“5 ต่อ 1 เองมึง” ก่อนยักคิ้วและยกไหล่อย่างลืมตัว
“แสดงว่า 5 คนของมึง ยังไม่แรงควายเท่าไอ้บลูไนท์ตัวเดียว” ไอ้มอร์ฟินเงยมามองผมที่สภาพดีกว่ามันหลังเพิ่งฟัดกับไอ้บลูไนท์ไปหมาด ๆ
เอาจริง ๆ ผมก็ไม่ได้สภาพดีไปกว่ามันหรอก เพียงแต่..
ผม... ไปโรงพยาบาลมาก่อน…
“ยายจืดนั่น!!” ก่อนจำได้ว่าผมไม่ได้มาที่นี่เพียงลำพัง ขณะที่กำลังจะหันไปตามหายายนั่น
รถพยาบาลของโรงพยาบาลคุณปู่ก็ขับตรงเข้ามาจอดอยู่ไม่ไกล พร้อมกับหมอและพยาบาลแบบครบครัน
“มึงเอาไอ้ฟินไปโรงพยาบาลก่อนนะ” ผมตะโกนบอกไอ้แอลขณะที่กำลังรีบเร่งฝีเท้ากลับไปที่ที่บอกให้ยายนั่นรอ
ตึก ๆๆๆ ผมวิ่งขึ้นไปตาม ณ จุดนัดพบที่คิดว่าปลอดภัย เพราะมันถือเป็นพื้นที่ส่วนตัวของพวกผมเอง...
เพียงแต่...
“อื้ออส์ อ่าส์ ...ซี้ดด” เสียงร้องครางระงมดูปลุกเร้าอารมณ์แปลก ๆ จนผมต้องเร่งฝีเท้าเข้าไป
“ว้ายยยย กรี๊ดดดดดด มีคนมาค่ะ ๆ” ผู้หญิงคนหนึ่งร้องขึ้นเสียงหลงเมื่อผมเดินไปถึง เพราะทั้งเธอและชายหนุ่มอีกคนกำลังร่วมรักกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมันนั่นเอง
“ครูซ...” ไอ้ผู้ชายดูท่าน่าจะรู้จักผม แต่ผมไม่ได้รู้จักมันมากนัก
“คุณครูซ!!” สาวพริ้ตตี้อกตูมคนนั้นก็หน้าเสียทันทีที่เห็นผม... ก่อนที่ทั้งคู่จะหยุดการขย่มกันเอาไว้ก่อนและนิ่ง ๆ ไป
ซึ่งผมก็ทำเป็นมองผ่าน ๆ และยกมืออย่างไม่สนใจอะไร... ถึงแม้ว่าพวกเขากำลังรุกล้ำที่ส่วนตัวก็ตาม
เต็นท์นี้มันไว้สำหรับใช้มองรถแข่งและบรรยากาศรอบ ๆ ข้างล่าง แถมยังเป็นส่วนตัวมากอีกด้วย ถือว่าบรรยากาศดี ลมกระโชกแรง หลังจากแข่งเสร็จก็ไม่แปลกถ้าพวกเขาจะมาสานต่อกันบนนี้ เพียงแต่... มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของผมและพวกเพื่อนเท่านั้นเอง... แต่ตอนนี้คนที่ผมกำลังมองหาคือยายจืดนั่นซึ่งไม่รู้ว่าช็อกไปรึยังตอนเจอชายหญิงกำลังxxxกัน...
“หายไปไหนนะ” ผมบ่นขึ้นอย่างเซ็ง ๆ เพราะไม่รู้จักเธอ ไม่รู้ชื่อ ไม่มีเบอร์โทรใด ๆ
ก่อนกวาดสายตาไปรอบ ๆ ที่นั่งซึ่งมีทั้งกล่องและตู้เก็บอุปกรณ์ช่างเละเทะกระจัดกระจายไปหมด...
“หรือว่าจะกลับไปแล้ว” จากนั้นจึงมองไปที่รถพยาบาลด้านล่างซึ่งกำลังเคลื่อนตัวออกไปอย่างพิจารณา
แต่ตอนที่ผมกำลังจะหันหลังกลับก็เหลือบไปเห็นรองเท้าคัชชูรัดส้นเรียบร้อยคู่หนึ่งหลุดอยู่แถว ๆ เก้าอี้ ทำให้รู้ว่ายายเด็กนั่นยังอยู่แถวนี้แน่ ๆ
ผมหยิบรองเท้าคู่นั้นขึ้นมาและกวาดตามองไปรอบ ๆ อีกครั้ง จนเจอเงาของใครบางคนเอามือปิดตาตัวเอง ทั้งยังนั่งทรุดก้มหน้าอยู่อีกฝั่งของตู้เครื่องมือช่างยนต์
“เจอจนได้สินะ ยายจืด” ผมส่ายหน้าอย่างนึกตลกยายนี่ในใจ
Mirarun part
ในระหว่างที่ฉันกำลังนั่งรอให้หมอนั่นกลับมา จู่ ๆ ก็มีผู้ชายรอยสักเต็มตัวกับสาวพริ้ตตี้ในชุดบิกีนีเดินกอดจูบกันขึ้นมา แม้ว่าจะพยายามเรียกพวกเขาเบา ๆ ว่ามีคนอยู่ แต่เหมือนเสียงนั่นไม่ได้ช่วยให้พวกนั้นหยุดอารมณ์ทางเพศที่กำลังพลุ่งพล่านเลยสักนิด หรือไม่ก็ต้องเป็นโรคหูดับกันแน่ ๆ จึงพยายามจะแสดงตัวตนและเดินหลบหนีออกไป แต่ว่า...
ฟุ่บบบ!!
“เอาสดเลยเถอะ พี่ไม่มีถุง” จู่ ๆ ผู้ชายคนนั้นก็ถอดกางเกงออก จนทำให้ฉันเห็น... องคชาตของเขาได้เต็มตาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“(วี้ดดดดดดดด)” ฉันทำได้แค่กรี๊ดในลำคอตัวเองและเอามือปิดปาก ก่อนจะวิ่งหาที่หลบทันที เพราะพวกเขากำลังขย่มกันแบบเอาเป็นเอาตายบนเก้าอี้ตัวที่ฉันกับครูซเคยใช้นั่งคุย...
ก่อนทำได้เพียงก้มหน้าและเอามือปิดหูเอาไว้ไม่รับรู้ใด ๆ...
“นี่มันสังคมบ้าบออะไรเนี่ย...” ฉันพยายามจะลบภาพองคชาตของผู้ชายคนนั้น แต่มันก็ยากที่จะทำได้ จริงที่ว่าฉันเรียนหมอ ทว่าไม่เคยเห็นตอนมันแข็งตัวและชูขึ้นขนาดนี้
“เราเป็นหมอนะ มิรา เราเคยเห็นแล้ว ตั้งสติ ๆ มันก็แค่อวัยวะส่วนหนึ่งของผู้ชายเท่านั้น” จากนั้นจึงพยายามจะบอกกับตัวเอง
“อร้ายยย อื้อสส์ ซี้ดดด” สาวพริ้ตตี้นมซิลิโคนไซส์ราว ๆ 600 cc กำลังร้องแทบจะขาดใจตาย
เอี๊ยดอ๊าด ๆๆๆๆ พร้อมกับเสียงเก้าอี้ขยับเป็นจังหวะ ๆ
ฉันเลือกที่จะเอามือปิดหูทั้งสองข้างไว้ทันที
หมับ!!! จู่ ๆ ก็มือของผู้ชายคนหนึ่งเดินมาจับที่แขนของฉัน
“กระ... (กรี๊ด)” ฉันกำลังจะอ้าปากกรี๊ดด้วยความตกใจ
“อย่ากรี๊ด!” แต่ครูซเอานิ้วชี้ของเขามาปิดที่ริมฝีปากฉันซะก่อน
ด้วยสีหน้าที่ยังตกใจไม่หายของฉัน ครูซเองก็ทรุดตัวลงนั่งตรงหน้า ก่อนจะใส่รองเท้าคัชชูที่ทำหลุดเอาไว้ตอนวิ่งหาที่ซ่อนนั่นแหละ
“กลับได้แล้ว” ก่อนดึงแขนของฉันให้ลุกขึ้นตามเขา
เจ้าตัวมองไปอีกทาง ก่อนจะหันกลับมายังฉัน
แล้วจูงมือของฉันออกมาจากที่ซ่อนหลังตู้นั่น
“หลับตาซะ” เสียงทุ้มพูดขึ้นก่อนจะใช้มือตัวเองปิดตาของฉัน
“เสร็จแล้วก็รีบกลับไปซะ และหวังว่าจะไม่เจอพวกมึงที่นี่อีกนะ” ครูซพูดเสียงแข็งพลางดึงตัวของฉันให้หันหน้าเข้าแผ่นอก และเดินออกมาจากตรงนั้นพร้อม ๆ กัน
ฉันเงียบมาตลอดทางแม้จะขึ้นรถแล้ว เพราะยังช็อกกับภาพที่เห็นอยู่
“เธอโอเคไหม ยายหมอ” เขาหันมาถามด้วยท่าทีที่เรียบเฉย ราวกับทุกอย่างปกติ ขณะที่ฉันยังคงนั่งขยี้ตาตัวเองซ้ำ ๆ อยู่แบบนั้น
“โอเคก็บ้าแล้ว” ฉันพูดเสียงเบา ๆ ด้วยอาการจิตตก
ขณะที่หมอนั่นเลี้ยวรถเข้าโรงพยาบาลและจอดรถที่เดิมอย่างถืออภิสิทธิ์หลานเจ้าของ
“เธอไม่เคยดูหนังโป๊รึไง” เขาถามก่อนจะวางแขนข้างที่ใช้ขับรถลงกับประตู
” หนังโป๊!!!! จะบ้าเหรอ ฉันไม่ได้โรคจิตเหมือนนายนะที่พอเห็นองคชาตแล้วไม่รู้สึกอะไรอะ” ฉันสวนทันที แต่หมอนั่นกลับมองมาด้วยสายตาแปลก ๆ
“เรื่องเซ็กส์มันเป็นเรื่องปกติปะ” เขาเปิดประตูรถปุ๊บ พวกบุรุษพยาบาลและหมอก็พุ่งเข้ามาทันที
ฉันได้แต่นั่งส่ายหน้ากับความเห็นแปลก ๆ ของหมอนี่
“คุณครูซครับ ๆ... เป็นอะไรไหมครับ เจ็บตรงไหนมาอีก” พี่หมอตี๋คนดีคนเดิมพุ่งตัวเข้ามาจนแทบจะอุ้มครูซลงจากรถ
“ยังไม่ตายหมอ!! อย่าเว่อร์ ๆ” ครูซพูดพลางจับแขนอีกข้างของเขาด้วยสีหน้าเจ็บปวด
“ที่บอกว่ากระดูกแขนร้าวน่ะ ตอนนี้น่าจะหักแล้ว” เจ้าตัวพูดด้วยเสียงที่เรียบเฉย ก่อนจะหันมามองทางฉัน
“ลงจากรถสิยายเฉิ่ม ฉันจะได้ล็อกรถ” จากนั้นก็หันมาบอกฉันอย่างกวน ๆ
ทุกคนก็หันมามองทางฉันด้วยสายตางุนงง ว่าทำไมถึงมากับหมอนี่
“ยายมิรา แกหายไปไหนมาอะ” ยายวีโอเลตวิ่งตรงเข้ามาหาฉันอย่างตกใจ
“พาคุณครูซไปเอกซเรย์และแอดมิทเข้านอนห้องวีไอพีที่หมอเตรียมไว้เลย” พี่หมอหน้าตี๋ สั่งพวกพยาบาลให้เข้ามาดูแลทันที แต่ก่อนที่อีกฝ่ายจะล้มตัวลงนั่งรถเข็น เขาก็หยุดเดินและหันไปมองต้นเสียงนิ่ง ๆ
“ใครจะเป็นคนรักษา” ครูซเสียงเข้มขึ้นและกวาดสายตาไปรอบ ๆ
“ตอนนี้คุณหมอกิติลาพักร้อนนะครับ ผมขออนุญาต…” พี่หมอหน้าซีดจนเหงื่อตก
“ถ้าไม่ใช่คุณอาหมอ ฉันไม่รักษามั่วซั่วหรอกนะ” ครูซตอบนิ่ง ๆ และเมินใส่ทันที
“งั้นถ้าเป็นผมที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าหมอ พอจะมีโอกาสรับใช้คุณครูซบ้างไหมครับ” พี่หมอกันต์ที่เดินตามออกมาทีหลังพูดขึ้น
ครูซยังคงยืนหน้านิ่ง
“ถ้ารักษาพลาด รู้ใช่ไหมจะเกิดอะไรขึ้น” เขาพูดแค่นั้น แต่พี่หมอกันต์ก็พยักหน้ารับ...
ขณะที่ครูซกำลังถูกเข็นออกไปพร้อมกับเหล่าพยาบาล
“เธอ…” จู่ ๆ เขาก็ชี้มาที่ตัวฉัน
“ถ้าอยากรักษาฉันมาก ก็ตามมาที่ห้องด้วยนะ”
“Marry Christmas” พร้อมพูดขึ้นเบา ๆ และยิ้มอย่างขำขันใส่ฉันเหมือนกำลังสำราญใจ
หลังจากที่บุรุษพยาบาลเข็นหมอนั่นออกไปได้
“เดี๋ยวเราก็เตรียมตัวไปรักษาคุณครูซกับพี่แล้วกันนะ” พี่หมอกันต์ก็หันมาพูดกับฉันนิ่ง ๆ
“ได้ตำแหน่งหัวหน้าหมอแล้วยังไม่พออีกเหรอ” ก่อนพี่หมอหน้าตี๋จะพูดขึ้นกับพี่กันต์อย่างแดกดันเบา ๆ