ไฟในห้องเปิดสว่างโร่เมื่อเจ้าของกลับมาพำนักอีกครั้ง เธอกลับมาแต่ตัวจริงๆ แม้แต่กระเป๋าถือก็ยังไม่ทันได้หยิบติดมือเอามาด้วย ไม่มีทางเลือกสำหรับเธอ...หากรั้นจะทำตามใจ อัศม์เดชก็ยิ่งจะเอาแต่ใจให้เหนือกว่า ร่างบางทิ้งตัวลงบนที่นอนแสนคุ้นเคย ทุกอย่างในห้องยังเหมือนเดิม...แต่เธอสิไม่มีอะไรเหมือนเดิมเลยสักอย่าง
นอนพักกายผ่อนคลายใจชั่วครู่ อัญญดาก็ตัดสินใจพาตัวเองเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย ปรับจิตใจตนเองให้สงบยิ่งขึ้น และใช้ความคิดในเรื่องต่างๆ เช่นการเรียนและงาน...เพื่อที่มันจะได้ลบเลือนบางเรื่องออกไปจากความทรงจำเสียที
สายน้ำเย็นฉ่ำพอช่วยให้ความรู้สึกผลิแย้มเล็กน้อย เธอเดินออกจากห้องน้ำในชุดเสื้อคลุมสีขาวและผ้าขนหนูซึ่งใช้ซับเช็ดร่างกายและพวงผมหมาดชื้น พลางสายตาก็ซัดมองไปยังเตียงกว้างด้วยความไม่ตั้งใจและเคยชิน...
"คุณหมอ!..." ร่างใหญ่นั่งตะคุ่มอยู่ตรงโซฟาเบสตัวเล็กที่อยู่ด้านข้างของเตียงนอน สองมือน้อยรีบตะปบสาบเสื้อและกอดตัวเองเอาไว้โดยอัตโนมัติ
"หวังว่าคงไม่คิดเตรียมตัวหนีไปอีกใช่ไหม..."
"ใช้กุญแจสำรองไขประตูเข้ามาแบบนี้ ไม่มีมารยาทเลยนะคะคุณหมอ อีกอย่าง...หนูอาบน้ำเสร็จแล้วจะนอนแล้วด้วย"
"งั้นก็ไปนอนกัน..." น้ำเสียงทุ้มลึกเอ่ยออกมาเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่คนฟังสิใจเต้นรัว ตาลุกวาว
"ก็ไปนอนสิคะ นี่ห้องน้ำมนต์"
"จะให้พี่ล่ามน้ำมนต์ไว้หรือจะไปนอนกับพี่ที่ห้องดีๆ" คำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ ทำเอาสาวน้อยชักสีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด เธอเดินดุ่มๆ สาวเท้าขึ้นบนเตียงแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเสียดื้อๆ
"ถ้ากลัวหนีก็ล็อกห้องจากข้างนอกสิคะ หรือไม่คุณหมอก็นั่งเฝ้าอยู่นี่แหละ"
"อ๋อ..." เขาลุกยืนเต็มความสูง มือเท้าสะเอวมองอัญญดาที่นอนนิ่งซ้ำปิดตาแสร้งหลับทั้งที่ไฟยังเปิดสว่างโร่ และยังไม่ยอมเปลี่ยนใส่ชุดนอนด้วยซ้ำ
"ถ้าอย่างนั้นก็ได้...พี่ตามใจน้ำมนต์อยู่แล้วล่ะ หึ..." พูดจบเขาก็เดินไปปิดสวิทช์ไฟจนห้องทั้งห้องตกอยู่ในความมืด หญิงสาวใจเต้นหนักกว่าเก่า พร้อมอารมณ์กลัวกลายๆ หากเขาล็อกห้องจริงๆ เธอจะทำยังไง หากเกิดเหตุร้ายขึ้นจะเอาตัวรอดไหวไหม ใจก็คิดมั่วๆ ไปต่างๆ นาๆ
เพราะตึกนี้เคยมีประวัติไฟไหม้มาก่อนที่อัศม์เดชจะซื้อต่อและนำมาปรับปรุงต่อเติมใหม่ทั้งหมด
ในขณะที่เธอคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ก็ต้องเอะใจเมื่อรู้สึกถึงการยุบตัวของที่นอน
"..." น้ำหนักมือหนึ่งพาดวางลงบนร่างที่ห่อหุ้มผ้าห่มเอาไว้ อัญญดาสะดุ้ง รีบขยับตัวพลิกหนีเพราะรู้แล้วว่าตนเองกำลังถูกคุกคาม
"นอนสิง่วงไม่ใช่เหรอ"
"ปล่อยนะคุณหมอ! นั่นจะทำบ้าอะไร ว้าย!!" มือใหญ่สอดกอดสะเอวและดึงเข้าหาตัวกดให้เธอนอนในท่าเดิม หญิงสาวดิ้นขืน โมโหที่ถูกเอาเปรียบยิ่งนัก
"พี่ปล่อยให้น้ำมนต์คลาดสายตาไปไม่ได้หรอก หลับซะ...แล้วคิดให้ดีว่าพรุ่งนี้จะให้คำตอบพี่ยังไงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่อย่างนั้น..."
"หนูบอกไปแล้ว...ว่าแค่ทำงาน"
"พี่จะรอคำตอบที่ดีกว่านี้ แล้วต้องเป็นความจริงด้วย"
"..." ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าสิ่งที่อัศม์เดชต้องการนั้นคืออะไร ในเมื่อเธอก็บอกความจริงไปแล้ว แม้จะไม่ทั้งหมดก็ถือว่าไม่ได้โกหกเขาเลยสักอย่างเดียว
"พี่ก็ง่วงแล้วเหมือนกัน...เรานอนกันเถอะ" พูดพลางชายหนุ่มก็ขยับดึงผ้าห่มของเธอเผื่อแผ่มายังตัวเองบ้าง และรู้ได้ทันทีว่าเขาคิดผิดถนัดที่ทำแบบนี้ ร่างเล็กแบบบางของอัญญดา...ไร้เสื้อผ้าอาภรณ์อื่นใดนอกเหนือจากเสื้อคลุมอาบน้ำนั่นก็หมายความว่า ในขณะนี้เธอเปลือยเปล่าปราศจากแม้แต่ชุดชั้นใน
มือใหญ่พาดกอดรอบร่างด้วยความไม่ตั้งใจ...แตะต้องสรีระความเป็นสาวอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง เขานิ่งชะงัก ไม่แม้แต่จะกล้าขยับไปมากกว่านั้น เช่นเดียวกับอัญญดา เธอเกร็งใจและหวาดกลัวเหตุการณ์ในคืนวิบัตินั้นจนน้ำตาไหล ทุกฉาก ทุกตอน...ทุกความเจ็บปวดฝังลึกจนร่างกายแสดงอาการสั่นเทา...บอกฟ้องความรู้สึกที่เธอไม่ได้เอ่ยออกมา
"กลัวพี่เหรอ...ขอโทษนะที่ทำให้น้ำมนต์เจ็บปวดขนาดนี้" แววตาคมกล้ามองฝ่าความมืดและใช้จินตนาการจากสัมผัสและรับรู้ได้ถึงอารมณ์หวาดหวั่นของหญิงสาวในยามนี้
เขากอดร่างเธอไว้ไม่ยอมปล่อย แต่ก็ไม่ขยับทำให้อีกฝ่ายตึงเครียดไปมากกว่านี้ ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ มีเพียงแสงจันทร์รำไรสาดส่องผ่านผ้าม่านเข้ามาเล็กน้อย ชายหนุ่มรับรู้ได้ถึงการผ่อนคลายและลมหายใจสม่ำเสมอของอีกฝ่าย เธอคงเหนื่อยไม่น้อยสำหรับปัญหาในค่ำคืนนี้
"น้ำมนต์...น้ำมนต์...จะให้พี่ทำยังไงดี" มือแกร่งรวบร่างเล็กเข้าหาตัวประชิดขึ้น ได้กลิ่นสาวอบอวนจนเผลอเคลิ้ม แยกยิ้มเหยียดริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว ณ ตอนนี้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีมันตีรวนอยู่ในจิตสำนึกจนไม่อาจหาทางออกให้กับเรื่องที่เกิดขึ้นได้สักที ยิ่งนับวันก็ยิ่งยุ่งเหยิงพันตู
สาวเจ้าหลับพริ้ม...บ่งบอกให้รู้ว่าเธอเข้าถึงนิทราอันสงบไปแล้ว แต่เขาสิ...ไม่อาจข่มใจให้สงบเช่นเธอได้เลย ส่วนลึกที่ดำมืดมันก่อตัวปั่นป่วนร้อนรุ่ม ใคร่อยากจะทบทวนสัมผัสที่ตนเองก็จำได้ครึ่งๆ กลางๆ หากแต่แน่ใจนักในความสุขสมที่ได้รับอย่างเต็มอิ่ม แตกต่าง...และล้ำลึกยิ่งกว่าใครๆ
"ฝันดีนะ....น้ำมนต์"
ริมฝีปากเหยียดรอยยิ้มก้มประทับตรงพวงแก้มหอมกรุ่น แล้วประทับหลับนอนเคียงข้างไปพร้อมๆ กับเธอ แต่ใจ...กลับคิดถึงใครอีกคนที่แทรกผ่านเข้ามาในอารมณ์ความรู้สึก ก่อนที่เขาจะถลำลึกสู่ความฝันในนิทราที่ไม่อาจสานต่อเข้าถึงกันและกันได้เลย...