EP#9"กฎข้อใหม่ของบริษัท"

1670 Words
-ตอนพักเที่ยง- “เอิง ไปกินข้าวกันเถอะ นี่เที่ยงแล้ว” ธันวาเอ่ยชวนหญิงสาว “พี่ธันไปทานก่อนเลยค่ะ เอิงขอทำอีกนิด” “ไปเถอะ กินก่อนได้มีแรงมาทำต่อ” ธันวาคะยั้นคะยอเอิงเอย “ก็ได้ค่ะ” เธอกดบันทึกงานที่ทำไว้ “เดี๋ยวพี่พาไปทานข้างนอกดีไหม” ธันวาอยากหาเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง “เอ่อ ที่บริษัท มีโรงอาหารไหมคะ” เธอไม่อยากออกไปข้างนอกกับผู้ชายสองต่อสอง “มีครับ เดี๋ยวพี่พาไปนะ” แม้จะเสียดาย แต่ก็ไม่อยากเซ้าซี้เธอเกินไป เขาค่อยหาโอกาสใหม่ก็ได้ “ค่ะ” - ณ โรงอาหารของบริษัท - “ที่นี่มีร้านเยอะดีจังเลยนะคะ” เธอมองไปรอบๆ “ใช่ครับ มีให้เลือกเยอะเลย เอิงอยากทานอะไรครับ” “เอิงขอเดินดูก่อนนะคะ” “ได้สิ” ธันวาคอยเดินตามเธอเลือกซื้ออาหาร จู่ๆ ก็มีสายตาใครบางคนจับจ้องการกระทำของทั้งคู่อยู่ เขากำลังรีบไปตรวจดูวัตถุดิบที่เพิ่งมาส่ง “นั่น คุณเอิงเอย นี่ครับ” เอกรัตน์พูดขึ้น เมื่อมองตามสายตาของเจ้านายไป ชายหนุ่มมองทั้งคู่ด้วยความไม่พอใจ นี่เธอลืมไปแล้วเหรอว่า เธอเป็นว่าที่คู่หมั้นของเขา มาวันแรกก็อ่อยให้ผู้ชายมาเดินตามต้อยๆ ซะแล้ว น่าโมโหจริงๆ “แล้วนั่นใคร กล้าดียังไง มาทำตัวสนิทสนมกับคุณเอิงเอย” เอกรัตน์พูดด้วยความไม่พอใจ ชายหนุ่มมองเลขาคนสนิทที่แสดงออกว่าไม่พอใจยิ่งกว่าเขาซะอีก “เอ่อ คือผมกำลังพูดแทนเจ้านายไงครับ” เอกรัตน์รีบแก้ตัว นายรู้ได้ยังไง ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ “ให้ผมจัดการเลยมั้ยครับ” เอกรัตน์เตรียมจะเดินเข้าไปหาทั้งคู่ “ไม่ต้อง” ปราณห้ามไว้ อยากทำอะไรก็ทำไป แต่อย่ามาวุ่นวายถึงเขาก็แล้วกัน เขาที่กำลังจะเดินจากไปแล้ว แต่เหลือบมาเห็นฉากบาดตานี้ซะก่อน “อุ้ย ขอโทษค่ะ” เอิงเอยถอยหลังมาชนธันวา ธันวาจึงประคองเอิงไว้ในอ้อมกอด เอิงรีบทรงตัวยืนขึ้น แต่ธันวายังจับแขนเธอไว้ไม่ปล่อย “ผมจัดการเองครับเจ้านาย” เอกรัตน์ทนดูภาพตรงหน้าไม่ไหว รีบไปจัดการแทนเจ้านายทันที ปราณนต์เองก็ไม่ห้าม เพราะเขาก็ไม่ชอบใจเหตุการณ์นี้เหมือนกัน “สวัสดีครับ คุณเอิงเอย” เอกรัตน์กล่าวทักทาย ธันวารีบปล่อยแขนหญิงสาวทันที “สวัสดีค่ะ คุณเอกรัตน์” เธอกล่าวทักทายตอบ “มาทำงานวันแรก เป็นยังไงบ้างครับ” “ดีค่ะ แล้วคุณเอกรัตน์มาทานข้าวที่นี่เหมือนกันเหรอคะ” ธันวาฟังการสนทนาที่ดูสนิทสนมของทั้งคู่ ยิ่งรู้สึกแปลกใจ เพราะอีกฝั่งเป็นถึงเลขาคนสนิทของท่านประธานบริษัท เอกรัตน์หันไปมองธันวา “ผมกำลังพาท่านประธานไปดูวัตถุดิบที่เพิ่งเข้ามาส่งครับ” เอกรัตน์ตอบพร้อมมองไปทางเจ้านายที่ยืนจ้องมาทางนี้เช่นกัน เธอเห็นสายตาชายหนุ่มกำลังจ้องมา เธอแอสะดุ้งเล็กน้อย แม้เขาจะอยู่ห่างเธอพอสมควร แต่สายตาที่มองมานั้นก็ทำให้เธอขนลุกได้ “คุณเอกรัตน์ รีบพาท่านประธานไปดีกว่าค่ะ ให้ท่านประธานรอนาน ท่านจะไม่พอใจเอานะคะ” เธอรีบบอก “นายชื่ออะไร ทำงานอยู่แผนกไหน” เขาไม่ตอบเอิง แต่ถามชายหนุ่มตรงหน้าแทน “ผมชื่อธันวา อยู่ฝ่ายการตลาดครับ” ธันวารีบตอบ “ที่นี่บริษัท นายไม่ควรตามติดผู้หญิงแบบนี้นะ” เอกรัตน์เอ่ยเสียงเข้ม เขาต้องจัดการแทนเจ้านาย “อ่อ ครับ” ธันวาตอบรับแบบงงๆ “ผมหวังว่า คงไม่มีเหตุการณ์แบบเมื่อกี้เกิดขึ้นในบริษัทอีกนะครับ คุณควรตั้งใจทำงาน ก่อนจะไม่มีงานให้ทำนะ” เอกรัตน์ขู่ พูดจบเอกรัตน์เดินจากไปทันที ปราณนต์ที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ เห็นเอกรัตน์เดินกลับมา เขาก็เดินออกไปทันที ปราณนต์กำลังครุ่นคิดว่าที่เอกรัตน์ทำ ตั้งใจทำเพื่อเอาใจเขา หรือทำตามใจตัวเองกันแน่ เอกรัตน์ที่เห็นเจ้านายเดินไปแล้ว ก็รีบวิ่งตามทันที “พรุ่งนี้ นายติดประกาศกฎบริษัทเพิ่ม 1 ข้อ ห้ามพนักงานจีบกันในที่ทำงาน ใครฝ่าฝืน ไล่ออกสถานเดียว!” “ห๊ะ” เอกรัตน์อุทาน ปราณนต์ชำเลืองมองเลขา “ครับๆๆ ได้ครับท่าน” นี่ถึงขั้นนี้เลยหรอ เจ้านายคิดอะไรอยู่กันแน่ หรือว่า.....เอกรัตน์ยิ้มมุมปาก “เดี๋ยวดูของเสร็จ โทรตามเอิงให้มาพบผมที่ห้องด้วย” เขาต้องการสั่งสอนเธอสักหน่อย อะไรกันมาทำงานวันแรกก็หว่านเสน่ห์ไปทั่ว แบบนี้ใช้ได้ที่ไหน “ครับ ท่าน” เอกรัตน์รับทราบ หลังจากเอิงเอยได้รับโทรศัพท์จากเอกรัตน์ ก็รีบไปพบปราณนต์ทันที แต่เมื่อถึงประตูห้อง เธอกับไม่กล้าเปิด เธอยืนทำใจอยู่หน้าประตูห้องทำงานของเขา เพราะเธอรู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตที่กำลังแผ่ออกมา “เป็นไงเป็นกัน” ก๊อกๆ “ขออนุญาตค่ะ” เธอเคาะประตูก่อนเปิดเข้ามา เธอเห็นชายหนุ่มกำลังจ้องมาทางเธอ เธอรู้สึกเย็นวาบขึ้นมาทันที “คุณปราณ เรียกเอิงหรือคะ” “ทำไม ผมเรียกคุณไม่ได้เหรอ” ผู้หญิงอะไรนอกจากจะเห็นแก่เงินแล้ว เกิดมาหน้าตาพอดูได้ ยังหว่านเสน่ห์ไปทั่วอีก เขานึกบ่นในใจ “เรียกได้ค่ะ แล้วคุณปราณมีธุระอะไรจะสั่งเอิงคะ” เธออยากรีบออกไปจากห้องนี้แล้ว คนอะไร นั่งหน้าตูมเป็นหมาหน้าย่นเลย ชายหนุ่มสะดุ้งกับคำถามที่เธอถามเขา แต่พยายามเก็บอาการ เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าที่เรียกเธอมามีธุระอะไร เขากำลังทำอะไรอยู่ ทำไมไม่เหมือนตัวเขาเลย ปกติเขาไม่เคยสนใจอะไรนอกจากงาน กับตามหาความจริงเรื่องป๊า ทำไมเขาต้องมาสนใจยัยนี่ด้วย หน้าตาก็งั้นๆ เขาเริ่มสับสนกับความรู้สึกตอนนี้ “นั่งก่อนสิ” เขาพูดถ่วงเวลา เพื่อหาเหตุผลที่เรียกเธอมา “ค่ะ” เธอนั่งลง “ผมหวังว่าคุณ จะไม่มีแฟน ระหว่างที่อยู่ในสัญญานะ” เขาพูดอะไรออกไป เขาอยากจะกัดลิ้นตัวเองจริงๆ ไอ้ปราณนต์เอ้ย ตั้งสติหน่อย!! “เพราะอะไรคะ” เธอสงสัย “ผมกลัวจะเข้าหูคุณการุณ” เขาใช้คุณการุณมาเป็นข้ออ้าง หวังว่าเธอจะเชื่อนะ “อ่อค่ะ ได้ค่ะ” เธอรับปากเขา เธอไม่ได้ติดขัดอะไรอยู่แล้ว เพราะเธอเองก็ยังไม่พร้อมที่จะมี เธอยังมีเรื่องต้องจัดการ “ทำไมคุณตกลงง่ายจริง” ปราณสงสัย “เอิงเองก็ยังไม่คิดเรื่องนี้อยู่แล้วค่ะ” เธอตอบตามตรง “แล้วผู้ชายเมื่อตอนกลางวันล่ะ” เขาอยากรู้ความคิดเธอ “พี่ธันวาเหรอคะ พี่เขาแค่มาช่วยสอนงานเอิงเฉยๆ ค่ะ” “งั้นก็ดี” เขารู้สึกโล่งอก “ค่ะ คุณปราณนต์มีธุระอื่นอีกไหมคะ เอิงมีงานต้องทำต่อค่ะ” “เชิญ” อะไรกันมาวันแรก ก็ทำเป็นงานยุ่งซะแล้ว จะหาข้ออ้างรีบไปเจอไอ้หน้าจืดนั่นหละสิ หลังจากเอิงเอยเดินออกจากห้องไป เขาเอามือกุมหัวตัวเอง วันนี้เขาเป็นอะไร ทำไมคุมอารมณ์ไม่ได้เลย ยัยนี่ต้องทำอะไรกับเขาแน่ๆ “วันนี้ เขาเป็นอะไรนะ” เอิงเอยเริ่มสงสัย “รีบกลับไปทำงานต่อดีกว่า” เอิงเอยบ่นคนเดียว “มีอะไรหรือเปล่าเอิง” ธันวาเอ่ยถาม “เปล่าคะ” “พี่ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม” “อะไรคะ” “เอิงสนิทกับท่านประธานเหรอ” ตอนที่เธอออกไปพบท่านประธาน ธันวาได้ยินคนซุบซิบกัน ว่าเอิงแอบแซ่บกับท่านประธานอยู่ แต่ธันวาอยากได้คำตอบจากปากเธอเองดีกว่า ไม่อยากเชื่อคนอื่น “เอิงไม่สนิทหรอกค่ะ” เธอไม่ได้โกหก เพราะไม่สนิทกันจริงๆ แต่ถ้าพี่ธันวาถามว่าเป็นอะไรกัน เธอคงตอบไม่ถูกแน่ๆ “ครับ” เขารู้สึกดีใจ เขายังมีความหวัง เพราะถ้าเธอเป็นคนของท่านประธานจริงๆ เขาจะเอาอะไรไปสู้ “เอิงขอตัวทำงานต่อก่อนนะคะ” เธอหันไปตั้งใจทำงานต่อ แต่ทางด้านปราณนต์ กลับไม่มีสมาธิจะทำงานต่อเลย เขาว้าวุ่นในใจ “คงกำลังหว่านเสน่ห์ ให้ไอ้หน้าจืดนั่นอยู่สิ ถึงได้รีบหาเรื่องกลับไป” เขาบ่น แล้วเรียกเอกรัตน์เข้ามาหา “ครับ ท่านประธาน” “กฎใหม่ ประกาศเดี๋ยวนี้เลย ไม่ต้องรอพรุ่งนี้แล้ว” “ห๊ะ ได้ครับ” เอกรัตน์ตกใจ แล้วเผลอยิ้มออกมา “นายยิ้มอะไร” เขายิ่งหงุดหงิดอยู่ ยังจะมายืนยิ้มอยู่ได้ “เปล่าครับ” เอกรัตน์รีบเดินออกมาไม่ตอบคำถาม ขืนเขาพูดอะไรไม่เข้าหู มีหวังโดนไล่ออกแน่ๆ เอกรัตน์รีบส่งประกาศกฎใหม่ไปยังทุกแผนก ทุกคนฮือฮากับกฎใหม่ รวมทั้งอาเดชที่ทราบเรื่องกฎใหม่ “นี่มันกฎอะไรกัน ห้ามจีบกันในที่ทำงานนี่นะ” อาเดชโทรถามปราณนต์ “ถ้าพนักงานมัวแต่จีบกัน งานก็ไม่เดินไม่เสร็จสักที” เขาอ้างไปส่งเดช “หลานใจแคบไปหรือเปล่า” อาเดชพยายามคัดค้าน “ผมตัดสินใจแล้วครับ” เขาจะไม่ยอมให้เหตุการณ์แบบตอนกลางวันเกิดขึ้นอีก เขาต้องตัดไฟแต่ต้นลม “ตามใจหลานแล้วกัน” อาเดชพูดอย่างอ่อนใจ ด้านพนักงานต่างซุบซิบพูดถึงกฎข้อใหม่ที่เพิ่งประกาศ ต่างเดากันไปต่างๆ นานา ถึงที่มาของกฎใหม่ แต่ไม่มีใครรู้จริงสักคนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD