“แต่พูดไปพูดมา ลูกเรานั่นแหละเร่งเร้าจะจับจองหนูดอกแก้วเอาไว้ กลัวจะมีใครแย่งไป”
“ผมรอการะบุหนิงได้ กี่ปีก็รอได้ แต่ขอให้ผมมั่นใจหน่อย”
“บางทีผมก็ว่าหนูดอกแก้วอาจจะยังเด็ก ไม่เข้าใจว่าความรักระหว่างพี่ชายกับคนรักเป็นยังไง ให้หมั้นก็หมั้น รับรู้ว่าเป็นคู่หมั้น ถ้าโตขึ้นแล้วเกิดไปเจอผู้ชายคนอื่นแล้วรักจริงๆ ไม่ใช่แบบพี่ชายเหมือนคิดกับลูกเรา มันจะเป็นการมัดมือชกไปหรือเปล่า” เขมชาตินึกกังวลใจเรื่องนี้
“พอดอกแก้วโต ผมจะจีบเธอครับ ให้เธอรักผมคนแรก ผมจะเป็นผู้ชายคนแรกที่เธอรัก จะไม่ให้เธอสนใจผู้ชายคนไหนเด็ดขาด” เขมินทร์เองก็กังวลใจในเรื่องนี้เช่นกัน
“ต้องอย่างนี้สิลูกชายแม่”
“เข้ากันดีจริง ทั้งแม่ทั้งลูก” เขมชาติส่ายหน้าไปมา ขอให้อนาคตข้างหน้า บุตรชายของเขากับการะบุหนิงไม่มีอุปสรรคอันใดเถิด ถึงมีก็ขอให้ข้ามผ่านพ้นมันไปได้ด้วยดี
“ของขวัญวันวาเลนไทน์ครับคนดีของพี่” เขมินทร์ยื่นกล่องช็อกโกแลต ตุ๊กตาหมีและกุหลาบช่อโตให้คู่หมั้นสาว ปีนี้เธอย่างเข้าสู่วัยสิบแปดปีบริบูรณ์และสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนเขาก็เข้าช่วยบิดาบริหารงานในบริษัท เพราะท่านอยากให้เขาเรียนรู้งานก่อน แต่ตอนนี้เขาจะต้องไปเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศเพื่อให้มีวุฒิที่สูงขึ้น
อาจเป็นเพราะการะบุหนิงเติบโตเป็นสาวสะพรั่งและสวยหวานหยดไปทั้งเนื้อทั้งตัว การใกล้ชิดระหว่างเขากับเธอจึงดูมากเกินไป ถึงแม้จะเป็นคู่หมั้นกันก็ตาม แต่การะบุหนิงนั้นเป็นคนเรียบร้อยและรักนวลสงวนตัว เขาจึงไม่กล้าล่วงเกินเธอ ได้แต่มองด้วยสายตาหยาดเยิ้ม ซึ่งผู้ใหญ่เห็นเขาก็คงจะไม่สบายใจ กลัวเขาจะรวบหัวรวบหางการะบุหนิงทำเมียก่อนเธอจะเรียนจบในระดับปริญญาตรี
“ขอบคุณค่ะพี่เขม”
“ไปดูหนังกันไหมครับ”
“ค่ะพี่เขม”
“แต่เราไปกินข้าวกันก่อนนะ พี่หิวมากเลย เลิกงานก็รีบมารับเลย” เขมินทร์ลูบท้องไปมาอย่างน่ารัก การะบุหนิงยิ้มให้ ยอมให้เขาจูงมือเดินไปที่รถ อุ้งมือใหญ่ของเขมินทร์อบอุ่นเสมอ
เขาปกป้องเธอตั้งแต่เด็ก ในสายตาของเธอ เขาคือฮีโร่ เขาคือพระเอก และทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เธอมีความสุขนอกจากครอบครัวซึ่งประกอบด้วยบิดามารดา
“อยากทานอะไรครับ” เขมินทร์ขยับเข้ามาใกล้คู่หมั้นสาวแสนสวย เขาค่อยๆ คาดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ ใบหน้าของทั้งคู่อยู่ห่างกันแค่คืบ ลมหายใจเป่ารดกันถนัดถนี่ ชายหนุ่มค่อยๆ โน้มใบหน้าเข้าไปหา เขาหมายตาริมฝีปากสีกุหลาบเอาไว้
“อย่าค่ะพี่เขม มันไม่ดีนะคะ” เธอดันหน้าเขาออกห่าง ใบหน้าแดงระเรื่ออย่างขัดเขิน แม้จะใกล้ชิดกันเป็นประจำ แต่เขมินทร์ก็ไม่เคยลวนลามหรือมีท่าทีแบบนี้มาก่อน มันทำให้หัวใจของเธอเต้นกระหน่ำไม่เป็นจังหวะ
“พี่ขอโทษครับ แต่พี่อดใจไม่ไหว พี่รอดอกแก้วมาหลายปีแล้วนะครับ ยิ่งดอกแก้วโตขึ้น พี่ยิ่งห่วงยิ่งหวง เห็นผู้ชายคนอื่นมองดอกแก้วแล้วพี่แทบทนไม่ได้” เขมินทร์อยากจะแต่งงานกับการะบุหนิงตอนนี้ แล้วเขาก็ให้เธอเรียนต่อไปให้จบ แต่เขาอยากให้เธอเป็นเมียของเขาเพื่อไม่ให้ผู้ชายหน้าไหนกล้ามามอง มายุ่งกับผู้หญิงของเขาอีก
“ก็แค่มองเองนะคะ ดอกแก้วรักพี่เขมคนเดียว ไม่มองผู้ชายคนอื่นหรอกค่ะ” การะบุหนิงค่อยๆ ซบอกของเขา เงยหน้ามองอย่างน่ารัก
กิริยาออดอ้อนของเธอทำให้เขมินทร์หายใจหอบแรง เขาไล้ใบหน้าของเธอเอาไว้ ก่อนจะค่อยๆ ประทับจุมพิตลงไปอย่างเชื่องช้า คราวนี้การะบุหนิงหลับตา รับจุมพิตของเขาไม่หลบอีก
จุมพิตแรกในชีวิตสาวอุ่นร้อนแสนหวาน เขมินทร์บดคลึงเบาๆ เขาสอดลิ้นเข้ามาพัวพันเชยชิมน้ำหวาน ก่อนจะขม้ำจูบเธออย่างดูดดื่มหนักหน่วงเหมือนหิวกระหายแล้วได้พบน้ำทิพย์แสนหวาน
“ดอกแก้วของพี่ หวานเหลือเกิน หวานที่สุด” น้ำเสียงของเขมินทร์แหบพร่า เขากุมใบหน้าเนียนเอาไว้ ก่อนจะทาบหน้าผากกับหน้าผากของเธอ หลับตาสะกดกลั้นอารมณ์หวามในอกที่ปะทุขึ้น
เขมินทร์ดึงร่างน้อยไปนั่งที่เดิม รัดเข็มขัดให้อีกครั้ง ก่อนจะหันกลับมาสนใจกับการขับรถ การะบุหนิงไม่พูดอะไร เพราะเธอนึกอายกับสัมผัสของเขาจนใบหน้าแดงเรื่อ
เขมินทร์พาเธอมาทานอาหารร้านประจำ ซึ่งเป็นร้านของเขากับเธอ วันนี้เขาดูอารมณ์ดีกว่าทุกๆ วัน อาจเป็นเพราะเขาไม่มีปัญหาเรื่องงาน แต่ถึงมีปัญหาเรื่องงาน การะบุหนิงก็ไม่เคยเห็นเขาหงุดหงิดกับเธอ เขาจะไม่เคยเอาความยุ่งยากใจหรือภาระงานหรือเรื่องไม่สบายใจมาบ่นให้เธอฟังเลยสักครั้ง
“พี่โทรบอกคุณลุงกับคุณป้าแล้วนะครับว่ารับดอกแก้วไปดูหนังรอบดึก”
“ขอบคุณมากๆ ค่ะพี่เขม ดอกแก้วว่าจะโทรไปบอกที่บ้านอยู่พอดี พี่เขมรอบคอบเสมอเลยนะคะ”
“พี่สั่งอาหารเอาไว้แล้วนะครับ ของโปรดของดอกแก้วทั้งนั้น”
“ขอบคุณค่ะพี่เขม พี่เขมรู้ใจดอกแก้วจังเลยค่ะ จำได้เสมอว่าดอกแก้วชอบทานอะไร”
“ก็พี่ใส่ใจนี่ครับ” เขาจีบเธออีกแล้ว คำหวานที่หยอดมาแต่ละทีทำให้หัวใจของการะบุหนิงเต้นระรัว
“พี่เขมก็ทานเยอะๆ นะคะ” เธอตักอาหารให้เขาอย่างเอาใจ
“แค่เห็นหน้าดอกแก้ว พี่ก็อิ่มแล้วล่ะ”
“อะไรกันคะ ยังไม่ได้กินซะหน่อย” เธอเขินที่โดนเขาเกี้ยว
“ก็อิ่มอกอิ่มใจยังไงครับ อยากเห็นหน้าบ่อยๆ”
“ก็เห็นกันทุกวันนี่คะ” เธอยิ้มเขินให้เขา
“อยากเห็นตลอดเวลาเลยครับ”
“ไม่ดีหรอกค่ะ”
“ทำไมล่ะ”
“เห็นตลอดเดี๋ยวก็เบื่อค่ะ คนเราต้องอยู่ห่างกันบ้าง ขนาดเสายังต้องอยู่ห่างกันเลยค่ะ”
“โอเคครับ เป็นไงครับกับการเป็นนักศึกษาปีหนึ่ง”
“เหนื่อยมากค่ะพี่เขม แต่สนุกดี บางทีรุ่นพี่ก็โหด บางทีก็ใจดีค่ะ เวลาสอบมีช่วยกันติวบ้าง” เธอตอบแล้วอมยิ้ม แต่ส่วนใหญ่คนที่ช่วยเธอติวหนังสือจะเป็นเขมินทร์เสียมากกว่า เขามีเวลาให้เธอเสมอ เมื่อเธอมีปัญหาอะไร
“แต่ต้องขอบคุณพี่เขมนะคะ พี่เขมเป็นคนที่ติวหนังสือให้ดอกแก้วมากที่สุด และที่ดอกแก้วสอบติดมหาวิทยาลัยก็เพราะพี่เขมด้วยค่ะ”
“เพราะดอกแก้วตั้งใจและขยันต่างหากครับ” เขายิ้มให้เธอ
“ดอกแก้วมีติวเตอร์ดีต่างหากล่ะคะ”
“อยากให้ดอกแก้วเรียนจบเร็วๆ จังครับ”
“ทำไมคะ อยากให้ดอกแก้วไปช่วยงานเหรอคะ” เธอรู้ว่าครอบครัวของเขากับเธอทำธุรกิจร่วมกัน
“เปล่าครับ”
“อ้าว... แล้วทำไมล่ะคะ”
“เรียนจบเร็วๆ จะได้เป็นเจ้าสาวของพี่เร็วๆ ยังไงล่ะครับ”
“พี่เขมพูดแบบนี้อีกแล้ว” เธอก้มหน้างุดด้วยความอาย แม้จะโดนเขาเกี้ยวหรือจีบมาตั้งแต่วัยรุ่น แต่หัวใจของเธอก็พองโตทุกครั้งที่เขาพูดทำนองนี้
“พี่รู้สึกยังไงก็พูดแบบนั้นครับ” เขมินทร์ยื่นมือไปกุมมือน้อยๆ ของคู่หมั้นสาว การะบุหนิงยิ้มให้เขาด้วยสายตารักใคร่ แก้มแดงระเรื่อด้วยความขัดเขิน
“ทานเยอะๆ นะครับ” เขาตักอาหารให้
“ขอบคุณค่ะ ดอกแก้วไม่กลัวอ้วนแม้จะทานเยอะแค่ไหน ก็มีพี่เขมคอยชวนไปออกกำลังกาย” การะบุหนิงอมยิ้ม เขมินทร์ชอบออกกำลังกาย เขาจะแบ่งเวลาทำกิจกรรมยามว่างกับเธอ ถือว่าเป็นการพักผ่อน เมื่ออยู่ด้วยกัน เขาจะไม่เคยเอาเรื่องงานมายุ่งเลยสักครั้ง แต่เวลาทำงาน เขาจริงจังและรับผิดชอบ เธอได้ยินบิดาชมเขาบ่อยๆ
“พี่อยากทำกิจกรรมอะไรก็ได้กับดอกแก้ว เราจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันบ่อยๆ ไง มันเป็นการทดแทนความรู้สึกโหยหาของพี่ ทดแทนช่วงเวลาก่อนที่เราจะได้อยู่ด้วยกันจริงๆ”
“ดอกแก้วรักพี่เขมนะคะ ดอกแก้วจะตั้งใจเรียนให้จบไวๆ จะได้เป็นเจ้าสาวของพี่เขม เคียงข้างพี่เขมตลอดไป”
“คุณพ่อกับคุณแม่อยากให้พี่ไปเรียนต่อน่ะ” เขมินทร์พูดออกมาในที่สุด การะบุหนิงชะงักไป เงยหน้ามองคู่หมั้นหนุ่มก่อนจะยิ้มให้เขา