บทที่ 3 ตอนที่ 5

1696 Words
"เครียดเรื่องงาน...หรือคิดมากเรื่องน้ำมนต์กันคะ" หล่อนจ้องตาเขารอฟังคำตอบ แต่ก็เหมือนทุกครั้ง ชายหนุ่มไม่เคยเปิดโอกาสให้ใครอ่านใจเขาได้จากทางสายตาและสีหน้าหรอก "เบสว่าคงเป็นเรื่องงานมากกว่า ให้เบสช่วยให้คุณหมอผ่อนคลายไหมคะ เหมือนเมื่อก่อน...รับรองคุณหมอจะชอบมัน" การฉวยโอกาสเป็นทางเลือกที่ลีลาวลีถนัด และรู้ว่ามันใช่ได้ผลเสมอกับอัศม์เดช หล่อนโน้มคอเขาลงมาเล็กน้อยก่อนจะขยับริมฝีปากเข้าประชิดมอบจูบอันดูดดื่มซ้ำอีกครั้ง หวังกระตุ้นให้อะไรๆ ดำเนินไปอย่างที่ใจปรารถนา และดูเหมือนจะได้ผล...อัศม์เดชตอบสนองเธอ เขาขยับริมฝีปากรับสัมผัสหวามไหว อารมณ์หนุ่มเดือดพล่านไม่มีสิ้นสุด แม้ใจจะไม่ได้โหยหาหญิงสาวคนนี้ในทางความสัมพันธ์อันยืดยาวก็ตาม แต่เซ็กมันก็ไม่จำเป็นต้องใจความรู้สึกล้ำลึกเสมอไปไม่ใช่หรือ... ลีลาวลีกระหยิ่มใจ...แลกจูบนัวเนียเร่าร้อนด้วยความชำนาญ มือข้างหนึ่งผละจากลำชายหนุ่มแล้วเอื้อมไปคว่ำรูปบาดตาบาดใจที่เธออยากขว้างทิ้งหลายต่อหลายครั้ง ด้วยความหมั่นไส้และอนุมานเอาว่าตนคือผู้กำชัยชนะในการได้ครอบครองนายแพทย์หนุ่มเจ้าเสน่ห์คนนี้ ปัง! เสียงกระทบกันของบางสิ่งบางอย่างทำให้สติที่หลุดไปด้วยความเผลอไผลกลับคืนมา เขารีบหันไปมองตามเสียงนั้นเหมือนจะเดาออกว่าเกิดอะไรขึ้น แม้ลีลาวลีจะพยายามดึงกลับมาให้ตกอยู่ในอารมณ์ร่วมกับเธอ ชายหนุ่มก็ไม่คิดแยแสหลงกล "เบส! คุณทำบ้าอะไรเนี่ย!" มือใหญ่ผลักร่างอรชรออกจากตัวและรีบหยิบกรอบรูปที่หวงแหนตั้งไว้อย่างเดิม ด้วยความทะนุถนอม แต่สีหน้านั้นเต็มไปด้วยโทสะและบึ้งตึงจนคนมองยิ่งรู้สึกริษยามากขึ้น "มือไปโดนเบสไม่ได้ตั้งใจ ทำไมต้องโกรธกันขนาดนี้ด้วยคะก็แค่รูป!" "ออกไปได้แล้ว จีจี้ทำงานคนเดียวคงเสร็จไม่ทันปิดคลินิกแน่ๆ" ชายหนุ่มถอนหายใจหนักหน่วง พูดโดยไม่ได้มองหน้าอีกฝ่ายด้วยซ้ำ ลีลาวลีได้แต่ร้อนรุ่ม ใจมันเต้นเร่าๆ ด้วยความขัดใจ เธอทำดีเท่าไหร่ก็ไม่เคยอยู่ในสายตา แต่อีกคนที่มีสามีใหม่ มีครอบครัวใหม่ไปแล้วกลับสะกดใจของอัศน์เวชเอาไว้ไม่ให้เหลือบแลใครได้อีกเลย เลิกรากันไปก็หลายปี...กลับไม่ยอมปลดปล่อยให้ชายหนุ่มมีความสุข มีชีวิตปกติอย่างเช่นคนทั่วไปพึงมี มธุรสช่างเป็นผู้หญิงที่เห็นแก่ตัวและร้ายกาจยิ่งนัก "เบสจะรอคุณหมอนะคะ เบสอยากทานมื้อค่ำกับคุณหมอสักมื้อก่อนกลับบ้าน ยังไง...เราก็ไม่ได้ไปไหนด้วยกันมานานแล้ว" เจ้าหล่อนยังไม่คิดยอมแพ้ "ผมขอดูงานก่อนก็แล้วกันว่าเสร็จทันเวลาเลิกงานของคุณหรือเปล่า" ชายหนุ่มยังไม่ปฏิเสธเสียทีเดียว แม้จะรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้างก็ตามแต่ก็ยังยอมรับใจตัวเองว่ายามนี้หากได้มีใครนั่งเป็นเพื่อนดื่มแก้กลุ้มคงเป็นการดีไม่น้อย... ตกค่ำคลินิกปิด อัศม์เดชก็ถูกลากไปยังร้านอาหารแห่งหนึ่งจนได้ ค่ำคืนวันเสาร์ผู้คนครึกครื้นหนาตากว่าปกติ เพราะพรุ่งนี้โดยมากจะได้เป็นวันหยุดสำหรับหลายๆ คน ลีลาวลีสั่งไวน์มานั่งจิบพร้อมออเดิร์ฟเบาๆ ส่วนเขาก็สั่งเบียร์มาดื่มตามปกติเหมือนเช่นทุกๆ ครั้ง เสียงเพลงอคูสติกจากนักดนตรีที่เล่นสดบนเวทีแว่วดังเพลิน ขับกล่อมบรรดาลูกค้าที่ชื่นชอบบรรยากาศร้านแนวนี้ รวมถึงเขาด้วย เป็นการผ่อนคลายอย่างหนึ่ง หลังจากกรำงานหนักมาทั้งวัน แสงสีและเสียงเคล้าบรรยากาศสบายๆ ร่างใหญ่ถือโอกาสเอนหลังพิงพนักโซฟาพร้อมหยิบแก้วเบียร์ยกดื่มไปพลาง ลีลาวลียิ้มปริ่ม เธอเปลี่ยนจากชุดพยาบาลผู้ช่วยคุณหมอมาเป็นชุดเดรสสีแดงเพลิงแสนเย้ายวน สัดส่วนของเธอเต็มแน่นไปด้วยวัยสาวสะพรั่งบวกกับการศัลยกรรมเสริมเติมแต่งตามยุคสมัยนิยม หญิงสาวเบียดตัวแนบชิดโหยหาความอุ่นซ่านจากร่างหนา...ซบใบหน้าลงบนบ่ากว้างเหยียดริมฝีปากยิ้ม หลับตาคล้อยอารมณ์ไปตามเสียงเพลง ซึ่งอัศม์เดชก็ไม่ได้ออกปากว่า หรือแสดงปฏิกิริยาต่อต้านกิริยานั้น "บรรยากาศดีจังค่ะ...ถ้าเบสเมาคุณหมอต้องพาเบสกลับด้วยนะคะ" หญิงสาวแสร้งเปรยอย่างมีจริต เธอได้ยินเสียงแก้วเบียร์กระแทกกับโต๊ะแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร มารู้ตัวลืมตาจาภวังค์อีกทีก็เมื่อร่างที่พิงพำนักอยู่นั้นลุกขึ้นแบบกะทันหันจนเธอแทบล้มเอนไปตามแรงโน้มถ่วง "คุณหมอ!" ลีลาวลีใช้มือค้ำร่างไม่ให้ล้มไปบนโซฟา ใจนึกหงุดหงิดยิ่งนัก สีหน้าขึงโกรธขึ้นมาทันที สายตานั้นมองร่างใหญ่ที่ลุกเดินไปดื้อๆ ไม่ละวาง สิ้นสุดอารมณ์สุนทรีใจฉบับพลัน อัศม์เดชสาวเท้าประหนึ่งคนหูอื้อตาลายเพราะเห็นบางสิ่งบางอย่างที่เขาไม่คิดว่าจะได้เห็นในสถานที่อโคจร เช่นนี้ อัญญดา... เด็กสาวในอุปการะของเขาที่ควรจะพักผ่อนอยู่ในห้อง ซึ่งเป็นหอพักสำหรับนักศึกษา ซึ่งเขาเป็นผู้จัดการดูแลให้ด้วยตัวเอง นี่เพียงสองสัปดาห์เท่านั้น แม่ตัวดีก็หนีออกมาทำเรื่องน่าละอายอีกแล้ว ซึ่งมันไม่ถูกใจเขาเอาเสียเลย ร่างเล็กในในชุดเดรสรัดรูปโชว์สัดส่วนโค้งเว้าเต็มที่ แม้เนื้อผ้าจะไม่มีแหวกโชว์ไปถึงเนื้อหนังมังสา แต่ก็เรียกสายตาโลมเลียจากบุรุษทั้งหลายได้เป็นอย่างดี เจ้าหล่อนเดินแจกเบียร์รสชาติใหม่ของผู้ผลิตยี่ห้อหนึ่ง เป็นขวดเล็กๆ ใส่เอาไว้ในตะกร้าหวายสีดำตกแต่งด้วยดอกไม้ขนาดใหญ่น้อยสลับกันโดยรอบ สีหน้าหวานแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจัดจ้าน แม้แต่นัยน์ตาก็ใส่คอนเท็กเลนน์สีน้ำเงินเข้ม ผมยาวสลวยม้วนลอนปล่อยปลายสยายแผ่เต็มแผ่นหลังที่เปิดเว้าเล็กน้อยให้พอเชิญชวน หล่อนยิ้มให้กับลูกค้าที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งที่แจกเพื่อดึงดูดลูกค้า และบางส่วนสำหรับขายเป็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ให้กับทางร้านไปด้วยในตัว โดยหารู้ไม่ว่า...ภัยร้ายที่คาดไม่ถึงกำลังคืบควานเข้ามา ประหนึ่งเมฆฝนก้อนใหญ่กำลังก่อตัวเป็นภายุร้าย พร้อมเสมอที่จะพัดทำลายทุกสิงที่ทุกอย่างที่ขวางอยู่ตรงหน้า... "น้องครับ...พี่เหมาสิบสองลังเลย พี่จ่ายเงิน...แต่ไม่เอาเบียร์ ขอแลกเป็นเบอร์โทร.ของน้องได้ไหมครับ" ลูกค้าร่างท้วมแต่ผิวพรรณหน้าตาดีรายหนึ่งจับขวดเบียร์ในมือที่หญิงสาวหยิบยื่นให้ และส่งตายตาหว่านเสน่ห์ไม่มีปิดบัง อัญญดายิ้มหวานตามวิสัยของอาชีพพนักงานขาย นึกครึ้มใจกับจำนวนค่าคอมที่ได้รับ แถมยังสามารถนำเบียร์ซึ่งลูกค้าจ่ายแต่เงินไม่เอาของนั้นไปขายต่อได้อีกทอด กำไรล้วนๆ มีแต่ได้กับได้ คืนนี้ถือว่าโชคเข้าข้างเธอจริงๆ "ได้ค่ะคุณพี่...แหมเรื่องแค่นี้เอง ว่าแต่คุณพี่สนใจจะรับเพิ่มเป็นยี่สิบสี่ลังไหมคะ เรามีโปรโมชั่นให้ส่วนลดเท่าร้านค้าเลยค่ะ แถมหลอดเบียร์ทาวเวอร์แบบมีแกนน้ำแข็งด้านใน ขนาดสองลิตรครึ่งให้คุณพี่ด้วย แถมแก้วสวยๆ ไม่มีที่ใดในโลกให้อีกหกใบค่ะ" หญิงสาวได้โอกาสยื่นข้อเสนอและผลประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับหากซื้อสินค้าเพิ่มจากเธอ "แล้วถ้าเหมาทั้งคนทั้งเบียร์...คิดยังไง..." เสียงทุ้มแทรกกลางวงสนทนาบรรดาสาวๆ mc กำลังช่วยอัญญดาเชียร์ลูกค้ารายใหญ่ของค่ำคืนนี้ให้รีบตกลงปลงใจ นิสัยผู้ชายกลางคืน...แค่ทำให้รู้สึกว่าตัวเองเป็นที่สนใจ ดูเด่นกว่าคนอื่นๆ มีสาวๆ ล้อมหน้าล้อมหลังแบบนี้ ยังไงก็ไม่รอด แต่แล้ว...ทุกสายตาใน ณ ที่นั้นก็ต้องหันไปจับจ้องเจ้าของเสียงผู้มาใหม่นั้น เป็นทางเดียวกัน... "คุณหมอ...." อัญญดาตาลุกวาว มือสั่นขวดตะกร้าเบียร์ในมือแทบร่วง หล่อนรู้ว่าตัวเองอยู่ในสถานที่ไม่สมควร รวมถึงการแต่งเนื้อแต่งตัวก็ดูจะทำให้ชายหนุ่มขุ่นใจยิ่งนัก สายตาเขามองอย่างตำนิ ไม่พอใจ ก่อนจะเดินแทรกบรรดาเพื่อนของเธอมาว้าข้อมือเล็กที่บัดนี้เย็นเฉียบแล้วกระชากออกจากวงทันที "คุณหมอทำบ้าอะไรคะ หนูกำลังทำงานอยู่นะ!" "พี่ต่างหากต้องถามเรา...ว่ามาทำบ้าอะไรที่นี่!!!" อัศม์เดชสวนกลับ โดยไม่หันกลับมามองคนที่เดินตามแรงกระชากของเขา "เฮ้ย! เดี๋ยว นี่มันอะไรกันวะ คนกำลังตกลงซื้อขายกัน" ชายหนุ่มผู้กำลังต้อนไก่เข้าเล้าลุกยืนพรึบทันควันเช่นกันเมื่อตั้งสติจากความมึนงงได้ เขาย่ามใจและสนใจ mc คนนี้ตั้งแต่แรกเห็นตอนพวกเธอเดินเข้ามาในร้านแล้ว หมายมั่นว่าจะเอาชนะใจให้ได้ ถึงขนาดลงทุนเหมาะเบียร์เป็นสิบๆ ลัง แต่แล้วกลับมาถูกหักหน้ากันดื้อๆ แบบนี้มีหรือจะยอมให้เสียหน้าฟรี ลูกค้าหนุ่มออกจากโต๊ะที่ตัวเองนั่งอยู่นั้น และย่างสามขุมตามไปติดๆ แล้วดึงมืออีกข้างที่ถือตะกร้าของอัญญดาดึงให้เธอหลุดออกจากการถูกฉุดกระชากลากถู "อุ้ย!" ร่างเล็กถลาตามแรงของอีกฝ่ายที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ จนตัวเธอเซถลาและเข้าสู่อ้อมกอดของชายหนุ่มแปลกหน้านั้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง "เป็นยังไงบ้างครับน้อง...เจ็บตรงไหนไหม ไม่ต้องกลัวนะพี่จะดูแลหนูเอง เราไปจากที่นี่กันดีกว่านะจ๊ะ" 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD