“แหม...ทำมาบอกว่าบอสให้นามบัตรเธอไว้ อย่ามาอำเสียให้ยากเลย คิดจะมาจับบอสน่ะสิ ถ้าจะมาสมัครงาน สำหรับพนักงานระดับล่างคงไม่ต้องถึงขนาดพบบอสหรอกมั้ง แค่ผู้จัดการฝ่ายบุคคลก็พอแล้ว หน้าตาบ้านนอกๆ อย่างเธอ พนักงานทำความสะอาดก็คงพอ ไม่ต้องถึงขนาดไปชงกาแฟหรอก”
ริมฝีปากสีพีชแบะออกจากกันเพราะหมั่นไส้สาวบ้านนอกแต่งตัวไร้รสนิยม ที่กล้าเอานามบัตรท่านประธานมาแอบอ้าง ดวงตาแต่งแต้มจนสวยกวาดมองจากใบหน้าลงไปที่ปลายเท้าก่อนของพรบุหลัน ก่อนจะตวัดไล่ขึ้นมาที่ใบหน้าอีกครั้ง
“เชอะ! หน้าตาก็ไม่เห็นจะสวย กล้ามากนะเธอ ถึงขนาดเอาชื่อบอสมาอ้าง แล้วสรุปเธอจะบอกได้หรือยังว่าไปเก็บนามบัตรของบอสได้จากที่ไหน ว่ายังไงล่ะเธอ จะมาจ้องหน้าฉันทำไม โอ๊ะ! โกรธเหรอจ๊ะ โกรธแล้วจะทำอะไรได้ จะมาทำงานในที่เจริญแล้วต้องไม่ทำหน้าบึ้งนะจ๊ะ เอ๊ะ! พูดแล้วยังจะมามองหน้าอีก ว่ายังไง! จะทำมั้ยงานน่ะ ถ้าอยากทำก็กรอกใบสมัครซะ ถ้าไม่ทำก็ออกไป เสียเวลาฉันจริงๆ กลิ่นก็ไม่ได้โสภา”
พรบุหลันหลุบตามองใบสมัครงานพร้อมปากกาที่เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์สวยแต่รูปกระแทกวางบนเคาน์เตอร์ตรงหน้าของเธอ พยายามข่มอารมณ์สุดฤทธิ์ เพราะทั้งคำพูด สีหน้า และแววตาของสาวเมืองกรุงหน้าสวยนั้นกระแทกใจเธออย่างแรง เธอกำลังอดทน แต่ดูว่าการนับ 1 จนถึง 100 เมื่อสักครู่ที่ผ่านมาคงไม่พอถ้าอีกฝ่ายไม่หยุดประชดประชัน หรือเธอต้องนับให้ถึง 1,000 อย่างที่แม่เคยสอนเอาไว้
‘นับหนึ่งให้ถึงร้อยนะจันทร์ แต่ถ้ายังไม่ได้ก็นับให้ถึงพัน’
แม่สอนให้เธอข่มใจ พยายามหลีกเลี่ยงการมีเรื่องกับคนอื่นให้มากที่สุด เพราะการมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งไม่ว่าจะใครเป็นฝ่ายผิด ผลสรุปก็มีแต่เสียกันทั้งสองฝ่าย แต่ตอนนี้เธอกำลังจะทนไม่ได้เมื่อเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของแฟรงเกนส์กรุ๊ปกำลังลามปามไปถึงแม่
“นี่เธอ! ยืนบื้ออะไรอยู่ ฉันพูดด้วยไม่ได้ยินหรือไง หรือว่าคิดถึงแม่ คิดถึงก็กลับบ้านไปสิยะ ที่นี่ไม่ใช่ศาลาคนเศร้านะ จะได้มายืนหน้าเซ่ออยู่แบบนี้ ไม่สมัครก็เชิญไปที่อื่น ฉันไม่ได้มีเวลามาเสวนากับคนอย่างหล่อนนะ นี่แม่เธอคงไม่ได้สอน...”
เพล้ง!
แจกันดอกไม้ด้านหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ตกกระทบพื้น ตามมาด้วยเสียงวี้ดว้ายของเจ้าหน้าที่ และใบหน้าแต่งแต้มอย่างสะสวยก็ตวัดมองหญิงสาวหน้าตาบ้านๆ ที่เธอต่อว่าเอาไว้ ริมฝีปากอ้าออกเตรียมจะต่อว่า แต่แล้วสิ่งที่เห็นก็ทำให้เธอต้องหุบปากลงโดยด่วน ทั้งใบหน้าก็ก้มงุดราวกับเกรงกลัวความผิด
พรบุหลันมองคุณประชาสัมพันธ์หน้าสวยอย่างไม่เข้าใจ และเริ่มรู้ว่ากิริยาเกรงกลัวนั้นไม่ได้มาจากที่เธอแกล้งปัดแจกันให้ตกลงไป แต่มาจากใครบางคนที่อยู่ด้านหลังเธอต่างหาก เธอเสียวสันหลังวาบขึ้นเพราะรู้ตัวว่าสิ่งที่ทำไปเมื่อครู่เกิดจากการไม่รู้จักระงับอารมณ์อย่างที่แม่สอน และการถืออารมณ์เป็นใหญ่กำลังสร้างปัญหาให้เธอแล้ว เรื่องคงจบที่เธอต้องกลับบ้านมือเปล่า ไม่ได้งานอย่างที่คาดหวังเอาไว้
“คุณพรบุหลันครับ”
อาการเสียวสันหลังวูบหายไป ใบหน้าสวยใสหันมองคนเรียกทันทีก่อนจะส่งยิ้มแหยให้เขา อย่างน้อยที่สุดเขาก็ยังเป็นคนที่เธอพูดคุยด้วยได้ ไม่ได้น่ากลัวอย่างใครอีกคนที่หัวใจเธอประหวัดไปถึง
“คุณกาย”
“ขอโทษนะครับที่ทำให้รอนาน รถติดมากเลย นี่ผมก็บึ่งพี่วินมาเลยนะครับ แต่ก็ยังไม่ทันจนได้”
น้ำเสียงประชดและสายตาคาดโทษถูกส่งตรงไปยังเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ที่ก้มหน้างุดอย่างรู้ความผิดของตัวเอง แต่ก่อนที่กายจะพูดอะไร เสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นทำให้เขาต้องรีบรับสายอย่างเร่งด่วน เพราะคนปลายสายคงไม่อยู่ในอารมณ์ที่ต้องคอยนานแน่
“ครับบอส...”
กายกรอกเสียงใส่โทรศัพท์พลางปลายตามองเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ที่เหลือบตาขึ้นมองเขา ก่อนจะก้มหน้างุดตามเดิม แล้วหันไปพูดกับพรบุหลัน
“คุณพรบุหลัน เชิญทางนี้ก่อนนะครับ” เขาผายมือไปด้านหน้าให้เธอเดินตามไปนั่งยังจุดที่ใช้รับรองผู้มาติดต่อ ก่อนจะเดินกลับไปที่จุดประชาสัมพันธ์ในลักษณะกำลังรับคำสั่งจากคนปลายสาย
พรบุหลันมองกายพูดคุยกับเจ้าหน้าที่หน้าสวยแต่พูดไม่สวยคนนั้น ก่อนเจ้าหน้าที่คนสวยจะเหลือบตามองมาที่เธอ ดวงตาแดงก่ำนั้นบ่งบอกได้ว่ากำลังอยู่ในอารมณ์เศร้าสุดๆ ก่อนจะพูดบางอย่างที่พรบุหลันเดาได้ว่าเธอกำลังอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น แต่คำพูดที่ออกจากปากของกายทำให้เธอคนนั้นถึงกับร้องไห้โฮ พรบุหลันไม่รู้ว่ากายไปพูดอะไรกับเธอคนนั้นบ้าง รู้แต่ว่าเธอกำลังเก็บข้าวของใส่กระเป๋าพร้อมกับร้องไห้ไปด้วย
อารัญมองสิ่งที่กายทำผ่านหน้าจอมอนิเตอร์ ก่อนจะกดโทรศัพท์หาเลขาฯ หน้าห้อง
“ยกเลิกนัดวันนี้กับพรุ่งนี้ทั้งหมด มีอะไรบอกกายเอาไว้” อารัญสั่งก่อนจะลุกขึ้นยืนกระชับสูทให้เข้าที่ ดวงตาจับจ้องหน้าจอมอนิเตอร์ไม่ลดล่ะ ภาพนั้นคือกายกำลังพาพรบุหลันออกไปยังออฟฟิศที่เขาจัดเตรียมไว้ให้
รถยนต์คันหรูที่กายโทรศัพท์เรียกมาจอดด้านหน้าอาคารสูงเสียดฟ้า ก่อนที่เขาจะทำหน้าที่เป็นพลขับพาเธอออกมาพ้นจากอาณาจักรของแฟรงเกนส์ ทำให้พรบุหลันขมวดคิ้วเข้าหากัน ใบหน้างดงามค่อยๆ ชำเลืองดูเสี้ยวหน้าหล่อใสสไตล์หนุ่มเกาหลี หน้าใสๆ แบบนี้คงไม่คิดจะทำอะไรเธอหรอกนะ แต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ...
พรบุหลันเริ่มคิดฟุ้งซ่าน เพราะเส้นทางที่กายพาเธอเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวานั้นเธอชักจะจำไม่ได้ แค่นั่งรถเมล์จากหมอชิตมาที่นี่เธอก็แทบจะหลงอยู่แล้ว แต่นี่ยังต้องมาเจอกับเลี้ยวหลายเลี้ยว และถ้าเขาให้เธอกลับเองล่ะ เธอจะกลับถูกได้ยังไง คิดแล้วก็เริ่มจะสะกดความฟุ้งซ่านไว้ไม่ได้