“หม่าม้า หม่าม้าคับพี่หมูอ้วนมาแล้ว”
“...”
“หม่าม้า หม่าม้าคับ”
“...”
ม่านหยกมัวแต่คิดถึงเรื่องในอดีตจึงไม่ได้ยินเสียงเรียกของลูกชายที่เดินมาเรียกหม่าม้าหลายครั้ง ก่อนจะสะดุ้งโหยงเพราะมีคนมาจูบแก้ม
คราแรกเธอนึกว่าพ่อของลูกแต่ที่ไหนได้เป็นเจ้าหมูอ้วนตัวแสบที่กำลังยิ้มยิงฟัน สุขใจกับการได้เห็นแม่หน้าตาตื่นตกใจ
“คิกๆ หม่าม้าตกใจทำไมพี่หมูอ้วนเอง” เจ้าแก้มกลมอมชมพูชี้นิ้วมาที่ตัวเองพลางยิ้มหวานเอาใจ ในขณะที่สายฟ้านั่งตรวจเอกสารอยู่บนโต๊ะทำงาน แต่สายตาแอบมองสองแม่ลูกหยอกล้อกัน ว่าไปเจ้าหนูสุขนำพาก็น่ารักน่าชังไม่น้อยเลย
“ตกใจสิครับ นึกว่าใครมาหอมแก้มหม่าม้า” คุณแม่ดึงลูกชายมาหอมแก้มคืนเป็นการแก้แค้นทำให้เจ้าหนูหัวเราะชอบใจ เอานิ้วจิ้มแก้มแม่อย่างอารมณ์ดี ระหว่างที่พ่อกับแม่คุยกันตัวเองออกไปเล่นเครื่องบินกระดาษกับคุณอาเลขา ไม่มีอาการงอแงหรือดื้อดึงให้คุณอาเลขาลำบากใจแม้แต่น้อย
“ก็หม่าม้าไม่ได้ยินเสียงพี่หมูอ้วน ต้องถูกลงโทษ” นิ้วอวบๆ ยังจิ้มแก้มแม่ไม่หยุดทำให้คนแอบมองเกือบหลุดอมยิ้ม ยังดีที่ทำหน้าเคร่งขรึมทันเวลาหลังจากม่านหยกหันมามอง
“น่ากลัวจังเลย วันนี้เราอยู่ที่นี่ไปก่อนนะลูก ตอนบ่ายมีธุระต้องไปทำกัน” หญิงสาวเห็นชายหนุ่มยังตั้งใจทำงานจึงหันกลับมาคุยกับลูกชายต่อ เธอสังเกตแววตาของเจ้าลูกชายวันนี้ดูสดใสเป็นพิเศษ คิดว่าอีกไม่นานแม่คงกลายเป็นหมาหัวเน่า
“คับ พี่หมูอ้วนหิว” เด็กหิวยกมือขึ้นมาลูบท้องป่องของตัวเองป้อยๆ พลางแสดงสีหน้าน่าสงสาร อยากอ้อนวอนขอให้แม่พาตัวเองไปกินของอร่อย อย่างเช่น น้ำหวาน
“ยังไม่เที่ยงเลยหิวแล้วเหรอลูก” เพิ่งกินตอนอยู่บนรถเมล์เอง ยังไม่ทันจะสิบเอ็ดโมงเจ้าลูกชายบอกว่าหิว
แบบนี้แหละเธอถึงเรียกลูกว่าพี่หมูอ้วน
กินบ่อย กินเก่ง กินได้ทุกอย่าง เอาอะไรมาให้ก็กินหมดไม่สนจะอร่อยหรือไม่ขอแค่ได้กิน
“คับหิวมาก หม่าม้าวันนี้พี่หมูอ้วนเป็นเด็กดี ขอกินน้ำโค้กได้ไหม นิดเดียวเอง” เด็กฉลาดเอานิ้วขึ้นมาจีบประกอบทำท่าทางนิดเดียวทั้งที่ในใจคิดว่าหลังจากแม่อนุญาตจะดื่มให้หมดกระป๋อง
“ไม่ได้ครับ เด็กดื่มน้ำโค้กจะทำให้ปวดท้อง” แม่ดับฝันทำให้เจ้าหมูอ้วนจอมตะกละหน้าม่อยทันตาเห็น น้ำโค้กจ๋าพี่หมูอ้วนลาก่อน
“นิดเดียวก็ไม่ได้ใช่ไหม” ยังมีหน้าจะถามอีก เด็กน้อยทำหน้าทำตาอ้อนวอนสุดความสามารถเผื่อแม่จะใจอ่อน ทว่ามารดากลับส่ายหน้าตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง มุกเดิมๆ ใช่กับแม่ไม่ได้หรอกเจ้าหมูเจ้าเล่ห์ มีเหรอที่แม่จะไม่รู้คำว่านิดเดียวไม่มีอยู่จริง เพราะแม่เคยโดนลูกหลอกมาแล้ว คราวนี้อย่าหวังว่าแม่จะหลงกล
“ไปกินข้าวพอเดี๋ยวหม่าม้าให้กินไอติมหนึ่งแท่ง” ถึงดูดน้ำโค้กเย็นชื่นใจไม่ได้แต่ยังมีของปลอบใจ สุขนำพาถึงกับยิ้มแป้นหน้าเปลี่ยนสีเหมือนมีใครไปกดปุ่ม หน้าบานจนแม่อยากจะเอามือไปหยิกแก้มให้หายมันเขี้ยว
“เย่ๆ คนสวยของพี่หมูอ้วนใจดีที่สุด” เด็กอยู่เป็นชมแม่เสียงหวานก่อนจะเข้าไปกอดคอหอมแก้มซ้ายขวา
สายฟ้าแอบมองอยู่ตลอด พยายามกลั้นขำกับความไหลลื่นของเจ้าหมูอ้วน เด็กคนนี้คือลูกชายของเขาจริงเหรอ ทำไมอ้อนแม่เก่งขนาดนี้
“ได้ของที่ชอบหม่าม้าก็เป็นคนสวยขึ้นมาทันที ไปเดี๋ยวหม่าม้าพาไปกินของอร่อย” คุณแม่ยิ้มชื่นใจกับความฉอเลาะอยู่เป็นของลูกชาย สุขนำพาคือเด็กที่เกิดมาเพื่อสร้างความสุขให้แม่จริงๆ
“ป๊ะป๋าคับไปกินข้าวกัน” เจ้าหมูอ้วนยังมีน้ำใจวิ่งไปถามบิดาถึงหน้าโต๊ะทำงาน แววตาแป๋วแหววของเจ้าหมูอ้วนทำให้สายฟ้าปฏิเสธไม่ลง มีเด็กมาอ้อนขนาดนี้มีเหรอที่เขาจะใจดำ
“อย่ากวนป๊ะป๋าครับ เราไปกันสองคนก็พอลูก”
“เราออกไปกินข้าวเลยก็ได้ เสร็จแล้วจะได้ไปโรงพยาบาลต่อ”
“ไม่รบกวนคุณสายทำงานใช่ไหมคะ”
“ถ้ารบกวนผมจะไปกับคุณเหรอ”
“ค่ะ งั้นก็เชิญ”
“เย่ๆ ได้กินข้าวสามคน หม่าม้า พี่หมูอ้วน แล้วก็ป๊ะป๋า”
เด็กน้อยแก้มกลมออกอาการดีใจ ชี้ไปที่แม่ ชี้ตัวเอง แล้วก็ชี้ไปที่บิดาทำให้ผู้ใหญ่พากันขำเอ็นดูเจ้าหมูอ้วนตุ๊ต๊ะ หลังเดินออกจากห้องยังมีน้ำใจไปชวนคุณอาเลขาไปกินข้าวด้วยกันอีก แบบนี้ใครจะไม่เอ็นดู อัธยาศัยดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
ตลอดทางเด็กชายสุขนำพาพูดไม่หยุด ตั้งแต่ออกจากบริษัทไปจนถึงร้านข้าว จนมาถึงโรงพยาบาลถึงได้เงียบกริบ ร้องบอกให้พ่ออุ้มพร้อมกับหลั่งน้ำตาทำให้สายฟ้าตกใจ เพราะก่อนหน้านี้เจ้าหนูยังเป็นเด็กอารมณ์ดีอยู่เลย ทำไมพอมาถึงโรงพยาบาลถึงได้เปลี่ยนเป็นเด็กงอแง มันต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่นอน
“ทำไมร้องไห้ขนาดนี้ครับ”
“ฮือ ไม่ชอบ”
“ไม่ชอบอะไรครับ”
“ฮึก พี่หมูอ้วนกลัวคุณหมอ”