หลังจากที่ศจีออกไปดนย์จึงหันมาสั่งการกับสินค้าอย่างเธอ
"นั่งรอฉันบนโซฟาก่อนนะ ขอเคลียร์งานก่อน แล้วเราค่อยไปที่คอนโดฯ ของฉันกัน
"มนสิชาไปนั่งบนโซฟาตามคำสั่งเขา เมื่อนั่งอยู่คนเดียวเงียบๆ ทำให้หญิงสาวคิดถึงสิ่งที่ตัวจะต้องเจอในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ ความสาวที่เธอเฝ้าทะนุถนอมมาเกือบๆ ยี่สิบปี แต่ตอนนี้เธอกลับต้องเอามันมาแลกกับเงินห้าแสน ช่างบัดซบสิ้นดี เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง งานของดนย์ก็เสร็จ แต่นั่นหมายถึงว่างานของเธอกำลังจะเริ่ม
"ไปกันเลยนะ ฉันเคลียร์งานเสร็จแล้ว"
ดนย์กล่าวแค่นั้นก็เดินนำออกไป มนสิชาจึงลุกขึ้นและเดินตามอยู่ห่างๆ
ประตูหน้าห้องของคอนโดมิเนียมชั้นสิบเจ็ดถูกเปิดออก มนสิชามองเข้าไปภายในห้องที่ตกแต่งไว้อย่างเรียบแต่หรูตามสไตล์ของคนเป็นเจ้าของ ดนย์เดินนำเข้าไปในห้อง
"เข้ามาก่อนสิ "
หญิงสาวก้าวตามเขาเข้ามา ไม่พูดไม่จา ยามนี้เธอทำตามราวกับว่าหุ่นยนต์ที่ใครสั่งอะไรก็ทำตาม
มนสิชานั่งบนโซฟาหนังสีน้ำตาล ตรงหน้าของเธอมีทีวีและโฮมเธียเตอร์ครบชุด เหนือขึ้นไปเป็นรูปของผู้หญิงกับผู้ชายวัยกลางคนและดนย์ ซึ่งน่าจะถ่ายไว้นานแล้ว ดูจากใบหน้าของผู้ชายวัยกลางคนที่ดนย์ถอดแบบรูปหน้าและจมูกมาเป๊ะขนาดนี้ คงจะพ่อของเขา ส่วนผู้หญิงอีกคนที่มีดวงตาอบอุ่นและท่าทางผู้ดี้ผู้ดีคงจะเป็นแม่กระมัง ก่อนที่เธอจะได้มองสำรวจมุมอื่นๆ ของห้อง แก้วก้านยาวที่มีไวน์แดงบรรจุอยู่สองในสามของขนาดแก้วก็ถูกยื่นมาตรงหน้าของหญิงสาว
“รับไปสิ” ดนย์ส่งแก้วไวน์ให้มนสิชา ก่อนจะยกแก้วที่อยู่ในมือของตนขึ้นมาดื่ม
มนสิชาลองจิบดูเล็กน้อยก็พบว่ารสชาติของมันละมุนลิ้นและได้กลิ่นคล้ายกลิ่นของดอกกุหลาบจางๆ
“มานั่งตรงนี้ แล้วช่วยปลดกระดุมให้ฉันหน่อย” มือดนย์ตบเบาๆ ลงบนโซฟาอีกตัวที่เขานั่งอยู่
มนสิชาถึงกับสะดุ้งเมื่อดนย์สั่งเธอเช่นนั้น เจ้าหล่อนเงยหน้า ขึ้นมองเขา เมื่อเห็นสายตาวาววับที่ชายหนุ่มส่งมาให้ ถึงแม้จะเตรียมตัวเตรียมใจกับเรื่องนี้มาบ้าง แต่ก็ยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่ไม่ น้อย อย่างไรเสียเมื่อรับค่าจ้างมาแล้ว เขาสั่งอะไรเธอก็ต้องทำ ร่าง บางค่อยๆ ขยับเข้าไปนั่งข้างๆ และลงมือปลดกระดุมเสื้อให้ดนย์ ตามคำสั่ง
มือของมนสิชาสั่นเพราะความกลัวจนดนย์เองรู้สึกได้ ชายหนุ่มที่ลอบสังเกตอาการของมนสิชา กลับคิดไปอีกแบบ..
ช่างเล่นละครเป็นเด็กสาววัยใสเนียนจริงๆ
มือน้อยที่กำลังจะปลดกระดุมเม็ดที่สามหยุดชะงัก เพราะถูกชายหนุ่มรวบร่างบางของเธอให้มานั่งบนตัก ริมฝีปากหยักได้รูปของเขาประกบลงบนเรียวอวบอิ่มของเธอ มันทั้งร้อนแรงและอ่อนนุ่มในเวลาเดียวกัน
ดนย์จุมพิตหลอกล่อและเริ่มรุกล้ำโดยการขบเม้มริมฝีปากเพื่อให้หญิงสาวเปิดทางให้เขาเข้าไปสำรวจโถน้ำผึ้งอันหอมหวานของเธอ มือหนาช้อนศีรษะทุยได้รูปของมนสิชาไว้เพื่อให้รับจุมพิตของเขาได้ถนัดถนี่ เมื่อได้ครอบครองจูบของเธอจนพอใจแล้ว เขาจึงปล่อยให้ริมฝีปากแสนหวานของหญิงสาวได้เป็นอิสระ
ดวงตาคมสบประสานกับดวงตากลมโตที่ดูสวยหวานดั่งตาของลูกกวาง ดนย์ที่เผลอมองรู้สึกเหมือนดั่งตัวเองต้องมนต์สะกด แรงปรารถนาในรสกายของหญิงสาวทำให้เขาคลั่งจนแทบจะทนไม่ไหว กระนั้นก็พยายามให้ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะจากจูบเมื่อกี้แล้วเขาไม่แน่ใจว่าเรื่องแบบนี้ยังใหม่สำหรับหญิงสาวหรือเปล่า
ดนย์ช้อนร่างบางขึ้นจากโซฟาก่อนจะพาไปที่เตียง เขาวางมนสิชาลงอย่างทะนุถนอม เวลานี้ดวงตาของชายหนุ่มฉายแววปรารถนาออกมาอย่างชัดเจน ริมฝีปากร้อนฉ่าประกบลงบนเรียวปากอวบอิ่มอีกครั้ง จุมพิตร้อนแรงสลับกับอ่อนหวานในบางท่วงทำนองทำให้มนสิชาที่ไม่ประสีประสาเรื่องแบบนี้ถึงกับควบคุมสติตัวเองไม่อยู่ เสียงหวานครางออกมาตามอารมณ์ที่เกิดขึ้นกับร่างกาย
“อือ...”
ดนย์ซึ่งเจนจัดในเรื่องแบบนี้ เขารู้ดีว่าตอนนี้หญิงสาวเริ่มร้อนรุ่มด้วยไฟปรารถนาแล้ว “ร้อนเหรอคนดี” เสียงแหบพร่าของชายหนุ่มกระซิบที่ข้างหู เสื้อเชิ้ตกระดุมหน้าของหญิงสาวถูกดนย์ดึงจนสาบเสื้อหลุด เผยให้เห็นนวลเนื้อขาวผ่องและเนินอกอวบอิ่มที่ล้นออกมานอกบราเซียสีชมพูตัวจิ๋ว
มนสิชาที่ตอนนี้สติของเธอเริ่มกลับมา จึงยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกหน้าใจของตนเองไว้ตามสัญชาตญาณ แววตาของหญิงสาวตื่นตระหนก เหมือนดั่งกวางน้อยตื่นไพร ดนย์ที่เห็นเช่นนั้นจึงเริ่มแน่ใจแล้วว่าเจ้าหล่อนยังใหม่สำหรับเรื่องนี้จริงๆ เขายกมือปัดปอยผมที่ปกใบหน้านวลและจุมพิตที่หน้าผากของหญิงสาวเพื่อเป็นการปลอบขวัญแม่กวางน้อย
“ฉันจะพยายามทำเบาๆ ไม่ต้องกลัว” เขากระซิบบอกมนสิชา