บทที่ 3 ตอนที่ 3

811 Words
"หนูนับวันแล้ว...ไม่ได้อยู่ในช่วงนั้นคุณหมอสบายใจได้" ในที่สุด         อัญญดาก็ตัดสินใจเอ่ยปากบอกไป แม้จะไม่เคยผ่านมือชาย ไม่เคยเกลือกกลั้วกับเรื่องเพศรส แต่ด้วยวัย การศึกษา และการใช้ชีวิตอยู่กับแพทย์ปริญญาอย่างเขามันทำให้เธอเรียนรู้เรื่องพวกนี้ไปเองโดยอัตโนมัติ แต่ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะร้อยเปอร์เซ็นต์ "พี่ขอโทษนะ ที่เข้าใจน้ำมนต์ผิดแล้วก็...ทำเรื่องเลวๆ แบบนั้น ถ้าท้องก็ไม่เป็นไร...แต่อย่าไปกินย***าๆ พวกนั้นนะ ที่ถามก็แค่กลัวว่าน้ำมนต์จะรับได้ไหมถ้าเกิดต้องเป็นแม่คนโดยไม่ได้ตั้งตัว เราจะได้เตรียมการตั้งแต่เนิ่นๆ ถ้าเขาจะมาจริงๆ..." เขาหมายถึงเด็ก...เด็กที่เป็นลูกของเขา จะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แต่การแก้ปัญหาต้องไม่ใช่ด้วยวิธีทารุณกับตัวเธอไปมากกว่านี้แน่นอน "จะบอกว่าถ้าหนูท้อง...คุณหมอจะรับผิดชอบหนูอย่างนั้นเหรอคะ หึ...ฟังดูดีจัง แล้วคุณหมอเคยคิดไหมว่าจะให้หนูไปยืนอยู่ตรงไหนของสังคม แค่นี้! หนูยังตายทั้งเป็นไม่พออีกเหรอ!" เธอหันมาเผชิญหน้ากับเขา ชายร่างใหญ่ที่กำลังแลบลิ้นลับริมฝีปาก และกลืนน้ำลายลงคอด้วยความเครียดตึง ก็สมควรจะเครียด...ได้เด็กในปกครองไปเป็นเมียน้อยเพราะความเมา รู้ไปถึงไหน ชื่อเสียงก็ย่อยยับป่นปี้ไปถึงนั่น "แล้วทำไมพี่จะรับผิดชอบไม่ได้...พี่ว่าเราเลิกคุยเรื่องนี้กันเถอะ ข้าวก็ไม่กิน ยาก็ไม่กินมีไข้หรือเปล่าเนี่ย" พูดพลางก็เอื้อมมือไปแตะหน้าผากเพื่อวัดอุณหภูมิเบื้องต้น  "อย่ามาแตะตัวหนูนะ!!" เธอสะบัดมือเขาออกจากตัวทันควัน ก้าวเท้าถอยหลังหนี อัศม์เดชค้างมือที่ถูกปัดออกอย่างนั้น...ยิ้มแหยๆ เมื่อเห็นสีหน้าขยะแขยงของเธอ "ตัวร้อนนี่...ไปหาอะไรกินเถอะจะได้กินยา" ชายหนุ่มแนะนำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น "หนูอยากไปจากที่นี่...ปล่อยหนูไปได้ไหมคะ..." ความอึดอัดกดดันให้น้ำตาหลั่งรินเป็นสาย ทั้งที่สีหน้ายังคงแสดงความเข้มแข็งไม่ลดละ การร้องไห้ที่เกิดจากความทุกข์สุดจะกลั้น...มันต่างกันมากมายกับการร้อง...เพราะอยากเรียกร้องความสนใจ "น้ำมนต์...พี่..." เหมือนบางสิ่งบางอย่างจุกแน่นอยู่ในหัวอกเขาเช่นกัน ชายหนุ่มได้แต่ยืนมองร่างเล็กที่ส่งสายตาเจ็บปวดมายังเขาโดยไม่อาจทำอะไรได้เลย แม้แต่จะเอื้อมมือไปซับหยาดน้ำใสๆ ที่เปื้อนอาบสองแก้มก็ยังไม่กล้า ร่างกายหนึบชาไปหมด สัมผัสได้ถึงความรู้สึก ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยความดำมืดของเธอ "ได้ครับ...แต่พี่จะยังเป็นคนดูแลน้ำมนต์เหมือนเดิม และห้ามไปทำงานแบบนั้นอีก ตกลงไหม..." การปล่อยมือ...บางครั้งมันก็แก้ปัญหาได้มากกว่าการฝืนใจรั้งกันเอาไว้ ตอนนี้เวลาคงเป็นสิ่งเดียวที่จะรักษาบาดแผลของอัญญดาได้ และความห่างไม่ต้องมาทนมองหน้ากันทุกๆ วันเหมือนเช่นที่ผ่านมาก็ช่วยลดการตอกย้ำเรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้น มันสดใหม่เกินไป เขาเข้าใจดีว่าหญิงสาวยังคงยอมรับมันไม่ได้ "ยังไง...พี่ก็ยังเป็นห่วงน้ำมนต์อยู่ดี พี่จะช่วยหาหอพักของผู้หญิงให้ ต้องเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก ระหว่างนี้น้ำมนต์ก็เรียนอย่างเดียว เพราะใกล้จะจบแล้ว หลังจากนั้นเราค่อยมาว่ากันอีกที...ช่วงสองสามเดือนอะไรๆ อาจจะเปลี่ยน ก็ไม่รู้ว่ามันจะดีขึ้นหรือแย่ลง แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พี่ก็ยังหวังดีกับน้ำมนต์เสมอ" หวังดี...ด้วยการทำลายเธอ อัญญดาผลุบตาต่ำพร่ำคิด เม้มริมฝีปากเข้าหากันและเช็ดน้ำตาที่เปียกชื้นอยู่บนใบหน้าตัวเอง นานเท่าไหร่แล้วที่ต้องจมอยู่กับความทุกข์ใจแบบนี้ยิ่งนับวันก็ยิ่งมีเพิ่มขึ้นทุกที การได้พบกับเขามันคือหายนะของเธอ ข้อเสนอที่อัศม์เดชหยิบยื่นให้แม้จะยังผูกมัดกันอยู่ แต่มันก็ดีกว่าต้องทนใช้ลมหายใจภายใต้รั้วบ้านเดียวกันแน่นอน "ค่ะ...ถ้างั้นหนูขอย้ายออกพรุ่งนี้เลยนะคะ..." น้ำเสียงของเธอสั่นเครือแต่มุ่มมั่น ดวงตาแดงก่ำมีหยาดน้ำคลอหน่วยปริ่มเปร่อเหลือบมองร่างใหญ่ก่อนจะผินหลบลบล้างภาพเหล่านั้น "ขอเวลาให้พี่จัดการเรื่องหอพักให้เราก่อนก็แล้วกัน...แล้วจะบอกอีกทีว่าย้ายได้ตอนไหน นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะน้ำมนต์" "หนูไม่ได้เล่นค่ะ...หนูเอาจริง!"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD