“จะบ้าหรือไงคุณคิมหันต์ ฉันไปเป็นภรรยาคุณเมื่อไร” ปานดาวหันมากระซิบต่อว่าชายหนุ่มทันที
“เงียบเถอะน่า เดี๋ยวผมจัดการเอง”
“จัดการบ้าอะไรของคุณ ฉันเสียหาย คุณรู้ไหม” ปานดาวยังคงโวยวายไม่เลิก จนชายหนุ่มต้องก้มลงมามองใบหน้าตึงของหญิงสาวพร้อมกับก้มลงมาหอมแก้มเธอแล้วหันไปคุยกับหญิงสาวอีกคนทันที
“ปาน นี่...วีวี่” ชายหนุ่มแนะนำปานดาวให้รู้จักหญิงสาวอีกคนทันที “วีวี่ นี่ปานดาวภรรยาผม” แล้วแนะนำภรรยาของตัวเองให้วีรดาได้รู้จัก และไม่ลืมหันมาส่งยิ้มให้กับหญิงสาวในอ้อมกอด
“ไม่จริง! วีวี่ไม่เชื่อ คุณจะมีภรรยาได้ไง ก็คุณเคยบอกวีวี่ไม่ใช่หรือค่ะ ว่าคุณจะแต่งงานกับวีวี่” วีรดาเอ่ยออกไปอย่างไม่ยอมแพ้ นี่มันบ้าอะไรกัน เธอไม่อยู่แค่ไม่กี่วันทำไมชายหนุ่มที่เธอหมายปองมีเมียแล้ว เป็นไปไม่ได้ “วีวี่ไม่เชื่อหรอกค่ะ คุณอย่ามาอำวีวี่เลย” เธอเอ่ยออกมาอย่างงุนงงแกมแปลกใจ เมื่อหันไปมองหญิงสาวที่ชายหนุ่มแนะนำว่าเป็นภรรยา “ยังไงวีวี่ก็ไม่เชื่อหรอกค่ะคุณเอาเด็กที่ไหนมาหลอกวีวี่ค่ะ” คำพูดของวีรดาส่งผลให้ร่างบางที่อยู่ในอ้อมกอดชายหนุ่มหน้าตึงทันที
“เมื่อกี้คุณพูดว่าไงนะ” ปานดาวถามออกมาพร้อมกับแกะมือชายหนุ่มออกทันทีแต่มันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดเพราะชายหนุ่มกลับไม่ยอมปล่อย
“อย่ามาทำน้ำเสียงแบบนี้กับฉัน” วีรดาเอ่ยออกมาเมื่อเจอน้ำเสียงและสายตาเอาเรื่องของหญิงสาวที่เธอบอกว่าเด็ก
“คุณนะอายุเท่าไหร่ ถึงได้มาว่าคนอื่นแบบนี้ และดิฉันคิดว่าดิฉันคงจะอายุมากกว่าคุณแน่นอน คุณวีรดา”
ปานดาวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งแต่ยังเรียบเฉย โดยถ้าทั้งสามจะได้สังเกตว่ายังมีบุคคลอื่นอีกที่ยืนมองการกระทำของทั้งสามอยู่อีกมุมหนึ่งของห้าง เมื่อเจอคำถามแบบนี้ถามออกมา ทำให้วีรดาตกใจจนพูดไม่ออก
‘ยัยบ้านี่จะอายุมากกว่าเธอเป็นไปไม่ได้หรอก ก็หน้าตาออกจะเด็กซะขนาดนั้น’
“ฉันอายุ 24 แล้ว ฉันว่าฉันอายุมากกว่าเธอแน่นอนแล้วอีกอย่างฉันก็เรียนจบปริญญาแล้ว” วีรดาบอกอายุของตัวเองออกมาพร้อมกับบอกว่าเธอเรียนจบอะไรออกมาเสียเสร็จสรรพ
“นั่นมันเรื่องของคุณไม่จำเป็นต้องบอกรายละเอียดดิฉันขนาดนั้นหรอกค่ะคุณวีรดา” ปานดาวตัดบทอย่างไม่ใส่ใจ
“คุณคิมขาๆ ดูสิคะ แม่นี่มันว่าวีวี่นะคะ” วีรดาหันไปฟ้องชายหนุ่มแทนเมื่อคิดว่าเล่นงานหญิงสาวไม่ได้
“ส่วนคุณนะ ปล่อยมือออกจากฉันเสียทีได้ไหม” ปานดาวหันไปโวยวายเอากับชายหนุ่มเหมือนกัน
“ทำไมล่ะ กอดกันแบบนี้มันอุ่นดีออก” คิมหันต์ยังเฉไฉไม่ยอมปล่อย พร้อมกอดกระชับร่างบางให้แน่นเข้าไปอีก
“คุณคิมหันต์” ปานดาวโกรธจนเลือดขึ้นหน้า
“อะไรอีกล่ะครับคุณภรรยาที่รัก” คิมหันต์เอ่ยแหย่ออกมาพร้อมกับก้มลงมาหอมแก้มหญิงสาวอีกทีหนึ่ง เพื่อเป็นการยืนยันกับวีรดาว่าเขากับปานดาวเป็นสามีภรรยากันจริง ตามที่เขาบอกไปก่อนหน้านี้
“คุณคิม ฉันบอกให้ปล่อยไง...ไม่ได้ยินหรือไง” ตอนนี้ปานดาวตะโกนใส่หน้าชายหนุ่มด้วยความโกรธ มันหลายครั้งแล้วนะ แล้วหญิงสาวก็ผลักชายหนุ่มออกด้วยแรงที่มีทั้งหมด ก่อนเดินเข้าไปหาหญิงสาวแล้วก้มลงมากระซิบให้ได้ยินแค่สองคนหลังจากหลุดจากอ้อมแขนแข็งแรงของชายหนุ่ม “เอ่อ...ดิฉันลืมบอกคุณไปอีกอย่างหนึ่งนะคะ คุณวีรดา”
“อะไรมิทราบ!”
“ดิฉัน อายุมากกว่าคุณ และที่สำคัญดิฉันเรียนจบสูงกว่าคุณด้วยคุณวีรดา” ปานดาวหรี่มองหญิงสาวอีกคนด้วยสายตาบ่งบอกถึงชัยชนะ ขณะเดินมาใกล้แล้วก้มหน้าลงมากระซิบ “คุณไม่มีวันชนะฉันได้หรอกน้องหนู”
“กรี๊ด! อีบ้า” วีรดากรี๊ดออกมาด้วยความโกรธ เมื่อได้ยินคำพูดของผู้หญิงที่หน้าด้านแย่งคิมหันต์ไปจากเธอ
“คุณจะกรี๊ดทำบ้าอะไรนะวีวี่” คิมหันต์ตกใจกับเสียงกรี๊ดของหญิงสาวพร้อมกับยกมือปิดหูทั้งสองข้างทันที
“ก็ยัยบ้านี่มันว่าวีวี่นิค่ะคุณคิม” ได้ทีหญิงสาวเอ่ยฟ้องชายหนุ่มพร้อมกับเดินเข้ามาเกาะแขนของชายหนุ่มทันที
“คุณปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะวีวี่” คิมหันต์เอ่ยออกไปพร้อมกับแกะมือที่ติดแน่นยังกะปลาหมึกออกทันที
“ไม่เอานะ คุณต้องจัดการเรื่องนี้ให้วีวี่นะคะ นะคะคุณคิม” วีรดายังคงอ้อนชายหนุ่มอยู่อย่างนั้น เพราะเธอเชื่อว่าเธอต้องชนะผู้หญิงคนนั้นเหมือนกัน
“ผมบอกให้คุณปล่อยผมเดี๋ยวนี้ คุณไม่เห็นหรือไงภรรยาผมทำหน้ายังไง” แล้วคิมหันต์ก็แกะมือออกพลางเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่เขาบอกว่าเป็นภรรยาทันที
“กรี๊ด!...วีวี่ไม่ยอมนะคะ คุณทำแบบนี้กับวีวี่ได้ไง” หญิงสาวก็สาวเท้าเข้าไปผลักชายหนุ่มออกจากหญิงสาวตัวต้นเหตุทันที ฝ่ามือของวีรดาฟาดลงใส่ใบหน้าของแนดาวอย่างแรง เพี้ยะ!…ส่งผลให้ร่างบางถึงกับเซเพราะไม่ทันตั้งตัว พร้อมกับจ้องมองหญิงสาวอีกคนด้วยสายตากร้าวๆ
“คุณกล้าดียังไงมาตบฉัน”
เวลานี้ปานดาวโกรธจนตัวสั่น สายตาแข็งกร้าวจ้องมองคู่ควงของคิมหันต์อย่างเอาเรื่อง พริบตาเดียวเท่านั้นฝ่ามือของปานดาวก็ฟาดสวนกลับใส่ใบหน้าของวีรดาถึงสองทีซ้อน เพี้ยะ!…เพี้ยะ!… เสียงตบดังสนั่น จนบรรดานักช็อปต่างก็ชะงักเท้า หยุดมองความวุ่นวายตรงหน้าพวกตนทันที
“นี่คือโทษฐานที่คุณตบฉัน ยัยเด็กไม่มีมารยาท” ปานดาวยืนจังก้าชี้หน้าสาวน้อยที่เธอบอกว่ายังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม พ่อแม่ไม่สั่งไม่สอนบ้างหรือไง ว่าการให้เกียรติผู้อื่นบ้าง ถือเป็นคุณสมบัติของผู้ดีอีกอย่างหนึ่งเหมือนกัน “หัดมีมารยาทกับคนอื่นเสียบ้าง ไม่ใช่มาแสดงกริยาต่ำๆในที่แบบนี้ ที่บ้านคุณไม่ได้สั่งสอนเรื่องมารยาททางสังคมบ้างหรือไง” เจอของจริงเข้าแบบนี้ทำให้วีรดากับคิมหันต์ถึงยืนอึ้งไปเลย ยังไม่นับชายหนุ่มอีกสองคนที่ยืนคอยดูสถานการณ์อยู่ไม่ไกล ซึ่งหัวเราะออกมาด้วยความขบขันในอาการของทั้งสาม
คิมหันต์มองภาพความวุ่นวายตรงหน้าด้วยความตกตะลึง เนื่องจากเขาไม่คิดว่าปานดาวจะโกรธจัดถึงเพียงนี้ แต่จะว่าไป ถ้าเป็นเขาโดนทำร้าย เขาก็สวนกลับไปเหมือนกัน
///////////
“ผู้ช่วยเลขาแกนี่สุดยอดเลยเจ้ารอม” เวคินทร์เอ่ยออกมาพร้อมกับหัวเราะเมื่อเห็นอาการของน้องชายคนเล็ก นึกไม่ถึงว่าผู้ช่วยของน้องชายจะร้ายกาจและหน้ากลัวเช่นนี้
“ผมสิครับพี่อึ้งไปเลยเหมือนกัน ไม่คิดว่าผู้ช่วยเลขาผมโหดขนาดนี้ ตัวก็ออกเล็กนิดเดียว แต่เอาแรงมาจากไหนตั้งมากมาย” รอมเอ่ยออกมาหลังจากยืนอึ้งอยู่นานเหมือนกัน ก็ใครจะไปคิด ปานดาวตัวเล็กนิดเดียว ออกจะบอบบางด้วยซ้ำ แต่โหดน่าดูเลย
“เราจะเข้าไปเลยดีไหมครับพี่คิงส์” รอมเอ่ยออกมาหลังจากหายอึ้ง
“เดี๋ยวก่อนก็แล้วกันฉันอยากรู้ว่าเจ้าคิมมันจะจัดการยังไงกับปัญหาที่มันก่อ”
“แต่ผมสงสัยจริงๆเลย ว่าเจ้าคิมไปรู้จักผู้ช่วยเลขาผมได้ยังไงกันครับพี่คิงส์”
“ฉันก็สงสัยเหมือนกับแกนั่นแหละ” เวคินทร์ตอบน้องชายคนรองออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย เพราะเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน ที่แน่ๆ ถ้าน้องชายคนเล็กของเขาได้ผู้ช่วยเลขาของน้องชายคนรองเป็นแฟนคงจะดีไม่น้อย บางทีอาจปรับเปลี่ยนนิสัยของน้องชายเขาได้บ้าง
“คอยดูต่อไปแล้วกันรอม” เวคินทร์เอ่ยออกมาพร้อมกับยืนสังเกตอาการของทั้งสามด้วยอารมณ์ขนขัน ขณะที่สองหนุ่มยืนมองเหตุการณ์วุ่นวายตรงหน้าอย่างสนอกสนใจ ปานดาวกับวีรดาก็เริ่มเปิดปากทะเลาะกันอีกครั้ง โดยที่คิมหันต์ได้แต่ยืนอึ้ง ความประหลาดใจแสดงออกทางสีหน้าอย่างเด่นชัด
/////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...