ดวงใจหมอกิต ตอนที่ 14

930 Words
ทำบุญร่วมชาติ ตักบาตรร่วมขัน คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยจริงๆ “ตั้งใจรับพรนะโยม” เราทั้งคู่ย่อตัวลงนั่งแล้วพนมมือก้มหัวรับพรจากพระอย่างตั้งใจ ในใจของฉันแน่วแน่ตั้งอกตั้งใจอธิษฐานสิ่งที่ตัวเองต้องการ สิ้นเสียงพระก็ยกมือท่วมหัวสาธุอย่างจริงจัง “สาธุ” มีแค่เสียงฉันคนเดียวเท่านั้น พอหันไปมองคนข้างๆ เท่านั้นแหละ “อุ่ย” “จริงจังอะไรขนาดนั้น ใส่แค่ปลากระป๋องขอพรอย่างกับใส่แซลมอนไปทั้งตัว” “คนมันกรรมเยอะนี่คะ จะให้ขอเรื่องเล็กน้อยคงไม่ได้หรอก แล้วหมอล่ะ” “อะไร” “ขออะไรเหรอ” “ขอให้เจ้ากรรมนายเวรใจดีกับพี่มากกว่านี้” “ตายจริง แสดงว่าชาติที่แล้วทำเลวกับคนอื่นไว้เยอะสินะคะ แบบนี้ต้องทำบุญเยอะๆ นะคะ” “ไม่เกี่ยวสักหน่อย เชื่อมากไปหรือเปล่า” ก็เชื่อน่ะสิ บาปบุญคุณโทษฉันเชื่อเกินร้อย ใครทำไม่ดีก็ต้องได้รับสิ่งไม่ดี ช้าเร็วก็อยู่ที่สวรรค์ “แล้วแต่หมอเลยค่ะ” “วันนี้ไปเรียนมั้ย” “ไปสิคะ จะขึ้นห้องไปอาบน้ำแล้วนี่ไง” “เดี๋ยวไปส่ง” ฉันพยักหน้าแล้ววิ่งตามหมอกลับขึ้นห้องไปทำธุระส่วนตัวทันที แค่หมอบอกจะไปส่งก็ทำฉันยิ้มไม่หุบอีกแล้ว บนรถ “วันนี้เลิกเรียนกี่โมง” “บ่ายสองค่ะ หมอจะมารับเหรอ” “วันนี้พี่เข้าเวร เธอมารับพี่บ้างสิ” ฉันขมวดคิ้ว เล่นอะไรอีก “ให้หนูขึ้นรถเมล์ไปรับเหรอ แล้วหมอจะนั่งรถเมล์กลับกับหนูมั้ยล่ะ” “ล้อเล่น พี่ออกเวรสี่ทุ่มกลับเองได้” น่าห่วงเหมือนกันนะ ทำงานหนักเลิกดึกแบบนี้ ถ้าเกิดหลับในขึ้นมา “คืนนี้หนูต้องไปทำรายงานที่ห้องไอติม สี่ทุ่มใช่มั้ยคะ” ถ้าหมอมีเพื่อนนั่งข้างๆ คงทำให้ตาสว่างแล้วไม่เสี่ยงหลับใน “เอาจริง? พี่พูดเล่นไม่ต้องลำบากหรอก” “เอาน่ะ เต็มใจ” หมอไม่ตอบ อมยิ้มแล้วตั้งใจขับรถต่อจนมาถึงหน้ามอฉันบอกให้จอดแค่ข้างหน้า ไม่ต้องลำบากขับเข้าไปให้ลำบากเดี๋ยวจะเสียเวลา “จะเดินไกลเอานะ” “ออกกำลังกายค่ะ บ๊ายบายนะหมอ ขับรถดีๆ” “ตั้งใจเรียนล่ะ” ฉันยกนิ้วขึ้นมาทำสัญลักษณ์ว่าโอเค แล้วหันหลังเดินเข้ามอทันที วันนี้ที่คณะมีกิจกรรมสำหรับน้องปี1 เรียกประชุมเกี่ยวกับการรับน้อง คณะเราจะเปลี่ยนกิจกรรมรับน้องจากที่ต้องมาเต้นแร้งเต้นกาเป็นทำประโยชน์ให้สังคมแทน ก็ดีเหมือนกันแบบนี้ได้ประโยชน์มากกว่าเดิมตั้งเยอะ “พี่ญาริน” ฉันหันไปตามเสียงเรียกเห็นน้องรหัสวิ่งเข้ามาหาพร้อมรอยยิ้มดีใจ “มีอะไรหรือเปล่า” “หนูได้ข่าวมาว่ากิจกรรมที่คณะจะให้ทำต้องไปหาสถานที่เองค่ะ” “เหมือนฝึกงานใช่มั้ย” น้องรหัสพยักหน้า ที่วิ่งแล้วยิ้มมาคงคิดว่าฉันคงหาทางช่วยได้ใช่มั้ย นั่นสิ เป็นพี่รหัสนี่เนอะ “มีในหัวบ้างมั้ย” น้องส่ายหน้าอย่างเดียวเลย “หนูมาจากต่างจังหวัด ยังไม่ค่อยรู้จักกรุงเทพคิดว่าคงต้องพึ่งพี่ญารินแล้วล่ะค่ะ” นั่นสิ น้องเป็นคนต่างจังหวัดตั้งแต่กำเนิด เข้ามาอยู่กรุงเทพก็เพื่อมาเรียนโดยเฉพาะ “แล้วทางคณะได้บอกไว้ว่าต้องเป็นที่ไหน จำกัดสถานที่หรือเปล่า” “ไม่จำกัด ที่ไหนก็ได้ค่ะ” “เล็งเอาไว้หรือยังว่าอยากทำอะไร” น้องทำท่าคิดไม่นาน “สถานสงเคราะห์หรือจะเป็นโรงพยาบาลก็ได้ค่ะ” ฉันเห็นด้วยกับที่น้องเสนอมา “โรงพยาบาลดีมั้ย” ไปเป็นจิตอาสาคอยบริการผู้ป่วยหรืออาจจะเป็นตำแหน่งอื่นที่ทางโรงพยาบาลเห็นว่าสมควรก็ได้ ถ้าเป็นสถานสงเคราะห์ฉันไม่รู้จักใครเลยในนั้น “ได้ค่ะพี่ญาริน เฮ้อ โล่งอกนึกว่าจะไม่มีที่ให้ไปแล้ว” “เป็นน้องรหัสพี่จะกลัวอะไร มีอะไรบอกพี่ได้นะ เบอร์ก็ให้ไปแล้วจะทักไลน์มาก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเรื่องใหญ่ เรื่องเล็กน้อยได้ทั้งนั้น” รู้สึกเอ็นดูน้องรหัสต่างจังหวัดคนนี้จังเลย “ขอบคุณค่ะพี่ญาริน” “เดี๋ยวพี่จัดการให้ เข้าประชุมไปฟังรายละเอียดมานะ” “ได้ค่ะ หนูไปก่อนนะพี่เขาเรียกแล้ว” “โอเค” ฉันอมยิ้มให้กับความน่ารักของน้องรหัส ระหว่างที่ประชุมรุ่นน้องฉันก็ต้องปลีกตัวมาเข้าห้องน้ำเพราะรู้สึกปวดท้อง พอได้เข้าห้องน้ำก็รู้สึกดีขึ้นแต่อาการปวดท้องก็ยังไม่หายไป หรือว่าต้องไปหาหมอ ไม่เอาดีกว่าปรึกษาหมอดีกว่า สาวสวยข้างห้อง : ปวดท้องอะหมอ ฉันเป็นคนเปลี่ยนชื่อไลน์เองแหละ Dr.Kit : สติกเกอร์ อุนจิ? โอ๊ย อะไรเนี่ยจริงจังนะ สาวสวยข้างห้อง : ห้องฉุกเฉินไปทางไหน Dr.kit : ไปห้องพยาบาลแล้วหายากิน ถ้ายังไม่หายให้มาหาหมอ หมายถึงให้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลใช่มั้ย สาวสวยข้างห้อง : หมอต้องตรวจให้หนูนะ อ่านแต่ไม่ตอบ ก่อกวนวันละนิดแบบนี้แหละ “ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียวนะ” ฉันรีบเงยหน้าจากมือถือทันที “อ้าว นี่คณะบริหารนะ ไม่ใช่คณะแพทย์” “วันนั้นเธอยังไปหาเรื่องฉันถึงคณะแพทย์ได้เลยทำไมฉันจะมาหาเรื่องเธอที่คณะบริหารไม่ได้ หลานรักคุณปู่” _____________________
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD