20

1123 Words
20 “จะว่าไปแค่นี้ก็พอแล้วล่ะ เพราะเราได้คำตอบนั้นแล้ว” “แล้วได้ว่ายังไงล่ะเฟิร์น” ณัฏฐลักษณ์ถามเพื่อนอย่างคนใสซื่อ คำถามกลับของสาวไร้เดียงสาทำให้เจ้าแผนการถึงกับมึน “โอ๊ย! ฉันอยากจะบ้าตาย เธอดูไม่ออกเลยเหรอกุ๊กว่าคุณอาขาของเธอคิดยังไงกับเธอ” “ไม่รู้” ณัฏฐลักษณ์พูดพร้อมกับส่ายหัวดิก “ก็คิดเหมือนกับที่เธอคิดกับคุณอาขานั่นแหละ” คนได้รับคำตอบยิ้มกว้าง ดวงตาประกายความสุข แต่ทว่าเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว สีหน้าของณัฏฐลักษณ์ก็เปลี่ยนไป “เธอแน่ใจเหรอเฟิร์น” ความไม่แน่ใจแทรกเข้ามาในหัวใจของณัฏฐลักษณ์ “แน่ใจสิ ฉันแน่ใจเกินร้อยเลยล่ะกุ๊ก เธอไม่ต้องกลัวอีกต่อไปเลยว่าเธอจะรักคุณอาขาฝ่ายเดียว เพราะฉะนั้นลุยได้เลย” ภัทรพรสรุป “แต่การที่ผู้หญิงจีบผู้ชายมันไม่ดีนะ ไม่มีใครเขาทำกันหรอก” ณัฏฐลักษณ์แย้งกล้าๆ กลัวๆ “สมัยนี้มันไม่เหมือนสมัยก่อนนะ ที่จะต้องรอให้ผู้ชายมาจีบ เธอลองคิดดูนะกุ๊ก คุณอาจอนก็ไม่รู้ว่าเธอคิดยังไงกับเขา มีแต่เธอเท่านั้นที่รู้ว่าคุณอาคิดยังไง ฉะนั้นเธอต้องทำให้คุณอารู้ให้ได้ว่า เธอคิดยังไงกับเขา ความรักมันถึงจะเดินมาหากันและกันไง” ภัทรพรให้เหตุผลเพิ่มเติม เธอเป็นสาวสมัยใหม่ที่มีความคิดแหวกแนว คิดว่ายุคสมัยนี้หญิงชายเท่าเทียมกัน หากฝ่ายหญิงจะเปิดใจเป็นฝ่ายจีบผู้ชายก่อนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เธอก็ไม่ละทิ้งเรื่องความบริสุทธิ์ที่จะต้องเก็บไว้ให้ชายที่ตนมั่นใจว่าจะเป็นพ่อของลูก แผนการของภัทรพรจะเป็นเช่นไร แม่สื่อแม่ชักจะทำให้โจนาธานและณัฏฐลักษณ์สมหวังในรักได้หรือไม่ ไม่มีใครจะให้คำตอบได้ นอกจากเวลาเท่านั้น งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราในที่สุดก็ถึงเวลาที่แขกพิเศษจะต้องเดินทางกลับบ้าน ภัทรพรเดินออกมาจากบ้านของโจนาธานหลังจากที่เปลี่ยนชุดใหม่ เป็นชุดหนังสีดำรัดรูปชุดเดิมแทนเดรสสีหวานที่ไม่เหมาะกับการขับขี่ไอ้กล้ามโต โดยมีร่างของเพื่อนสนิทและเจ้าของบ้านเดินมาส่งที่รถ “เฮ้ย! ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ” เสียงของภัทรพรดังขึ้น เมื่อเห็นล้อรถมอเตอร์ไซค์คันโปรดแบนติดพื้นทั้งสองล้อ ทั้งที่ขามามันยังอยู่ในสภาพดี แล้วเหตุใดขากลับจึงเป็นเช่นนี้ “มีอะไรเหรอเฟิร์น” โจนาธานถาม “ก็ยางรถมอ’ ไซค์ของเฟิร์นแบนทั้งสองล้อน่ะสิคะคุณอาจอน” เจ้าของรถขับเคลื่อนสองล้อตอบ “อ้าว แล้วมันแบนได้ยังไงล่ะ หรือว่าตอนที่เฟิร์นขับมาโดนตะปูหรืออะไรตำมาหรือเปล่า พอจอดรถยางมันก็เลยแบน” โจนาธานสันนิษฐานไปเรื่อย “มันก็อาจจะเป็นอย่างนั้นค่ะ” ผู้พูดก็ไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง คิดว่าน่าจะเป็นไปตามข้อใดข้อหนึ่งที่เจ้าของบ้านพูด “ยางรถแบนอย่างนี้เฟิร์นขี่กลับไม่ได้แน่ กุ๊กว่าให้คนขับรถของคุณอาไปส่งดีกว่านะ พรุ่งนี้ค่อยให้รถยกมายกรถ กลับไปบ้านเฟิร์น” ณัฏฐลักษณ์แสดงความคิดเห็น “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวอาไปส่งเพื่อนของกุ๊กเอง” เสียงนี้เป็นเสียงของแอนโธนี่ที่เดินออกมาจากบ้านและได้ยินคำพูดของเจ้าของเสียงคุณอาขาพอดีเขาจึงเสนอตัวทันควัน “รบกวนนายเปล่าๆ พรุ่งนี้นายมีประชุมตอนเช้าไม่ใช่เหรอ ฉันให้ไซลัสไปส่งเฟิร์นเองก็ได้” โจนาธานกล่าวอย่างเกรงใจ เพราะรู้ว่าพรุ่งนี้เพื่อนสนิทมีงานสำคัญที่บริษัท การที่ขับรถไปส่งภัทรพรที่อยู่คนละทางกับบ้านของแอนโธนี่จะเป็นการเสียเวลา ทางที่ดีเขาให้ลูกน้องขับรถไปส่งน่าจะดีกว่า “กวนเกินที่ไหนกันล่ะ ฉันไปส่งสบายมากเรื่องแค่นี้เล็กน้อย นายก็รู้ว่าฉันอดนอนเก่งทำอะไรต่อมิอะไรทั้งคืน ฉันยังตื่นไปทำงานได้เลย” แอนโธนี่ไม่ได้พูดแก้ตัว แต่เขาพูดความจริง เรื่องการนอนดึกตื่นแต่เช้าไม่ใช่ปัญหาของเขาเลย มันเป็นเรื่องเท่าขี้ผง นอนแค่หนึ่งชั่วโมงเขาก็ลุกไปทำงานได้ ภัทรพรอดที่จะหมั่นไส้ผู้พูดไม่ได้ ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าความหมายที่เขาพูดออกมานั้นคืออะไร แต่ทำไมนะ เธอได้ยินเขาพูดแฝงความหมายแล้วรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก นึกอยากจะเข้าไปตะบันหน้าตงิดๆ อีกทั้งยังรู้สึกหวั่นๆ หากจะให้ตนนั่งรถไปกับแอนโธนี่ตามลำพัง เพราะเกรงว่าเหตุการณ์เหมือนในลิฟต์จะเกิดขึ้นซ้ำสอง “เอาอย่างนี้ก็ได้ค่ะ ให้เฟิร์นขับรถของคุณอาจอนไปเองดีกว่าค่ะ พรุ่งนี้เฟิร์นจะให้คนขับรถที่บ้านเอารถมาคืนคุณอาจอนที่นี่ จะได้ไม่มีใครเสียเวลาทั้งนั้น” สาวหัวไวหาทางออก “จะให้คนอื่นลำบากทำไมล่ะ เทียวไปเทียวมาน่าปวดหัว ให้ฉันไปส่งเธอน่ะแหละดีแล้ว” แอนโธนี่ไม่ยอมแพ้ ยังไงเขาก็จะต้องไปส่งภัทรพรให้ได้ “นอกเสียจากว่าเธอกลัว...กลัวที่จะนั่งรถไปกับฉันสองต่อสอง” แอนโธนี่พูดอย่างรู้ทันความคิดของภัทรพร คนรู้ทันมองผู้พูดตาเขียว คนอย่างภัทรพรไม่เคยกลัวใครอยู่แล้ว อย่างเธอน่ะหรือจะไม่กล้าไปกับเฒ่าลามกคนนี้ หากมาทำอะไรอีกครั้งล่ะก็ จะเอาให้ทำพันธุ์ไม่ได้เลย “เฟิร์นไปกับคุณลุงก็ได้ค่ะ คนอย่างเฟิร์นไม่กลัวใครอยู่แล้ว” ภัทรพรตอบกลับด้วยรอยยิ้ม โจนาธานมองหน้าเพื่อนอย่างรู้เท่าทันความคิด ไม่ใช่ว่าบนโต๊ะอาหารเขาจะมองแต่ณัฏฐลักษณ์คนเดียว สายตาของเขายังลอบมองเพื่อนสนิทกับภัทรพรเป็นระยะ โดยที่ทั้งสองคนไม่รู้ตัว และจากการลอบมองในครั้งนี้ทำให้โจนาธานจับประเด็นได้บางอย่าง ภายนอกทั้งคู่เหมือนเพิ่งเจอกันครั้งแรก ทว่า เขากลับไม่คิดเช่นนั้น มันต้องมีอะไรมากกว่าที่เห็น “ถ้าอย่างนั้นฉันฝากเฟิร์นด้วยนะโทนี่” โจนาธานบอกเพื่อน ก่อนจะขยับใบหน้าไปชิดใบหูของเพื่อน กระซิบกระซาบพูดกับเพื่อน “ยังไงเฟิร์นก็เป็นเพื่อนของกุ๊ก นายอย่าไปรังแกล่ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD