EP#5 “สัญญาคู่หมั้นกำมะลอ”

1999 Words
“เอิงๆ ช่วยแม่ด้วย ฮือๆๆ” พาฝันร้องไห้สะอึกสะอื้น “พี่ฝันๆ ใจเย็นๆ ป้าเป็นอะไร บอกเอิงมา” เอิงเอยเริ่มใจคอไม่ดี “โดนรถชน ฮือๆๆๆ” “พี่ฝันๆ ใจเย็นๆ ป้าอยู่โรงพยาบาลไหน” เธอพยายามตั้งสติ “แม่ๆ ต้องรีบผ่าตัดด่วน โรงพยาบาลจะเอาเงินก่อนแต่พี่เงินไม่พอ เอิงช่วยพี่ด้วย ฮือๆๆ” พาฝันร้องไห้หนักขอร้องเอิงเอย “เท่าไหร่ๆ พี่ฝัน” “1 ล้าน ฮือๆ” “ห๊ะ ทำไงดี เอิงมีเงินเก็บแค่สองแสนเอง” “พี่ก็มีไม่พอ ฮือๆ เราจะทำยังไงดีเอิง” “ให้หมอผ่าก่อนได้ไหม เอิงจะหาเงินไปจ่ายให้ป้าเอง” ป้าที่เลี้ยงเธอมา เธอรักป้าเหมือนแม่อีกคน เธอต้องช่วยป้าให้ได้ “พี่พยายามขอร้องหมอแล้ว แต่เค้าไม่ยอม พี่เลยโทรมาหาเอิง ฮือๆๆ” “พี่ฝันขอเวลาเอิงคิดแป๊บนะ เอิงต้องหาเงินช่วยป้าให้ได้” “จริงๆ นะ พี่จะรอเอิงนะ” หลังจากวางสาย เอิงเอยก็พยายามคิดหาหนทาง ว่าเงินตั้ง 1 ล้านเธอจะไปหาจากที่ไหน หรือจะบากหน้าไปยืมแม่เลี้ยงเธอดี แต่เธอก็ต้องลอง แม้ความหวังจะน้อยนิดก็ตาม “ฮัลโล มีอะไร”สายสุดาแม่เลี้ยงเธอรับสายอย่างหงุดหงิด “หนูมีเรื่องจะรบกวน” เธอพยายามพูดดีกับคนที่เธอเกลียดเข้ากระดูก แต่เพื่อป้าเธอยอม “จะมาขอเงินหละสิ” สายสุดาเเม่เลี้ยงเธอพูดเย้ยหยันเอิงเอย “ใช่ค่ะ เอิงจำเป็นต้องใช้เงิน 1 ล้าน” เธอตอบไป ด้านชายหนุ่มเมื่อเดินเข้าไปที่โต๊ะอาหารพบอาหารวางอยู่เต็มโต๊ะ มีภรรยาคุณการุณนั่งคอยอยู่แล้ว แต่คุณการุณมีธุระสำคัญ ต้องไปจัดการนิดหน่อย “สวัสดีค่ะ คุณปราณนต์ แล้วหนูเอิงหละค่ะไปไหน” “คุณโทรศัพท์อยู่ด้านนอกครับ สักครู่จะตามเข้ามา” “ดีจังเลย จะได้เจอหนูเอิงเอยแล้ว” คุณหญิงยิ้มดีใจ “รอคุณการุณสักครู่นะจ๊ะ พอดีมีงานด่วน” คุณหญิงเอ่ยอย่างเกรงใจ “ไม่เป็นไรครับ เชิญตามสบาย” “แล้วคุณปราณนต์คบกับหนูเอิงนานแล้วเหรอคะ” “เอ่อ” ปราณนต์ไม่รู้จะตอบยังไง เพราะเขาโกหกเรื่องเอิงเอย “ขอโทษนะ ที่ป้าถามละลาบละล้วง” “เปล่าครับ ยังไม่นานครับ” เขาจำเป็นต้องโกหกคำโตต่อไป เขาเองก็ไม่คาดคิดว่าการโกหกเพื่อให้ได้เข้าไปในงานในค่ำคืนนั้น จะทำให้เขาต้องเกี่ยวข้องกับเอิงเอยอีก “ป้าบอกตามตรง ป้าถูกชะตากับหนูเอิงมากๆ หวังว่าคุณปราณนต์จะดีกับเธอมากๆ นะคะ” “ครับ” เขารับคำอย่างเสียไม่ได้ ถ้าไม่ติดว่าเขาต้องการซื้อเหล็กจากคุณการุณ เขาจะไม่มีวันทำแบบนี้เด็ดขาด คนอย่างเขาไม่ชอบให้ใครมาสั่ง “ผมขอไปดูเอิง สักครู่นะครับ” ชายหนุ่มที่เดินเข้าไปสักพักแล้ว ไม่เห็นหญิงสาวตามเข้าไปสักที จึงเดินออกมาตาม “เชิญตามสบายเลยค่ะ” ชายหนุ่มเดินออกมาหาหญิงสาว แต่ไม่พบ “หรือว่าจะหนีไปแล้ว ผู้หญิงที่เห็นเงินแล้วตาโตแบบนั้น จะไม่สนใจเงินที่เขาเสนอให้ได้ยังไง” ชายหนุ่มบ่นพึมพำ สายตามองหาเอิงเอยไปด้วย ในที่สุดเขาก็พบหญิงสาวกำลังยืนคุยโทรศัพท์กับใครบางคนอยู่ที่มุมเสา เขาตั้งใจเดินไปตาม ไม่อยากให้คุณการุณและภรรยาต้องรอนาน เขาเองจะได้หาโอกาสคุยเรื่องซื้อเหล็กด้วยแต่เมื่อเดินเข้าไปใกล้เขาได้ยินเสียงเธอคุยโทรศัพท์ “ช่วยหนูสักครั้งนะคะ” เธอพยายามอ้อนวอน ทั้งๆที่เงินนั้น พ่อกับแม่ของเธอเป็นคนหามาทั้งนั้น เธอเจ็บใจมาก แต่เธอยังทำอะไรไม่ได้ สักวันเธอจะเอาของพ่อกับแม่เธอคืนให้หมด “แกจะเอาเงินไปเที่ยวเล่นหละสิ ชั้นไม่ให้หลอก” “ไม่ๆ หนูจะเอาไปช่วยป้า ป้าต้องผ่าตัดด่วน ต้องใช้เงินจริงๆ” เธอพยายามอธิบาย “ป้าแกจะตาย ก็ไม่เกี่ยวกับอะไรชั้น” “แต่นั่นมันก็เงินพ่อกับแม่เอิงนะ” เธอเริ่มโวยวาย “แต่ตอนนี้พ่อกับแม่เธอไม่อยู่แล้ว พินัยกรรมก็ยกให้ชั้นแล้ว แกจะทำอะไรได้” “แล้วคุณจะเสียใจ ที่ทำแบบนี้กับเอิง” หญิงสาวน้ำตาไหล หนทางมืดมน เธอจะหาเงินที่ไหนไปช่วยป้า “เอิงจะหาเงินที่ไหน ไปช่วยป้า ฮือๆ” เธอทรุดลงนั่งหลังพิงเสา กำโทรศัพท์ไว้แน่น ไม่กล้าโทรไปบอกพี่ฝัน ชายหนุ่มที่ตั้งใจออกมาตามเธอ และคุยตกลงสัญญาคู่หมั้นกับเธอ คิดจะเอาเงินให้เธอสักก้อนอยู่แล้ว เมื่อได้ยินบทสนทนาก็พอจะเดาได้ว่า ตอนนี้เธอกำลังต้องการเงิน เขาจึงใช้โอกาสนี้เสนอสัญญาให้เธอ เธอไม่ปฏิเสธแน่ๆ “ถ้าเธอต้องการเงิน ผมจะให้เอง” ชายหนุ่มยืนพูดตรงหน้าเธอ เธอเงยหน้าขึ้นทั้งน้ำตา “จริงเหรอคะ” “จริง” หญิงสาวยิ้มออกมาทั้งน้ำตา “แต่ผมมีข้อแม้ 1 ข้อ” “อะไรคะ แค่คุณยอมให้เอิงยืมเงิน เอิงตกลงได้หมดค่ะ” นาทีนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าชีวิตของป้าเธอแล้ว “ทำสัญญาเป็นคู่หมั้นผม 6 เดือน” เขาคำนวณแล้วว่า ภายใน 6 เดือน ถ้าเขาได้ทำสัญญาซื้อเหล็กกับคุณการุณแล้ว เขาก็ไม่จำเป็นต้องให้เธอมาเป็นคู่หมั้นอีก ทำไงได้คุณการุณและภรรยาดันพอใจเธอมากซะเหลือเกิน เขาจำเป็นต้องใช้เธอเปิดทางให้ได้พบคุณการุณ แม้ตระกูลเขาจะมีอิทธิพลและเงินมากมาย แต่คุณการุณเองก็มีเงินและอิทธิพล ไม่แพ้เขาเลย หรืออาจมากกว่าตระกูลเขาด้วยซ้ำ เพราะคุณการุณเป็นคนเดียวที่ได้สัมปทานเหล็กทั้งในและต่างประเทศ “อะไรนะคะ” เธอไม่เข้าใจเงื่อนไขของชายหนุ่ม “ผมไม่ชอบพูดซ้ำ” “ได้ค่ะ เอิงตกลง” “คุณต้องการเงินเท่าไหร่” “ 1 ล้านค่ะ แต่เอิงขอเลยได้ไหมคะ” ชายหนุ่มที่ฟังเธอคุยโทรศัพท์ ก็พอเข้าใจถึงเหตุผล เขากดสายโทรหาเอกรัตน์ “นายโอนเงินให้เอิง 1 ล้าน เดี๋ยวนี้” “ครับ คุณปราณ” เอกรัตน์แม้จะอยากถาม แต่ไม่ถามดีกว่า นิสัยบอสเขารู้ดี “ได้เงินแล้ว ก็เริ่มทำหน้าที่ของเธอให้ดี ไปล้างหน้าซะ แล้วเข้าไปกับผม” เอิงเอย แม้จะไม่เข้าใจเหตุผลของเขานัก ว่าทำไมต้องให้เธอไปเป็นคู่หมั้นกำมะลอของเขา เธอยืนขึ้น หันซ้ายหันขวา “ไปล้างหน้าสิ จะยืนนิ่งอยู่ทำไม คุณการุณรอแย่แล้ว” เขาสั่ง “เอิงก็อยากไปล้างหน้าค่ะ แต่เอิงไม่รู้ต้องไปทางไหนค่ะ” เธอตอบไปตามตรง ชายหนุ่มชะงัก เพราะเขาเองก็เพิ่งมาครั้งแรกเช่นกัน เขามองสภาพหญิงสาวตรงหน้าที่สองข้างแก้มมีแต่คราบน้ำตา ถ้าขืนให้เข้าไปสภาพนี้ คงไม่ดีแน่ เขาจึงล้วงผ้าเช็ดหน้าส่งให้เธอ “เช็ดหน้าซะ” เธอรับมา เช็ดหน้าตัวเอง แต่เธอเช็ดคราบน้ำตาไม่หมด ชายหนุ่มจึงดึงผ้าเช็ดหน้าจากมือเธอมา แล้วเช็ดคราบที่เหลือให้ เอิงเอยมองหน้าชายหนุ่ม พอดีกับชายหนุ่มหันมาสบตากับเธอ ทั้งสองสบตากัน หญิงสาวใจเต้นแรงขึ้น ~ติ๊ง~เสียงเตือนเงินเข้าบัญชี “ขอเอิงโอนเงินให้พี่สาวแป๊บนะคะ” “พี่ฝัน เอิงโอนเงินให้แล้วนะคะ” “ขอบใจ ขอบใจเอิงมากๆ แม่รอดแล้ว” “เอิงไปทำงานก่อนนะคะ เสร็จแล้วเอิงจะรีบโทรไปนะคะ” “เรียบร้อยแล้ว ก็ไปทำหน้าที่ของเธอให้ดี” ชายหนุ่มออกคำสั่ง “ได้ค่ะ” เธอเดินตามชายหนุ่มเข้าไป ถึงแม้เธอจะไม่ชอบชายหนุ่มที่ดูถูกเธอ แต่ในตอนที่มืดมนจนหนทาง ก็ยังดีที่เขายื่นมือมา เธอจะพยายามตั้งใจทำให้ดีทีสุด “สวัสดีค่ะคุณป้า คุณการุณ” เธอไหว้สวัสดี ผู้ใหญ่ทั้งสอง “มาแล้วเหรอจ๊ะ” คุณหญิงเดินมากอดเธอ “ไปนั่งๆ หนูเอิงหิวแย่แล้ว” “ตักข้าวเลย”คุณหญิงสั่งสาวใช้ บนโต๊ะอาหาร ปราณลอบมองเอิงเอยเป็นระยะ กลัวเธอหลุดพิรุธ แต่เขากลับไม่รู้เลยว่า คุณการุณก็ลอบมองพฤติกรรมของชายหนุ่มเช่นกัน คุณการุณที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก รู้ตั้งแต่ต้นแล้วว่า ปราณนต์ต้องการอะไรจากเขา แต่คุณการุณรู้ดีว่าภรรยาของเขาถูกใจหนูเอิงเอย มากๆ เขาจึงไม่ขัดที่ภรรยาของเขาชวนหนูเอิงเอยมาทานข้าว แล้วปราณนต์จะมาด้วย ขอแค่ภรรยาของเขามีความสุข เขาพร้อมทำทุกอย่าง “หนูเอิงชอบกล้วยไม้ไหมจ๊ะ” “ชอบค่ะ” เธอหวนคิดไปถึงตอนเด็กตอนที่พ่อกับแม่เธอยังมีชีวิตอยู่ กิจกรรมร่วมกันคือ ช่วยกันรดน้ำกล้วยไม้ ช่วยกันขยายหน่อใส่กระถาง พอได้นึกถึงช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ เธอก็ยิ้มออกมา “ทานข้าวเสร็จแล้วหนูเอิงไปเดินในสวนป้าดีไหม” “ดีค่ะ เอิงชอบกล้วยไม้มากค่ะ” หลังจากทานข้าวเสร็จคุณหญิงก็พาเอิงเอยแยกไปดูกล้วยไม้ในสวน “เชิญคุณปราณไปห้องหนังสือกับผมดีกว่า” “ครับ” ชายหนุ่มรอโอกาสนี้อยู่ “ในห้องมีหนังสือเยอะเลยนะครับ” “ใช่ครับ ผมชอบอ่านหนังสือ เพราะหนังสือไม่หาผลประโยชน์จากคนอ่าน” เขาพูดหยั่งเชิงชายหนุ่ม ชายหนุ่มรู้ว่าทันทีว่า โดนคุณการุณพูดกระทบ “หนังสือจะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อให้ประโยชน์กับคนอ่าน และหนังสือจะหมดคุณค่าถ้าคนอ่านไม่เอาเรื่องที่อ่านไปใช้ประโยชน์นะครับ” ชายหนุ่มตอบกลับไป คุณการุณพอใจกับคำพูดของชายหนุ่ม ที่กล้าตอบโต้เขา แม้ตัวเองต้องการเขาหาเขาเพื่อผลประโยชน์ เขาชอบคนกล้าแบบนี้ “ตอนนี้ในห้องมีแค่เราสองคน ผมขอพูดตามตรงเลยนะ” “ครับ” “ผมรู้ว่าที่คุณพยายามเข้าหาผม เพราะต้องการซื้อเหล็กจากผม” คุณการุณที่ภายนอกดูอบอุ่น อ่อนน้อมกับทุกคน แต่ความจริงเขาเป็นคนที่ตรงไปตรงมา กล้าได้กล้าเสียคนหนึ่ง เขาถึงมาอยู่ในจุดนี้ได้ “ใช่ครับ ผมต้องการซื้อเหล็กจากคุณจริง” ชายหนุ่มตอบตามตรง “ผมเป็นพ่อค้า ผมอยากขายของอยู่แล้ว แต่…” “ท่านว่ามาได้เลยครับ” ชายหนุ่มสบตาชายวัย 50 “ผมไม่ทำธุรกิจกับคนที่ไม่จริงใจ” ชายหนุ่มได้ยินก็แอบสะดุ้งเล็กน้อย แต่ไม่แสดงท่าทีออกไป “ผมไม่ชอบคนโกหก วันไหนที่ผมรู้ว่าคุณเป็นคนไม่จริงใจ สัญญาการค้าระหว่างเราจบทันที” “ท่านหมายความว่า” ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มออกมา “ใช่ ผมยินดีขายเหล็กให้คุณ คุณควรไปขอบคุณหนูเอิงด้วย เพราะหนูเอิงช่วยภรรยาผมไว้ คุณเป็นแฟนของเธอ ผมอยากตอบแทนน้ำใจของหนูเอิง” “ครับ ขอบคุณครับ” ตอนนี้ปัญหาสุดท้ายของโปรเจ็คเขาก็แก้ปัญหาได้สักที ชายหนุ่มใช้เวลาในการขอพบคุณการุณมาเกือบสองเดือน แต่ก็ยังไม่ได้พบ ไม่นึกเลยว่า เพราะยัยผู้หญิงตาโตเวลาเห็นเงินจะช่วยให้เขาแก้ปัญหาตรงนี้ได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD