⚠️Trigger Warning⚠️
นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาค่อนข้างรุนแรงมีการใช้ภาษาคำพูดหยาบคายมีบรรยายฉากอีโรติก
มีการบรรยาฉากการทำร้ายร่างกายโปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม
“ฮึก น..นาย”
“หึ ทีนี้ยังจะกล้าลองดีกับฉันไหมยัยจืด”
วาโยเอ่ยอย่างย่ามใจเมื่อเห็นเธอตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวยิ่งเห็นเธอกลัวยิ่งทำให้จิตใจของเขามันรู้สึกดีขึ้นหลังจากที่โดนเธอถ่มน้ำลายใส่แต่ไหนแต่ไรไม่เคยมีใครกล้ากับเขาแบบนี้ดังนั้นเขาต้องปราบพยศเธอไม่งั้นอย่าเรียกเขาว่า วาโย!!!
“เอาไงต่อพี่ ผมว่านังนี่ก็ใช้ได้อยู่นะ ดูสิตัวขาวจั๊วะเลย”
ลูกน้องอีกคนที่ยืนจ้องพินอินอยู่รีบออกความคิดเห็นทันทีถึงปกติวาโยจะไม่เคยข่มเหงผู้หญิงแต่คนนี้อาจจะมีความสัมพันธ์กับศัตรูตัวฉกาจของวาโยบางทีเขาอาจจะทำก็ได้
“อย่าเสือก!กูไม่ได้ขอความคิดเห็นมึง”
“ขอโทษครับพี่”
ลูกน้องตอบเสี่ยงอ่อยเมื่อโดนลูกพี่ตวาดใส่จนมันหน้าหดเหลือสองนิ้ว พินอินที่ยืนนิ่งเธอกำลังพยายามคิดหาวิธีหนีออกไปจากตรงนี้แต่ดูเหมือนว่ามันจะริบหรี่เหลือเกิน
แต่ถ้ายืนอยู่เฉยก็ไม่รอดเสี่ยงดูแล้วกัน!
มือบางค่อยๆ เอื้อมมือลงไปหยิบรองเท้าผ้าใบที่ถอดออกโดยที่ไม่มีใครเห็นอย่างที่บอกเธอตัวเล็กสูงแค่ 159 เองเลยไม่มีใครสังเกตเห็นคนตัวเล็กแบบเธอว่ากำลังทำอะไรเมื่อหยิบได้รองเท้าแล้วเธอก็เอามาซ่อนไว้ใต้กระเป๋าผ้าไว้ไม่ให้คนเห็น
นับหนึ่งถึงสามในใจและเล็งไปที่..หัวของไอ้คนชื่อวาโย..เอาละพินอินแกใจเย็นๆ นะ
มือกำรองเท้าไว้แน่น!!
หนึ่ง….สอง…สาม
โป๊ก!!
“โอ๊ย!!!ไอ้สัสใครว่ะ”
อ้าวใคร? ไม่ใช่เธอนะรองเท้ายังอยู่ในมืออยู่เลย
วาโยยกมือกุมหน้าผากที่ตอนนี้มีของเหลวสีแดงไหลลงมาอย่างโมโหหมาตัวไหนมันลอบกัดเขากันก่อนจะตวัดสายตามองยัยหน้าจืดที่ยืนโง่โบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน
เขาก็ไม่คิดว่าเธอจะกล้าทำเขาหรอก!
เขาสะบัดหน้าหนีท่าทางขี้กลัวแบบนั้นจะมีปัญญาทำอะไรได้และทิศทางของก้อนหินก็มาจากทางออกซอกตึก
“โทษทีมันหลุดมือ”
น้ำเสียงยียวนแบบนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ไอ้ต้าร์ ศัตรูตัวฉกาจของเขาวาโยกัดกรามแน่นพลางยกมือกุมปากแผลไม่ให้เลือดมันไหลไปมากกว่านี้
“ไอ้สัสมึงลอบกัดกู!”
“เปล่า ก็บอกว่ามันหลุดมือไง”
วาโยคิ้วกระตุกทันทีนี่แหละเพราะมันเป็นแบบนี้เขาเลยเกลียดมันยิ่งท่าทางอ้อนมืออ้อนตีนของมันยิ่งน่าตบก่อนที่เขาจะคิดขึ้นมาได้ว่าทำไมไอ้ต้าร์มันได้มาทั้งที่ตอนแรกบอกจะไม่มาเขาเหลือบตามองยัยจืดก่อนคว้าเธอมาใกล้
“อ่ะ..น.นาย.จะทำอะไร”
แรงกระชากของเขาทำให้ตัวเธอเซถลาเข้ามาชนอกแกร่งจนเกิดเสียงดังปั๊ก!ไม่ทันได้ตั้งตัวเขาก็ใช้แขนอีกข้างกอดรัดตัวเธอไว้แน่นจนแทบขยับไม่ได้
ไอ้บ้าท่านี่มันล่อแหลมเกิน!
“เงียบไปแล้วอยู่นิ่งๆ อย่าดิ้น!” วาโยก้มลงมากระซิบริมฝีปากเขาแทบชิดใบหูของเธอ
“แล้วมึงมาทำอะไร ไหนบอกจะไม่มาแล้ว”
“แค่ผ่านมา”
ต้าร์ยกยิ้มมุมปากจ้องมองศัตรูต่างสถาบันที่เวลามันว่างจะให้คนมาท้าเขาต่อยตีอยู่เรื่อยโคตรไร้สาระวันนี้ก็เหมือนกันเขามารอนานแล้วแต่เจอกับยัยเด็กนั่นพอดีเลยลืมนัดและกลับไปที่ช็อปแต่นึกขึ้นได้ก่อนเลยกลับมาที่นี่อีกครั้ง
ไม่นึกว่ามันจะกล้าเล่นงานคนอื่นจริงๆ พร้อมส่งสายตาคาดโทษไปให้เธอที่ยืนตัวสั่นอยู่พินอินที่เห็นรุ่นพี่หนุ่มทำจ้องอย่างนั้นก็งุนงงว่าเธอทำอะไรผิด
“อาฮะ ก็นึกว่าจะมาช่วยคนแต่ถ้ามึงแค่ผ่านมามึงก็ไปซะสิกูจะได้เล่นกับยัยนี้ให้สมใจ”
“อย่านะ”
พินอินย่นคอหนีเมื่อเขาก้มหน้าลงมาใกล้ซอกคอจนเธอขนลุกพลางมองพี่ต้าร์อย่างขอร้องให้เขาช่วยแต่กลับได้รับเพียงสายตาว่างเปล่า
ดวงตากลมโตมองเขาผ่านแว่นสายตาริมฝีปากเม้มแน่นอย่างใช้ความคิดในเมื่อเขาไม่ช่วยเธอคงต้องพึ่งตัวเองพลางเหลือบตามองรองเท้าผ้าใบที่ซ่อนไว้ใต้กระเป๋าผ้า
“ยังไม่ไสหัวไปอีก..อยากดูคนเล่นหนังสดหรอวะ”วาโยตะโกนเสียงดังพอให้คนหน้าตึกได้ยินแต่เขาก็ยังนิ่งด้วยความอยากเอาชนะมือหนาของวาโยกระชากพินอินเข้ามาใกล้ก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาเพื่อชิมริมฝีปากอวบอิ่ม
กึก
“โอ๊ยย!!!”
พินอินรวบร่วมแรงที่มีผลักวาโยออกหลังจากที่เขาพยายามจะจูบเธอเลยกัดปากเขาไปทีหนึ่งและเหตุชุลมุนวุ่นวายก็เกิดขึ้นเมื่อคนที่ไม่คิดว่าจะช่วยเหลือกันตามมาถีบวาโยและกระชากแขนฉันออกมา
ผลัวะ ผลัวะ!
“ไปเร็ว” ต้าร์ดึงแขนคนตัวเล็กให้วิ่งไปด้วยกันตอนนี้พวกมันกำลังวุ่นวายกันอยู่
“พวกมึงจะยืนทำเหี้ยไร..ตามมันไป”
“ไปพวกเรา”
หลังจากทุกคนตั้งสติได้จะรีบเข้าไปดูวาโยแต่โดนลูกพี่ตะคอกให้รีบตามมาสองคนนั้นไปพวกลูกน้องทั้งหลายก็วิ่งตามคนสองคนไปทันทีโดยที่วาโยยืนหัวเสียอยู่ทั้งเจ็บหัวทั้งเจ็บปากเขาคาดโทษสองคนนั้นไว้เรียบร้อยแล้ว!!!
แฮก แฮก!
ฉันหอบหายใจอย่างแรงตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยวิ่งหนักแบบนี้มาก่อนไม่รู้ว่าวิ่งมาไกลขนาดไหนแต่ดีแล้วดีกว่าโดนคนพวกนั้นทำอะไรก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเธอไม่ได้วิ่งมาคนเดียว
“ขอบคุณนะคะ”
“ขอบคุณทำไม”
“ก็พี่ช่วยหนูไว้”
“เออ กองไว้ตรงนั้นแหละ”
ต้าร์ยืนพิงกำแพงตึกและชะโงกหน้าออกมาไปดูสถานการณ์ว่าพวกมันไปกันรึยัง ดีนะยัยนี้ไหวพริบดีเขาเลยมีจังหวะให้ได้เล่นงานไอ้วาโยไม่งั้นคนที่จะโดนเล่นน่ะมันเขาแน่ เขาไม่ใช่ยอดมนุษย์นะที่เจอสิบยี่สิบตีนแล้วจะไม่เป็นอะไร
“เอ๊ะ แล้วแบบนี้พวกเขาจะตามมาอีกไหมหมายถึงหลังจากนี้เพราะตอนที่โดนจับพวกเขาพูดเหมือนเข้าใจผิดเลย”
“เข้าใจผิด?”
“ใช่ค่ะ เขาพูดว่าหนู..เอ่อ..เป็นแฟนพี่”
“ห๊า!ฉันกับเธอเนี่ยนะ..จิ!คิดกันได้ยังไงใครจะเอายัยแว่นแบบเธอเป็นแฟนกัน”
คำก็แว่น สองคำก็แว่น เธอก็ไม่อยากได้ผู้ชายผมสีแดงเพลิงโดดเด่นเป็นแฟนเหมือนกัน!!
“อะไร มองฉันแบบนี้หมายความว่าไงว่ะ”
ต้าร์ขมวดคิ้วเมื่อเจอเธอทำสีหน้าใส่แล้วยังเหลือบตามองสีผมเขาอีกอย่าคิดว่าไม่เห็นนะ
“เอ่อ เปล่านะคะ”
“ดี อย่าให้รู้ว่าแอบนินทาฉัน…พวกมันคงไปแล้วแหละไปเถอะ”
“ขอบคุณนะคะ งั้นเราแยกกันตรงนี้นะ”
พินอินหันมายกมือไหว้ขอบคุณอีกครั้งหลังจากที่ก้มสวมรองเท้าผ้าใบที่โชคดีที่ระหว่างทางไม่มีเศษอะไรบาดเท้าเพราะวิ่งเท้าเปล่ามาข้างหนึ่งคงเพราะสถานการณ์บังคับเลยลืมว่าถอดรองเท้าออกอีกข้าง
เธอเดินออกไปยังถนนใหญ่เพื่อหาป้ายรถเมล์แต่ต้องชะงักเมื่อรู้สึกเหมือนคนเดินตามเธอเลยหันกลับไปมอง
“พี่ก็กลับทางนี้หรอคะ” เป็นพี่ต้าร์
“เปล่า”
“แล้ว”
“จะไปส่งแต่เธอไม่ฟังฉันพูดก็เดินออกมาก่อนแล้วฉันเลยเดินตามมา”
“อ่า ไม่เป็นไรหรอกหนูกลับได้ค่ะ”
“จะ-ไป-ส่ง”
เขาย้ำคำเดิมก่อนจะเดินเข้ามาหาเธอที่ยืนเอ๋ออยู่ทำไมพี่เขาต้องไปส่งด้วย
“แต่วะ”
“บ้านเธออยู่ไหน”
“หนูอยู่หอไม่ไกลจากมหาลัยค่ะ”
“งั้นก็มาจะไปส่ง”
“ก็ได้ค่ะ”
เขาพาฉันมายืนรอรถอยู่ริมฟุตบาทแต่ไม่ใช่ป้ายรถเมล์อะไรเลยรอสักพักก็มีรถยุโรปคันหรูขับเข้ามาจอดเทียบก่อนจะมีคนขับรถลงมาเปิดประตูให้พี่ต้าร์เดินเข้าไปนั่งเบาะหลังอย่างเคยชินส่วนฉันก็ยืนนิ่งไม่กล้าขยับ
“เธอจะให้ฉันปูพรมให้หรอว่ะ ทำไมไม่ขึ้นมา”
“เอ่อ..”
“เร็วๆ ยัยแว่น”
“ค่ะๆๆ”
พินอินรีบขึ้นมานั่งข้างเขาทันทีด้วยความตื่นเต้นจะไม่ใช่เธอเกร็งได้ยังไงนี่มันรถ Rolls-Royce เลยนะชาตินี้ทั้งชาติเธอไม่คิดว่าจะได้มานั่งรถหรูแบบนี้หรอกถ้าไม่ใช่เพราะคนผมแดงนั่งกอดอกไขว่ห้างอยู่ข้างกันน่ะ