เร่งรัก : EP6

1746 Words
เธอดันตัวลุกขึ้นยืนแล้วเดินกลับเข้าไปในโซนผับ ผมพ่นลมหายใจออกมาหนัก ๆ และยกมือขึ้นกุมที่อกข้างซ้ายของตัวเอง รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าเมื่อนึกถึงตอนที่ไอติมนั่งตัก ผมสะบัดหัวไล่ความคิดและปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เดินกลับเข้าไปหาเพื่อน ๆ ของตัวเอง ถอดหมวกสีหวานออกจากหัวแล้ววางคืนลงบนศีรษะของมีน “มึงคืนผิดคนละไฟ” มีนเอ่ยขึ้นมาพร้อมทั้งถอดหมวกออกส่งคืนให้ปลา ผมไหวไหล่เล็กน้อย นั่งลงที่เดิมของตัวเอง คุยสัพเพเหระอะไรไปเรื่อยเปื่อย พวกสาว ๆ พอเริ่มเมาก็เริ่มจะถอด… หมายถึงถอดเสื้อคลุมออกโชว์ความขาวอึ๋มของตัวเอง ผมเห็นจนชินกับพวกนี้ละ อีกอย่างคือเพื่อนกันอะไม่มีความรู้สึกพิศวาสใด ๆ ทั้งนั้นแหละ ผมมองไปทางโต๊ะของไอติมก็เห็นว่าเธอและเพื่อน ๆ กำลังเดินออก ก็คงจะกลับกันแล้ว ผมเลยหันกลับมาคุยกับพวกเพื่อน ๆ พี่ ๆ ของตัวเองต่อ เรื่องแข่งรถนั่นแหละครับ วันเสาร์นี้ก็จะต้องแข่งแล้ว ถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ต้องแข่งกับพี่ชายของไอติม ผมก็ยังคงเหมือนเดิมคือไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้นอะ ทุกครั้งที่ลงแข่งผมคิดแค่ว่าจะต้องควบคุมรถให้ดีภายใต้ความเร็วเพื่อให้ได้ถึงจุดเส้นชัยในเวลาที่รวดเร็ว แต่ดูทุกคนในแก๊งจะตื่นเต้นกันมากและคาดหวังกับการแข่งขันครั้งนี้ ผมมารู้ทีหลังว่าเงินรางวัลที่สูงขนาดนั้นทั้งที่แข่งกันแค่ 2 ทีม เป็นเพราะพ่อไอ้ภีมเพิ่มเงินให้ พวกผมวางเงินเดิมพันไป 6 แสนบาท ทีมซัคเซส ก็วางเช่นเดียวกัน ส่วนพ่อไอ้ภีมให้เพิ่มมาอีก 8 แสนบาท รวมเงินรางวัล 2 ล้านบาท สงสัยพ่อไอ้ภีมจะได้จากสปอนเซอร์มาเยอะถึงได้ทุ่มให้ขนาดนี้ ก็อย่างว่าเอา 2 ทีม ที่ไม่เคยแพ้มาแข่งกัน แถมยังให้เอารถไปจอดโชว์ สปอนเซอร์ก็ต้องวิ่งเข้าหากันเยอะอยู่แล้ว ถึงเวลาแยกย้ายกันกลับ พวกสาว ๆ เขาก็ช่วยกันแบกสังขารกลับกันเองได้ เว้นแต่ฟองที่แม่งเมาซะหัวทิ่มจนไอ้มาร์ชต้องเข้าไปช่วยแบก ถ้ามันไม่เข้าไปช่วย ฟองคงต้องนอนที่นี่ ผมเห็นว่าแต่ละคนลงตัวกันได้ ผมก็ไม่ได้ยื่นมือไปช่วยใครทั้งนั้นอะ ผมเดินกลับออกมาที่รถคันสวยที่ผมใช้เป็นประจำ ที่จริงมีสปอร์ตคาร์อีกคันแต่จอดอยู่ในเต็นท์ของพี่ดิน เอาไว้จอดอวดไม่ได้จอดขาย อยากขับเมื่อไหร่ค่อยเอาออกมาขับ ผมขับออกมาตามทางไปเรื่อย ๆ ไม่ได้ขับเร็วอะไร ซึ่งพวกเพื่อนและพี่ ๆ ก็ซิ่งแซงหน้าผมไปกันจนหมดครบทุกคัน ผมก็ยังคงเหยียบเบา ๆ ขี้เกียจขับเร็วขับไปเรื่อย ๆ แบบนี้แหละดีแล้ว ผับและบ้านห่างกันพอ สมควรก็คนละจังหวัดกันเลยอะ มองกระจกหลังก็ต้องหรี่ตาทันที คันหลังเปิดไฟสูงทำเชี่ยไรไม่รู้ ผมเลยเหยียบคันเร่งแรงขึ้นให้รถได้พุ่งตัวไปเร็ว ๆ จะได้ทิ้งระยะห่างจากคันข้างหลัง แต่ก็ไม่เลย… มันขับตามมาติด ๆ แถมยังคงเปิดไฟสูงอยู่ตลอด จนผมตัดสินใจขับให้เร็วมากยิ่งขึ้น ไม่คอยมองกระจกหลังให้เสียสมาธิ สายตาจับจ้องไปแต่ทางข้างหน้าไม่ให้รถของตัวเองไปทิ่มท้ายใครเขาเข้า ความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ในที่สุดก็ต้องผ่อนลงเพราะทางข้างหน้าเป็นย่านชุมชน แม้จะดึกดื่นแต่จะขับเร็วมากก็คงไม่ได้หากมีอะไรตัดหน้าขึ้นมาจะเอาไม่อยู่แล้วจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ คราวนี้มองกระจกหลังแสงไฟยังคงแยงตาเช่นเดิม ทั้งเปิดไฟสูงใส่ ทั้งขับตามมาตั้งไกล แบบนี้ต้องมีอะไรแน่นอน ผมตัดสินใจเปิดไฟเลี้ยวซ้ายแล้วจอดเข้าที่ข้างทาง คันที่อยู่ด้านหลังก็ขับแซงขึ้นมา และจอดสนิทอยู่ข้างหน้าผม ผมมองที่ด้านขวาของตัวรถอย่างใจจดใจจ่อ รอให้คนในรถคันนั้นเปิดประตูลงมา ผมไม่เคยมีปัญหากับใครไม่น่าจะมีคนคิดร้ายจนขับตามมาเอาเรื่องแบบนี้ เมื่อเห็นคนที่เปิดประตูฝั่งคนขับลงมาจากรถ หัวคิ้วของผมก็ขยับย่นเข้าหากัน จับจ้องไปที่มันอย่างไม่วางตา จนมันเดินมาที่ประตูฝั่งด้านข้างคนขับของรถผม และจะเปิดประตูรถแต่มันเปิดไม่ได้เพราะผมล็อกไว้อยู่ เห็นแบบนั้นผมก็กดปลดล็อกให้มันได้เปิดและขึ้นมานั่งหน้าคู่กับผม “ขับหนีกูอยู่ได้” “ว่ามาเลย” ผมตอบกลับไอ้เอ็ม ใช่ครับมันคือไอ้เอ็มพี่ชายของไอติม มันขับตามผมมาไกลแบบนี้แสดงว่าต้องมีอะไร เอ๊ะ หรือมันจะทำร้ายอะไรผม ไม่ให้ผมสามารถลงแข่งกับมันได้ เมื่อคิดแบบนั้นผมก็จับจ้องใบหน้ามันอย่างเอาเรื่อง มือของผมสอดลงตรงช่องเล็กที่ประตูรถหยิบเอามีดพับขึ้นมา ผมเอามีดพับไว้ในรถก็แค่มีเผื่อไว้ป้องกันตัวเวลาที่เจอเหตุการณ์ที่เป็นภัยกับตัว “แค่นี้มึงต้องคว้ามีดเลยเหรอ” ไอ้เอ็มมองที่มือผม มันกระตุกยิ้มหลังจากที่พูดจบ “มีไร” ผมเอ่ยถามก่อนจะวางมีดลงที่เดิม “มะรืนนี้ต้องแข่งกันแล้ว” ผมมองหน้ามันนิ่ง ๆ รอให้มันพูดต่อ มันขับตามมาไกลขนาดนี้คงไม่ใช่แค่จะย้ำวันแข่งกับผมหรอก “มึงแพ้ได้ไหม” ผมยังคงมองหน้ามันเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าก่อนที่มันจะถาม มันได้ใช้สมองคิดก่อนหรือเปล่า แข่งขันกันแต่มาบอกให้ผมแพ้นี่มันตลกเกินไป “มึงไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยเหรอไอ้ไฟ” “ลงไป” นี่แหละคือสิ่งที่ผมพูด ขี้เกียจมานั่งฟังมันพูดอะไรบ้า ๆ แบบนี้ “ไอ้ไฟกูขอร้อง แข่งครั้งนี้มึงแพ้เถอะนะ” “มึงอย่าพูดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ถ้ามึงอยากชนะมึงก็ต้องเอาชนะกูไม่ใช่มาขอให้กูแพ้” ที่จริงผมไม่อยากจะพูดอะไรยาว ๆ แบบนี้หรอกนะ แต่ถ้าหากว่าผมไม่พูดมันก็คงไม่ไปสักที “ถ้าอย่างนั้น… ถ้ามึงชนะกูขอเงินเดิมพันของกูคืน” ผมหันขวับไปมองหน้ามันอีกครั้งหลังจากที่มันพูดจบ ชื่อก็บอกอยู่ว่าเงินเดิมพัน ถ้ามันขอคืนแล้วจะแข่งทำไม แบบนี้อย่ามาแข่งให้เสียเวลาซะดีกว่า “แล้วมึงเอาไอติมไปแทน” “นั่นน้องมึงนะไอ้เอ็ม” ผมดึงสติมัน ทั้งที่ตัวผมเองก็ตกใจกับคำพูดของมัน ปกติแล้วเวลาที่ผมแข่งในสนามแบบนี้ไม่เคยมีของเดิมพันเป็นผู้หญิงหรือรถ ของเดิมพันมีอย่างเดียวคือเงิน เพราะป้องกันปัญหาต่าง ๆ เอาแต่เงินนี่แหละดีแล้ว คิดดูดิถ้าแข่งกันหลาย ๆ ทีม แล้วเอาผู้หญิงหรือรถมาเป็นของเดิมพันจะวุ่นวายขนาดไหน แล้วนี่ดันเอาผู้หญิงมาเดิมพัน หนำซ้ำยังเป็นน้องสาวของมันเอง ถึงจะคนละแม่แต่ก็พ่อเดียวกัน มันลูบหน้าตัวเองแรง ๆ แล้วจับจ้องใบหน้าของผมก่อนจะตอบกลับมา “ก็น้องกูไง กูยกน้องกูให้มึงแล้วกูขอเงินของกูคืน” “ขอเหตุผล” ถ้าเหตุผลดี ๆ อาจจะพอรับไว้พิจารณาแล้วคิดอีกทีว่าจะเอาไง แต่ถ้าเหตุผลไม่ดีก็ฝันไปเถอะว่าผมจะรับน้องสาวมันมาแทน ถึงผมจะชอบไอติมมากขนาดไหน แต่ถ้าต้องได้มาเพราะเดิมพันมันก็ไม่โอเคปะวะ… ผ้าขนหนูผืนเล็กที่ใช้เช็ดเส้นผมถูกพาดลงบนไหล่ ผมนั่งลงที่ปลายเตียงในขณะที่มือกำลังกดโทรศัพท์มือถือเข้าไปดูเฟซบุ๊กของไอติม เธอเช็กอินที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ ๆ มหา’ลัย แต่ไม่มีแคปชันหรือภาพถ่าย ใด ๆ ผมเลื่อนนิ้วสไลด์ดูหน้าไทม์ไลน์ของไอติมอยู่ครู่หนึ่ง ประตูห้องของผมก็แทบจะพังเพราะถูกเคาะจากด้านนอก “ไอ้ไฟมึงแต่งตัวยัง จะต้องไปสนามแล้วนะเว้ย” เสียงของไอ้ภีมดังขึ้นมาสลับกับเสียงเคาะประตู “เออ” ตอบไปสั้น ๆ แล้ววางโทรศัพท์มือถือลงบนเตียง หยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูง สวมเสื้อยืดสีดำที่สกรีนชื่อทีมไว้ที่ด้านหลัง ส่วนด้านหน้าตรงอกข้างซ้ายเป็นโลโก้ทีม ท่อนล่างสวมเป็นกางเกงยีนส์ขายาวสีซีด ยืนอยู่หน้ากระจกเซตผมให้เรียบร้อยแล้วคว้าเอาชุดนักแข่ง โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสตางค์และกุญแจรถ เดินลงมาที่ด้านล่าง บรรดาเพื่อน ๆ ก็นั่งกันอยู่ พร้อมที่จะไปสนามแข่งอะไรปานนั้นก็ไม่รู้ เผลอ ๆ นี่ไปก่อนการ์ดอีกมั้ง “ไปยัง” ผมเอ่ยถามขึ้นมา “พวกกูนี่ที่ต้องเป็นคนถามมึง” พี่ดินตอบกลับแล้วส่ายหน้าเล็กน้อยอย่างเอือมระอา พวกพี่ ๆ เดินนำออกไป ผมและเพื่อน ๆ ก็เดินตามออกไป ผมขับรถอีกคันที่ปกติจอดโชว์อยู่ ไปงานแข่งแบบนี้ก็ต้องเท่ ๆ กันหน่อย เมื่อมาถึงสนามแข่ง ที่นี่ค่อนข้างเงียบสงบเพราะอยู่ห่างจากหมู่บ้านต่าง ๆ มากพอสมควร สนามที่แข่งเป็นสนามทางตรง ก่อนที่จะเข้าไปถึงตัวสนามแข่งก็จะเป็นลานที่ใช้โชว์รถ มีทั้งรถจากเต็นท์ของพี่ดิน และอู่ของพี่เกมส์ ของทีมนั้นก็เอามาโชว์เหมือนกัน ส่วนรถที่ใช้แข่งพี่เกมส์ให้คนที่อู่เอามาเตรียมไว้ให้พร้อมแล้วที่ด้านใน…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD