Wednesday,December 25
Christmas Day 2019
Cruz part
“พวกมันยังไม่หยุดต่อยกันเป็นหมาอีกเหรอวะ” ผมหันไปถามไอ้แอลตันที่ยืนกอดอกดูไอ้บลูไนท์และไอ้มอร์ฟิน ท่ามกลางเสียงร้องเชียร์และการวางเงินพนันว่าใครจะชนะหรือแพ้ โดยสภาพทั้งคู่ตอนนี้ก็ไม่ต่างกันสักเท่าไหร่หรอก แต่ดูเหมือนไอ้มอร์ฟินจะเจ็บหนักกว่าเพราะแทบจะยืนไม่ไหวอยู่แล้ว...
ขอแนะนำตัวสักหน่อย ก็คือ... พวกมันทั้งสามคนเนี่ยคือแก๊งเพื่อนสนิทของผมเอง ซึ่งก็สนิทและรู้จักกันนานมาก ๆ
ตุบบบบบ... ตับบบบ... พวกนั้นกำลังแลกหมัดใส่กันด้วยความรักที่เกินคำบรรยาย
เอาจริง ๆ ความสัมพันธ์มิตรภาพของเรามันก่อตัวขึ้นมาตอนถูกไล่ออกจากไฮลสคูลที่ไทย จนพ่อแม่ต้องส่งไปเรียนอังกฤษพร้อม ๆ กัน และก็คบกันมาตั้งแต่ตอนนั้นจนจบมหาลัยนี่แหละ ...เอาเป็นว่าใครเป็นใครผมขอแนะนำทีหลังก็แล้วกันนะ เพราะเรื่องราวของแต่ละคนเนี่ยมันยืดยาวจนสาวไส้ไม่หมดเลยจริง ๆ
“พวกมันบอกห้ามเสือกน่ะ” ไอ้แอลตัลยื่นบุหรี่ให้ผมนิ่ง ๆ ตามสไตล์ของมัน
ก่อนเราสองคนจะยืนดูเพื่อนรักชกต่อยกันอย่างไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวใด ๆ เพราะนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเราต่อยตีหรือทะเลาะกัน
แต่วันนี้มันก็คงหนักหนาสาหัสจริง ๆ ถึงใส่กันอย่างเอาเป็นเอาตายขนาดนี้
ส่วนสาเหตุของเรื่องมาจากผู้หญิงเพียงคนเดียว ซึ่งผมกับไอ้แอลจะไม่ขอพูดถึงมากก็แล้วกัน เพราะพวกมันไม่เคยบอกว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่ที่รู้คือ พวกมันทะเลาะกันเพียงเพราะผู้หญิงคนนั้น และค่อนข้างจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ผมเลยรู้สึกว่าการที่เธอทำให้สองคนนี้ตีกันได้ก็คงร้ายไม่ใช่เล่นจริง ๆ นั่นแหละ
และเอาเป็นว่า รู้สึกไม่ถูกชะตาตั้งแต่ยังไม่เคยเจอเลยก็แล้วกัน
บรื้น ๆๆๆ
จู่ ๆ ก็มีรถเต่าคลาสสิกเก่า ๆ คันหนึ่งขับตรงเข้ามาจอดไม่ไกลจากที่เราสูบบุหรี่เท่าไหร่
“สนามแข่งเรามีรถเต่าด้วยเหรอวะ” ก่อนหันไปถามไอ้แอลที่มองไปทางเดียวกับผมนี่แหละ
“กูว่า... ไม่มีนะ” มันอย่างไม่มั่นใจเท่าไหร่
ไม่นานคนขับสาวสวยรายหนึ่งที่สวมชุดสไตล์หวานแหววก็ก้าวลงมาจากรถอย่างเร่งรีบ เธอพุ่งตรงไปที่จุดเกิดเรื่องนั่น
ทำให้ผมกับไอ้แอลหันมองหน้ากันอย่างงง ๆ และโยนบุหรี่ทิ้งไปทันที
“หรือว่า... คนนี้คือ...” ผมพูดอย่างไม่มั่นใจว่าเธอคนนี้คือต้นเรื่องรึเปล่า...
“พวกนาย!!!” เสียงของผู้หญิงคนนั้นเรียกขึ้นสั่น ๆ ก่อนจะฝ่าฝูงชนเข้าไปอย่างทุลักทุเล
พอเห็นว่ามีบุคคลที่สามแถมเป็นผู้หญิงอีกด้วย ทั้งผมและไอ้แอลจึงรีบวิ่งเข้าไปเคลียร์ทางเอาเธอออกมา ก่อนจะโดนลูกหลงจากหมาบ้าสองคนนั้น
“พอได้แล้ว หยุดต่อยกันเดี๋ยวนี้...” แล้วเจ้าตัวจึงวิ่งถลาเข้าไปกลางวงนั้นอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ จนโดนลูกหลงมือไม้หรือขาไปบ้าง แต่เธอก็ยังใจสู้พยายามแยกทั้งสองออกจากกัน
และเอาตัวเองไปกั้นกลางระหว่างผู้ชายที่กำลังต่อยพลางกระชากกันไปมา...
“หลบไป!! เธอมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน!!!” ไอ้บลูไนท์ตวาดใส่หน้าเธอด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียวและบ้าระห่ำ
“ฉันแค่” สาวคนนั้นดูตกใจเล็กน้อย…
“หลบออกไป พราว!!” ไอ้มอร์ฟินเองก็พยายามข่มเสียงเอาไว้ให้ใจเย็นกว่าไอ้บลูไนท์
ไอ้บลูไนท์กระชากผู้หญิงคนนั้นเข้าหาตัวเองอย่างแรง ก่อนมองตาขวางใส่ไอ้มอร์ฟินทันที
“ปล่อยพริบพราวก่อนดิวะ” มอร์ฟินเองก็พยายามจะดึงตัวเธอคนนั้นคืน
ฟุ่บบบบ. ...บลูไนท์ปัดมือออกและพุ่งเข้าใส่เตรียมมีเรื่อง โดยที่มันไม่ได้ห่วงเลยว่าผู้หญิงตรงนั้นอาจจะโดนลูกหลงได้...
ส่วนสาวสวยคนนั้นก็ยืนคั่นตรงกลางระหว่างเพื่อนผมทั้งคู่ แม้ในแววตาจะหวาดกลัวแต่ฝืนใจสู้
“เดี๋ยว ๆ พวกมึง ขอตัวผู้หญิงออกมาก่อน เดี๋ยวโดนลูกหลง” ผมพยายามจะรั้งตัวไอ้บลูไนท์เอาไว้เพื่อไม่ให้มันวู่วาม ส่วนไอ้แอลนั้นเข้าไปกั้นกลาง แต่…
ฟุ่บบบบ บลูไนท์ผลักผมกระเด็นจนร้าวไปทั้งแขนเลยจริง ๆ เพราะเพิ่งจะมีเรื่องมาหยก ๆ
“มึงอยากต่อยกับกูต่อก็ปล่อยเธอออกไปดิ” ไอ้มอร์ฟินเช็ดหยดเลือดที่ใบหน้าและมองกลับอย่างไม่กลัวใด ๆ
“พวกมึงพอเหอะ เราเพื่อนกันนะเว้ย จะมาทะเลาะกันเพราะ...” ผมตัดสินใจพูดออกไปต่อหน้าทั้งคู่ แต่ก็พูดได้ไม่จบดี...
“เพื่อนกันน่ะ มันไม่เอาผู้หญิงคนเดียวกับเพื่อนหรอก” บลูไนท์พูดขึ้น โดยที่มือของมันยังคงบีบแขนผู้หญิงข้างกายเอาไว้แน่น
“แม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นแค่... นางบำเรอก็ตาม” จากนั้นจึงพูดหักหน้าเธอ
“ไอ้ไนท์!!!!” มอร์ฟินกำหมัดแน่นและพุ่งตัวเข้าใส่คนปากดีตรงหน้าทันที
ก่อนไอ้บลูไนท์จะกระชากตัวผู้หญิงคนนั้นไปซ่อนที่ข้างหลัง
แล้วมันก็สวนกับไอ้มอร์ฟิน รวมถึงเตะตัดที่ขาจนอีกฝ่ายเสียหลักจนเซไปเซมา
“ผู้หญิงบนโลกนี้มีอีกเป็นล้าน ทำไมต้องมาอยากใช้ซ้ำกับกู!!!” มันกระแทกเสียงอย่างไม่ยอม
“พอเถอะ กูขอร้อง พวกเราเพื่อนกันนะเว้ย” ไอ้แอลรีบเข้าไปช่วยห้ามทั้งสองคนทันที
และทั้งผมกับสาวสวยคนนั้นก็ดึงตัวของคนแรงมหาศาลอย่างไอ้บลูไนท์เอาไว้ ไม่ให้เข้าไปกระทืบไอ้มอร์ฟินที่แทบจะล้มลงกับพื้นอยู่แล้ว
“พอได้แล้ว พอเถอะนะ ฟินเขาแพ้นายแล้วไง... หยุดสักที...” สาวคนนั้นร้องขอแทนมอร์ฟิน เพราะสภาพอีกฝ่ายตอนนี้ รถพยาบาลอย่างเดียวเท่านั้น
ไอ้มอร์ฟินเช็ดเลือดที่มุมปากของตัวเองลวก ๆ และพวกมันทั้งสองก็หายใจอย่างหอบเหนื่อย...
“เป็นห่วงมันมากนักเหรอ” ไอ้บลูไนท์หันไปตะคอกใส่สาวคนนั้น
เธอเงียบไป เพราะรู้ว่ายิ่งพูดเท่าไหร่คนตรงหน้าก็ยิ่งบ้ามากขึ้นเท่านั้น
“เฮ้ย ๆๆ พอแล้วไอ้บลูไนท์!!!” ไอ้แอลพยายามพยุงตัวมอร์ฟินเดินหนีคนที่พุ่งถลาเข้าหาพร้อมกระชากคอของมันอีกครั้ง
“ทำไมวะไอ้ฟิน ทำไมต้องเป็นยายนี่ที่มึงอยากได้ ทำไมต้องเป็น... นางบำเรอต่ำ ๆ ของกู” บลูไนท์พูดใส่หน้าด้วยความโมโห
มอร์ฟินยังคงเงียบกริบ ส่วนสาวสวยคนนั้นก็ได้แต่ก้มหน้าน้ำตาคลอ ๆ กับคำพูดเหยียดยามของคนขวานผ่าซากอย่างไอ้บลูไนท์
ฟุ่บบบ จนไอ้บลูไนท์ยอมปล่อยมือออกจากคอของมอร์ฟินในที่สุด
ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของคนที่ตามมาเชียร์ซึ่งจู่ ๆมันก็จบลงด้วยการเสมอแบบงง ๆ
“หุบปากและไสหัวไปซะ ก่อนที่กูจะหมดความอดทนมากกว่านี้!!!” บลูไนท์ตะคอกลั่นเพียงแค่นั้น เสียงโวยวายก็ค่อย ๆ เงียบลงและสลายตัวทันที ทำให้เหลือแค่พวกเรา…
ไอ้มอร์ฟินยังคงพยายามจะพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด เพราะมันเหมือนยิ่งปลุกด้านมืดในตัวของไอ้เวรบลูไนท์จอมโหดนั่น
“งั้นมึงก็รู้ซะ ว่านางบำเรอที่มึงเรียก… คือแฟนเก่าที่กูรักมากที่สุด …และไม่เคยลืมได้เลย” ดวงตามองไปที่สาวสวยคนนั้นราวกับสื่อความหมายอะไรบางอย่าง ซึ่งผมกับไอ้แอลไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลย
“ฟิน…” ผู้หญิงคนนั้นก็รีบส่ายหน้าและหยุดไม่ให้ไอ้มอร์ฟินวอนตายไปมากกว่านี้!!
ไอ้บลูไนท์หักข้อนิ้วของมันทั้งสิบแบบมันมือมันหมัด!!! ขบกรามแน่น
“มันก็เรื่องของมึง!!” ก่อนตวัดสายตาดุ ๆ ไปที่หญิงสาวคนนั้นอย่างน่ากลัว ๆ
“แต่ไว้กูใช้บำเรอ... จนคุ้มแล้ว ...กูอาจจะยกให้มึงฟรีก็ได้ ถ้ายังอยากได้ของเหลือใช้จากกู!!” เสียงเหี้ยมพูดแค่นั้น ก่อนจะกระชากแขนเธอเข้าไปประชิดตัวราวกับเด็กหวงของเล่น…
แล้วหันมามองทางผมกับไอ้แอลนิ่ง ๆ อย่างพยายามจะข่มอารมณ์ตัวเอง
“พอแล้วไหมวะไอ้บลู มึงก็รู้มันสู้มึงไม่ได้ จะต่อยจริงจังอะไรขนาดนี้วะ” ผมพูดออกไปด้วยความสุดทน
“เอาไปส่งโรงบาลสิ จะรอให้มันตายก่อนรึไง” อีกฝ่ายตอบกลับ แม้ว่ามันจะโกรธไอ้มอร์ฟินมากเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยประโยคท้ายสุดก็ทำให้ผมรู้ว่า มันยังคงห่วงคำว่าเพื่อนของเราอยู่บ้าง
“ส่วนเธอ เสนอหน้ามาถึงที่นี่คงไม่อยากตายดีแน่ ๆ” จากนั้นจึงกระชากแขนผู้หญิงคนนั้นและเดินกลับไปที่รถของเธอทันที โดยไม่มีคำอธิบายหรือร่ำลาอะไร ส่วนผมกับไอ้แอลเองก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวสักเท่าไหร่ เพราะไอ้บลูไนท์มันไม่ได้เหมือนคนอื่นน่ะสิ ในบรรดาทุกคนเนี่ย รายนั่นโหดสุดแล้ว
“เออ ไอ้ฟิน…” ยังไม่ทันที่ไอ้แอลจะเอ่ยถามคนที่กำหมัดแน่นและมองไปที่ไอ้บลูไนท์กับสาวคนนั้นซึ่งขับรถออกไป... ผมก็รีบส่ายหน้าห้ามทันที
เพราะถ้าถามตอนนี้เรื่องนี้คงไม่จบง่ายแน่ ๆ บวกกับแขนซึ่งจู่ ๆ มันก็ปวดร้าวขึ้นมาจนไม่สามารถเก็บอาการ ทำได้แต่เอามือจับแขนตัวเองเบา ๆ. คงเป็นเพราะเข้าไปรั้งตัวคนบ้าพลังอย่างไอ้บลูไนท์เมื่อกี้แน่ ๆ เลย
“ไอ้ครูซ มึงเป็นไรปะ” ไอ้แอลที่หันมาเห็นผมทำหน้าไม่ค่อยสู้ดีเลยถามขึ้น
“เปล่า ๆ” ผมตอบพลางส่ายหน้าเบา ๆ
พวกมันสองคนก็มองหน้าผมนิ่ง ๆ
“มึงแอบไปลุยเดี่ยวอีกแล้วใช่ปะ” ไอ้แอลพูดอย่างรู้ทันผม ที่เพิ่งจะไปมีเรื่องกับคู่อริและโดนเขารุมกระทืบมาเช่นนี้
เอาจริง ๆ ก็คือ คนที่มีเรื่องถี่และบ่อยที่สุดน่ะคือผม เพียงแต่ไม่เคยมีปัญหากับเพื่อนตัวเองก็เท่านั้น...