EP#7 "หล่อจัง เขาเป็นใครนะ"

2205 Words
“เธอคือว่าที่คู่หมั้นผมครับ” เสียงปราณนต์ดังขึ้น “นายว่าเธอคือใครนะ” คุณเดชถามย้ำ เพราะไม่เชื่อในสิ่งที่เพิ่งได้ยิน เขาไม่เคยได้ยินว่าหลานชายของเขาจะมีแฟนหรือยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน จะมีว่าที่คู่หมั้น “นี่เอิงเอยครับ แล้วผมเป็นอนุญาตให้เธอใช้ลิฟท์ตัวนี้เอง” ปราณนต์ตอบอาเดช “สวัสดีค่ะ” เอิงเอยยกมือไหว้อาเดช อาเดชรับไหว้เอิงเอย “อาดีใจด้วยนะ” อาเดชแสดงความยินดีกับหลานชาย “แล้วอีกเรื่องครับ เธอจะมาทำงานที่นี่ด้วย” เขาแจ้งอาเดช จะได้ไม่ต้องมีปัญหาอีก “หลานชายของอาโตจนจะมีครอบครัวแล้ว ถ้าพ่อของหลานรับรู้ต้องดีใจมากแน่ๆ” อาเดชยิ้มให้หลานชายพร้อมทั้งตบไหล่เบาๆ “ขอบคุณครับ แต่ผมไม่อยากให้คนในบริษัททราบนะครับ” เขาบอกอาเดช เพราะกลัวว่าถ้าไม่บอกไว้เกิดอาเดชได้พบคุณการุณจะเกิดเรื่อง “ทำไมหละหลาน นี่เป็นเรื่องน่ายินดีนะหลาน เป็นการให้เกียรติหนูคนนี้ด้วย” เขาส่งยิ้มให้เอิงเอย “ไม่เป็นไรค่ะ เอิงไม่ถือค่ะ แล้วแต่คุณปราณเลยค่ะ” เธอพยายามช่วยแก้สถานการณ์ให้เขา “แล้วแต่พวกหลานเลย คนรุ่นใหม่มักมีความคิดที่คนรุ่นอา คาดไม่ถึงจริงๆ ฮ่าๆ” อาเดชหัวเราะอย่างอารมณ์ และหันไปสั่งเลขาของเขา “ได้ยินแล้วใช่ไหม ว่าเรื่องนี้เป็นความลับ” อาเดชกำชับเลขาของเขา “ครับ/ค่ะ” เลขาของอาเดชรับทราบคำสั่งจากนาย “งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ดึงมือเอิงเอยให้ตามเข้าลิฟท์ “ผมหวังว่า เรื่องนี้จะเป็นความลับนะ” เขากำชับเธอ “ค่ะ เอิงทราบค่ะ แต่เอ่อ...” “มีอะไรอีก” เอิงเอยยกมือที่โดนจับอยู่ขึ้น “ปล่อยได้แล้วค่ะ” ปราณนต์รีบปล่อยมือเธอ “โทษที” พอถึงห้องเอกรัตน์รีบเปิดประตูห้องทำงานให้ปราณนต์และเอิงเอยเข้ามา “สัญญาแก้เรียบร้อยแล้วใช่ไหม”ปราณนต์ถามเอกรัตน์เลขาคนสนิท “ครับ ยื่นเอกสารให้ปราณนต์” เขารับไปตรวจทานอีกรอบ แล้วเซ็นต์ลงไป “ตาเธอ” เธอรับมาอ่าน และเซ็นต์ลงไปเช่นกัน นี่เธอมีคู่หมั้นแล้วเหรอ “เก็บไว้ฝั่งละ 1 ชุดนะครับ ” เอกรัตน์บอกทั้งสองคน และยื่น 1 ชุดให้เอิงเอยไป “คุณกลับไปได้แล้ว” เขาบอกเอิงเอย “ค่ะ เอิงขอตัวนะคะ” วันนี้ช่างพิเศษจริงๆ เธอทั้งได้งานทำและได้คู่หมั้นมาด้วย เธอยิ้มเศร้าให้กับตัวเอง นี่มันต่างอะไรกับขายตัวกันนะ เธอสะบัดหัวไล่ความคิด แล้วถอนหายใจแรงๆ ออกมา “รีบไปหาคุณป้าที่โรงพยาบาลดีกว่า” เธอพึมพำคนเดียว เมื่อเธอลงลิฟท์ลงมาข้างล่าง พนักงานต่างมองเธอ แล้วพากันซุบซิบอีกรอบ เธอจึงกล่าวทักทายไปซะเลย ไหนๆ เธอก็ต้องมาทำงานที่นี่ “สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อ เอิงเอยนะคะ อาทิตย์หน้าจะมาทำงานที่นี่ค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” เธอก้มศรีษะให้ทุกคนเล็กน้อย แล้วเดินออกไปทันที “เห็นไหมๆ แค่พนักงานใหม่นี่เอง” พนักงานคนนึงพูดขึ้น “เราก็นึกว่า แฟนท่านประธานซะอีก” “ถ้าเป็นแฟนท่านประธานจะมาทำงานทำไม แถมแค่ตำแหน่งพนักงานขายด้วย” พนักงานหญิงคนนึงพูดเสริมขึ้น “ใช่ๆ หน้าตางั้นๆ ท่านประธานไม่สนหลอก พวกเราไปทำงานๆ เถอะ” หลังจากกระจ่างเรื่องของเอิงเอย ก็แยกย้ายกันไปทำงาน -ณ โรงพยาบาล- “พี่ฝัน คุณป้าเป็นยังไงบ้างคะ” เอิงรีบถามอาการจากพี่ฝัน ซึ่งเป็นลูกสาวของคุณป้าที่เลี้ยงดูเธอมา เธอรักคุณป้ามาก และรักพี่ฝันมากด้วยเช่นกัน “ต้องขอบใจเอิงมากๆ เลยนะ ตอนนี้แม่ปลอดภัยแล้ว รอย้ายเข้าห้องพิเศษ” พี่ฝันกอดขอบคุณเอิงเอย “ดีจังเลยค่ะ พี่ฝัน” เธอยิ้มออกมา “ถ้าเอิงหาเงินให้ไม่ทัน อาการแม่คงหนักแน่ๆ ขอบคุณเอิงจริงๆ” “คุณป้าก็เปรียบเสมือนแม่ของเอิงเหมือนกัน ยังไงเอิงก็ต้องช่วย” “ว่าแต่เรา ไปเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าผ่าตัดให้แม่ เอิงไม่ได้ไปทำเรื่องไม่ดี ใช่ไหม” ที่พี่ฝันพูดแบบนี้ เพราะรู้ดีว่า เอิงเองก็ไม่ได้มีเงินเก็บมากมายขนาดนี้ “เอ่อ เอิง ได้งานทำแล้วค่ะ” “ได้เมื่อไหร่กัน ทำไมพี่ไม่รู้เลย” “เพิ่งได้ค่ะ บริษัทใหญ่ด้วยนะคะ” เธอไม่ได้พูดปด “แล้วเพิ่งทำงาน ไปเอาเงินที่ไหนมามากมาย” พี่ฝันยังไม่คลายกังวล “เอ่อ กู้กองทุนของบริษัทค่ะ ดอกเบี้ยถูกด้วย เป็นสวัสดิการของพนักงาน” เธอเอานิ้วชี้ไขว้นิ้วกลางไว้ด้านหลัง เพราะเธอทำสัญญากับคุณปราณนต์ไว้แล้ว “บริษัทนี้ดีจริงๆ เอิงต้องตั้งใจทำงานให้เค้านะ ส่วนพี่ก็จะช่วยเอิงหาเงินไปใช้คืนบริษัทเอง” เธอไม่อยากผลักภาระให้น้องสาวคนนี้ต้องรับอยู่คนเดียว เพราะความจริงคนที่ต้องวิ่งหาเงินควรเป็นเธอที่เป็นลูกสาวแท้ๆ ต่างหาก แต่เธอหมดปัญญาจริงๆ จึงต้องหวังพึ่งพาเอิงเอย “เอิงรักป้า กับพี่ฝันนะคะ” “พี่ก็รักเอิงเหมือนน้องสาวแท้ๆ เลย เราเป็นครอบครัวเดียวกันนะ” “ค่ะ พี่ฝัน” ทั้งคู่โอบกอดกันอีกครั้ง “ตอนนี้ย้ายคนไข้ไปพักฟื้นที่ห้องพิเศษปลอดเชื้อแล้วนะคะ” พยาบาลเข้ามาแจ้ง “ค่ะ พวกเราเข้าเยี่ยมได้แล้วใช่ไหมคะ” เอิงรีบถาม “ได้ค่ะ แต่ต้องใส่ชุดปลอดเชื้อเข้าไปนะคะ และเข้าได้ทีละคน คนละ 10 นาที นะคะ” พยาบาลอธิบายกฎระเบียบให้ทั้งสองฟัง ทั้งสองรับทราบ “ค่ะ ขอบคุณ คุณพยาบาลท่กนะคะ” “พี่ฝันเข้าไปก่อน เดี๋ยวเอิงค่อยเข้าไป” “ได้สิจ๊ะ งั้นพวกเราไปเปลี่ยนชุดพร้อมกันเถอะ” พี่ฝันเดินเข้าไปเยี่ยมแม่ในห้อง ส่วนเอิงมองดูอยู่ข้างนอก “แม่จ๋า ฝันกับเอิง จะดูแลแม่เอง แม่รับหายนะ รีบฟื้นขึ้นมาอยู่กับพวกเรานะคะ” พี่ฝันคุยกับแม่ แม้ท่านจะยังไม่ได้สติ “เดี๋ยวฝันออกไปก่อนนะคะแม่ ยัยเอิงชะเง้อมอง อยากเข้ามาหาแม่แย่แล้ว” แล้วเธอเดินออกมา “ยังไม่ครบ 10 นาทีเลย ทำไมพี่ฝันรีบออกมาจัง” เธอถามด้วยความสงสัย “ขืนพี่ไม่รีบออกมา คอเราคงยื่นเป็นยีราฟแล้ว” พี่ฝันยิ้มให้เอิงเอย “ก็เอิงเป็นห่วงคุณป้านี่คะ” “พี่รู้จ๊ะ รีบเข้าไปเถอะ แม่เองก็คงอยากเจอเอิงมาก” “ค่ะ พี่ฝัน” เธอรีบเข้าไปในห้อง “คุณป้าค่ะ เอิงมาแล้วนะคะ คุณป้าเป็นยังไงบ้าง รีบฟื้นมาคุยกับเอิงนะ เอิงมีเรื่องจะเล่าให้ป้าฟังเยอะแยะเลย” จากนั้นเธอก็เล่าเรื่องต่างๆ ให้ป้าฟัง จนครบ 10 นาที “ครบ 10 นาทีแล้วนะคะ เชิญญาติ ออกไปรอด้านนอกค่ะ” พยาบาลเข้ามาเตือนเอิงเอย “เอิงออกไปก่อนนะคะ พอป้าฟื้นเอิงจะเล่าให้ฟังอีกรอบนะ คุณป้าต้องรีบฟื้นนะคะ” จากนั้นก็เดินออกมา “เอิงรีบกลับไหม พรุ่งนี้ต้องไปทำงานหรือเปล่า” พี่ฝันถามด้วยความเป็นห่วง “เจ้านายเอิงใจดีมากค่ะ รู้ว่าป้าป่วย เลยให้เอิงหยุดงานได้สองวันค่ะ เอิงจะเฝ้าป้าเป็นเพื่อนพี่ฝันเองนะ” “จริงเหรอ เจ้านายเอิงดีจริงๆ” “ค่ะ” ใจดีเหรอ ก็เหมือนใจดี แต่โหดซะมากกว่า ไม่รู้เธอจะโดนเขาจัดการวันไหน เธอคิดในใจไม่ได้เล่าให้พี่ฝันฟัง “งั้นพี่ฝากเอิงดูแม่แปบหนึ่งได้ไหม พี่ขอกลับไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านก่อน” “ได้ๆ ค่ะ” “แล้วเอิงหร่ะ ได้เอาเสื้อผ้ามามั้ย” “อุ้ย เอิงลืมสนิทเลย เพราะมัวแต่จะรีบมาให้เร็วที่สุด” เธอยิ้มแห้งให้พี่ฝัน “เรานี่นะ ขี้ลืมจริงๆ แบบนี้ต้องหาคนดูแลแล้ว” พี่ฝันแซวเอิง “เอิงดูแลตัวเองได้ค่ะ พี่ฝันแหละ เมื่อไหร่จะมีแฟนสักทีค่ะ” “พี่ต้องดูแลแม่ ไม่มีใครอยากมาชอบพอคบหาพี่หรอก” เธอยิ้มเศร้า คิดถึงอดีตคนรักที่เลิกกันไป ตัวเธอเองใช่ว่าหน้าตาขี้เหร่ จัดว่าเป็นสาวงามคนหนึ่ง เธอเคยมีแฟนที่รักกันมากคนหนึ่ง แต่พอแม่เธอล้มป่วย ทำให้ไม่มีเวลาให้เขา แถมบางครั้งยังต้องพึ่งพาเรื่องเงินเขาด้วย ทำให้เธอกับเขาทะเลาะกัน และเลิกกันไปในที่สุด เธอเสียใจมาก เพราะเธอรักเขาสุดใจ มีเขาเป็นรักแรกและรักเดียวมาตลอด วาดฝันภาพครอบครัวด้วยกัน แล้วทุกอย่างต้องมาพังทลายลง หลังจากนั้นเธอก็ไม่อยากรักใครอีก ไม่สนใจใครที่เข้ามาจีบเธอ เพราะเธอรู้ดีว่าเธอไม่มีเวลาให้ใคร เธอต้องทำงาน และดูแลแม่ที่ป่วยด้วย “ว่าแต่เอิง เมื่อไหร่จะมีแฟน” “พี่รีบไปเอาเสื้อเถอะค่ะ เดี๋ยวมืดกลับลำบากนะ” เธอไม่รู้จะตอบยังไง จึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาดีกว่า “จริงด้วย งั้นพี่รีบไปรีบกลับนะ เดี๋ยวพี่เอาเสื้อผ้าเอิงมาให้” “ขอบคุณค่ะ” หลังจากพี่ฝันกลับบ้านไป เธอหยิบสัญญาคู่หมั้นกำมะลอขึ้นมาดู ทำให้เริ่มนึกถึงคนหน้ายักษ์ ถ้าพี่ฝันรู้ว่าเธอมีคู่หมั้นแล้ว จะตกใจขนาดไหนกันนะ แล้วถ้ารู้เรื่องสัญญาคู่หมั้นฉบับนี้ ไม่รู้จะโวยวายเธอแค่ไหน แค่คิดก็รีบเอาสัญญายัดลงกระเป๋าเธอทันที เรื่องนี้จะต้องเป็นความลับตลอดไป วันรุ่งขึ้น ป้าของเธอก็รู้สึกตัว เธอกับพี่ฝันดีใจมาก ตอนป้าเห็นเอิงเอยมาเยี่ยมก็ยิ้มให้ พยายามจับมือเอิงด้วยความคิดถึง “ป้าหิวน้ำไหมคะ” เอิงถาม ป้าพยักหน้า เธอรีบเอาหลอดใส่ปากป้า ป้าดูดเข้าไปได้นิดหนึ่งก็สำลักน้ำ ฝันรีบเอาทิชชู่ซับน้ำที่หกทันที “แม่ค่อยๆ ดูดนะคะ” “คุณป้าคงหิวน้ำมาก” เธอรู้สึกสงสารป้าจังเลย ป้าคงทรมานมากๆ เลย “เดี๋ยวเอิงต้องกลับแล้ว พี่ฝันดูแลป้าคนเดียวได้ไหม” เธอห่วงทั้งป้าและพี่ฝัน พี่สาวที่อ่อนโยนของเธอ “เอิงไม่ต้องเป็นห่วงนะ พี่ดูแลแม่เอิง เอิงต้องตั้งใจทำงานอย่าให้เจ้านายว่าเอาได้นะ” พาฝันเธอรู้สึกขอบคุณเจ้านายของเอิงมาก เพราะถ้าไม่มีเขาแม่ของเธอจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ “ค่ะ พี่ฝัน เอิงจะโทรหาบ่อยๆ นะ” ”ป้าคะ ป้ารีบหายไวๆ นะคะ เอิงกลับไปทำงานก่อน แล้วเอิงจะมาเยี่ยมใหม่นะคะ” เธอก้มลงกอดป้าที่นอนอยู่บนเตียง “เดอะ เดิน ทาง ปะ ปลอด นะลูก” ป้าค่อยๆพูดออกมา แม้จะไม่ค่อยเป็นคำ แต่เอิงก็ฟังเข้าใจ “ขอบคุณค่ะ” เธอไหว้ลาป้าและพี่พาฝัน “ถึงแล้ว ทักบอกพี่ด้วยนะ” ”ค่ะ” เธอจองตั๋วเครื่องบินไว้แล้ว วันแรกของการทำงานเธอไม่อยากไปทำงานสาย -ณ สนามบินดอนเมือง- “ถึงแล้ว ไปหาเสื้อชุดงานสักหน่อยดีกว่า” -ณ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง- เธอตรงเข้าไปเลือกเสื้อผ้าชุดทำงานสัก 2-3 ชุด เอาไว้ใส่ทำงาน เธอเข้าไปดูโซนเสื้อผ้าเลือกเสื้อมา 2 ตัว กระโปรง 3 ตัว ราคาหลักร้อย เธอเป็นคนไม่เรื่องมากเรื่องเสื้อผ้า แต่เธอจะเน้นแต่งตามกาลเทศะมากกว่า ได้ชุดทำงานแล้ว เธอเดินไปซื้อของกินเข้าห้องนิดหน่อย แล้วเดินไปรอรถบัส เพื่อกลับคอนโด ระหว่างยืนรอเธอพบเด็กน้อยน่าสงสารคนหนึ่งกำลังนั่งขอทานอยู่ เธอจึงหยิบกระเป๋าเงินออกมา เพื่อจะยื่นเงินให้เด็กน้อยไปซื้อข้าว แม้เธอจะมีไม่มาก แต่เธอเข้าใจดีว่าความหิวมันทรมานแค่ไหน เธอเคยผ่านมาก่อน แต่ตอนเธอกำลังยื่นเงินให้เด็กน้อย จู่ๆ ก็มีคนมาฉกกระเป๋าเงินของเธอไป ในนั้นมีเงินอยู่หลายพัน เพราะเธอจะเอาไปจ่ายค่าส่วนกลางและเงินที่เธอจะเอาไว้ใช้จ่ายตลอดทั้งอาทิตย์ “โจรๆ นั่นโจร” เธอตะโกน พร้อมวิ่งตามโจรไป แต่ด้วยของพะรุงพะรังที่เธอเพิ่งซื้อมา แม้เธอจะใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น รองเท้าผ้าใบก็เถอะ มันก็ทำให้เธอวิ่งตามลำบาก จะให้เธอทิ้งของเธอก็เสียดาย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD