมองจะดีกว่า
“เฮ้ย ๆ ข้ามเขตเหรอ” เสียงของเพื่อนพี่เอ็มดังขึ้นฉันก็เลยหันไปมอง ก็เห็นว่าเป็นนุ่นและมีนกำลังเดินเข้ามา
“ไมอะ ทีพวกพี่ยังชอบไปผับพี่เอ็กซ์เลย” มีนตอบกลับแล้วแลบลิ้นใส่ แสดงว่าสองแก๊งนี้เขาไม่ได้มีปัญหาอะไรกันสินะ
“ไม่ได้คุยกันตั้งนานเลยนะไอติม ทราย แบ๋ม” นุ่นเอ่ยออกมาอย่างยิ้ม ๆ
“อืม เป็นไงบ้าง” ฉันถามกลับไป ที่มหา’ลัยก็เจอกันอยู่บ้างเพียงแต่ไม่ได้พูดคุยกันเลย
“ก็ดี ไอ้ไฟมันยังโสดอยู่เหมือนเดิมนะ” นุ่นบอกกับฉันแล้วหันไปทางไฟ ฉันเองก็มองตามไปนิ่ง ๆ นุ่นก็หันมาทำหน้าเหวอใส่ฉัน
“แบบนั้นอะเหรอที่เรียกว่าโสด” ทรายถามนุ่น
ภาพที่เห็นคือลูกเกดกำลังเอาผ้าเช็ดหน้าซับใบหน้าให้ไฟ ฉันเห็นแล้วก็เฉย ๆ ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เพียงแค่ไม่เข้าใจว่านุ่นและมีนจะเข้ามาพูดทำไมในเมื่อไฟก็ยังมีเกด อันที่จริงจะมีใครหรือไม่มีใครก็ไม่เห็นจำเป็นจะต้องมาบอกฉัน
“มาไงวะนั่น” มีนมองไปทางสองคนนั้นแล้วเอ่ยออกมา ก่อนจะรีบรั้งแขนนุ่นให้เดินกลับไป
“กูงง” ฉันพูดกับเพื่อนแล้วกลอกตาไปมา งงกับสองคนนั้นที่นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป แถมงงหนักมากที่มาบอกฉันว่าไฟโสด
โสดแล้วไง? ให้ไปจีบไฟเหรอ เหอะ! ไม่ใช่คนในแบบที่ฉันอยากได้เป็นแฟนเลย
ฉันเลิกสนใจพวกนั้น สนใจแต่กับตรงส่วนของพี่ชายนี่แหละ ใครอยากถ่ายรูปด้วยฉันก็แค่ยกยิ้มให้ถ่าย
“น้ำแดงปะ หรือเอาแอล” แอลที่พี่ชายฉันถามก็คือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์น่ะ ฉันรับแก้วน้ำหวานแดงจากมือพี่ชายมา
“ไม่เอาหรอกแอล” ฉันพูดจบก็ยกแก้วขึ้นดื่ม เพื่อน ๆ ฉันก็รับน้ำหวานแดงจากพี่ชายฉันมาดื่มเช่นเดียวกัน
แสงสว่างบนท้องฟ้าเริ่มจางลงเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็มืดสนิท พี่เอ็มดึงฉันให้เดินกลับเข้าไปในห้อง พวกเพื่อน ๆ เขาบางส่วนก็เข้ามาในห้องแต่ส่วนใหญ่จะเดินเข้าไปที่ในสนามแข่ง ช่วงนี้รถแข่งทั้งสองคันจอดในสนาม ให้ผู้เข้าชมการแข่งได้เข้าไปดูรถกันได้ ให้ดูแต่ตามืออย่าต้อง เพราะมีทั้งการ์ด ทั้งคนของแต่ละทีมคอยยืนกั้นเอาไว้
ฉันยืนอยู่ริมกระจกมองออกไปเห็นว่าผู้คนเริ่มขึ้นนั่งบนสแตนด์กันแล้ว พี่เอ็มเดินออกไปที่รถของตัวเอง ครู่หนึ่งไฟก็เดินมาที่รถของเขา ฉันเห็นเขาพยักหน้าทักทายกันแล้วต่างฝ่ายต่างก็หันไปคุยกับคนของทีมตัวเอง เสียงพิธีกรก็พูดนั่นนี่ไปเรื่อยซึ่งฉันก็ไม่ได้ตั้งใจฟัง แต่ละคนก็คงไม่ค่อยฟังกันหรอก มีแต่คนสนใจรถที่กำลังจะแข่งมากกว่า
“ลุ้นกับคู่นี้ฉิบหาย กูเคยดูตอนไอ้ไฟมันแข่ง เวลาของมันก็ดีพอ ๆ กับไอ้เอ็มเลย”
“กูว่าถ้าแพ้ก็แพ้แบบสูสี”
เสียงของพวกเพื่อนพี่เอ็มดังขึ้นมา ฉันก็ได้แต่ยืนฟังเงียบ ๆ สายตายังคงจับจ้องไปแต่ที่ในสนามแข่ง
นักแข่งทั้งสองคนขึ้นนั่งประจำที่คนขับ เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มยิ่งพวกเขาทดลองเร่งเครื่อง ทั้งเสียงดังทั้งควันขาวพวยพุ่งออกมา พวกเขาลองรถโดยพุ่งไปข้างหน้าและถอยกลับมาจอดจุดเดิมน่าจะเป็นการทดลองการออกตัว เขาทำแบบนี้กันอยู่หลายรอบ จนทั้งสองคันจอดนิ่งเป็นสัญญาณบอกว่าพร้อมแล้ว
ฉันมองที่ป้ายสัญญาณไฟที่ตั้งอยู่ด้านหน้า ซึ่งอยู่กึ่งกลางรถทั้งสองคัน ไฟเหลืองกะพริบสามครั้ง และไฟเขียวก็สว่างขึ้น รถของพี่เอ็มพุ่งตัวออกก่อน เมื่อถึงเส้นชัยหน้าจอขึ้นโชว์ตัวเลขสีแดง 008.078 ตัวเลขที่เห็นนั่นคือระยะเวลา
หันกลับมามองที่รถของไฟ เมื่อสัญญาณไฟสีเขียวสว่างขึ้นมา รถของไฟก็พุ่งตัวออกไป เมื่อถึงเส้นชัยหน้าจอขึ้นโชว์ตัวเลขสีแดง 007.895
แบบนี้ก็แสดงว่าไฟชนะน่ะสิ พี่ชายของฉันถอดหมวกออก สีหน้าของเขาเคร่งเครียดมากพอสมควร เขาเดินเข้าไปหาพวกเพื่อนเขาที่ยืนรอกันอยู่เขาพูดคุยอะไรกันบ้างฉันก็ไม่รู้หรอกนะ ส่วนทางฝั่งของไฟพวกนั้นก็เฮดีใจกันยกใหญ่
“พี่มึงแพ้ไปนิดเดียวเองว่ะ” ทรายจับไหล่ฉันแล้วเอ่ยออกมา
“เออ น่าเสียดาย”
ฉันว่าแข่งรถทางตรงการแพ้ชนะก็น่าจะสูสีกันแบบนี้แหละ มั้งนะ… ฉันเดาเอาอะ แหะ ๆ
ถอยกลับมานั่งที่โซฟากลางห้องไม่รู้ว่าต้องทำอะไรต่ออีกหรือเปล่าก็เลยยังไม่เปลี่ยนชุด นั่งอยู่สักพักเห็นผู้คนเริ่มพากันกลับ ฉันก็เลยจะลุกไปเปลี่ยนชุดแล้ว คนพากันกลับแบบนี้น่าจะไม่มีอะไรแล้ว
“เดี๋ยวติมไปกับพี่” พี่เอ็มวิ่งเข้ามาคว้าแขนฉันไว้แล้วหันหน้าไปหาเพื่อนฉัน “ทรายแบ๋มกลับไปก่อนเลยนะ ส่วนไอติมพี่พากลับเอง”
ทรายและแบ๋มหันมองหน้ากันก่อนจะหันมามองหน้าฉัน ทั้งสองก็คงไม่อยากทิ้งฉันไว้ที่นี่นั่นแหละ ฉันเห็นว่าเดี๋ยวจะดึกไปกันใหญ่ก็เลยพยักหน้าให้เพื่อนเพื่อที่จะสื่อว่ากลับไปกันก่อนเลย
เพื่อนฉันยกมือไหว้พี่เอ็มแล้วเดินออกไป ที่ฉันให้เพื่อนกลับไปเลยก็เพราะคิดว่าพี่เอ็มคงไม่ทำอะไรฉันหรอก เขาคงอยากจะพาฉันกลับบ้านกลัวว่าฉันจะไปนอนห้องเพื่อนอีก
“จะให้ไปไหนเหรอ” ฉันเอ่ยถามขึ้นมา เพราะเรายืนอยู่แบบนี้นานหลายนาทีแล้ว จนคนออกไปจะหมดสนามอยู่แล้ว
“เดี๋ยวก็รู้” เขาตอบเสียงเรียบและยืนนิ่งอยู่แบบนั้น
สักพักหนึ่งเขาก็เดินเข้าไปในห้องแต่งตัว คว้าเอากระเป๋าและเสื้อผ้าของฉันออกมา ก็คงจะพากลับบ้านแหละมั้งถึงได้เดินมาที่รถ ฉันขึ้นนั่งหน้าคู่กับเขาไม่ได้ถามอะไรต่อ แต่แล้วฉันก็ต้องสงสัยอีกครั้งเมื่อรถไม่เลี้ยวออกแต่กลับขับไปที่ฝั่งของทีมวินโซน เขาจอดสนิทที่หน้าห้องกระจก
“มาที่นี่ทำไม” ฉันเอ่ยถามและไม่ยอมเดินเข้าไปด้านใน จนพี่เอ็มต้องมาดึงแขนฉันให้เดินตาม
พี่เอ็มเปิดประตูห้องแต่ไม่มีใครอยู่ เขาเลยเดินมาที่บันไดข้าง ๆ ห้องและพาฉันเดินขึ้นไปด้านบน พวกเพื่อน ๆ พี่ ๆ ของไฟนั่งดื่มและพูดคุยกันอยู่ที่สแตนด์ ไฟนั่งอยู่ที่ราวเหล็ก เขามองหน้าฉันนิ่ง ๆ ไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมา
“ติมสวยจัง” พี่ลม พี่ชายของไฟเอ่ยขึ้นมาก่อนที่เขาจะมองหน้าพี่เอ็ม “นี่พี่น้องกันจริงปะวะเนี่ย”
“เออ ใครเก็บใครมาเลี้ยงกันแน่วะเนี่ย” พี่ดินพูดแบบติดตลก
“เสือกไรกับหน้ากู” พี่เอ็มพูดเสียงเรียบ
“อะ ๆ แซวก็ไม่ได้ไอ้สัส น้องไอติม…” พี่ลมตอบกลับพี่เอ็มแล้วหันมาหาฉัน
“คะ?”
“ไอ้ไฟมันอยากถ่ายรูปกับน้องอะ มันบอกพี่ตั้งแต่ตอนเริ่มงานละ”
“ฮะ!!!” ทั้งฉันและไฟเอ่ยออกมาพร้อมกัน คนอื่น ๆ ก็เอาแต่นั่งยิ้ม
ฟองลุกขึ้นยืนปัดก้นตัวเองเบา ๆ แล้วค่อยปัดมือ เธอเดินตรงเข้ามาดึงแขนฉันให้เข้ามายืนใกล้ไฟ แต่เหมือนเธอจะยังไม่ค่อยพึงพอใจเลยดึงให้ฉันมายืนที่หว่างขาของไฟ
“ไฟมันอยากถ่ายรูปกับติมจริง ๆ” ฟองยิ้มให้ฉันแล้วยักคิ้วให้ไฟ
ไฟถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เหมือนเขาก็ไม่ได้พอใจที่ต้องถ่ายรูปคู่กับฉัน พี่ดินยกโทรศัพท์มือถือขึ้นถ่ายรูป ฉันก็โพสต์ท่าให้ถ่ายตามปกติ คิดซะว่าพริตตี้ถ่ายรูปคู่กับนักแข่งแค่นั้นเอง จะมาแปลกใจก็ตรงที่ไฟโอบเอวฉันไว้ด้วยนี่แหละ แต่ฉันก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรปล่อยเขาไป