บทที่ 06 เลิกกัน

1369 Words
“ขวัญเราหาวันว่างไปบ้านพัดกันไหม พ่อกับแม่พัดอยากเจอขวัญ” แฟนหนุ่มขับรถไปจับมือเธอไปแล้วหันมายิ้มกับเธอหลังจากจบประโยคด้วยท่าทีที่มีความสุข “...” ร่างบางเงียบ “พัดเล่าเรื่องขวัญให้พ่อกับแม่ฟังตลอดเลยนะ” ไม่นานรถของเขาก็เลี้ยวเข้ามาจอดที่คอนโดหรูของเธอ เขาเลยหันมาพูดจริงจัง “พัด” หญิงสาวเอ่ยเรียกแฟนหนุ่มแล้วหันไปมองเขาเช่นกัน “ว่าไงครับ” “ขะ...ขวัญ...ว่าเราเลิกกันไหม” หญิงสาวพยายามกลั้นน้ำตาแล้วพูดออกไปเสียงปกติ “ขวัญพูดอะไร!” ชายหนุ่มเริ่มขึ้นเสียงใส่เธอเล็กน้อยแล้วชายตาไปมองเธอนิ่ง “ขวัญขอโทษ ขวัญว่าเราควรหยุดกันแค่นี้” เธอกุมมือแฟนหนุ่มแน่นแล้วพูดออกไปเสียงแข็งแม้ข้างในจะเจ็บปวดไปกับคำพูดของตัวเองก็ตาม “ขวัญ พัดทำอะไรผิด เมื่อกี้เรายังทานข้าวกันดีๆ อยู่เลย” “พัด...พัดไม่ได้ทำอะไรผิด ขวัญผิดเอง ขวัญขอโทษ” ร่างบางเริ่มร้อนผ่าวที่ขอบตามองชายหนุ่มอย่างรู้สึกผิดและน้ำเสียงที่เริ่มสั่นคลอน “ขวัญทำอะไร ขวัญบอกพัดมาสิ พัดให้อภัยขวัญทุกอย่าง แต่เราไม่เลิกกันได้ไหม” สีหน้าเจ็บปวดของชายหนุ่มยิ่งเพิ่มความรู้สึกผิดในใจของเธอ ก้อนเนื้อที่อกข้างซ้ายยิ่งบีบรัดมากขึ้น...เธอแค่ทำไปเพื่อรักษาคนตรงหน้าให้ปลอดภัยจากจากซาตานอย่างเขา “ฮึก เลิกกันดีแล้ว ขวัญขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะ” น้ำใสๆ จากดวงตากลมค่อยๆ หยดลงเธอรีบเอามือปาดมันลวกๆ เพื่อไม่ให้เขาเห็น “ขวัญ ไม่เอาแบบนี้” ร่างเล็กพยายามแกะมือตัวเองออกจากการเกาะกุมของแฟนหนุ่ม “ขวัญขอให้พัดเจอคนที่ดีกว่าขวัญนะ” รอยยิ้มสุดท้ายที่เธอมอบให้ชายหนุ่มทั้งน้ำตาแล้วสะบัดมือตัวเองเปิดประตูลงจากรถแล้วรีบวิ่งเข้าไปในคอนโดหรูทันที “ขวัญ...” ชายหนุ่มวิ่งตามเธอแต่ก็ไม่ทันเพราะคอนโดนี้ต้องมีคีย์การ์ดถึงจะสามารถเข้าไปข้างในได้ “โถ่เว้ยยย!!” เขาทุบรถตัวเองด้วยความโมโหที่ทำอะไรไม่ได้ คนสองคนต้องเลิกกันทั้งๆ ที่เขายังไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร สาเหตุอะไร ‘ฮึก ฮือออ’ ร่างบางร้องไห้อยู่ในห้องตัวเองท่ามกลางความมืดไร้แสงไฟมีแค่แสงสว่างจากดวงจันทร์ที่เล็ดลอดมาจากผ้าม่านที่ระเบียงเผยให้เห็นร่างบางกำลังร้องไห้กอดเข่าตัวเอง เธอค่อยๆ คลานเข่าขึ้นไปนอนบนเตียงราวกับคนหมดแรงจนเผลอหลับไปทั้งน้ำตาที่เต็มแก้มนวล กริ้งงง ร่างบางลืมตาขึ้นในเช้าวันใหม่เพราะเสียงดังที่เกิดจากประตูห้องของเธอ เธอรีบลุกขึ้นล้างหน้าล้างตาแล้วรีบเดินออกไปเปิดประตูให้คนมาใหม่ “นายให้ผมมารับครับ” ชายชุดดำพูดแล้วโค้งหัวให้เธอเล็กน้อย “ฉันไม่ไป” ร่างบางตอบออกไปเสียงแข็งจ้องหน้าเขาเอาเรื่อง “ผมว่าคุณไปดีๆ เถอะครับ ถ้านายมาตามเอง คุณคงเจ็บตัวอีกนะครับ” ชายชุดดำพูดในเชิงขอร้องแก่เธอ เขาแค่สงสารที่เธอต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจนายของเขาแต่ก็ไม่สามารถขัดผู้เป็นนายได้ “... ฉันขอเวลาครึ่งชั่วโมง” เธอเงียบไปสักพักแล้วตอบเขาไปยังไงแล้วเธอก็คงหนีเขาไปไม่พ้น “เสร็จแล้วค่ะ” ร่างบางเดินออกมาโดยที่ไม่มีกระเป๋าเสื้อผ้าใดๆ ตามเธอมาสักใบ “ไม่เอาของไปเหรอครับ” “ไม่ค่ะ นายของคุณรวยมากไม่ใช่เหรอคะ ฉันจะซื้อใหม่ให้หมด” ร่างบางยิ้มร้ายออกมาในเมื่อปฏิเสธเขาไม่ได้ก็ต้องปรับตัวให้ทันกับชายหนุ่มเพื่อเอาตัวรอดจากเขาให้ได้ “เชิญครับ” เขาไม่ตอบอะไรแต่ผายมือไปทางลิฟต์แทน “นายของคุณให้พาฉันไปไหน” เมื่อพาตัวเองเข้ามานั่งในรถหรูสีดำโดยที่มีชายชุดดำเป็นคนขับเธอโพล่งถามเขาออกไปแล้วหันมองกระจกใสข้างทางรอฟังคำตอบ “เซฟเฮาส์ของนายครับ” ชายหนุ่มตอบแล้วมองเธอผ่านกระจกรถ “ค่ะ” เธอตอบแล้วมองทอดไกลออกไป “เรียกผมว่านพก็ได้ครับ” “ค่ะคุณนพ” รถหรูสีดำเลี้ยวเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ที่ตลอดทางมีแต่ต้นไม้ทั้งสองข้างทางจนไม่น่าเชื่อว่าจะยังมีบ้านหลังใหญ่ตั้งตระหง่านสวยงามอยู่ตรงนี้ ร่างบางเดินลงจากรถเห็นชายชุดดำยืนตรงอยู่เต็มประตูและรอบๆ บ้าน เธอเดินตามนพเข้าไปในบ้านชายชุดดำต่างพากันโค้งหัวให้เธอจนหญิงสาวตกใจขึ้นแล้วรีบเดินผ่านไปจากตรงนั้น “ป้าพรพาเธอไปที่ห้องหน่อยครับ” นพเรียกแม่บ้านเก่าแก่ในเซฟเฮาส์ของเจ้านายแล้วเดินออกไป “สวัสดีค่ะ” เธอยกมือไหว้ผู้ใหญ่ที่ถึงแม้จะเป็นแม่บ้านแต่ก็ไม่ใช่บ้านของเธอ “ไม่ต้องไหว้ป้าหรอกจ้ะลูก ปะเดี๋ยวป้าพาไป” เธอเดินตามแม่บ้านมายังชั้นสองของบ้าน “หนูชื่ออะไรล่ะ” “ชื่อเพียงขวัญค่ะ” “จ้ะ นี่ห้องของหนูคุณหนูให้ป้าเตรียมไว้แล้ว ข้างๆ นี่ก็ห้องของคุณหนูนะ” แม่บ้านเปิดประตูห้องให้เธอที่ตกแต่งด้วยโทนเรียบแต่ของใช้ในห้องครบหมดทุกอย่างแล้วชี้ไปทางอีกห้องที่ติดกับห้องเธอ “ป้าคะ บ้านนี้อยู่กี่คนเหรอคะ” “มีคุณหนู ป้าแล้วก็การ์ดจ้ะ” “คุณหนูของป้าเขาไม่มีแฟนเหรอคะ” เธอถามข้อมูลเผื่อจะมีทางไหนที่เธอจะหลุดพ้นจากเขาได้บ้าง “ป้าก็ไม่รู้ แต่ผู้หญิงที่เข้าบ้านหลังนี้ยกเว้นคุณผู้หญิงก็หนูคนเดียวนี่แหละจ้ะ” หลังจากที่แม่บ้านพูดจบสีหน้าแห่งความหวังเปลี่ยนเป็นหน้าเศร้าทันที “ป้าไปทำงานต่อก่อนนะ” “ค่ะ” เธอเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่แล้วนั่งลงที่ปลายเตียงคิดหาทางเอาตัวรอด ก็อก ก็อก ก็อก เวลาผ่านไปสักพัก เสียงประตูห้องเธอดังขึ้น “นายให้ผมพาไปซื้อของครับ” ร่างบางเปิดประตูห้องมาเจอกับนพที่เป็นคนเคาะห้องเธอ “ค่ะ” เธอเดินไปหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกไปตามเขาอย่างว่าง่าย “ฉันสามารถซื้อได้แค่ไหน” ร่างบางเดินเข้ามาที่ห้างสรรพสินค้าหันไปถามนพที่เดินตามหลังเธอ “แล้วแต่ครับ” เมื่อได้ฟังคำตอบเธอผุดรอยยิ้มมุมปากแล้วรีบสาวเท้าตัวเองจัดการเข้าทุกร้านที่เดินผ่าน ชี้นิ้วไปที่ราวเสื้อผ้าทั้งหมดที่แขวนตั้งโชว์แล้วหันไปพยักหน้าให้พนักงานในร้าน จากนั้นจึงเดินเข้าไปร้านต่อไปไม่ลืมที่จะซื้อชุดนักศึกษาใหม่ด้วยโดยที่นพไม่ได้พูดห้ามเธอสักคำ ร่างบางเดินซื้อของจนลืมเรื่องเศร้าไปได้บ้าง “เสร็จแล้ว” เธอหันมาบอกนพหลังจากที่เดินซื้อของราวๆ ครึ่งวันของจะส่งตามเธอมาทีหลังโดยที่นพเป็นคนจัดการทั้งหมดถ้าคิดเป็นมูลค่าที่เธอซื้อไปคงไม่ต่ำกว่าเจ็ดหลักร่างบางยิ้มออกมาอย่างภูมิใจในผลงานของตัวเองที่ตั้งใจจะผล่านเงินของเขาเล่นอย่างไม่เสียดาย “เชิญครับ” นพผายมือไปยังทางออกของห้าง ร่างบางเดินออกไปสบายใจได้ของใช้มากมายโดยที่ไม่ต้องเสียเงินจ่ายเอง ‘ในเมื่ออยากได้ตัวฉันก็จ่ายให้คุ้มหน่อยแล้วกัน’ ร่างบางเมื่อคิดว่าตัวเองหนีเขาไปไหนไม่ได้จึงเรียนรู้ที่จะอยู่กับเขาโดยที่ไม่ให้ตัวเองเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่คนเดียว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD