บทที่ 3 ชะตากรรมอันพลิกผัน

1106 Words
คนถูกเรียกวิ่งหนีไม่คิดชีวิต ไม่คิดเลยจะมาตกระกำลำบากมากมายขนาดนี้ แค่วันแรกที่เดินทางมาถึงก็เจอกับเรื่องเลวร้ายเสียแล้ว ผลั่ก! “โอ้ย!” เธอชนเข้ากับใครคนหนึ่งจนล้มลงก้นจ้ำเบ้ากับพื้น ไซน์รีบพยุงกายขึ้นมา จ้องมองไปยังหนุ่มร่างเล็กที่ล้มอยู่ตรงหน้า เอลี่คลำก้นตนเองแล้วลุกยืนอย่างรวดเร็ว หันมองคนตามแต่กลับเห็นหมอนั่นรออยู่ไม่เดินเข้ามาหา “เดินภาษาอะไรไม่ทราบคุณ!”เขาดุ เอลี่ไม่ตอบ ความกลัวทำให้เธอระแวง ไซน์ลอบพิจารณาใบหน้าของหนุ่มน้อย เหตุใดจึงมีความละม้ายคล้ายกับหญิงสาวในห้วงคำนึง คนสวยกัดริมฝีปากแน่น ต้องหาทางหนีให้ได้ก่อน คำถามของคนถูกชนไม่ได้เข้าหูเลยสักนิด เพราะเธอกังวลเรื่องอื่นมากกว่า “นี่คุณชนแล้วจะไม่ขอโทษสักคำหรือไง!” ปัง! เสียงปืนดังขึ้น ไซน์กระจากร่างเล็กให้หมอบ เสียงผู้คนกรีดร้องแตกตื่นกัน บอดี้การ์ดของไซน์ชักปืนออกมาเพื่อคุ้มครองเจ้านาย “ไอ้บ้าเอ้ย!” ไซน์สบถอย่างหัวเสีย รั้งให้หนุ่มน้อยแปลกหน้าเดินตาม เอลี่วิ่งตามเขาอย่างไม่คิดชีวิต จนกระทั่งถึงรถยนต์ส่วนตัว สองคนยืนหอบหายใจหนัก บอดี้การ์ดคอยระแวดระวังไม่ห่าง ไซน์หงุดหงิดเพราะปกติไม่เคยมีใครกล้าทำแบบนี้มาก่อน อาจหาญหาเรื่องตระกูลอัลเล็นโซ่ ร่างบางถูกดันเข้าในรถอย่างทุลักทุเล เอลี่อกสั่นขวัญแขวนกัดริมฝีปากกลั้นน้ำตาอย่างสุดกำลัง ต้องเข้มแข็งทำตามคำสั่งพ่อให้สำเร็จ เหตุการณ์เมื่อครู่บ่งบอกถึงสถานการณ์ทางบ้านได้อย่างดีทีเดียว หันมองคนช่วยชีวิตคิดกล่าวขอบคุณ แต่ทว่าใบหน้าเขากลับเด่นชัดในสายตา ยกนิ้วชี้สีหน้าตื่นตระหนกตกใจราวกับเจอผี  “คะ...คุณ!” เธอร้องลั่นออกมาเป็นภาษาไทย ไซน์ขมวดคิ้วจ้องมองด้วยความไม่เข้าใจ ดูเหมือนหนุ่มคนนี้พูดอะไรบางอย่างซึ่งตนไม่เข้าใจ  “มีอะไรหรือเปล่า?”เขาถาม “เปล่าครับ” เธอรีบตอบเป็นภาษาอังกฤษเพราะรู้ว่าเขาเข้าใจ ไอ้หมอนี่! ให้ตายเถอะนรกชังหรือสวรรค์แกล้งกันแน่ มาเจอกับเขาอีกจนได้ โอ้ย! เธออยากจะบ้าตาย เมืองไทย จำได้ดีว่าเขาทำอะไรไว้ “แล้วคุณจะไปไหน?” เขาหันมาถามอีกครั้ง “เอ่อ...” หญิงสาวอ้ำอึ้ง “ว่าไงครับ” “คุณพอจะรู้จักบริษัทอัลเล็นโซ่เอ็นเตอร์ไพรส์ไหม ผมอยากจะไปหาผู้ชายที่ชื่อซาฟ” เอลี่ตอบเสียงแผ่ว ไซน์ขมวดคิ้วเข้าหากันสภาพแบบนี้เนี่ยนะจะไปหาพี่ชายของเขา เป็นไปไม่ได้หรือจะมาขายประกัน ท่าทางก็ไม่น่าจะใช่ หรือมาขายอย่างอื่น “นายขายตัวเหรอ?” ไซน์ถามตรงประเด็น “บ้าหรือไงใครขายตัว!” เธอตวาดแว๊ดออกมา เล่นเอาคนฟังถึงกับหันมามอง เพราะเสียงที่เปล่งมันหวานแปลกๆ “ถ้าอย่างนั้นจะไปหาเขาทำไม ผู้ชายที่ชื่อซาฟ” “ผมมีธุระกับเขา” “ธุระอะไร?” ไอ้หมอนี่เป็นตำรวจหรือไง สอบอยู่ได้ไม่รู้จะถามอะไรนักหนา ทำอย่างกับว่าตัวเองกับผู้ชายที่ชื่อซาฟมีส่วนเกี่ยวข้องกันอย่างนั้นแหละ “จะถามทำไมนักหนา ผมแค่ต้องการพบกับเขาเพราะมีธุระก็แค่นั้น!” “ถ้าไม่บอกผมก็ไม่ไปส่งคุณที่นั้นหรอกนะ ผมยิ่งยุ่งๆ อยู่” ไซน์แสร้งตัดบท “คุณรู้จักเหรอว่าเขาเป็นใคร บริษัทอยู่ที่ไหน!” หญิงสาวยิ้มกว้างสีหน้ายินดี “ใช่ผมรู้” “ถ้าอย่างนั้นคุณก็ช่วยพาผมไปส่งหน่อยเถอะ ผมขอร้องล่ะ!” “ไม่มีทาง จนกว่าจะยอมบอก ไปหาผู้ชายคนนั้นทำไม” ปกติพี่ซาฟไม่ใช่ให้ใครพบง่ายๆ หากไม่มีเรื่องสำคัญจริง แล้วหนุ่มหน้าตาหวานอย่างกับผู้หญิงแบบนี้นะเหรอ จะมีธุระกับพี่ชายมันเป็นไปไม่ได้ พักหลังศัตรูยิ่งจ้องเล่นงานอยู่ คงต้องระแวดระวังกันสักหน่อย เธอรู้สึกหงุดหงิดกับผู้ชายเรื่องมาก อยากมีเรื่องนักหรือไง ซักอย่างกับตำรวจ หยิบซองเอกสารสีน้ำตาลในเสื้อสูท เธอชั่งใจพักใหญ่ เมื่อบิดาไม่ให้ไว้ใจใครแล้วผู้ชายคนนี้เล่าควรไว้ใจได้หรือ ไซน์เหลือบมองท่าทางของหนุ่มน้อยด้วยความสงสัย เมื่อเห็นลวงเข้าไปในสาปเสื้อแล้วหยุด พร้อมกับเอามือออกมา แสดงว่าในนั้นต้องมีอะไร ตัวเล็กแค่นี้ไม่ครณามือเขาหรอก เขาปรายตามองเมื่อเห็นหนุ่มร่างเล็กเผลอจึงสบโอกาส กระโจนเข้าหากดตรึงร่างแนบกับเบาะรถ “จะทำอะไร ปล่อยนะ!” หญิงสาวร้องลั่น สีหน้าตกใจ “อะไรอยู่ในเสื้อ ขอดูหน่อยก็แล้วกัน!” ชายหนุ่มรีบเอื้อมมือหมายจะควานหาของบางอย่างในสาปเสื้อ ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างพยายามดิ้นรนอย่างสุดกำลัง “อย่านะ! ไอ้บ้าแกจะทำอะไร!” “อย่าดิ้นสิวะ” ล้วงเข้าไปข้างใน ใบหน้าเรียวสวยเลยแดงซ่านขึ้นมาทันที ในขณะที่เขาไม่ได้รู้สึกอะไรเพียงแต่ใจจดใจจ่อกับของในเสื้อเท่านั้น ซองเอกสารถูกดึงออกมาได้สำเร็จ เขาปล่อยหนุ่มร่างเล็กให้เป็นอิสระ ในขณะที่หญิงสาวพยายามกระโจนไปยื้อแย่งเอกสารออกมา ตุบ! ผงสีขาวห่อด้วยพลาสติกตกลงบนพื้น โซน์หรี่ตามองสีหน้าเคร่งขรึมลง หยิบห่อสีขาวมาไว้ในมือแล้วจ้องมองหนุ่มน้อยไม่วางตา “แกต้องการอะไร!” เขาตวาดถาม สีหน้าดุดัน “ผมไม่รู้เรื่องนะ ผมไม่รู้!” นี่มันยาเสพติด แบบนี้ผ่านเข้ามาได้ยังไง มันแปลกมากเกินไปแล้ว ไซน์กระชากคอเสื้อจนร่างบางถลาเข้าหาสีหน้าตื่นตระหนก “แกคิดว่าอัลเล็นโซ่จะยอมรับสิ่งที่แกคิดเหรอ พวกเราทำธุรกิจถูกกฎหมายเท่านั้น!” “เปล่านะครับ ผมไม่ได้คิดแบบที่คุณพูด!” เอลี่น้ำตาเริ่มคลอ หวาดกลัวชายที่อยู่ตรงหน้า นิคกี้รีบหยิบซองสีน้ำตาลที่มีเอกสารที่เหลือ กับเมมโมรี่การ์ด “คุณไซน์ผมว่าดูนี่ก่อนดีกว่านะครับ” ชายหนุ่มรีบรับเอกสารจากลูกน้องมาดู สีหน้าเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด เขาคงต้องพาหนุ่มแปลกหน้าคนนี้ไปพบพี่ชายเสียแล้ว ปล่อยร่างหนุ่มน้อยเป็นอิสระ “คุณชื่ออะไร” “ผมชื่อเอส” “ได้ตกลง ผมจะพาคุณไปพบกับซาฟ” ไซน์บอก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD