มุมอับคับแคบในเรือนเล็กรโหฐานไร้สายตาบ่าวไพร่
บุรุษหนุ่มผู้หนึ่งซึ่งเคยปฏิเสธการใกล้ชิดกับคู่หมั้น ยามนี้กลับรั้งร่างนางมากอดแนบอกอย่างหวงแหนสุดหัวใจ ก่อนดึงร่างนางอย่างดื้อรั้นหายลับมาด้านในแห่งนี้ด้วยกัน
หลังบานประตูที่ปิดสนิท เจ้าของใบหน้างดงามราวอิสตรีผิดกับใบหน้าคมคายคร้ามแดดในชาติที่แล้วกำลังใช้ดวงตาคมกริบขัดกับใบหน้าละมุนละไมจับจ้องสตรีแน่งน้อยตรงผนังเรือนแน่วนิ่ง
หญิงสาวเงยหน้ามองชายหนุ่มผู้มีลักษณะของคนเจ้าชู้เจ้าสำราญชนิดที่หากพบพานเพียงครั้งคงไม่ปรารถนาเจอหน้าอีกตลอดชีวิตด้วยสายตาพิศวง
กู้ฉีรุ่ยในความทรงจำผู้นี้เดิมทีมักผลักไสและขับไล่หานจื่อหรานให้ออกห่างราวกับนางเป็นสิ่งปฏิกูลไม่ควรเฉียดกายเข้าใกล้ ชายตรงหน้าในความทรงจำของร่างเก่าที่เริ่มผุดพรายคือคู่หมั้นหนุ่มผู้หล่อเหลางามสง่าเป็นเอก หญิงใดได้ยลเป็นต้องตกหลุมรักเขาทุกคน
รวมถึงหานจื่อหรานเจ้าของร่างที่นางครอบครอง
หานจื่อหรานลุ่มหลงกู้ฉีรุ่ยจนถึงขั้นทำทุกทางเพื่อให้ได้หมั้นหมายอย่างคนไร้ยางอาย แม้ถูกเขาทำทีรังเกียจก็ยังไม่คลายความหลงใหล ตามติดแม้จะถูกไล่ให้ออกจากชีวิตนับครั้งไม่ถ้วนก็ตาม
แต่ตอนนี้อ้อมแขนที่กระชับยามตระกองกอดคืออันใด
เพราะเขามิใช่กู้ฉีรุ่ยคนเดิมแต่เป็นเยี่ยนเต๋อของนาง ใช่หรือไม่?
สองตาคู่งามสั่นไหว น้ำใสเอ่ยคลอเจียนหยาดหยด ทว่ายังไม่ทันไหลเป็นสาย นิ้วแกร่งพลันยกขึ้นไล่เกลี่ยเบาๆ ซับน้ำตาด้วยท้องนิ้วอย่างอ่อนโยน
นางถูกชายตรงหน้าลากเข้ามาในห้องของเรือนนี้อย่างง่ายดายจนน่ากังขา ทว่านั่นยังไม่อาจเทียบเท่ากับการที่เขายืนยันหนักแน่นถึงตัวตนด้วยดวงตาคมกล้าล้ำลึก
หญิงสาวค่อยๆ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแหบเบาสั่นพร่า “เยี่ยนเต๋อ...เป็นท่านจริงหรือ?”
ชายหนุ่มตอบคำถามด้วยรอยยิ้มเศร้า “เจ้าควรรู้ไว้ว่าคนอย่างเยี่ยนเต๋อหากรักใครแล้วยอมแลกได้ทุกอย่าง แม้แต่ยศศักดิ์ ทรัพย์สมบัติ หรือแม้กระทั่งชีวิต น่าเสียดาย ที่ต้องพ่ายแพ้ให้ชายผู้หนึ่งซึ่งมีดีเพียงแค่เติบโตมากับเจ้า ได้รับโอกาสผูกพันกับเจ้าก่อนข้า”
“อึก...”
หญิงสาวถึงขั้นสะอึกก้อนสะอื้นในลำคอ เพียงเท่านี้ก็มากพอแล้วสำหรับคำตอบ นางถึงขั้นร้องไห้โฮ
“เยี่ยนเต๋อ...”
ชายหนุ่มรั้งร่างนางเข้ามากอดแนบอกอุ่น หลับตาก้มหน้าคมคายซบไหล่บางอย่างต้องการซึมซับทุกความรู้สึกทั้งชาติก่อนและชาตินี้
“ข้าจะไม่ยอมให้บุรุษหน้าไหนย่ำยีหัวใจเจ้าอีก โม่เหลียน...”
จวนเสนาบดีกู้เจิ้ง
ภายในห้องที่ไม่คุ้นตา บนเตียงนอนที่ไม่คุ้นเคย
บุรุษร่างสูงนอนนิ่งอยู่บนเตียง มีเพียงเปลือกตาที่ขยับไหวเพราะกำลังตกอยู่ในห้วงฝันเสมือนจริงมิใช่มายา
ในฝันนั้นเขามีครอบครัวสมบูรณ์พูนสุข มีลูกที่น่ารัก มีสตรีแสนดีเป็นภรรยา ทว่ากลับเป็นเขาที่ดึงหญิงอื่นเข้ามา ทำลายล้างความสุขนั้นจนสิ้น
เพราะความลุ่มหลงในห้วงเสน่หาคล้ายมายา หลงใหลกลิ่นใหม่จนไม่คิดยั้งใจ มัวเมาในรสรักของสตรีอื่นนอกเหนือจากภรรยาร่วมผูกผม
ท้ายที่สุด สตรีอันเป็นที่รักกลับเลือกตัดขาดจากเขาอย่างโหดร้าย นางเลือกหนทางตาย ครอบครัวพังทลาย ปล่อยให้เขาใช้ชีวิตที่เหลือเสมือนตายทั้งเป็น ชดใช้ความผิดโดยที่ไม่มีใครอยู่ให้อภัยแก่เขาสักคน
สิบกว่าปีที่ไม่มีนางอันเป็นที่รัก เขาไม่เคยมีความสุข แม้ครอบครัวใหม่จะอบอุ่นหากแต่คนนอนหนุนแขนมิใช่นาง
เขาพยายามจะลืมแล้วแต่กลับไม่เคยลืมได้ลง พยายามแล้วที่จะพิสูจน์ตัวเองให้ลุกขึ้นมายืนหยัดอีกครั้งโดยไม่มีนาง เพียรลบคำครหาว่าเป็นบุรุษโลเลนอกใจภรรยา ทำทุกอย่างเพื่อลบล้างมลทินของตัวเองจนกลายเป็นความถูกต้องไร้ผู้ใดตราหน้า
เขาประคับประคองครอบครัวใหม่สมบูรณ์แบบที่สุด ไม่ยอมให้พังทลายลงเพราะความเจ้าชู้อีก
ทว่าท้ายที่สุดทุกสิ่งล้วนเป็นเพียงมายา นิทราหวานแสนสั้น ความเจ็บปวดเกิดขึ้นทุกคราที่เขาตื่นขึ้นมาแล้วเจอกับความจริงที่ว่าจูซิ่วมิใช่โม่เหลียน
ใจเขามีเพียงโม่เหลียน จูซิ่วอาจทดแทนได้ก็เฉพาะยามอยู่บนเตียง นางเพียงได้ตำแหน่งฮูหยินเอกเพื่อบุตรสาวและบุตรชาย แต่ไม่เคยได้หัวใจของเขา กระนั้นเพื่อชดเชย เขาจึงมีแค่นาง ทว่าการชดเชยนั้นช่างโง่เขลา
แววตารังเกียจของบุตรสาวคนรองล้วนบอกได้ดี บุตรสาวคนโตที่แม้แต่จะเอ่ยถึงเขานางยังไม่เปล่งวาจาสักคำ
เขารู้ซึ้งแล้วว่าสิ่งที่ทำมาทั้งหมดนั้นสูญเปล่า
เพราะขนาดบุตรสาวที่พลัดพรากจากไปนานสิบปี เจอกันอีกทียังไม่อาจอภัย ทุกสิ่งล้วนกระจ่างแจ้งแน่ชัดว่าไม่อาจแก้ไข
ฮูหยินคนปัจจุบันก็แค่สตรีอันเป็นที่รักจอมปลอม ความเป็นสุภาพบุรุษของเขายิ่งจอมปลอม
ครอบครัวสงบสุขสมบูรณ์พร้อมเป็นแค่เรื่องเพ้อฝัน
ความดีทั้งหมดที่ทำเพื่อสิ่งใดกัน?
เพราะเผลอไผลมิยั้งใจจึงได้เสพสมชั่วครั้งชั่วคราว แลกมาซึ่งความสุขจอมปลอมชั่วครู่ชั่วยามอันเป็นนิรันดร์ และสูญเสียความสุขแท้จริงของครอบครัวไปตลอดกาล
เขามันสวะ!
ซ่งเสวียนชิงยกมือลูบใบหน้าคมคายที่บัดนี้มิใช่ใบหน้าเดิมของตนในชาติก่อน
ตอนนี้เขามีนามว่าอะไรนะ?
กู้ซือหมิง
มุมปากบุรุษค่อยๆ ยกโค้ง เกิดเป็นรอยยิ้มเร้นลับ
เขายังจำได้ เมื่อชาติก่อนตอนที่หมดสิ้นความหวังที่จะทำดีเพื่อให้ใครสักคนอภัย เขาเบื่อทำตัวเป็นบิดาสูงส่ง
เพราะสิ่งที่ได้รับกลับมาคือแววตารังเกียจเดียดฉันท์จากบุตรสาว ประหนึ่งเขาคือตัวต่ำตม
เขาจึงปลดปล่อยตัวตน ทำสิ่งที่อยากทำมาตลอด เขาเริ่มรับอนุเข้าเรือน ไม่สนสายตาใครว่าจะมองอย่างไร
หากแต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือจูซิ่วผู้นุ่มนวลอ่อนหวานกลับกลายเป็นสตรีร้ายกาจ นางอาละวาดไม่ต่างจากปีศาจ คืนนั้นนางถึงขั้นถือมีดเข้ามาในห้องของเขากับอนุคนงาม ปลายมีดพุ่งเป้ามาที่อนุ ทว่ากลับเป็นเขาที่ถูกมือเรียวนุ่มนิ่มของอนุดึงตัวเข้าไปรับมีดแทน
บุรุษผู้หนึ่งให้ความรักใคร่เอ็นดูพวกนางปานนั้น คนหนึ่งทะนุถนอมอย่างดีสิบกว่าปี อีกคนประคบประหงมทุกราตรีจนนางหลงใหลในตัวเขาหัวปักหัวปำ
ทว่าสิ่งที่ได้รับตอบแทนกลับเป็นความตาย
สตรีเรียบร้อยอ่อนโยนและใจกว้างล้วนไม่มีอยู่จริง สตรีอ่อนน้อมถ่อมตนปากบอกว่ารักเขายิ่งไม่มีอยู่จริง
ยิ่งไม่มีใครแทนที่โม่เหลียน
ความแหลมคมที่จ้วงแทงโดนจุดสำคัญพอดิบพอดี ทำให้เขาหมดสิทธิ์ฟื้นคืน เขาตายในเวลาแค่ไม่นาน
ขณะที่วิญญาณหลุดจากร่างในใจยังคงรำพึงรำพันถึงโม่เหลียนเฉกเช่นทุกครั้ง
และนั่นทำให้เขาได้เจอเรื่องที่ไม่คาดฝัน วิณญาณที่ล่องลอยบังเอิญได้เจอกับโม่เหลียน เพียงแต่นางไม่เห็นเขา นางกำลังไปยังที่แห่งหนึ่ง แน่นอนว่าเขาย่อมติดตามนางไป ยามนั้นท้องฟ้าพลันปรากฏลำแสงสีขาวทอดยาวจากนภา เบื้องหน้าคือดวงจันทร์แต่แสงนั้นสว่างไสวคล้ายดวงตะวัน
จังหวะนั้นเขาได้ยินเสียงของบุตรสาวดังขึ้น
“เหตุผลที่ท่านแม่ทำลงไปนั้น แม้ดูเหมือนเห็นแก่ตัวแต่แท้จริงท่านแม่แค่อยากปล่อยมือจากท่านพ่อโดยไม่ต้องทรมานทั้งตนเองและผู้อื่น ท่านแม่รู้นิสัยของพวกข้าพี่น้องดี หากยังอยู่ร่วมชายคากับคนเหล่านี้มีแต่จะฟาดฟันกัน ไร้ความสงบสุข ท่านแม่ให้พวกข้าไปอยู่กับท่านตาและใช้วิธีโหดเหี้ยมเพื่อตัดขาดไม่เกี่ยวข้องกันอีก เพื่อให้ท่านพ่อได้อยู่กับครอบครัวใหม่โดยไม่มีท่านแม่และพวกข้าคอยสร้างเรื่องให้พวกเขาทุกข์ทนมากกว่าที่เป็นอยู่”
“พี่เขย ข้ารู้ว่าท่านมีวิชายุทธ์สูงส่ง ทั้งยังสำเร็จวิชาในตำนาน ข้ามีความคิดอยากให้ท่านดึงวิญญาณของมารดากับองค์ชายไปสิงร่างผู้อื่น ให้พวกเขาได้สมหวังครองรักกันในภพชาติใหม่ กลายเป็นสามีภรรยากันทันทีเลยยิ่งดี”
“แล้วบิดาของพวกเจ้าเล่า? ปล่อยไปหรือ?”
“บุรุษจิตใจโลเลเช่นบิดาผู้นั้น อยู่กับสตรีจอมมารยาอย่างจูซิ่วที่เขาเลือกนั่นล่ะดีแล้ว อยู่แบบโดดเดี่ยวยิ่งสาสม หากเขามั่นคงหนักแน่นและรักท่านแม่มากพอ เรื่องทุกอย่างคงไม่เกิดขึ้น พวกเราอย่าไปคำนึงถึงเขาเลย”
ยิ่งกว่ารังเกียจเดียดฉันท์คือความว่างเปล่าไร้อาทร
นี่คือคำกล่าวอันห่างเหินของบุตรสาวที่มีต่อบิดา ซึ่งครั้งหนึ่งพวกนางทั้งรักเคารพและบูชาบิดาเหนืออื่นใด
รอยยิ้มเหยียดหยันเกิดขึ้นตรงมุมปาก ซ่งเสวียนชิงให้นึกดูแคลนตัวเองยิ่งนัก กระนั้นเขายิ่งไม่อยากยอมรับ และยิ่งไม่มีทางปล่อยวาง
ไม่ถึงเสี้ยวเวลาที่ตัดสินใจ วิญญาณของเขาก็ลอยลิ่วเข้าสู่พิธีกรรมวิชามารของลูกเขยคนโต
ไม่ผิด! ซ่งเสวียนชิงลอบติดตามโม่เหลียนมา!