“แวะทานข้าวก่อนได้ไหม ฉันหิวข้าว” ร่างบางหันไปพูดกับนพที่กำลังขับรถกลับไปยังบ้านใหญ่ เธอเริ่มรู้สึกหิวขึ้นมาจึงเอ่ยบอกไปเพราะสูญเสียพลังงานไปกับการช็อปปิ้งจนลืมความหิวไปชั่วขณะ
“นายรอทานข้าวที่บ้านครับ” นพตอบเธอไปแล้วรีบเหยียบคันเร่งเพื่อไม่ให้เจ้านายรอนาน
“ค่ะ” ใบหน้าเรียวแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายที่ต้องพบเจอกับคนที่เธอไม่อยากเจอมากที่สุด
“นั่ง” เสียงทุ้มที่อยู่หัวโต๊ะเอ่ยสั่งเธอที่พึ่งจะเดินเข้ามาก่อนที่ร่างบางเดินไปนั่งเก้าอี้ลงอย่างว่าง่ายตามคำสั่ง แม่บ้านที่ยืนรอเธออยู่แล้วทำการตักกับข้าวให้เจ้านายและเธอทันที
“ชักช้า” คำพูดดุของเขาเอ่ยขึ้นแต่หญิงสาวก็ไม่ได้สนใจตักกับข้าวมาทานสบายใจ
เธอนั่งทานเงียบๆ โดยที่ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรกับชายหนุ่มจนทานกันเสร็จร่างบางรีบเดินเข้าห้องตัวเองไปโดยไม่ลืมที่จะล็อกประตูไว้
แกร็ก เสียงไขประตูดังขึ้นในยามกลางคืนหญิงสาวที่พึ่งจะนอนได้ไม่นานหันกลับไปตามเสียงที่ได้ยิน
“พี่เข้ามาได้ไง” เธอเปิดไฟในห้องพบว่าเป็นธาวินที่พึ่งเดินเข้ามานั่งลงบนเตียงข้างๆ เธอ
“เธอนึกว่าฉันจะให้เธอมาอยู่ใช้เงินฉันเล่นเหรอ” ร่างหนาควานมือไปปิดไฟ เชยคางหญิงสาวมาทางเขาแล้วประกบปากมอบจูบแสนเร่าร้อนโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว
“อื้อออ” มือเล็กทุบอกแล้วดันให้คนตัวโตถอยห่างออกไป
“อย่าขัดขืนฉัน ถ้าไม่อยากเจ็บตัว” เขารวบมือเธอทั้งสองข้างมาไว้เหนือหัวแล้วกดลงจมไปบนเตียงนอนกว้างทำให้ร่างบางตัวเริ่มอ่อนลงเมื่อได้สัมผัสจากรสจูบที่แสนชำนาญของเขา
เขาลดตัวลงมาดมซอกคอขาวนวลพรมจูบไปทั่วลำคอจนร่างบางขนลุกชันเพราะความเสี่ยวซ่านที่เข้ามาแทนที่
“ถอดเสื้อออก” เขากระซิบไปที่หูของเธอแล้วขบเม้มใบหูเล็กจนเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ มือเล็กถอดเสื้อของเธอออกช้าๆ อย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
“ชักช้า แคว่กกก” ร่างหนาพูดจบแล้วฉีกเสื้อของเธอหลุดจนขาดรุ่ยทิ้งเศษผ้าราคาเกือบหมื่นลงบนพื้นห้องอย่างไร้ราคา สายตาที่เต็มไปด้วยความหิวโหยมองเนินนมของเธอผ่านบราตัวจิ๋วไม่กระพริบตา
“อื้มมม” เขาจูบเธออีกครั้งพลางมือสองข้างซุกซนเข้าไปในบราตัวจิ๋วแล้วขยำมันด้วยความชอบและพึงพอใจไปกับสองเต้าที่พอดีมือ
ร่างบางสติเริ่มเลือนหายไปจนมารู้ตัวอีกทีทั้งร่างกายของเขาและเธอเปลือยเปล่าเหลือเพียงแค่เนื้อที่แนบชิดกัน
“ถุงยาง” ร่างหนาชะงักเมื่อเธอจับมือเขาก่อนที่จะสอดใส่เข้ามาในช่องรักของเธอแล้วเอ่ยถามถึงเครื่องป้องกันเมื่อร่างหนาไม่ได้ใส่มันไว้
“ไม่” เสียงปนหงุดหงิดตอบเธอออกไปเมื่อโดนคนตัวเล็กขัดใจ ไม่วายที่จะดึงมือของเธออออกแล้วสอดใส่แก่นกายเข้ามาในตัวเธอจนสุดลำ
“ซี๊ดดดด อย่าเกร็ง” ชายหนุ่มร้องครางออกมาด้วยความเจ็บเมื่อช่องทางรักของเธอคับแคบและบีบแน่นแก่นกายของเขาเกินไปไปกับร่างบางที่เริ่มรู้สึกเกร็งตัวบวกกับความใหญ่ของแก่นกายเขา
เธอลดความเกร็งของตัวจนใบหน้าคนตัวโตเริ่มแปรเปลี่ยนไป
“อะ อื้ออ” ร่างบางส่ายสะโพกไปมาพลางพยายามปิดปากของตัวเองแน่นเพื่อไม่ให้มีเสียงน่าเกลียดเล็ดรอดออกจากปากเธอ
“ครางชื่อฉัน” เขาดึงมือเธอออกแล้วบดขยี้ที่ช่องทางรักจนร่างบางบิดตัวไปมา
“มะ ไม่ อื้อออ” เธอตอบเขาเสียงสั่นแล้วบิดมือตัวเองออกมาจากการเกาะกุมของเขามาปิดปากอีกครั้ง มืออีกข้างจิกไปที่ผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่ไปหมดเพื่อระบายความเสียวของตัวเอง
พั่บ พั่บ พั่บ ร่างหนาจับเอวเล็กกระแทกไม่ยั้งจากนั้นจึงหยุดการกระทำของเขาเมื่อใกล้สุดทางรัก ร่างบางชันตัวมามองหน้าเขาเมื่อเกิดอารมณ์ค้างขึ้นมา
“ครางชื่อฉัน” เขาบอกจุดประสงค์ที่หยุดการกระทำอีกครั้ง เธอลอบมองใบหน้าเขานิ่งกดอารมณ์ของตัวเองที่กำลังโดนเขากลั่นแกล้ง
“พะ พี่วิน ทำต่อ” เมื่อเห็นว่าเธอนิ่งเงียบไปเขาก็จับเอวหลวมมาบดขยี้อีกครั้งจนเธอเกิดทนไม่ไหวโพล่งพูดออกไปตามความต้องการของเขา
ร่างหนายกยิ้มมุมปากด้วยความพอใจกระแทกเข้าไปเต็มแรงจนร่างบางบิดตัวแล้วกระตุกร่างไปพร้อมกัน
เขาจับเธอหันหลังชันเข่าขึ้นสองข้างจับเอวหลวมของเธอแล้วเสียบแก่นกายเข้ามาอีกครั้งจนร่างบางไม่ทันได้พักจากศึกที่พึ่งผ่านไปไม่กี่นาที
พลางใช้แขนทั้งสองข้างแอ่นสะโพกของเธอแล้วกดเน้นแก่นกายเข้ามาจนสุดลำ
พั่บ พั่บ พั่บ เสียงเนื้อแนบเนื้อกระทบกันเกิดขึ้นอีกครั้งร่างบางควานมือหาที่ยึดกับหัวเตียงแล้วกำมันไว้แน่น
“อ้ะ!” มือหนาเลื่อนมาบีบขย้ำนมของเธอพลางกระแทกแก่นกายที่จุดเชื่อมของสองคนเข้ามาไม่ยั้ง
“อ่าส์” เสียงปลดปล่อยของทั้งสองคนดังขึ้นพร้อมกันอีกครั้งเมื่อบทรักเดินไปสุดทาง น้ำรักสีขาวขุ่นที่เกิดจากเขาปล่อยเข้าไปในตัวเธอทุกหยดหยาด ร่างบางปล่อยตัวนอนบนเตียงด้วยความหมดแรงแต่อีกคนกลับพลิกตัวเธอหันมาเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้งแยกขาทั้งสองข้างออกแล้วดันแก่นกายของเขาเข้ามาอีกครั้ง
“ขวัญเหนื่อยแล้ว” เสียงหอบหายใจแรงเอ่ยห้ามคนตัวโตที่กำลังจะเริ่มบทรักขึ้นอย่างไม่หยุดพัก
“ฉันยังได้ไม่คุ้มกับสองล้านที่เสียไป...” ร่างหนาก้มลงมากระซิบประโยคนั้นข้างหูเธอแล้วบรรเลงบทรักต่อไม่สนใจเสียงหอบของหญิงสาวสักนิด
ตัดมาที่ตอนเช้า
ครืดดดด ครืดดดด เสียงโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น ร่างบางไม่ลืมตาแต่ใช้มือของเธอควานหาโทรศัพท์เจ้ากรรมที่โทรมารบกวนเธอจากหัวเตียงแทน
“อีขวัญ มึงไม่มาเรียน เป็นอะไร” ปลายสายกรอกเสียงแหลมออกมา
เธอลืมตาแล้วมองไปยังเวลาในโทรศัพท์ที่บ่งบอกว่าเป็นเวลาเที่ยงแล้วซึ่งวันนี้เธอมีเรียนคาบเช้าด้วย
“เปล่า กูขี้เกียจ” เธอเอาโทรศัพท์มาแนบหูอีกครั้งแล้วเอ่ยตอบปลายสายไป
“มึงพึ่งตื่น?”
“อือ” เธอยอมรับออกไปโดยดี เมื่อคืนกว่าคนตัวโตจะปล่อยให้เธอเป็นอิสระก็เป็นเช้าของอีกวันเสียแล้ว
“มึงทะเลาะกับไอพัดเหรอ มันมาถามหามึงจากกูเนี่ย”
“เปล่า”
“เปล่าแล้วทำไมมันไม่โทรหามึงเอง”
“ไม่ได้ทะเลาะ แต่เลิกกันแล้ว”
“ห้ะ เลิกกันแล้ว เลิกเมื่อไหร่ อีขวัญมึงเล่ามาเดี๋ยวนี้”
“ไว้กูค่อยเล่า แค่นี้นะ กูปวดหัว” ร่างบางวางสายเพื่อนของเธอแล้วใช้มือนวดขมับสองข้างเพื่อไล่อาการปวดหัวที่เริ่มก่อตัวขึ้น
เธอทรงตัวให้ยืนตรงแล้วเดินเข้าไปอาบน้ำมองดูสภาพตัวเองหน้ากระจกที่เต็มไปด้วยรอยที่เกิดจากฝีมือของเขา
‘เมื่อไหร่ฉันจะหลุดพ้นจากซาตานแบบเขานะ’ เธอถูรอยดูดที่ลำคอจนเกิดรอยแดงแทน น้ำตาใสๆ ไหลลงมาคิดน้อยใจที่ไม่สามารถเลือกชีวิตของตัวเองได้
“คุณขวัญจะทานข้าวเลยไหมคะ” ร่างบางเดินลงมายังชั้นล่างเมื่อท้องไส้เริ่มรู้สึกหิว
“ค่ะ” เธอนั่งลงที่โต๊ะใหญ่คนเดียวกวาดสายตามองไปรอบๆ เพื่อหาคนตัวโตเมื่อคืนที่ตื่นก็ไม่เจอเขานอนอยู่บนเตียงแล้ว
“คุณหนูไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ” พรเดินออกมาจากครัวแล้วเอ่ยบอกเธอเมื่อสังเกตเห็นว่าร่างบางกำลังมองหาใครสักคน
“หนูไม่ได้หาเขาสักหน่อย” เธอตักข้าวมาทานแล้วตอบพรออกไป
“ป้าคะ หนูขอยาแก้ปวดหน่อยนะคะ”
“คุณขวัญเป็นอะไรเหรอคะ ให้ป้าเรียกหมอหรือเปล่า”
“ไม่ต้องค่ะ หนูแค่ปวดหัวนิดหน่อย”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวป้าไปหยิบยามาให้” พรเดินออกไปแล้วมาพร้อมกับกระปุกยาในมือวางตรงหน้าของเธอ
ร่างบางจัดการกรอกยาแก้ปวดสองเม็ดใส่ปากตัวเองแล้วขึ้นไปบนห้อง วางหัวลงบนเตียงแล้วหลับลงอย่างเร็วเพราะฤทธิ์ของยา