ตอนที่ 5
มือเล็กเรียวควานหาข้าวของที่จะสามารถช่วยเหลือผู้หญิงที่กำลังจะเข้ามาป่วนและแย่งชิงคู่หมั้นไปจากอก จนพบผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กจากกระเป๋าใส่ประจำกายพร้อมน้ำแร่สะอาดที่มีอยู่ครึ่งขวดถูกนำมาเทใส่และกดซับบนวงหน้าขาวซึ่งซีดเผือดเหมือนกับกระดาษ กดซับสลับผัดวีลมให้อย่างเบามือ
“ท่าทางอาการไม่ดีขึ้นเลยค่ะสอง เอาไงดีคะ” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกังวล เธอยกมือขึ้นปาดเหงื่อบนใบหน้าที่คิดว่าตอนนี้คงจะแดงก่ำเพราะความร้อนที่ทวีสาดเข้าหา จนระบบภายในร่างกายแทบจะสุกไหม้
“พาผึ้งเข้าไปในบ้านก่อนดีกว่า” ศรวัณเสนอทางเลือก
“ดีเหมือนกันคะ มุกเองก็ร้อนจนคิดว่าจะเป็นลมไปอีกคนเหมือนกัน ทำไมเมืองไทยมันถึงร้อนอย่างนี้ก็ไม่รู้” นิศามณีตอบรับและบ่นตาม
“มุกไปยืนรอผมใต้ร่มไม้นะ ผมจะพาผึ้งไปส่งบ้านก่อน แล้วจะออกมารับ” ศรวัณตัดสินใจ แม้จะยินดีกับการได้เจอสาวน้อยแสนสวยเข้ามาทักทายทอดสะพานให้ แต่การเดินทางอันยาวนานจากอังกฤษมาถึงเมืองไทยบวกกับอากาศที่ร้อนจัดก็ทำให้เขาปรับตัวไม่ทัน อากาศที่ร้อนจัด ทำให้อึดอัดและปวดศีรษะขึ้นมาเหมือนกัน
“ได้ค่ะ เร็วๆ นะคะสอง” นิศามณีแม้ไม่อยากจะปล่อยให้ศรวัณหายไปกับผึ้ง แต่ก็ขัดขวางไม่ได้เช่นกัน เธอรีบวิ่งไปที่ใต้ร่มไม้ใหญ่ พลางยกขึ้นมาพัดวีลมเข้าหากายเผื่อผ่อนคลายร้อนทั้งกายและร้อนใจที่ทำยังไงมันก็ไม่หายตราบเท่าที่ยังไม่ได้เห็นศรวัณมายืนเคียงข้าง
มณีมณฑ์ขบกัดฟันบนริมฝีปาก เธอนั่งซึมด้วยไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเลย นับตั้งแต่วันนั้นที่เป็นลมจวบจนถึงวันนี้ก็ปาไปเกือบจะเดือนแล้วที่เธอได้แต่แอบมองศรวัณผ่านประตูบ้านของตัวเอง บ่อยครั้งที่เธอแอบหนีมารดาไปดักรอชายหนุ่ม
แต่เมื่อได้เจอ...ในหูกลับมีแต่คำพูดของผู้หญิงคนนั้นดังก้องอยู่ แม้ศรวัณจะยิ้มให้และยังส่งสัญญาณบอกคอยก่อนนะ ไม่นานจะกลับมาหา แต่เป็นการรอคอยที่ไร้จุดหมาย เพราะชายหนุ่มอยู่กับคู่หมั้นคู่หมายที่ตกลงจะแต่งงานด้วยและยังออกไปทำธุระตามประสาคนที่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกัน
มณีมณฑ์ยกมือขึ้นจับอกเมื่อรู้สึกว่ามีเข็มนับร้อยนับพันเล่มกระหน่ำทิ่มตำจนเจ็บไปหมด ความเย็นเกาะกุมทั่วร่าง เหงื่อผุดขึ้นจนเต็มใบหน้า ฟันขาวขบกัดริมฝีปากที่ในวันนี้แห้งแตกระแหง ในดวงตากลมโตหวานอมโศกมีน้ำตาคลออยู่
เพียงแค่คิดว่าจะต้องสูญเสียผู้ชายที่รักให้กับผู้หญิงคนอื่น อย่าถึงขนาดนั้นเลย เพียงแค่ได้เห็นว่ามีหญิงสาวที่ไม่ใช่เธออยู่ในอ้อมแขนของศรวัณ เธอก็เจ็บปวดเหมือนใจถูกไฟเผาแล้ว มณีมณฑ์สะอื้นฮัก มือเล็กกำหมัดทุบไปบนเตียงนอนแรงๆ
ไม่! จะยอมให้พี่สองแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ แต่จะขัดขวางยังไงล่ะ
เป็นคำถามวนเวียนอยู่ในหัวมณีมณฑ์ตั้งแต่ได้รู้ว่าศรวัณจะแต่งงานแล้ว
ข้าวปลาก็กินไม่ได้ แม้กระทั่งยามนอนในสมองก็ยังไม่หยุดทำงาน ครุ่นคิดถึงวิธีขัดขวางไม่ให้สองคนนั้นได้แต่งงานกันจนร่างกายซูบผอม
ไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเอง แต่สายตายามที่ศรวัณมองผ่านกระจกรถมา บอกว่าเขาก็มีใจให้เธอ เขารักเธอ แต่เสียดายว่าเจอกันช้าไป ผิดที่ผู้หญิงคนนั้นด้วย คอยควบคุมทุกฝีก้าว จนพี่สองปลีกตัวมาหาเธอไม่ได้ ศรวัณคงกำลังรอให้เธอทำบางสิ่งบางอย่างเผื่อขัดขวางไม่ให้เกิดพิธีแต่งงาน จากนั้นเขาและเธอก็จะได้รักกันและครองคู่กัน ใช่! มันจะต้องเป็นแบบนั้นแน่นอน
มณีมณฑ์หมกมุ่นอยู่กับความคิดความเชื่อของตัวเองจนลืมนึกถึงเหตุผลความเป็นไปได้และความเป็นจริง สมองเธอหมุนเป็นเกลียวเหมือนลูกข่าง หลายต่อหลายแผนการที่คิดขึ้นมาได้ ดูเหมือนจะดี แต่ยังติดขัดและยังนำมาใช้ไม่ได้
ชีวิตจริงไม่เหมือนกับละครที่นางอิจฉาจ้องแต่จะจับพระเอก ลงทุนวางแผนมากมายเพื่อให้ได้พระเอกมาเป็นของตัวเอง ทำแม้กระทั่งวางยาเพื่อจะให้ได้ตัว หลอกให้นางเอกมาพบ จะได้เข้าใจผิดจนยกเลิกงานหมั้นหรืองานแต่ง ก่อนพระเอกจะตามง้อและพิสูจน์ความจริงว่าไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น หลังปรับความเข้าใจกันได้ ก็ตกลงแต่งงานกันอย่างสายฟ้าแลบ ท่ามกลางความยินดีของคนที่รักทั้งคู่ ส่วนตัวร้ายก็จะโดนมรสุมชีวิต ไม่เป็นที่ต้องการของใคร กลายเป็นที่รังเกียจของผู้คน ที่หากเธอคิดทำจริง...จะต้องแนบเนียนจนใครจับพิรุธไม่ได้
ยิ่งคิดภายในใจของมณีมณฑ์ก็ร้อนรนเหมือนกับถูกไฟริษยากัดกินจนนั่งไม่ติด หญิงสาวลุกจากเก้าอี้ เดินวนไปเวียนมาพร้อมกับกัดแทะเล็บตัวเองไม่ยอมหยุดสลับยกมือขึ้นลูบไล้ลำคอระหง ก่อนที่ร่างเล็กบางจะย้อนกลับมานั่งบนเก้าอี้ด้วยลมหายใจหอบแรงที่มันพ่นออกจากจมูกและปาก
“โว้ย! ทำไมถึงคิดไม่ออก”
หญิงสาวขยี้ผมบนศีรษะจนเส้นผมที่ยุ่งอยู่แล้วยุ่งเหยิงปรกใบหน้า บวกกับดวงตาลึกโป๋และใบหน้าซีดเซียวเพราะการอดตาหลับขับตานอนเฝ้าแต่ครุ่นคิดถึงการทำลายพิธีวิวาห์ของศรวัณจึงทำให้เห็นเป็นเหมือนกับผีก็ไม่ปาน
ฝ่ามือเล็กเย็นจัดแต่กลับมีเหงื่อซึมออกมาจนเต็มกำหมัดแน่น ก่อนที่มือข้างหนึ่งจะยกขึ้นเพื่อให้ฟันกัดแทะเหมือนกับหนูแทะเมล็ดทานตะวัน บ้างเคลื่อนลงมาถูกแขนเรียว สองเท้าขยับถูไถกับพื้นพรมนุ่ม
ก่อนประกายในดวงตาเศร้าหมองจะเปล่งประกายขึ้นทันควัน เมื่อคิดถึงแผนการบางอย่างที่น่าใช้ชะลอการแต่งงานของศรวัณและนิศามณีได้
หญิงสาวยิ้มกริ่ม ขณะมองลอดผ่านหน้าต่างบ้านไปยังบ้านที่อยู่ติดกัน ระยะทางห่างไกลไม่ได้เป็นอุปสรรคในการมองของมณีมณฑ์แม้แต่น้อย เธอเห็นตัวมารที่ขัดขวางความสุขของตัวเองกำลังนั่งอ่านหนังสือจิบน้ำส้มเย็นเพียงลำพังกลางสวนดอกไม้สวยเพียงลำพังอย่างสบายใจ
“เธอเสร็จฉันแน่ยายมุกมีตำหนิ งานนี้พี่สองต้องเป็นของฉัน”
ประกายในดวงตากลมโตมุ่งหมายมาดร้ายและแข็งกร้าว ยังจะมีรอยยิ้มอย่างสาแก่ใจที่ผุดขึ้นบนใบหน้า ในสมองมีแต่ความคิดร้ายๆ ผิดกับรูปกายที่อรชรอ้อนแอ้นน่าทะนุถนอม
มณีมณฑ์ยิ้มหวาน ก่อนจะผิวปากเป็นเพลงรักหวานซึ้ง ร่างเล็กลุกวิ่งเข้าไปในห้องนอน เป็นครั้งแรกในรอบหลายวันที่เธอคิดถึงน้ำเย็นที่ราดรดกาย อาหารอร่อยๆ ฝีมือแม่สุดที่รักและเตียงนอนนุ่มๆ ที่จะฝังกายลงทุกค่ำคืน หวังว่าวันหนึ่งจะมีคนที่รักมานอนเคียงข้าง เมื่อถึงวันนั้นเธอคงจะสุขใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้ต้องรอไปก่อน ต้องจัดการธุระสำคัญให้สำเร็จเสียก่อน
“นายครับนาย...นายครับ” ชายร่างรูปร่างสูงใหญ่ ผิวคร้ามแดด ผมสีน้ำตาลเข้มวิ่งกระหืดกระหอบ ท่าทางตื่นตระหนกและตกใจด้วยข่าวร้ายที่ต้องนำมาแจ้งนายผู้เป็นที่รัก สำหรับคนนอก นายคือคนโหดร้าย ใจดำทำได้ทุกอย่างเพื่อความพอใจของตนเอง แต่ในความจริงแล้วมันไม่ใช่สักนิดเดียว นายเป็นคนใจดีรักลูกน้อง คอยดูแลด้วยใจภายใต้ท่าทีเรียบเฉยเหมือนจะไม่สนใจสิ่งใด
แม้เพียงแค่สิ่งเล็กน้อยนายก็มองเห็น ถ้าเป็นนายคนอื่นคงจะไม่สังเกตว่าเขาไอหลายครั้งและถี่ด้วย นอกจากจะบังคับให้พักผ่อนรักษาตัวแล้ว วันเกิดนายก็มีของขวัญให้ด้วย แม้จะเล็กน้อยแต่ก็มีคุณค่าทางใจสำหรับลูกน้องทุกคน จนถึงกับบอกว่าจะอยู่ด้วยจนกว่าจะทำงานไม่ไหว นายไม่เคยไปทำร้ายหรือระรานใครก่อน เพียงแค่ตอบโต้และป้องกันตัวเองและลูกน้องทุกคนเท่านั้นเอง