บทที่ 5 ตอนที่ 1

1201 Words
"สาวๆ เต็มเลย ไอ้หมอพลาดแล้วงานนี้"            "หึ...อย่างมันไม่ต้องถ่อฝ่าความมืดมาควานหาก็ล้อมหน้าล้อมหลังสับรางไม่ทันอยู่แล้ว" อีกเสียงเอ่ยล้อเลียนเมื่อเพื่อนทีเดินมาด้วยกันเปิดประเด็น            "ไอ้หมอเพชรนี่...ฉันว่าพักหลังๆ มันชักทะแม่งๆ กับน้องน้ำมนต์เกินไปว่ะ ไม่ใช่สมภารนึกอยากเคลมไก่วัดนะ ไอ้นี่เห็นนิ่มๆ ไม่เคยเหลือไว้ให้ชิมสักคน" บดินทร์ส่ายศีรษะชักสีหน้าหน่ายๆ เมื่อโทร.ไปชวนเพื่อนอีกคนแต่กลับถูกปฏิเสธ            "ข้าคิดว่าไม่รอดว่ะ..."            "อะไรวะเคน...นายไปรู้อะไรมา" บดินทร์หันมองหน้าเพื่อน ที่ยกเครื่องดื่มกระดกเข้าคอ หันมายักคิ้วให้และแสยะยิ้ม            "เปล่า...ก็แค่สงสัยเหมือนนายนั่นแหละ รอดูต่อไปก็แล้วกัน ว่าแต่คืนนี้มีอะไรเด็ดวะถึงชวนข้ายิกๆ กัดไม่ปล่อย"            "เหอะน่า...เดี๋ยวก็รู้เข้าไปทักทายผู้ใหญ่กันหน่อยเถอะ จะสองทุ่มงานเริ่มแล้วนะเนี่ย" บดินทร์ยกมือตบไหล่เพื่อนตำรวจหนุ่ม แล้วเดินเข้าไปในงานอีเว้นของค่ำคืนนี้ซึ่งเขามีส่วนร่วมฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ให้การสนับสนุนจัดงานรายใหญ่            สองหนุ่มเดินเข้าไปในโดมซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของงาน ในขณะที่ด้านนอกๆ ก็มีบูธจัดแสดงของผลิตภัณฑ์ยี่ห้อต่างๆ เกี่ยวกับเครื่องประดับยนต์ และด้านในนั้นจะมีการโชว์รถยนต์รุ่นต่างๆ ทั้งใหม่และเก่าอวดแข่งขันฝีมือการแต่งรถทั้งภายนอกและภายใน            ทั้งคู่ทักทายผู้ใหญ่ในงานพอเป็นพิธีก่อนจะปลีกตัวชวนกันเดินดูบรรยากาศทั่วๆ ไป ซึ่งแน่นอนมอเตอร์โชว์เล็กๆ แม้จะไม่อลังการเท่างานใหญ่ของปี แต่พริตตี้ นางแบบ สาวสวยย่อมต้องมีส่วนร่วมเสมอ...            "สนใจคนไหนสะกิดนะเว้ย ข้าจัดให้ได้" บดินทร์หันมายักคิ้วหลิ่วตากับเพื่อนหนุ่ม            "ไม่ล่ะช่วงนี้เบื่อๆ เหนื่อยว่ะ" กิตติธัชยกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าปาก สายตาตามองไปเรื่อยเปื่อย ค่ายรถหลายค่าย ค่ายประดับยนต์ ต่างแข่งขันอวดของดีกันเนืองแน่น เพราะในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้เจ้าของธุรกิจต่างๆ จะถือโอกาสงัดกลยุทธ์เด็ดเผ็ดพราวมาประชันกันเต็มที่ เพื่อเป็นการโปรโมทสรรพคุณตัวสินค้าและราคาพิเศษๆ            พริตตี้สาวสวยคอยให้บริการและคอยโฆษณาดึงดูดผู้คนให้มาสนใจ แต่ละคนแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าน้อยชิ้นอวดสัดส่วนเรือนร่างและทรวดทรงได้รูป ซึ่งแต่ละคนเรียกได้ว่าแทบจะโขลกออกมาจากท้องแม่เดียวกัน ด้วยสไตส์และความเหมือนแบบฉบับพิมพ์นิยมสาวไทย            ขาว อึ๋ม ผอมเพรียว...            "เฮ้ย! นั่นเพื่อนน้ำมนต์นี่" สายตาของกิตติธัชปะทะกับสาวพริตตี้นางหนึ่งซึ่งเขาจำได้ดีว่าเป็นคนเดียวกันกับที่ขับรถพาไปส่งที่ทำงาน แต่มันไม่ใช่ที่นี่แล้วเธอมาโผล่ตรงบูธของตกแต่งรถสปอร์ตคันหรูนี่ได้อย่างไร            "ใคร...อ๋อ แม่คนนี้เอง" บดินทร์สำทับขึ้นอีกเสียง            "นายรู้จักด้วยเหรอ" กิตติธัชรีบถามด้วยสีหน้าเหยียดๆ            "เออ! นี่แหละต้นเหตุทำให้ไอ้หมอกับน้ำมนต์ทะเลาะกันใหญ่โต" สองหนุ่มหยุดเดินและจับตามองพริตตี้นางนั้น โดยที่เธอยังไม่รู้สึกตัว เพราะมัวแต่คอยแจกใบปลิวพร้อมพูดคุยกับลูกค้าที่ให้ความสนใจเข้าไปชมบูธ ซึ่งส่วนมากล้วนแล้วแต่เป็นผู้ชาย ที่มีจุดมุ่งมายไปที่เรือนร่างเย้ายวนนั้นเสียมากกว่าสินค้าของเธอเสียอีก            "เอาให้กระจ่างหน่อยสิ วันนี้ข้าเป็นคนไปรับไปส่งแม่นี่มาทำงาน แต่แกเชื่อไหนคุณเธอบอกว่าออกบูธที่ห้างโน่น ไปๆ มาๆ ไหงมาโผล่ในงานนี้ได้"            "ที่น้ำมนต์ได้แอบทำงานเป็นพริตตี้ ก็แม่คนนี้แหละชักชวน เป็นเพื่อนสนิทกันเสียด้วย เรียบร้อยๆ อย่างน้ำมนต์คงไม่ทันเกมผู้หญิงจัดจ้านกร้านโลกแบบนี้หรอก" หุ้นส่วนผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการดูแลรถยนต์ยกมือขึ้นกอดอก ส่ายหน้ากับกิริยาเล่นหูเล่นตามากด้วยเล่ห์ของหญิงสาวตรงหน้า ซึ่งอยู่ห่างกันไม่กี่เมตร            "อ๋อ เป็นแบบนี้นี่เอง ไอ้หมอถึงได้คุมน้ำมนต์แจ"            "เออ...เผลอๆ จะชวนกันไปออกรอบกับแขกทำไงล่ะ ไม่เสียผู้เสียคนไปเลยเหรอ แกก็รู้วงการนี้มันเน่าหนอนขนาดไหน"            "เลว! แม่นี่อาจกำลังคิดหลอกให้น้ำมนต์ขายตัวอยู่ก็ได้ เผลอๆ คงรับจ็อบทำตัวเป็นแม่เล้าไปด้วยในตัวใครจะไปรู้ หึ...ได้ข่าวพวกนี้นอกจากใช้รูปร่างหน้าตาตัวเองทำมาหากินแล้ว ยังแอบซ่องสุมเด็กในสังกัดไว้บำเรอเหล่าคนดังคนมีเงินทั้งหลายอีก วันก่อนก็เพิ่งจับได้ไปชุดหนึ่ง แกรู้ไหม...เด็กที่ขายตัวอายุน้อยสุด เพิ่งจะสิบสามปีเท่านั้น..."            "คงไม่แคล้ว...ถ้าอย่างนั้นคงต้องช่วยระวังกันหน่อย ไอ้หมอก็ไว้ใจเกิน ข้าเตือนแล้วว่าอย่าให้น้ำมนต์คบหากับยัยนี่ มันก็บอกว่าไม่เป็นไร แพรวเป็นคนดี..."            "ไอ้นั่นก็โลกสวยไป เมื่อตอนกลางวันยังชวนกันช่วยขนข้าวของน้ำมนต์กลับไปบ้านอยู่เลย" กิตติธัชส่ายศีรษะแหยๆ สายตาดูแคลนยังสอดส่องไปที่ร่างน้อย นึกเจ็บใจที่ถูกหลอกให้วนไปส่งอีกที่ ทั้งๆ ที่เธอก็มาทำงานอีกที่หนึ่ง ปากก็บอกว่ารีบที่แท้ก็เล่ห์เหลี่ยมทั้งเพ            บางทีหญิงสาวอาจนัดพบกับใครบางคนโดยที่ไม่อยากให้เขารู้ กลัวเขาจะนำความไปบอกอัศม์เดชกับอัญญดา แล้วตัวคนแท้จริงจะถูกถอดหน้ากากไปด้วยก็เป็นได้ กิตติธัชเริ่มเล็งเห็นความยุ่งยากที่ผู้หญิงคนนี้จะก่อเรื่องร้ายๆ สร้างความเสื่อมให้กับเพื่อนของเขาเสียแล้ว เพราะอัศม์เดชเองก็มีชื่อเสียงในสังคมพอสมควร หากถูกลากไปเกลือกกลั้วแอบอ้างแล้วล่ะก็ รังแต่จะจมดิ่งลงเหวเท่านั้น            "ไปทางโน้นกันเถอะ อย่าไปสนใจเลยเคน..." บดินทร์สะกิดแขนเพื่อนละสายตาจากตรงที่แพรวพรรณยืนอยู่ไปยังบูธถัดไป ผู้คนจอแจมากขึ้น            ชายหนุ่มพากิตติธัชเดินสำรวจและเช็คตลาดรวมถึงทักทายเพื่อนฝูงทั้งในวงการและต่างวงการ จนเวลาล่วงเลยเกือบจะปิดงาน สายตาคมดุของนายตำรวจหนุ่มกลับใฝ่หาแต่พริตตี้สาวสวยนางนั้นตลอดเวลา ทั้งที่ใจเขาตั้งอคติกับเธอเอาไว้สูงลิ่ว            อาจเป็นเพราะอยากจับผิดพฤติกรรมของเธอก็เป็นได้ เพราะกลัวแพรวพรรณจะสร้างปัญหาให้กับอัญญดาและเพื่อนรักของเขานั่นเอง แต่แล้วสายตาคมเข้มก็ต้องหันเสหลบมองไปทางอื่นในฉับพลัน เมื่อสาวเจ้าผละจากหน้าที่และเดินมาทางที่เขายืนอยู่ พร้อมล้วงโทรศัพท์ออกจากขอบกระโปรงตรงสะเอว            แพรวพรรณมัวแต่มองเบอร์โชว์ซึ่งเด่นหราในขณะที่โทรศัพท์แพงหรูกะพริบหน้าจอวูบวาบ เมื่อเห็นเบอร์คนสำคัญก็รีบกดรับและคุยสายทันทีทั้งที่ยังอยู่ในบริเวณเสียงดังกระหึ่ม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD