หลายวันผ่านไป...
สถาบันนิติวิทยาศาสตร์
ตั้งแต่วันนั้นที่ฉันกว่าจะไล่โซนิคออกไปได้ตีกันไปหลายรอบเหมือนกัน หลังจากนั้นก็เจอกันบ้างป่ะปลายไม่ได้มีอะไรต้องสนทนากันมาก วันๆก็ผ่าศพเหมือนเดิมฉันมีหน้าที่แค่ชันสูตรศพและส่งหลักฐานต่างๆไปให้ตำรวจหรือพวกเจ้าหน้าที่เท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่จะไปสืบหาคนร้ายแต่บางกรณีก็อาจจะไปยุ่งบ้างนิดๆหน่อยๆ ถ้าเขาขอความร่วมมือมา
“หมอตาวจะกลับเลยมั้ยครับ?” ผู้ช่วยดิวถามฉันเพราะตอนนี้เป็นเวลา 5 ทุ่มแล้วศพสุดท้ายของวันนี้ก็เรียบร้อยแล้ว
“อืม”
“กลับดีดีนะครับ”
“เช่นกัน”
ฉันหยิบกระเป๋าสะพานก่อนจะเดินออกทางจากห้องทำงาน และเดินไปที่ลานจอดรถของสถานบันมันเป็นชั้นใต้เดิน ฉันชอบจอดตรงนี้เพราะว่ามันใกล้ห้องทำงานของฉันดี
“จะกลับแล้วหรือ?”
“ค่ะ” ฉันตอบบุรุษชุดขาวที่มีอายุมากกว่า 100 ปี
“โชคดีมีชัย”
ฉันไม่ได้ตอบอะไรออกไปแต่เดินตรงไปที่รถคนเมื่อกี้ก็คือเจ้าที่เจ้าทางท่านปกปักรักษาที่นี่มานานแล้ว เห็นเคยบอกว่ารอคนรักอะไรนี่แหละ
“ระวัง!!”
ปัง! ปัง! ปัง!
ฉันหลับตามที่ท่านเจ้าที่บอกเกือบตายไปเป็นเพื่อนเจ้าที่แล้วมั้ยล่ะ พอเงยหน้าขึ้นก็พบผู้ชายสองคนขี่มอเตอร์ไซต์และเล็งปืนมาทางฉัน
ปัง! ปัง! ปัง!
มันยิงปืนมาอีกสามนัดทำให้ฉันต้องไปหลบหลังรถคันหนึ่งแถวๆนั้น ไม่มีปืนสะด้วยสิเพราะปกติจะเก็บไว้ที่คอนโดมากกว่าที่นี่มีเครื่องตรวจจับอาวุธเพราะฉะนั้นเอาเข้าสถาบันไม่ได้แต่คราวหลังต้องเอามาด้วยซะแล้วติดรถไว้
ตึก...ตึก..ตึก
ฉันพยายามทำตัวเองให้เงียบที่สุดจนได้ยินเสียงเท้าการเดินอยู่รอบๆ
“ฉันช่วยอะไรไม่ได้เท่านะ หมอตาวต้องช่วยตัวเองด้วย” เจ้าที่บอกกับฉัน
ปิ๊บๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงรถทุกคันที่อยู่ในที่จอดรถส่งเสียงสัญญาทุกคันจากฝีมือของเจ้าที่นั่นแหละ
“เห้ย เกิดอะไรขึ้นว่ะ?” มันถามกันอย่างงง ฉันอาศัยจังหวะเผลอไปแย่ปืนมันมา
ตุบตับ ผลั๊วะ!! ฉันจับมันคนนึงทุ่มลงพื้นก่อนจะต่อยซ้ำไปที่หน้าอย่างแรงจนสลบไป
“มึง!!”
ปัง! ปัง!
เพื่อนมันอีกคนหันมาเจอฉันก่อนจะยิงมาอีกสองนัดฉันหลบทันทีและก็เฉียดแขนไปเหมือนกัน
“ยอมซะดีดี ดีกว่านะ หึ หมอสู้ผมไม่มีหรอก” มันเดินใกล้ๆ ฉันปากก็บ่นอะไรไม่รู้ไม่หยุดคงมั่นใจตัวเองมากล่ะสิ
ฉันหลบอยู่ข้างอาศัยจังหวะมาเดินมาใกล้ๆ และ....
ปึก!!
ถีบไปที่หน้าแข้งมันอย่างแรงจนล้มลง แกร๊ด!! ฉันเล็งปืนไปที่หน้าผากมัน
“ใคร?”
“อะอะไร?”มันทำหน้าไม่เข้าใจ
“ใครส่งมา..” เบื่อจริงพวกเข้าใจอะไรยากแบบนี้ทำไมต้องให้พูดยาวๆด้วยว่ะ
“เหอะ! ไปขัดแข้งขัดใครมาล่ะ”
“ไม่รู้สิ...” เพราะมันเยอะจนนับไม่ถ้วนเลยล่ะ
“หมอตาวนี้เก่งจริงๆ” เจ้าที่ยืนอยู่ข้างฉัน
“กลับศาลไป”ฉันไล่
“แกคุยกับใคร?” มันทำหน้าเลิ่กลัก
“ผี”
“ข้าไม่ใช่ผี ข้าคือเทพ!!”เทพแต่ช่วยอะไรไม่ได้สักอย่าง เห้อ~
“เงียบเถอะน่า”
“กะกูยังไม่ได้พูดเลยนะ” ไอ้มือปืนบอกฉัน ก็ไม่ได้คุยด้วยสักหน่อย
“หมอข้างหลัง!!”
ปัง! ฉันยิงปืนไปที่ด้านหลังตามที่เจ้าที่บอกมีประโยชน์ครั้งแรกเลยนะ...
เป็นเพื่อนมันที่ฉันคิดว่าสลบไปแล้วแต่ตอนนี้คงได้สลบจริงๆ
“อ๊ากกกกก เจ็บ” มันร้องเจ็บปวดทรมานแต่ฉันไม่ได้สนใจและหันไปถามอีกคน
“ว่าไง?”
“คะคุณหญิงจิตตรี” ใครว่ะ?
“ไสหัวไป” ฉันเดินไปเก็บปืนมันก่อนจะไล่มันไป
“เดี๋ยว...ฝากไปบอกมันด้วยว่าทีหลังคนฝีมือดีกว่านี้มาหน่อย กระจอกฉิบ!” มันกัดฟันอย่างไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อพยุงเพื่อนมันที่โดนยิงออกไป
จิตตรี?
“หมอโดนยิงนิ” เจ้าที่ที่ยังไม่ไปไหนบอกเมื่อเห็นเลือดที่แขน
“รู้แล้ว...” ฉันตอบอย่างไม่มองหน้าเพราะกำลังกดโทรศัทพ์เสิฟร์หาชื่อคุณหญิงจิตตกอะไรนั่นอยู่
เมื่อดูข้อมูลในอินเตอร์เน็ตก็พบว่าในบรรดาที่ชื่อจิตตรีมีอยู่คนเดียวและเป็นแม่ของไอ้หื่นที่ฆ่าขื่มขืนผู้หญิงที่ฉันไปขึ้นศาลให้ อ่อ ง่ายๆเลย คนที่ตบฉันไง เหอะ!
“ไปทำแผลดด้วยนะ”
“ค่ะ ขอบคุณมากสำหรับวันนี้”
“เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นทำบุญส่งของอร่อยๆมาดีกว่า”
“ไม่”
ถึงฉันจะมองเห็นพวกผี วิญญาณ หรือพวกสิ่งลี้ลับแต่ฉันก็ไม่ได้ทำบุญเท่าไหร่หรอกแค่เวลานอนยังไม่มี จะเอาเวลาไหนไปวัด?
“ทำบุญบ้าง...” ท่านมองฉันอย่างจริงจัง
“เห้อ จะพยายาม”
ฉันถอยหายใจแรงๆก่อนจะเดินไปที่รถตัวเองการที่เจ้าที่บอกอะไรแบบนั้นมันไม่ใช่เรื่องดีหรอกแต่ฉันไม่ทำตามแค่นั้นเอง...
คอนโด T
เพราะเป็นเวลากลางดึกของอีกวันแล้วรถเลยไม่ติดและถึงคอนโดด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะรีบกดลิฟท์ไปชั้นของตัวเอง เลือดเริ่มแห้งนิดๆ แล้วด้วยแต่มันเยอะมากคิดว่าแขนขาดเหอะ!
ติ๊ง!
พอลิฟท์เปิดฉันก็เดินไปห้องตัวเองก็พบโซนิคที่ห้องของเขานั่นแหละมายืนทำอะไรป่านนี้
“ไปไหนมา?” เขาถาม
“ทำงาน” ฉันกดรหัสห้องที่นี่เป็นระบบกด
“แขนไปโดนอะไรมา?”
“มายืนทำไมตรงนี้?” ฉันไม่ตอบคำถามแต่ถามในสิ่งที่สงสัย
“ไปสูบบุรี่บนดาดฟ้ามา สรุปจะบอกได้ยัง?” เขาชี้มาที่แขนของฉัน
“โดนยิง”
“ใครยิง?”
“ไม่รู้” ไม่บอกหรอกวุ่นวายจะตาย
แกร๊ด! เขาผลักประตูห้องฉันเข้ามาก่อนจะจับมือฉันเดินตาม นี่ห้องฉันนะ?
“ที่ทำแผลอยู่ไหน?” เขาเดินไปทั่วห้อง
“ไม่มี”
“เป็นหมอแต่ไม่มีที่ทำแผล”
“ศพไม่ต้องทำแผล”
“ไม่ใช่แบบนั้น! โว๊ะ...ไปอาบน้ำเดี๋ยวไปเอาที่ทำมาแผลมาให้” ปัง! เขาอย่างออกไปอย่างอารมณ์เสีย
ฉันไม่ได้สนใจอะไรแต่เข้าไปอาบน้ำสระผมและใส่เชิ้ตเหมือนเดิม แต่ออกมาก็ไม่เห็นโซนิคกลับมาเลยว่าจะนอนเลยกันแผลแค่นี้เองจะทำทำไมเสียเวลา... เลือดหยุดไหลแล้วด้วย
พรึ่บ!!!
ฉันทิ้งนอนลงเตียงและหลับไป...ก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้วนิไหนจะโดนไล่ยิงอีก เห้อ ชีวิตหมอตาวน่าตื่นเต้นดีจัง