อัญญดาหยุดหายใจชั่วครู่...กลืนน้ำลายลงคอที่แห้งฝืด สิ่งแปลกปลอมครูดไปกับกลีบเนื้ออ่อนซุกดุนเบื้องล่างอย่างใจเย็น...ในขณะทีเหงื่อกาฬโทรมกาย เพราะอารมณ์ไม่ได้เย็นตามสำนึกที่ถูกบีบบังคับ ด้วยไม่อยากให้คนตัวเล็กตื่นตระหนก
สองแขนเล็กวาดวนมาจับต้นแขนแข็งแรงของเขา เหมือนต้องการหาที่ยึดเหนี่ยวรอคอยศึกสวาทในครานี้ สะโพกสอบกดแทรกเบาๆ ผ่อนลมหายใจหนักๆ สายตาจับจ้องดวงหน้าซับสีเลือดที่บิดเบี้ยวเหยเก จับอาการและความรู้สึกที่แสดงออกไม่ปิดบัง
เธอพรั่งพร้อมสำหรับเขา...แต่ก็ยังมีอาการเกร็งเครียดลังเล หวาดหวั่นอยู่บ้างเล็กน้อย
"ที่รัก...เราจะผ่านไปได้ เราจะมีความสุขด้วยกัน อา..."
"อื้อ! คุณหมอเจ็บ!" ลำรักคืบคลานไม่ถึงครึ่ง มือน้อยก็กำจิกและดันเขาให้ออกห่าง อัศม์เดชหยุดชั่วครู่ รอจังหวะหญิงสาวพร้อมและรุกคืบอีกครั้ง จูบซับไปทั่วสรรพางค์ตรงหน้า เพื่อรั้งอารมณ์ให้อัญญดาเคลิ้มฝันคล้อยตาม
"คุณหมอ! ไม่...หนูเจ็บ พอค่ะ!!" เมื่อความแข็งขึงขนาดไม่ธรรมดาสอดเสือกเข้าร่างและกำลังกลืนหลอมเป็นหนึ่งเดียวหญิงสาวพร่ำวอนขอเสียงสั่น ความรู้สึกเสียวซ่านไม่ได้จางหาย หากแต่ความปวดร้าวเหมือนตัวจะปริแยกก็ทับซ้อนเข้ามา อัศม์เดชโน้มลงมาจูบซับริมฝีปากอ่อนโยน ปลอบประโลมให้สาวน้อยสงบลง
"พี่รู้น้ำมนต์พี่รู้...พี่จะขยับช้าๆ น้ำมนต์ไม่ต้องเกร็ง อา...รับพี่เข้าไปในตัวเธอเด็กน้อย" คำเล้าประโลมและปลอบขวัญพรั่งพรูปลุกใจพร้อมๆ กับการรุกขยับไม่ให้อีกฝ่ายได้รู้สึกตัว แต่ความคับแน่นก็บีบรัดให้เขาร้าวระบมไม่แพ้กัน ร่างใหญ่ที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อวัยหนุ่มแน่นเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อที่ผุดพราย เขาทาบร่างกอดเธอเอาไว้เต็มทั้งตัว
"ไม่เป็นไรน้ำมนต์...เชื่อพี่นะ"
"น้ำมนต์เจ็บ...เจ็บ..." ทั้งเจ็บทั้งแน่นตีรวนไปหมด แรงรัดจากสองแขนใหญ่ทำให้เธอรับรู้ถึงการสอดเสียบที่หนักหน่วงรุนแรงและเขาต้องการรั้งเธอไว้ไม่ให้ตระหนกไปมากกว่าที่เป็นอยู่
"อา...."
"โอ๊ะ! อื้อ!!!!" ร่างเล็กสะดุ้งร่นถอยหนีแต่ไม่อาจสู้แรงที่ทับอยู่เบื้องบนได้ การรุกล้ำจนสุดทางรักในครั้งเดียวแม้จะล้ำลึกมากว่าครึ่งมันทำให้เจ็บจนหยาดน้ำใสๆ ไหลพรากโดยอัตโนมัติ แม้ผู้ลงทัณฑ์จะกอดปลอบจูบประโลมอยู่ไม่ห่างก็ตาม
"เจ็บ..."
"ไม่เป็นไรแล้ว พี่เข้าไปอยู่ในตัวเธอหมดแล้วน้ำมนต์ อืม..."
"อื้อ!" เธอครางประท้วงน้ำตายังคงรินโรยให้อีกฝ่ายชิมเลียเอาใจ แช่ตัวตนให้นอนนิ่งนานพอที่อีกฝ่ายจะยอมรับสดุดี จากนั้นก็เริ่มขยับเข้าออกเบาๆ
"คุณหมอ..." เธอครางชื่อเขาไม่เป็นศัพท์ มือกำจดจิกจนอีกฝ่ายได้รอยแผลถลอกตามผิวเนื้อเป็นระยะ เมื่อรู้สึกคุ้นชินกันและกันมากขึ้น...ความชื้นถูกกลั่นกรองชโลมลื่นขึ้น จังหวะก็เริ่มรัวเร็วขับควบไปตามอารมณ์อันดิบเถื่อนซึ่งถูกเก็บเอาไว้เนิ่นนาน
"คุณหมอ...อื้อ!" ร่างเล็กโยกคลอนไปตามแรงกระแทกเข้าออกซ้ำๆ ความคับแน่นยังคงรัดตอดไม่ว่างเว้นแม้หญิงสาวจะแฉะมากขึ้นทุกทีก็ตาม
สองขาขาวเรียวถูกมือใหญ่สอดยกโยกขึ้นมาด้านหน้าในขณะที่เขาผละจากการกกกอดร่างของเธอ อัญญดารู้สึกถึงความล้ำลึก และจุกเสียดจนลมหายใจติดขัด ความเจ็บบรรเทา ความเสียวซ่านสูบฉีดไปตามกระแสเลือดอีกครั้ง
"อา...น้ำมนต์ พี่เสียวใจจะขาด น้ำมนต์ทั้งเล็กทั้งแน่น รัดตอดจนพี่จะหลอมละลายอยู่แล้ว" คำพรุสวาทพรั่งพรูไม่ขาดปาก ฉุดพาอารมณ์สาวให้ยิ่งกระสันรัญจวนไปถึงดวงจิต ทรวงอกชูชันเต่งตึงเครียดเกร็งจนเธอเผลอใช้มือบีบขยำคลายความรู้สึกโหยหิวในรสสวาทจากเขา
"ดีมากน้ำมนต์ ทำให้พี่ดูหน่อยว่าหนูอยากยังไง ต้องการยังไง อา..." อัศม์เดชสอดกระแทกตัวตนแข็งแกร่งของเข้าหาโพรงสวาทสาวไม่ยั้ง สายตาจับจ้องการกระทำยั่วยวนอัญญดา สะเอวสอบกระหน่ำถี่จนร่างเล็กร่นไปติดหัวเตียง แต่กระนั้นก็ไม่อาจหยุดพายุสวาทที่กำลังโหมสะพัดได้ อัญญดาหลงลืมความเจ็บปวดทุกอย่าง เธอรู้แต่เพียงว่าอยากถูกเติมเต็มให้มากกว่านี้ มากกว่า...หนักหน่วงยิ่งกว่าเพื่อการเสพสมจะได้ล้ำเส้นสู่ปรารถนาที่รอคอย
แรงเสียดสีถี่ยิบและรัวเร็วมากขึ้นทุกทีจนเธอหายใจไม่ทัน อัศม์เดชดันยกสองขาชูชี้ขึ้นไปอีก จนสะโพกกลมมนลอยเด่นอวดความสัมพันธ์ที่กำลังเชื่อมประสานกันอยู่ ชายหนุ่มครางฮือ ร่างเล็กเกร็งงอคู้เข้าหากันในขณะที่สะโพกยกรับการเสียบสอดอันหนักหน่วงที่ตอกลึกลงมาไม่นึกยั้ง
เธอเองก็ครางสะท้าน...ร่างทั้งร่างเกร็งสุดฤทธิ์เมื่อกระแสสวาทตีรวนมาถึงปราการสุดท้าย ก่อนจะแตกพ่ายยับเยินเมื่อลำรักสนองรุกล้ำเข้าหาล้ำลึกอีกครั้ง อีกครั้ง...และอีกครั้ง ทั้งรุนแรงและหนักหน่วง
เสียงหวานกรีดร้องขึ้นมาอีกครั้งด้วยความไม่อาจหักห้ามใจ ปลดปล่อยหยาดเหลวอาบท่วมกายแกร่งของเขาและเอ่อล้นออกมาตามการดึงดันเข้าออก แรงตอดรัดถี่ยิบกระตุ้นให้อีกฝ่ายเร่งจังหวะของตนเองบ้าง
"อา...น้ำมนต์..." อัศม์เดชครางโหยไม่ต่างจากสัตว์ร้ายที่ถูกทัณฑ์ทรมาน เขาซุกกายแข็งขึงเข้าสุดกำลังในจังหวะสุดท้าย กดแช่ไว้อย่างนั้นและปล่อยทุกหยดหยาดสู่ตัวเธอผสมปนเปรรวมเป็นหนึ่ง ชีพจรของทั้งคู่เต้นถี่พอๆ กับลมหายใจที่หอบโหย หยาดเหงื่อผุดพรายแพรวพราว สองมือใหญ่ยอมปล่อยขาเรียวงามลงกับที่นอน และทิ้งร่างใหญ่ของตนทาบลงบนเธออย่างคนสิ้นแรงสมประดี
นอนหอบอยู่เช่นนั้นครู่ใหญ่จึงพลิกลงถอดถอนร่างออกจากกัน อัญญดาไร้เรี่ยวแรงแม้แต่จะกอบโกยเอาออกซิเจนเข้าปอดให้ได้ดั่งใจ ลำคอของเธอแห้งฝืด และเหนื่อยเหมือนวิ่งรอนแรมหนีตายจากที่ไหนสักแห่ง
"มีความสุขใช่ไหม...เซ็กส์ที่สมบูรณ์แบบของเรา..." อัศม์เดชยังพูดพร่ำพรรณนา สอดมือกอดร่างเล็กแล้วรั้งเข้าหาตัว ตลบมืออีกข้างรัดไว้ในอ้อมแขน จูบหอมหน้าผากชื้นเหงื่อ ในขณะที่เธอจำนนทุกอย่างด้วยตัวอ่อนเสมือนเทียนที่ถูกไฟลน
ความเหนื่อย...ความอ่อนเพลียจากบทสวาทที่สุขสม ขับกล่อมให้ทั้งคู่คล้อยหลับสู่นิทราอันล้ำลึกของคืนนั้น ภายในอ้อมกอดกันและกัน...