แม้ว่าเธอจะได้พบนักแสดงหน้าตาดีมามากมาย แต่ไม่เคยมีใครที่เพียบพร้อมทั้งรูปร่าง หน้าตา และบุคลิกเท่ากับบุตรชายแห่งตระกูลอัลเล็นโซ่เลย คงไม่แปลกหากพวกเขาจะเจ้าชู้ คนอื่นเธอไม่รู้ว่าเจ้าเล่ห์มากรักหรือเปล่า แต่สำหรับคุณชายคนที่สองเธอขอการันตีอย่างไม่ต้องสงสัย
เวลาผ่านไปร่วมชั่วโมงการประชุมก็สิ้นสุดลง ทุกคนยืนพูดคุยเรื่องส่วนตัวกัน และไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบกันต่อ
“พี่ซาฟ โมนาท้องกี่เดือนแล้วล่ะครับ”เซย์เอ่ยถาม
“สี่เดือนแล้วล่ะ”
“แกอิจฉาล่ะสิเซย์”ไซน์แกล้งหยอก
“พี่ก็เหมือนกันแหละพี่ไซน์ เมื่อไหร่จะแต่งงานเหมือนพี่ซาฟบ้าง”น้องคนสุดท้องย้อน
ไซน์ยิ้มร่าออกมา ในสมองครุ่นคิดหากเขาจะแต่งงานคงเป็นใครไปไม่ได้ แล้วภาพของสาวในฝันดันลอยออกมา
“ยังไม่ถึงเวลาสักหน่อยเซย์ พี่ยังไม่ถูกใจใครคงต้องรอไปก่อน”
“จริงเหรอพี่ไซน์ แต่หน้ากับคำพูดไม่ตรงกันเลยนะ”เซ็ทแสร้งเย้า
เขาพูดไม่ออกเมื่อเจอน้องชายคนที่สามพูดกระทบ รู้อยู่ว่าหมอนี่พูดตรงแต่โดนที่ไรก็ยังทำใจไม่ค่อยได้สักที
“วันนี้เลิกประชุมแค่นี้ก็แล้วกัน”
“ครับ”ทุกคนตอบรับพี่ชายคนโต
ทุกคนในห้องต่างแยกย้ายกันออกไป โดยที่ไซน์เป็นคนสุดท้ายที่กำลังจะออกจากห้อง เขาตรงไปหาเอสทันที
“เรากลับกับเถอะเอส”
“ครับ”เอสรับคำ
ซาฟเหลือบมองเอสด้วยสีหน้าครุ่นคิด ก่อนหันไปมองน้องชายราวกับว่าตนเองกำลังสงสัยอะไรบางอย่าง
“ไซน์!”ซาฟเรียกน้องชายไว้
“ครับพี่ซาฟ”
“พรุ่งนี้ไปประชุมที่มิลานแทนพี่หน่อย พาคุณเอสไปด้วยล่ะ”
“หา! อะไรนะพี่ซาฟ ผมไม่ไปหรอกมิลาน”
“อย่าบ่น มันเป็นงานของแก หรือแกจะเถียงว่าไม่ใช่”
“ก็ได้ครับเจ้านาย ผมพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งครับผม”เขาประชด
ไซน์หันมองเอสอีกครั้ง คงปล่อยให้อยู่คนเดียวไม่ได้ เพราะการะชุมที่มิลานคงใช้เวลาหลายวัน อีกทั้งยังต้องต้อนรับหุ้นส่วนรายใหญ่ของแต่ละประเทศอีก
“พรุ่งนี้คุณไปมิลานกับผมก็แล้วกันนะเอส” ไซน์ตัดบท
ดวงตาเรียวเบิกกว้างไม่ได้อยากไปด้วยสักหน่อย สิ่งที่ต้องการคือการส่งข่าวคราวถึงบิดามารดาและหาทางกลับเมืองไทยให้เร็วที่สุด แล้วทำไมเธอต้องติดสอยห้อยตามผู้ชายอย่างเขา
“ทำไมผมต้องไปด้วยล่ะครับ”เธอถามเขาสีหน้าสับสน
“ผมบอกแล้วยังไง ว่าผมต้องดูแลคุณ เพื่อความปลอดภัย คุณไปกับผมดีกว่า”ชายหนุ่มอธิบาย
เธอเถียงไม่ออก เขามีเหตุผล แต่กระนั้นก็ไม่อยากไปไหนมาไหนกับเขาอยู่ดี กลัวความลับจะแตก เขายิ่งถึงเนื้อถึงตัวเธอบ่อยมากขึ้น แม้จะพยายามทำตัวนิ่งขรึมแล้วก็ตาม ก็ยังไม่วายมากอดคอหยอกล้อเธออยู่บ่อยๆ
“ผมจำเป็นต้องไปด้วยเหรอครับ คุณจะลำบากเปล่า”เธอบอกเสียงอ่อย
“โอ้ย! เรื่องนั้นสบายมากผมจัดการเอง ที่พัก อาหาร ผมเตรียมให้คุณได้หมด ผมไม่ยอมให้พี่ชายของ...”เขาชะงักหยุดคำพูดไว้แค่นั้น ใบหน้าคมเริ่มแดงก่ำอย่างช่วยไม่ได้ เกือบแล้ว เกือบเผยความลับภายในหัวใจออกไป
“ว่าอะไรนะครับ?” เอลี่เลิ่กคิ้วสีหน้าสงสัย
“อ๋อ เปล่าครับ ผมแค่จะบอกว่า ไม่ต้องกังวล เรามีโรงแรมที่เป็นของตระกูลอัลเล็นโซ่อยู่ที่มิลาน เพราะฉะนั้นสบายใจได้คุณมีที่พักอาหารแน่นอน แล้วผมก็ไม่ต้องเดือดร้อนหาให้ด้วย”
ซาฟยืนฟังบทสนทนาพักใหญ่ สมองก็ครุ่นคิดถึงท่าทางปฏิกิริยาของบุตรชายหุ้นส่วนที่เมืองไทย แล้วลอบยิ้มออกมา น้องของเขามันเคยพิจารณาอะไรถี่ถ้วนบ้างหรือเปล่า หรือแค่ลากสาวๆ ขึ้นเตียงตามวิสัยแล้วปล่อยไป ไม่ได้สนใจ ยังไงเขาก็ยังอยากเห็นน้องชายตัวดีเสียรู้สักครั้ง สีหน้าตอนรู้ความจริงคงตลกพิลึก
“ไปเถอะครับคุณเอส ไซน์จะได้ดูแลความปลอดภัยให้คุณได้ ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าพวกนั้นจะลงมือทำอะไรบ้าง ทางผมเองก็ไม่สะดวกในการเข้าไปดูแลคุณ”ซาฟช่วยน้องชายอีกคน
“ก็ได้ครับ”เธอยอมรับเสียงอ่อย เพราะเห็นว่าซาฟเป็นคนขอร้อง
เอลี่ยืนมองโรงแรมหรูระดับห้าดาวในเครือตระกูลอัลเล็นโซ่ในมิลาน สถาปัตยกรรมแบบโกธิคยิ่งทำให้ดูสวยสง่าราวกับต้องมนต์ เพียงแค่ก้าวแรกที่เข้าไป เธอแหงนมองยังเพดานที่ประดับประดาไปด้วยโคมไฟระย้าส่องแสงแวววาว โถงทางเดินปูด้วยหินอ่อนสีขาวหม่น ฝาผนังเต็มไปด้วยภาพวาดศิลปะอันหมดจดงดงาม
ร่างสูงเดินนำไปยังเคาท์เตอร์ของโรงแรม ทุกคนทำความเคารพเขาก่อนเดินนำชายหนุ่มไปที่ห้องพักเฉพาะบุคคลในตระกูลเท่านั้นถึงจะได้พัก เพียงประตูเปิดออกเอลี่ถึงกับพูดไม่ออก เธอรีบสาวเท้าเข้าไปด้านในเดินชมความงดงามแต่ละห้องด้วยความสนใจ
“ชอบเหรอเอส?”เขาถามสีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เอลี่เพิ่งรู้สึกตัวรีบปรับสีหน้าตนเองให้เป็นปกติ พร้อมกับพยักหน้าช้าๆ
“ผมขอเรียกว่าเอสเฉยๆ ก็แล้วกัน เพราะยังไงต่อไปเราก็ต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน ผมอยากจะสนิทกับคุณไว้”
หญิงสาวมองด้วยความแปลกใจ เหตุใดถึงอยากสนิทสนม เป็นแค่เพียงหุ้นส่วนก็ดีอยู่แล้ว อีกอย่างเธอไม่อยากใกล้ชิดเขามากนัก เพราะไซน์เป็นตัวอันตราย
“ก็แล้วแต่ครับ ผมก็ไม่ว่าอะไรหรอก”เธอบอกตรงข้ามกับใจคิด
“เดี๋ยวคืนนี้เราพักผ่อนกันก่อน เพราะพรุ่งนี้ผมต้องไปประชุมแต่เช้า แล้วคุณก็ต้องไปด้วยเอส”
“ผมต้องไปด้วยเหรอครับ”เธอถามน้ำเสียงกังวล
“ก็ต้องไปนะสิ คุณเองก็ถือเป็นผู้บริหารเหมือนกัน”
“ก็ได้ครับ” ยอมรับปากอย่างช่วยไม่ได้
จบบทสนทนาเอลี่จ้องมองเขา ทำไมไซน์ยังอยู่ในห้องไม่ยอมไปไหนเสียที
“แล้วคุณไม่ไปห้องพักเหรอ?”
“ถามแปลกๆ เอส ผมก็พักห้องนี้กับคุณไงล่ะ” เสียงหัวเราะทำเอาคนฟังขนลุก